ตอนที่ 258 มาได้เร็วทีเดียว
ซือเหลิ่งเย่ว์เกรงว่าฉินหลิวซีเป็นคนในลัทธิเต๋า ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ทางโลกจึงได้เอ่ยเตือน ฉินหลิวซีเองก็ไม่ได้หักหาญน้ำใจของนาง
“เจ้าวางใจ ข้ารู้อยู่แก่ใจดี” ฉินหลิวซีเอ่ยเสียงเรียบด้วยรอยยิ้ม “ยาอยู่ในมือข้า ต่อให้พวกนางกลับไปแล้ว ตระกูลถูก็ไม่อาจได้ยาไปครอบครอง”
หากนายหญิงถูสามผู้นั้นจะใช้วิธีแข็งกร้าวจริงๆ เช่นนั้นก็ลองดู
ซือเหลิ่งเย่ว์เห็นว่านางดูมีแผนในใจจึงไม่เอ่ยอะไรมาก
และในตอนที่ฉินหลิวซีและซือเหลิ่งเย่ว์กำลังพูดคุยกัน นายหญิงถูสามกำลังนั่งฟังประวัติความเป็นมาของเยี่ยนเอ๋อร์และมารดาอยู่ในห้องสำหรับดื่มชางดงามสะอาดสะอ้าน รวมไปถึงเรื่องที่มาของบาดแผลนาง
พวกนางเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาในเมืองชิงโจว อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ อีกทั้งยังอาศัยอยู่ด้วยกันกว่าเจ็ดคน ที่บ้านอาศัยเงินจากเกาเสี่ยวเฉวียน บิดาของเยี่ยนเอ๋อร์ที่ทำงานขนส่งอยู่ที่ท่าเรือ ยังมีมารดาของเยี่ยนเอ๋อร์ที่รับจ้างซักผ้าและรับจ้างเล็กๆ น้อยๆ ทั่วไป
ส่วนบาดแผลของเยี่ยนเอ๋อร์ เกิดขึ้นเพราะน้องชายสามี ถูเก้า
“ช่างเป็นศัตรูที่พบกันบนถนนแคบ” นายหญิงถูสามพลันเข้าใจไยฉินหลิวซีจึงไม่ยอมยกอวี้เสวี่ยจีให้นาง เกรงว่าคงรู้ว่าเด็กยากจนคนนั้นบาดเจ็บเพราะน้องชายสามีของตน
“ยังมีอีกขอรับ ม้าของคุณชายเก้าเกิดอาการคลั่งขึ้นมา สะบัดเขาตกลงมาแล้วเหยียบซ้ำจนขาหัก ตอนนี้ถูกหามกลับมาที่บ้าน ตามหมอแล้วขอรับ” องครักษ์เอ่ยรายงาน
นายหญิงถูสามสีหน้าเย็นชา “สมควรแล้ว”
ถูเก้าอันธพาลเสเพลนางรู้ แต่ไม่ได้อยู่ในสายตา ครอบครัวของผู้มีอำนาจ ครอบครัวใดไม่มีลูกหลานที่เป็นอันธพาลเสเพลเช่นนี้บ้าง
ตระกูลถูมี ตระกูลเหมิงเองก็มี นี่ไม่ใช่เรื่องที่มีค่าเพียงพอให้เอามาปวดหัว
แต่ตอนนี้ไม่อาจได้อวี้เสวี่ยจีมาครอบครองเพราะถูเก้า และรู้สึกโกรธเพราะเรื่องนี้ จึงรู้สึกรังเกียจถูเก้าที่ทำลายแผนของตน
นายหญิงถูสามยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับจมูก ครุ่นคิดพลางเอ่ย “ให้พ่อบ้านสวี่เข้ามา”
นางเพิ่งเอ่ยจบ เพียงสองลมหายใจ พ่อบ้านสวี่ก็เดินเข้ามาฟังคำสั่ง
นายหญิงถูสามเอ่ย “เจ้าไปยังตรอกเสี่ยวหลิ่ว ฝั่งตะวันตกของเมือง ตามหาเกาเสี่ยวเฉวียนตระกูลเกาผู้นั้น บอกว่า…”
นางออกคำสั่ง อีกคนก็รีบไปปฏิบัติตามทันที
“นายหญิงสาม เช่นนั้นคุณชายผู้นั้นจะทำอย่างไรเจ้าคะ” สาวใช้ชุดสีชมพูเอ่ยถาม
ดวงตาของนายหญิงถูสามมีความโกรธพาดผ่าน เอ่ย “ให้คนสะกดรอยตามเขา ดูว่าเขามีที่มาอย่างไร”
กล้าเสียมารยาทกับนางเพียงนี้
ฝั่งสะใภ้สกุลเกา สุดท้ายก็ยอมตกลงให้บุตรสาวอยู่รักษาต่อที่นี่ เพียงแต่ต้องกลับไปบอกคนที่บ้าน และเอาชุดมาให้บุตรสาวได้เปลี่ยน
ฉินหลิวซียื่นยันต์คุ้มภัยให้กับนาง “เอาติดตัวไปด้วย”
สะใภ้สกุลเกาชะงัก รับมายัดใส่เสื้อตรงช่วงอก คุกเข่าคารวะ
หลังจากนางไป ผู้จัดการเยี่ยจึงพาอีกฝ่ายเข้าไปพักผ่อนในห้องโถงเล็กอย่างขะมักเขม้น ถามไถ่ว่าเดินทางมาไกล พักอยู่ที่โรงเตี๊ยมหรือไม่ ให้เขาช่วยจัดการหรือไม่
ฉินหลิวซีเอ่ย “ไม่จำเป็น ข้ามาชิงโจวเพื่อมาจัดการธุระเท่านั้น เจ้าให้ผู้ช่วยไปส่งข่าวที่จวนตระกูลซือฝั่งตรอกหย่งหลาน บอกว่าข้าจะไปช้าสักหน่อย”
ผู้จัดการเยี่ยรีบตอบรับ หันกลับไปสั่งพนักงานให้ไปส่งข่าว ถูมือพลางเอ่ย “เอ่อ คุณชายขอรับ ลูกสะใภ้ที่บ้านของข้าอีกไม่กี่วันก็จะคลอดแล้ว ว่ากันว่าสตรีคลอดลูกเปรียบเสมือนการข้ามประตูผี ข้าน้อยอยากขอยันต์อยู่เย็นเป็นสุขให้ลูกสะใภ้ได้หรือไม่ขอรับ”
ฉินหลิวซียิ้มพลางเอ่ย “เจ้าผู้เป็นบิดา ช่างจิตใจดีนัก”
ผู้จัดการเยี่ยยิ้มตาหยี เอ่ย “หลานชายคนแรก จึงตื่นเต้นอยู่บ้างขอรับ”
เมื่อครู่ฉินหลิวซีก็วาดไปหลายแผ่น ยื่นไปให้หนึ่งแผ่น “เช่นนั้นก็ขอให้พวกเขาแม่ลูกปลอดภัย”
“โอ้ ขอให้สมพรอย่างที่ท่านเอ่ยขอรับ” ผู้จัดการเยี่ยรับไปด้วยใบหน้ายินดี เก็บเข้าไปในห่อผ้าด้วยความระมัดระวัง
ฉินหลิวซีอวยพรให้แม่ลูกปลอดภัย ไม่มีสิ่งอื่นใดเทียบเท่าความโชคดีในการคลอด นั่นก็เพียงพอ สิ่งนี้ดีกว่าสิ่งอื่นใดแล้ว
ผู้จัดการเยี่ยเชิญนางเข้ามาในห้องโถง คิ้วขมวดขึ้น เอ่ย “คุณชาย แม้ร้านของเราไม่กลัวมีเรื่อง แต่นายหญิงถูสามมาขออวี้เสวี่ยจีหลายวันแล้ว สินค้าที่ร้านในชิงโจวมีไม่ถึงสองชิ้น ข้าน้อยบอกปัดอยู่ตลอด ยามนี้นางรู้ว่ามีสินค้าแต่กลับถูกท่านชิงไปก่อน คิดว่าคงไม่รามือง่ายๆ ขอรับ”
ที่สำคัญก็คือของที่นางยอมจ่ายสิบเท่า ทว่าฉินหลิวซีได้ไป ซ้ำยังใช้กับเด็กน้อยยากจนคนนั้น
นี่เป็นการดูถูกยิ่งแล้ว
คนสูงศักดิ์เหล่านั้น สำคัญที่สุดคือหน้าตา การดูถูกเช่นนี้ ไหนเลยจะทนได้
ฉินหลิวซียิ้มพลางเอ่ย “ทำไมหรือ เจ้ากลัวว่าร้านยาตำหนักอายุวัฒนะจะโดนพัง หรือกลัวว่าข้าจะโดนทุบ”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
“มีเถ้าแก่อยู่ ถึงวันนี้ร้านยาตำหนักอายุวัฒนะโดนพัง พรุ่งนี้ก็ยังเปิดร้านได้ขอรับ ข้าน้อยเพียงกลัวว่านานๆ ท่านจะมา กลับต้องมาเจอเรื่องวุ่นวาย ทำให้นายท่านคิดว่าพวกข้าน้อยจัดการได้ไม่ดีขอรับ”
ฉินหลิวซีนึกถึงจิ้งจอกพ่อค้าปลิ้นปล้อนตัวนั้น ส่งเสียงหยันพลางเอ่ย “เฮยซัง เถ้าแก่ของเจ้าผู้นั้น เกรงว่าคงรอไม่ไหวที่จะเห็นข้าถูกคนมาหาเรื่อง รอชมความสนุกอยู่กระมัง”
“ท่านล้อเล่นแล้วขอรับ”
ฉินหลิวซีเอ่ย “นายหญิงถูสามนั่น ไม่ต้องเอามาใส่ใจ นางไม่เคลื่อนไหว ข้าก็คงทำอะไรไม่ได้”
คนของตระกูลเหมิงนี่นา
ผู้จัดการเยี่ยเห็นนางนิ่งสงบเช่นนี้จึงวางใจขึ้นมา
คนที่ได้รับความสำคัญจากนายท่าน แน่นอนว่าคงไม่ใช่คนที่จะล่วงเกินได้ง่ายๆ และเขาก็เห็นแล้ว
ระหว่างที่เอ่ย ด้านนอกพลันมีเสียงดังเข้ามา
ฉินหลิวซีเลิกคิ้ว มองไปยังซือเหลิ่งเย่ว์ มาได้รวดเร็วทีเดียว
ผู้จัดการเยี่ยเดินนำออกไปก่อน ฉินหลิวซีวางถ้วยชาลงแล้วเดินตามออกไป
ผู้ที่มาคือสามีของสะใภ้เกา ยังมีแม่สามีด้วย ใบหน้าของสะใภ้เกามีรอยฝ่ามือแดงอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาบวมแดง เห็นได้ชัดว่าถูกทำร้ายมา
“ลูกเล่า” ร่างกายเกาเสี่ยวเฉวียนไม่สูง ใบหน้าเหลี่ยม ผิวคล้ำ สันจมูกแบน เมื่อเข้ามาในประตูก็มองไปรอบๆ
ด้านหลังของเขามีหญิงสูงวัยร่างเล็กเปลือกตาตกลงเหมือนกันเดินตามเข้ามา ดวงตาคู่นั้นสอดส่ายไปมา ดวงตาโลภอีกทั้งขี้ขลาด
สะใภ้เกาเข้ามา นางมองเห็นฉินหลิวซี กระบอกตาพลันแดงขึ้น ยกมือขึ้นปิดใบหน้า
“อะไรกันหรือ” ผู้จัดการเยี่ยเดินเข้ามาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
เกาเสี่ยวเฉวียนเอ่ย “ภรรยาข้าบอกว่าลูกของข้าถูกตีจนบาดเจ็บ รักษาอยู่ที่ร้านของท่าน พวกเราก็คงไม่รบกวนร้านของท่านแล้ว เราจะพาลูกกลับบ้าน พวกเราเปลี่ยนยาเองก็ได้”
ผู้จัดการเยี่ยมองไปยังสะใภ้เกา “มารดาเยี่ยนเอ๋อร์ เจ้าเองก็ต้องการเช่นนี้หรือ”
สะใภ้เกาก้าวขึ้นมา “ข้าไม่…”
เพียะ
แม่สามีเกาสะบัดฝ่ามือฟาดออกไป เอ่ยตำหนิ “บุรุษเป็นผู้ครองเรือน สามีของเจ้าอยู่ที่นี่ ไหนเลยเจ้าที่เป็นภรรยาจะเอ่ยได้ ไม่รู้มารยาท”
ผู้จัดการเยี่ยส่งเสียงตกใจ “ไยท่านถึงตีคนแล้วเล่า”
“สตรีผู้นี้เป็นตัวสร้างเรื่อง หากไม่ใช่เพราะนางพาเยี่ยนเอ๋อร์ออกไป ไหนเลยจะต้องเจอเรื่องร้ายเช่นนี้” แม่สามีเกาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “โชคดีได้ท่านช่วยเอาไว้ เด็กจึงปลอดภัย แต่อย่างไรเราก็ไม่อาจไม่รู้ความ มิกล้าอยู่ที่ร้านนี้ต่อจึงมาพาหลานกลับบ้าน ยาเราเปลี่ยนเองก็ได้ ไม่รบกวนพวกท่าน”
หนึ่งพันตำลึง ผู้ดูแลผู้นั้นบอกว่าพวกเขาเพียงต้องพาคนและยากลับไป จะให้เงินแก่พวกเขาหนึ่งพันตำลึงเงิน
ฉินหลิวซีและซือเหลิ่งเย่ว์มองสบตากัน คาดเดาได้ไม่น้อยกว่าแปดเก้าส่วน
“เร็ว รีบไปอุ้มเยี่ยนเอ๋อร์ออกมา” แม่สามีเกาดันหลังสะใภ้เกา