ตอนที่ 189 ไฟสงครามลุกโชนขึ้นอีกครั้ง!

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ

ฉีหลงและคนอื่นๆ ไปสอบเข้าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งด้วยความกระฉับกระเฉงเช่นนี้เอง ส่วนหลิงหลานก็มาที่จุดสมัครสอบสถาบันที่เธอเลือกไว้ ที่นี่ไม่มีใครอยู่เลยสักคน แทบจะไม่มีนักเรียนของสถาบันศูนย์กลางลูกเสือที่เลือกสมัครสอบสถาบันของที่นี่

สถาบันเฉพาะทางรวมไปถึงสถาบันเอกชนที่อยู่ล้าหลังที่สุดในสหพันธรัฐเหล่านี้ต่างถูกวางอยู่ตรงหน้าออปติคัลคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งก็เสร็จเรียบร้อย อันที่จริงสถาบันศูนย์กลางลูกเสือไม่อยากให้นักเรียนของตนไปสมัครสอบที่สถาบันเหล่านี้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะสหพันธรัฐกำหนดไว้ว่าต้องเปิดสู่สาธารณะอย่างยุติธรรม ไม่อาจปิดกั้นคนอื่นๆ แล้วละก็ สถาบันศูนย์กลางลูกเสือย่อมขับไล่สถาบันเหล่านี้ออกไปจากศูนย์ประเมินผลของมัน ไม่ให้พวกเขามีโอกาสสักนิดแน่นอน

หลิงหลานทำการเลือกสาขาวิชาที่ตัวเองต้องการสมัครเสร็จแล้ว สถาบันบำรุงรักษาหุ่นรบจุยเฟิงที่เธอเลือกไว้ก็อนุมัติคำขอสมัครสอบของเธออย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน อุปกรณ์สื่อสารของหลิงหลานก็ได้รับข้อความตอบกลับของอีกฝ่าย

หลิงหลานเปิดอ่านก่อนจะอดอึ้งไม่ได้ คำว่า ‘ยกเว้นการสอบ’ ตัวใหญ่สองคำปรากฏขึ้นมาในสายตาเธอทันที ไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะยกเว้นการทดสอบประเมินผลของเธอ เห็นได้ว่าอีกฝ่ายตื่นเต้นยินดีกับการสมัครสอบของเธอมากแค่ไหน พวกเขากลัวมากๆ ว่าหลิงหลานจะหุนหันพลันแล่นไปชั่วขณะ ดังนั้นจึงไม่อยากให้หลิงหลานมีเวลาไตร่ตรอง

หลีกเลี่ยงการทดสอบประเมินผลได้ย่อมเป็นเรื่องดี หลิงหลานกดปุ่มยืนยันลงไปโดยไม่ลังเล ไฟล์ข้อมูลของเธอถูกส่งไปที่สถาบันบำรุงรักษาหุ่นรบจุยเฟิงตามการยืนยันของเธอ….เมื่อทำเรื่องทุกอย่างนี้เสร็จ หลิงหลานก็ตรงกลับไปที่จุดสมัครสอบของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งรอคอยผลการประเมินสุดท้ายของพวกฉีหลง

………….

ในเวลานี้เอง บนสนามรบระหว่างสหพันธรัฐกับจักรวรรดิฮิงูเระในชายแดนของสหพันธรัฐที่อยู่ห่างไกลนั้น การรบกันตามปกติเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ยานอวกาศของทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากันอยู่ห่างๆ บนสนามรบ หุ่นรบระดับกลางและสูงนับไม่ถ้วนกำลังทยอยกันขับออกมาจากท่าปล่อยยานของยานอวกาศ แออัดจนแทบจะปกคลุมทั่วท้องฟ้า เครื่องยนต์ของหุ่นรบหลายหมื่นตัวส่งเสียงดังสนั่นรวมกันราวกับกำลังจะฉีกท้องฟ้าออก

หุ่นรบของสองประเทศตั้งทีมขึ้นทีละทีม เลือกเข่นฆ่าศัตรูของแต่ละคน นับตั้งแต่ที่เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์พัฒนาจนถึงสงครามอวกาศ สงครามหุ่นรบก็เป็นการต่อสู้พื้นฐานมากที่สุด ถึงขนาดที่ผลแพ้ชนะของสงครามต่างก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของผู้ควบคุมหุ่นรบ นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทุกประเทศพยายามบ่มเพาะผู้ควบคุมหุ่นรบ พวกเขาเป็นทหารกำลังหลัก เป็นอาวุธทหารเดี่ยวที่แข็งแกร่งที่สุดในการยึดครองครอบงำ

ทุกสงครามต่างรุนแรงและโหดร้าย เมื่อสงครามบังเกิด ผู้ควบคุมหุ่นรบจำนวนมากต้องตายลงตรงนั้น ดังนั้นผู้ควบคุมหุ่นรบจึงเป็นหน่วยทหารที่มีอัตราการตายสูงที่สุด ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ทหารทุกคนของสหพันธรัฐยังคงมองผู้ควบคุมหุ่นรบเป็นหน่วยทหารที่พวกเขาเลือกเป็นอันดับแรก เนื่องจากมีเพียงผู้ควบคุมหุ่นรบเท่านั้นถึงจะบงการชีวิตของตัวเองได้อย่างแท้จริง ขอเพียงคุณแข็งแกร่งพอ

นี่เป็นเพียงสงครามตามปกติเท่านั้น แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ ผู้ควบคุมหุ่นรบนับไม่ถ้วนก็ได้ตายอยู่ในท้องฟ้าแห่งนี้ เปลวไฟที่ลุกโชนสุดท้ายนั้นราวกับดอกไม้ไฟที่พร่างพราย มันส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้าและทิ้งบทเพลงไว้อาลัยสุดท้ายของเจ้านายมัน

บนยานบัญชาการหลักในศูนย์กลางของสหพันธรัฐ ทุกคนในกองบัญชาการต่างมองสนามรบตรงหน้าด้วยใบหน้าเคร่งขรึม อดทนรอคอยให้ผลสรุปของสงครามหุ่นรบปรากฏขึ้น เมื่อถึงเวลานั้นก็จะหมายความว่าสงครามนี้ได้สิ้นสุดลง

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากวางกลยุทธ์ลดการบาดเจ็บล้มตาย แต่ว่าสงครามตามปกติที่สู้รบกับศัตรูเก่าแก่มาหลายปีเช่นนี้ พวกเขาต่างก็คุ้นเคยกลยุทธ์ของอีกฝ่ายดี หลังจากที่รบกันมาอย่างยืดเยื้อ สิ่งที่พวกเขาวัดกันก็คือความแข็งแกร่งโดยรวมของทั้งสองประเทศรวมไปถึงทหารหุ่นรบของประเทศไหนแข็งแกร่งมากกว่ากัน

“กองยานทางด้านซ้ายของฝ่ายตรงข้ามมีการเคลื่อนไหวผิดปกติครับ!” เวลานี้เอง คำรายงานของทหารเฝ้าระวังที่รับผิดชอบตรวจสอบพื้นนั้นดังขึ้นมาในกองบัญชาการฉับพลัน

“ซูมภาพเข้าไป!” ผู้บัญชาการสูงสุดของกองยานป้องกันชายแดนสหพันธรัฐหรือก็คือพลตรีถังซวี่ที่ประจำอยู่ที่นี่มาหกปีได้ยินคำรายงานแล้วก็เอ่ยสั่งการทันที ปีนี้ถังซวี่อายุสี่สิบสามปีแล้ว นับว่าเป็นพลตรีที่กุมอำนาจโดดเด่นที่มีอยู่ไม่กี่คนในสหพันธรัฐ และเป็นเพราะการยืนหยัดแข็งขันของเขาจึงรับรองความมั่นคงปลอดภัยของชายแดนสหพันธรัฐมาได้หลายปี

สิ้นคำสั่งของเขา หน้าจอขนาดใหญ่ในกองบัญชาการก็ซูมภาพที่แห่งนั้นขึ้นมาตรงหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาเห็นท่าปล่อยยานของยานอวกาศฝ่ายตรงข้ามกำลังปล่อยหุ่นรบสีดำออกมาทีละตัวอย่างเงียบเชียบ

ทหารเฝ้าระวังที่ซูมภาพเข้าใจดีอย่างยิ่งว่าจะต้องสังเกตอะไร เขาซูมภาพเข้าไปใกล้ของหุ่นรบสีดำตัวหนึ่งทันที โดยเฉพาะตรงแขนของมัน จากนั้นก็ขยายภาพเฉพาะส่วนให้ รหัสตัวเลขที่มี S ขึ้นต้นทำให้กองบัญชาการเกิดความโกลาหลขึ้นมา ถึงขนาดที่มีทหารชั้นสูงหลายคนอดพ่นคำหยาบออกมาไม่ได้

“ฮิงูเระส่งหน่วยหุ่นรบไพ่ราชาพิเศษของพวกมันออกมาแล้วครับ!” โดยพื้นฐานแล้วหุ่นรบไพ่ราชาประเภทต่างๆ ของฮิงูเระจะใส่เครื่องหมาย XSYZ ไว้ Z เป็นหน่วยที่แข็งแกร่งที่สุดของหน่วยหุ่นรบไพ่ราชา X เป็นหน่วยที่อ่อนแอที่สุด ความสามารถของพวกเขาเทียบเท่าหน่วยหุ่นรบไพ่ราชาของสหพันธรัฐ แน่นอนว่าหน่วยหุ่นรบไพ่ราชาของสหพันธรัฐก็มีการแบ่งความแข็งแกร่งเช่นกัน และหน่วยหุ่นรบไพ่ราชาพิเศษซีรีย์ S ที่ฝ่ายตรงข้ามส่งมาก็นับว่าเป็นหน่วยหุ่นรบที่แข็งแกร่งสุดยอดซึ่งผ่านศึกมาอย่างโชกโชนของจักรวรรดิฮิงูเระ

ถังซวี่รู้ว่าสถานการณ์ไม่อาจให้เขาลังเลได้เลยสักนิดเดียว เขารีบสั่งการทันทีว่า “ออกคำสั่งให้หน่วยหุ่นรบไพ่ราชามังกรเหินออกโจมตี!”

กองยานรบทุกกองต่างมีหน่วยหุ่นรบไพ่ราชาคอยสนับสนุนอยู่แนวหลัง พวกเขาเป็นกำลังรบระดับสุดยอดของสหพันธรัฐ ถ้าเกิดไม่ใช่เวลาจำเป็นแล้วละก็ เขาไม่อยากส่งพวกเขาออกไปเลยจริงๆ แค่คิดว่าจะสูญเสียไปหนึ่งนาย เขาก็เจ็บปวดใจอย่างยิ่งยวดแล้ว อย่างไรก็ตาม การจะให้ผู้ควบคุมหุ่นรบธรรมดาเอาชีวิตไปโจมตีเพื่อยันอีกฝ่ายเอาไว้ เขาก็ยิ่งทำไม่ลง ศัตรูระดับไพ่ราชาก็มีแต่ต้องให้ไพ่ราชาไปจัดการเท่านั้น

……………

ตรงแนวหลังด้านขวาของกองยานรบมียานอวกาศแม่ลำหนึ่งกำลังลอยอยู่ตรงนั้น มันสงบ เงียบแต่ก็ดูรุนแรงดุดันอยู่บ้าง และในท้องของยานแม่กำลังรอคอยหน่วยหุ่นรบที่ติดอาวุธพร้อมออกปฏิบัติการ นี่คือหน่วยหุ่นรบไพ่ราชาที่ป้องกันแนวหลังของกองยานนี้ มังกรเหิน!

เวลานี้พวกเขานั่งอยู่ในหุ่นรบของตัวเองด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แยกกันอยู่ในช่องส่งตัวของแต่ละคน เพ่งความสนใจไปที่ความคืบหน้าของสนามรบตรงหน้า

ทันใดนั้นเอง เสียงกริ่งแจ้งเตือนการรบดังขึ้นไปทั่วยานแม่ เสียงแหลมดังทะลุความเงียบสงบแต่เดิม ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาทุกคนบีบคันบังคับในมือแน่นตามจิตใต้สำนึก นี่หมายความว่าสงครามของพวกเขากำลังจะเริ่มต้นแล้ว

พวกเขารอคอยมานานมากเกินไปแล้ว ทุกครั้งที่สงครามเริ่มต้นขึ้น พวกเขาก็ติดอาวุธเตรียมพร้อมออกปฏิบัติการอยู่ตลอด แต่สุดท้ายกลับไม่มีโอกาสได้เข้าไปในสนามรบ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาได้รับการอบรมเรื่องการทหารซึมลึกเข้าไปในกระดูกว่า ทุกครั้งที่เริ่มต้นการต่อสู้จะต้องรอคอยคำสั่งจากกองบัญชาการอย่างเคร่งครัด เหตุการณ์เด็กเลี้ยงแกะที่เกิดขึ้นหลายครั้งทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกเหนื่อยล้าได้ง่ายมาก รอคอยด้วยความเฉื่อยชา

อย่างไรก็ตาม ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาทุกคนรู้ดีว่า ในเมื่อต้องการให้พวกเขาออกไปรบ ศัตรูก็จะต้องเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่อยู่ระดับเดียวกันแน่นอน นี่จะเป็นการรบกันอย่างเอาเป็นเอาตายที่โหดเหี้ยมของคนที่มีความสามารถระดับเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายต่างต้องเอาชีวิตไปพิสูจน์ว่าใครคือราชาที่แท้จริง

“คำสั่ง ให้หน่วยหุ่นรบไพ่ราชามังกรเหินออกโจมตีทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ พิกัด: 1245, 2340!” ผู้ควบคุมหุ่นรบทุกคนของหน่วยรบไพ่ราชามังกรเหินต่างได้ยินคำสั่งที่มาจากกองบัญชาการในช่องสื่อสารส่วนกลางของหุ่นรบตัวเอง

“8001 8002 8003 8004 8005 เตรียมพร้อมเรียบร้อยหมดแล้ว เรียก JMC 801 ขอทำการออกโจมตี!” คำขอออกโจมตีของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาจากท่าปล่อยยานแต่ละอันดังขึ้นในหูฟัง JMC ของยานแม่ที่รับผิดชอบนำทางผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา

“ตรวจสอบ อุปกรณ์ครบถ้วน แรงขับเคลื่อนปกติ อนุมัติการปล่อย 3 2 1….ปล่อยได้!” หลังจากที่ JMC ที่รับผิดชอบหุ่นรบไพ่ราชาโดยเฉพาะตรวจสอบอย่างรวดเร็วแล้วก็ทำการอนุมัติคำขอปล่อยหุ่นรบได้

‘ตูม!’ ‘ตูม!’ ‘ตูม!’ เสียงปล่อยตัวดังขึ้นติดต่อกัน ท่าปล่อยยานห้าอันจากสองฝั่งของยานแม่ปล่อยหุ่นรบไพ่ราชาที่เตรียมตัวเรียบร้อยแล้วออกไปบนท้องฟ้า

“8011 8012 8013…ขอทำการออกโจมตี!”

“8021 8022 8023…ขอทำการออกโจมตี!”

หุ่นรบไพ่ราชาถูกปล่อยออกไปบนท้องฟ้าเป็นกลุ่มตามลำดับ…เวลานี้เอง ช่องสื่อสารของพวกเขาโดยเฉพาะในหุ่นรบแต่ละตัวต่างยุ่งมาก สงครามหุ่นรบที่มีกองทัพขนาดใหญ่ไม่ได้เป็นการต่อสู้ตามลำพัง พวกเขาต้องตั้งขบวนกันโจมตีศัตรู

“8011 เรียก 8001 วิงแมน[1]หมายเลขหนึ่งขอเข้าร่วมขบวน…”

“8021 เรียก 8001 วิงแมนหมายเลขสองขอเข้าร่วมขบวน…”

ทุกครั้งที่ตั้งขบวนเต็มรูปแบบ หุ่นรบก็จะบินไปยังพิกัดที่กองบัญชาการแจ้งไว้อย่างรวดเร็วเช่นนี้เอง

…………..

“บากะ ทำไมฝ่ายตรงข้ามเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้?” ผู้บัญชาการบนยานหลักของฮิงูเระซึ่งเป็นนายพลที่มีจอนผมสีเทาทั้งสองข้าง เหนือริมฝีปากมีหนวดสั้นเล็กๆ สองอัน เห็นหุ่นรบสีเงินขาวบินมาจากทางด้านหลังอีกฝ่ายทีละกองและขัดขวางหุ่นรบไพ่ราชาพิเศษของฮิงูเระพวกเขาที่ตั้งขบวนเอาไว้อย่างรวดเร็วก็อดสบถด่าขึ้นมาไม่ได้

“ท่านนายพล ผมเชื่อว่าผู้ควบคุมหุ่นรบของเราไม่มีทางแพ้ให้กับคนจีนพวกนั้นหรอกครับ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการหนุ่มที่อยู่ข้างๆ โค้งตัวลงเล็กน้อย แต่ว่าเขากลับเอ่ยด้วยท่าทีหยิ่งทระนงอย่างยิ่ง ควรทราบว่าหน่วยหุ่นรบไพ่ราชาพิเศษซีรีย์ S ของพวกเขาเรียกได้ว่าเป็นหุ่นรบแห่งชัยชนะที่ไม่มีวันตก การจัดการกับปลาซิวปลาสร้อยพวกนี้ย่อมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

“อาโอกิ อย่าดูถูกพวกเขา สหพันธรัฐหัวเซี่ยเป็นศัตรูคู่แค้นของพวกเรามาตลอด หมื่นปีมานี้ ขอเพียงเกิดสงครามก็เป็นการต่อสู้กันตกตายไปข้างหนึ่ง ในประวัติศาสตร์ พวกเราพ่ายแพ้มาหลายครั้งเพราะดูถูกพวกเขา นำพาความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแก่จักรวรรดิของเรา พวกเราต้องเรียนรู้บทเรียนพวกนี้ไว้” นายพลเป็นคนที่ระมัดระวังรอบคอบคนหนึ่ง เขาไม่ได้หลับหูหลับตามั่นใจในตัวเองเหมือนพวกคนบางคนในประเทศที่คิดจริงๆ ว่าความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของสหพันรัฐหัวเซี่ยเป็นแค่ที่รองกระถางดอกไม้[2]เท่านั้น

“ท่านนายพล ที่คุณพูดมาก็สมเหตุสมผลมากๆ แต่สหพันธรัฐหัวเซี่ยไม่ได้เป็นหัวเซี่ยเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว ขนาดหลิงเซียวผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะของพวกเขาก็ยังตายในมือผู้กล้าของจักรวรรดิเราเมื่อสิบหกปีก่อนเลยนะครับ ตอนนี้พวกเขาเป็นแค่ลูกธนูสุดแรงบิน[3]เท่านั้น ชัยชนะเป็นของจักรวรรดิฮิงูเระอันยิ่งใหญ่ตลอดกาล” เวลานี้ใบหน้าของเจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการอาโอกิเต็มไปด้วยความลำพองใจ การที่หลิงเซียวถูกสังหารได้สำเร็จคือเกียรติยศของทหารฮิงูเระทุกคน

ในฐานะที่เป็นทหารรุ่นใหม่ของจักรวรรดิฮิงูเระ เขาเติบโตขึ้นภายใต้การโฆษณาเรื่องความสำเร็จในการสังหารหลิงเซียวผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะที่แข็งแกร่งที่สุดของสหพันธรัฐหัวเซี่ยมาตั้งแต่เด็กๆ ในความคิดของพวกเขา สหพันธรัฐหัวเซี่ยตกต่ำลง ไม่มีกำลังต้านทานพวกเขาแล้ว จักรวรรดิฮิงูเระอันยิ่งใหญ่ย่อมได้รับชัยชนะในท้ายที่สุดและสุดท้ายก็ยึดครองทั่วทั้งสหพันธรัฐหัวเซี่ยได้แน่นอน

“เป็นแบบนี้จริงๆ เหรอ?” นายพลจ้องมองหน้าจอขนาดใหญ่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาไม่เชื่อว่าสหพันธรัฐหัวเซี่ยจะไม่มีข้อมูลที่ปกปิดไว้เลยสักนิดจริงๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขายังมีผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะคนอื่นๆ อยู่ ถึงแม้ว่าตลอดมาคนเหล่านั้นจะเร้นกายไม่ออกมา แต่ถ้าหากสหพันธรัฐหัวเซี่ยไปถึงขั้นล่มสลายจนไม่อาจฟื้นคืนกลับมาละก็ เกรงว่าคนเหล่านี้อาจจะปรากฏตัวออกมาทีละคน แต่จักรวรรดิของพวกเขามีราชันหุ่นรบเทวะเก้าคนเท่านั้น จำนวนคนไม่อาจเทียบได้เลย

“ต้องยืดเวลาไปอีก ผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะที่อายุมากที่สุดของสหพันธรัฐหัวเซี่ยก็ใกล้จะอายุ 200 ปีแล้ว…” นายพลลอบคำนวณในใจ ขอเพียงผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะของอีกฝ่ายแก่ตายไปได้สักคนสองคน เช่นนั้นจักรวรรดิของพวกเขาก็จะไม่ตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบด้านการต่อสู้กันของกำลังรบระดับสุดยอด เวลานั้นถึงจะเป็นเวลาที่จักรวรรดิฮิงูเระอันยิ่งใหญ่บุกโจมตีเต็มกำลัง

………………………………………….

[1] หมายถึง นักบินที่ขับเครื่องบินลูกฝูง มีหน้าที่สนับสนุนและคุ้มกันเครื่องบินของหัวหน้าฝูง

[2] อุปมาว่า ภายนอกดูดีแต่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้

[3] หมายถึงกำลังอันเข้มแข็งเสื่อมทรุดจนต้องถอยไปอยู่ปลายแถว