“เอลด้า พี่เข้าไปได้ไหม?”

ผมถามขณะที่กำลังยืนอยู่นอกห้องของเอลด้า โดยที่ตอนนี้ผมสวมสูททางการสีดำที่มีลายสีทองอยู่ ชุดนี้เหมาะกับผมมากเพราะมันช่วยเน้นความหล่อเหลาและรูปร่างของผมให้สะดุดตา 

ผมแต่งตัวตามที่เอลด้าสั่งให้ผมทำ ทำไมหน่ะหรอ? นั้นเพราะเธอกำลังจะพาผมไปเจอกับใครบางคนหน่ะสิ

“เข้ามาได้เลยค่ะพี่”

เมื่อได้ยินเสียงอันไพเราะของเอลด้า ผมจึงเปิดประตูเข้าไป และเมื่อผมเข้าไปข้างในแล้วก็ต้องตกใจมาก เนื่องจากเอลด้าที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมโดยสวมชุดสีแดงที่ปิดเลยเข่า มันถูกออกแบบด้วยรายละเอียดที่ประณีต ชวนให้นึกถึงดอกกุหลาบที่กำลังผลิบาน

ชุดนี้เผยให้เห็นไหล่อันอ่อนโยนของเอลด้าและมองเห็นแผ่นหลังของเธอ บวกกับขาของเธอที่โผล่ออกมาจากใต้ชุดของเธอที่ประดับด้วยถุงเท้าสีดำคู่หนึ่ง ทำให้สัมผัสได้ถึงความใจกล้าภายใต้รูปลักษณ์ที่เป็นทางการของเธอ ความตัดกันระหว่างผิวสวยของเธอกับถุงเท้าสีดำช่วยขับเน้นความงามของเธอจนทำเอาผมแทบหยุดหายใจ

ตอนนี้เอลด้าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความน่ารักและเซ็กซี่ การผสมผสานนี้ทำให้หัวใจผมเต้นเร็วขึ้น โชคดีที่ไม่ใช่ผมคนเดียวที่ตะลึงเพราะเอลด้าเองก็มองผมด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อเช่นกัน ดวงตาของเธอดูเหมือนจะเป็นประกายด้วยความสุขเมื่อเห็นผมตกตะลึง รอยยิ้มที่ทำให้ชายใดต่างต้องหลงไหลผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเธอ ขณะที่เธอถกกระโปรงขึ้นเล็กน้อยเพื่อหมุนไปรอบๆ ขณะที่พูด

“เป็นยังไงบ้างคะพี่ หนูสวยไหมคะ?”

“สวย….สวยมากเลย”

คำตอบออกมาจากปากของผมโดยอัตโนมัติ ทำให้ดวงตาของเอลด้าเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวขณะที่เธอดื่มด่ำไปกับคำพูดของผม 

ผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถูกดึงดูดใจโดยเอลด้าคนปัจจุบันมากกว่าเดิม ซึ่งมีดวงตาสีเขียวดั่งอัญมณีที่เปล่งประกายด้วยอารมณ์ร้อนแรงที่ดูเหมือนแทบจะกลืนกินของเธอ ผมสีเงินของเธอมัดมวยผมด้วยกิ๊บรูปผีเสื้อแสนสวย ขณะที่ลำคอขาวเนียนของเธอก็ถูกโชว์ออกมาให้ผมได้เห็น

ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อพยายามอย่างดีที่สุดในการเรียกสติให้กลับคืนมา 

ขณะที่ผมเดินไปหาเอลดาด้วยรอยยิ้ม สายตาของผมก็จับจ้องไปที่เธอที่พยายาม ‘ซ่อน’ ‘ความรู้สึก’ ที่เพิ่มขึ้นของตัวเอง เอลด้าสังเกตเห็นเมื่อเธอจ้องตากับผม

“แล้วเธอมีอะไรจะเซอร์ไพรส์พี่อีกหล่ะ?”

ผมถามเมื่อเข้าไปใกล้เอลด้า 

เธอยิ้มให้กับคำถามของผมขณะที่อ้าแขนออกเพื่อขอกอด เมื่อเห็นแล้วผมก็ ‘ลังเล’ ราวกับกลัวว่าตัวเองจะปลดปล่อย ‘ความรู้สึก’ ที่ผมพยายามเก็บซ่อนเอาไว้ออกมา แต่สุดท้าย ‘ความลังเล’ ของผมก็หายไปพร้อมกับเดินหน้าดึงเอลด้าเข้ามาในอ้อมแขนเพื่อกอดร่างเนียนของเธอที่ดูเหมือนเกือบจะไม่มีกระดูก

ขณะที่ผมกอดเธออยู่ มือของผมก็จับเอวเธอไว้แน่น ขณะที่เอลด้าเอาหัวมาซบหน้าอกของผม แขนของเธอขยับไปข้างหน้าพร้อมกับโอบรอบคอของผม ผมรู้สึกได้ถึงความร้อนจากร่างกายของเอลด้าและกลิ่นของเธอที่โชยมาแตะจมูกของตัวเอง เธอเย้ายวนใจมากจนผมอยากจับกดเธอซะตอนนี้เลย แต่ผมก็ยั้งไว้เพราะยังไม่ถึงเวลา

“พี่คะ หนูหวังว่าเราจะได้อยู่อย่างนี้กันตลอดไปเลยค่ะ”

วินาทีที่เอลด้าพูดด้วยน้ำเสียงชวนฝันที่ดังก้องอยู่ในหัวใจของผม น้ำหนักทั้งตัวของเธออยู่ที่ผมในขณะที่ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความยินดีอย่างยิ่ง

จิตใจของเอลด้าดูสงบในขณะที่อยู่ในอ้อมกอดของผม มือของผมขยับขณะที่เริ่มลูบหลังของเธอ มือของผมลูบไล้ผ่านแผ่นหลังที่เปิดโล่งของเอลด้า

“พี่ก็เหมือนกัน…”

ครั้งนี้ผมพูดความจริง 

เมื่อได้ยินอย่างนั้นในที่สุดเอลด้าก็ปล่อยอ้อมกอดเมื่อประตูมิติสีเงินที่ใหญ่กว่าครั้งก่อนเริ่มปรากฏขึ้นข้างหลังเธอ และทันทีที่มันเสถียรแล้วเอลด้าก็จับมือผมก่อนจะพาผมเข้าไปที่ประตูมิติ ผมไม่ปฏิเสธในขณะที่ปล่อยให้เธอจับมือตัวเองขณะที่เธอพาผมไปที่ประตูมิติ

ในไม่ช้าเราก็ผ่านประตูมิติขนาดใหญ่พร้อมกับที่รู้สึกถึงความรู้สึกคล้ายๆ กันมีมิติห่อหุ้มรอบตัวผม ผมหลับตาและจับมือเอลด้าขณะที่มิติโอบรอบตัวเราทั้งคู่ ใช้เวลาไม่กี่วินาทีเพราะดูเหมือนว่าระยะทางที่เราทั้งคู่ข้ามไปจะไม่ไกลเลย หลังจากนั้นไม่นานผมก็รู้สึกเหมือนว่ารอบตัวเองสงบลง

ลมป่าสดชื่นที่ทำให้จิตใจสงบลอยมาปะทะจมูกขณะที่ผมรู้สึกถึงพื้นดินเบื้องล่าง ผมยังรู้สึกได้ถึงมือของเอลด้าที่กุมมือตัวเองอยู่ในตอนที่ลืมตาขึ้น ไม่นานนักป่าที่สวยงามก็ปรากฏสู่สายตาของผม ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่สูงใหญ่ในขณะที่มานาบริสุทธิ์จนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่นเดียวกับท้องฟ้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยคลื่นหลากสีสัน

คลื่นเป็นการผสมผสานที่สวยงามของสีต่างๆ 7 สีที่ลอยอยู่เหมือนแม่น้ำที่ลอยขึ้นเหนือท้องฟ้า อากาศสดชื่นและละมุน ในขณะที่ต้นไม้มีสีต่างกันพร้อมกับใบมหึมาที่ดูเหมือนบ้าน

และภายในทั้งหมดนี้ ตรงกลางมีต้นไม้ต้นหนึ่งที่ขนาดใหญ่จนดูเหมือนปกคลุมท้องฟ้าได้ตั้งอยู่

พอมองดูแล้วผมก็สามารถระบุถึงมันได้ในทันที

‘อิกดราซิล’

อิกดราซิล ต้นไม้ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุด ต้นไม้ที่ครอบคลุมมิติของนางฟ้า ต้นไม้แห่งชีวิตที่กระจายมานาที่บริสุทธิ์และราบรื่นที่สุดในโลก ต้นไม้ที่ปลูกโดยเทพธิดาแห่งชีวิตซึ่งเป็นตัวแทนของความปรารถนาของเธอในสันติภาพและความสงบ

ต้นไม้ใหญ่จนมังกรอาจดูตัวเล็กเมื่อมองมัน ผมยืนอยู่ห่างจากมันไกลๆ แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความสงบในส่วนลึกของจิตวิญญาณตัวเอง ส่วนอื่นๆ ของโลกที่เต็มไปด้วยต้นไม้ดูเหมือนจะเป็นส่วนเสริม มันเป็นภาพที่สวยงามจนผมไม่อยากละสายตาจากมันเลย

“สุดยอดเลย…”

คำพูดออกจากปากของผมโดยไม่รู้ตัว และเมื่อผมทำอย่างนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากข้างๆ ตัวเอง 

เมื่อมองไปทางนั้นผมก็เห็นเอลด้าที่กำลังมองมายังผมด้วยสายตาที่ภาคภูมิใจและคาดหวัง ผมรู้ว่าเธอต้องการได้ยินอะไรเลยพูดในสิ่งที่เธออยากได้ยิน และสิ่งที่กำลังแผดเผาภายในจิตใจของตัวเองอย่างแท้จริง

“นี่เป็นเซอร์ไพรส์ที่ดีที่สุดที่เคยมีมาเลย”

เมื่อได้ยินคำพูดของผม ปากของเอลด้าก็ยิ้มเยาะก่อนที่เธอจะหัวเราะออกมาอย่างภูมิใจ พอเธอชี้มาที่หน้าผม ผมก็แน่ใจว่าหน้าตัวเองตอนนี้ต้องตลกแน่ๆ ใครจะว่าผมได้หล่ะ? ผมได้มาอยู่ในมิตินางฟ้าที่เปิดเพียงปีละครั้งในดินแดนเอลฟ์ในช่วงเทศกาลโลกแห่งจิตวิญญาณ

เทศกาลที่นำคนทั้งโลกมารวมกัน เทศกาลที่นำไปสู่การปลดปล่อยมานาบริสุทธิ์ที่ผู้คนต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสถานที่ที่จะเข้าร่วม สถานที่ที่จะให้พลังของใครก็ตามทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดและตอนนี้ผมก็มีทุกอย่างให้ตัวเองแล้ว

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต