บทที่ 188 เข้าใจผิด

บทที่ 188 เข้าใจผิด

“พลิกเปลี่ยนหน้าเร็วเข้าสิ” ขณะฝูงชนสงสัยว่าถังอวี่เฟยและผู้อาวุโสเทียนเหอเห็นอะไร ทางฝั่งผู้อาวุโสเทียนเหอ เขากลับเป็นฝ่ายร้อนใจกล่าวเร่งหญิงสาวขึ้นมา

ฝูงชนประหลาดใจกับท่าทีของผู้อาวุโสเทียนเหอ กระทั่งถังอวี่เฟยยังต้องชะงักเพราะคำพูดของอีกฝ่าย เธอมัวแต่ถูกตำราที่อู๋ฝานมอบให้ดึงดูดไว้ จนไม่ทราบว่าผู้อาวุโสเทียนเหอเองก็กำลังมองเนื้อหาบนตำราจากด้านหลังของตน

เมื่อเห็นอาการชะงักของถังอวี่เฟย ผู้อาวุโสเทียนเหอก็เกิดใจร้อน เขาไม่อาจอดทนรอที่จะทราบเนื้อหาถัดจากนี้ได้ ดังนั้นจึงเป็นฝ่ายลงมือ คว้าเอาตำราจากมือของถังอวี่เฟย เพราะต้องการพลิกหน้ากระดาษด้วยตนเอง

“เดี๋ยวก่อนครับ!”

ตอนนี้เองที่อู๋ฝานเอ่ยขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมบอกผู้อาวุโสเทียนเหอ “ท่านผู้อาวุโส ผมมอบของสิ่งนี้ให้แก่คุณหนูถัง ทำแบบนี้ออกจะเป็นการเสียมารยาทไปหน่อยไหมครับ?”

ผู้อาวุโสเทียนเหอชะงัก ก่อนจะมองอู๋ฝานอย่างไม่เชื่อสายตา เขาไม่คิดว่าจะมีใครในที่แห่งนี้กล้าพูดคำเหล่านี้กับตนเอง แต่หลังเห็นท่าทีจริงจังของอีกฝ่าย ผู้อาวุโสเทียนเหอจึงตระหนักได้ ก่อนจะส่งตำรากลับคืนให้ถังอวี่เฟยด้วยท่าทีประดักประเดิด พร้อมกับอธิบายออกมา “เมื่อครู่ข้าเพียงร้อนใจไปบ้าง เพราะต้องการได้เห็นเนื้อหาหน้าถัดไป ไม่ได้มีเจตนาจะช่วงชิงหรืออะไรทั้งนั้น”

ถังอวี่เฟยรับตำรากลับคืนมาจากผู้อาวุโสเทียนเหอด้วยอาการงุนงง เธอยังไม่เชื่อสายตาว่าผู้อาวุโสเทียนเหอที่วางตัวสูงส่ง จะกลายเป็นอ่อนนุ่มลง พร้อมอธิบายให้อู๋ฝานทราบถึงการกระทำของตนเองได้

อู๋ฝานในเวลานี้น่าทึ่งจนเกินไป

“ผมมอบตำราเล่มนี้ให้แก่นักศึกษาถังแล้ว มันถือเป็นของเธอเรียบร้อย แต่ผมก็มองว่าการแอบดูเนื้อหาโดยไม่ขอเจ้าตัว มันออกจะเป็นเรื่องเสียมารยาทเกินไปหน่อยไหมครับ?” อู๋ฝานยังคงเอ่ยต่อ

ทุกคนต่างมองอู๋ฝานอย่างนึกทึ่ง กระทั่งตื่นตะลึงที่เขากล้าพูดคำเหล่านี้กับผู้อาวุโสเทียนเหอ มันออกจะดูเกินเลยไปหรือไม่?

เพียงแต่ทุกคนยิ่งประหลาดใจมากกว่า ที่คำพูดของอู๋ฝาน กลับไม่ได้ทำผู้อาวุโสเทียนเหอโกรธ แต่อีกฝ่ายเผยท่าทีกระดากใจตอบรับ “เป็นความผิดพลาดแล้วจริง ๆ เมื่อครู่ตาแก่คนนี้ใจร้อนเกินไปเอง”

หลังสิ้นคำดังกล่าว สายตาของเขาจึงหันออกจากตำรา ทว่าก็เห็นได้ชัดว่าแววตายังมีร่องรอยของความรู้สึกเสียดายอยู่

เมื่อครู่นี้ เขาไม่คิดว่าตำราที่อู๋ฝานมอบให้ถังอวี่เฟยจะเป็นเคล็ดวิชาฝึกฝน ดังนั้นจึงแอบมองไปโดยไม่ทันคิด แต่มันกลับดึงดูดความสนใจในชั่วขณะ เวลานี้อีกฝ่ายย้ำบอก เขาจึงได้ตระหนักว่าการกระทำของตนเองไม่เหมาะสมจริง ๆ

เคล็ดวิชาฝึกฝนเป็นความลับของสำนักทั้งหลาย หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวหรือสำนัก ผู้อื่นก็ไม่ควรแอบมอง

ถังอวี่เฟยสะกดกลั้นความตื่นตะลึงในใจเอาไว้ ก่อนจะบอกกับผู้อาวุโสเทียนเหอ “ผู้อาวุโสเทียนเหอ ถ้าเป็นไปได้ดิฉันก็อยากจะขอรบกวนหน่อยค่ะ เพราะฉันไม่ค่อยเข้าใจมันสักเท่าไหร่”

แม้ถังอวี่เฟยจะทราบเรื่องราวของการฝึกฝนอยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบเปรียบกับผู้อาวุโสเทียนเหอ เธอยังล้าหลังกว่ามาก อีกทั้งตนยังไม่คิดปล่อยให้ผู้อาวุโสเทียนเหอต้องเผชิญเรื่องราวยากลำบาก

ผู้อาวุโสเทียนเหอมองถังอวี่เฟยอย่างนึกขอบคุณ สุดท้ายอดรนทนไม่ไหว เร่งคว้ารับตำรามาจากถังอวี่เฟย

ถังอวี่เฟยหันมองอู๋ฝานด้วยท่าทีขออภัย

อู๋ฝานไม่คิดใส่ใจ เหมือนที่เขาพูดไป ตำรานั้นมอบให้ถังอวี่เฟยแล้ว หญิงสาวจะตัดสินใจใช้อย่างไร ใครจะเป็นคนอ่านเนื้อหาที่อยู่ในนั้น ทุกสิ่งจะเป็นไปตามที่เธอผู้เป็นเจ้าของต้องการ

ผู้อาวุโสเทียนเหออ่านอย่างตั้งใจ ขณะที่คนอื่นมองกลุ่มคนด้วยความสงสัยและนึกทึ่ง

ทั้งเจียงอวี่และหลี่ปิงต่างสบถคำอยู่ในใจ จะบอกว่าของขวัญวันเกิดที่อู๋ฝานมอบให้ถังอวี่เฟย มันเป็นเคล็ดวิชาฝึกฝนจริงอย่างนั้นหรือ?

ถ้าใช่ มันเป็นไปได้ยังไง?

ก่อนหน้านี้อู๋ฝานยังเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ทราบเรื่องราวของหนทางการฝึกฝนมาก่อนแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้กลับมอบของเช่นนั้นให้ถังอวี่เฟยได้? เรื่องราวนี้ยากที่จะทำใจเชื่อและยอมรับ

“นายนี่ซ่อนไว้ลึกเชียวนะ” หวังจื่อหมิงเดินมาที่ข้างกายอู๋ฝาน พร้อมเอ่ยคำเสียงเบา

“ครับ?” อู๋ฝานยังคงไม่เข้าใจคำพูดของหวังจื่อหมิง

“ตำรานั่นยังไงล่ะ” หวังจื่อหมิงตอบกลับ “ฉันคิดว่ามันคงไม่ใช่หนังสือนิทานหรอกมั้ง? ดูจากท่าทีของผู้อาวุโสเทียนเหอ มันจะต้องเป็นเคล็ดวิชาฝึกฝนที่ดีแน่ นายมอบของแบบนั้นให้โดยไม่คิดอะไรมากด้วยซ้ำ ไม่พูดว่าซ่อนไว้ลึกแล้วจะให้ใช้คำไหน?”

“ไม่ใช่ว่าพวกตระกูลร่ำรวยทั้งหลายก็มีของแบบนี้เยอะแยะหรอกเหรอครับ?” อู๋ฝานถามกลับ

“จะเป็นไปได้ยังไง?!” หวังจื่อหมิงตอบกลับ “นายไม่เห็นเหรอว่าคนของตระกูลถังดีใจขนาดไหนตอนที่ได้รับตำราจากผู้อาวุโสเทียนเหอน่ะ? ของแบบนั้น ต่อให้เป็นตระกูลอย่างพวกฉัน ก็ยังเป็นของหายาก ทั้งเจียงโจว มีแค่สี่จากห้าตระกูลใหญ่ถึงมีเคล็ดวิชาฝึกฝนแบบนั้น ตอนนี้ตระกูลถังได้รับไว้ในครอบครองแล้ว จึงเท่ากับว่าห้าตระกูลใหญ่ต่างก็มีในครอบครองกันถ้วนหน้า แต่ในส่วนของตระกูลอื่นคงไม่ได้เห็นกันง่าย ๆหรอก”

อู๋ฝานคิดว่าตนรู้ดีว่าทำไมผู้คนเหล่านี้จึงตกตะลึงตอนที่ได้ยินว่ามีการส่งมอบตำราที่ว่า แต่กลายเป็นว่าทุกอย่างนั้นเป็นเขาเข้าใจผิดไปเอง!

เดิมอู๋ฝานได้พบข่งไห่หลิน หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ รวมถึงเฟ่ยอวิ๋น คนเหล่านี้ต่างก็ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ อีกทั้งยังได้พบหวังจื่อหมิงและถังอวี่เฟยที่ค่อนข้างทราบเรื่องราวของการฝึกฝน บรรดาแขกในงานนี้ ก็มีหลายคนที่ทราบเรื่องราวเหล่านี้ อู๋ฝานจึงคิดไปเองว่าของเช่นการฝึกฝน มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของตระกูลทรงอำนาจและร่ำรวย แต่คนธรรมดาไม่อาจเข้าถึงได้ก็เท่านั้นเอง

แต่ตอนนี้เขาได้ทราบแล้วว่าแม้ผู้คนในสถานที่แห่งนี้ทราบว่ามีเรื่องราวเช่นการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อยู่จริง แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีโอกาสฝึกฝนกันทุกคน เพราะการได้รับเคล็ดวิชาฝึกฝนที่แท้จริงมานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย!

หลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง อู๋ฝานจึงนึกเสียดายที่ส่งตำราให้ถังอวี่เฟย ไม่ใช่เพราะต้องมอบให้ แต่เพราะรู้สึกว่าทำอย่างเอิกเกริกจนเกินไป เขาคิดว่าของเช่นนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาในสายตาของคนที่นี่ ดังนั้นจึงมอบให้ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นตัวเขาเข้าใจผิดไปอย่างมหันต์

ทว่าของก็มอบให้ไปแล้ว จะนึกเสียใจก็ถือว่าสายเกินไป

อีกด้านหนึ่ง ผู้อาวุโสเทียนเหออ่านตำราของอู๋ฝานเสร็จสิ้น ถัดจากนั้นจึงส่งมอบให้ถังอวี่เฟย “ตำราเล่มนี้ เก็บเอาไว้ให้ดี มันล้ำหน้าและยอดเยี่ยมกว่าเคล็ดวิชาที่ข้ามอบให้เสียอีก”

คำพูดของผู้อาวุโสเทียนเหอ จึงทำฝูงชนในที่นี้ยิ่งฮือฮา

ล้ำหน้ายิ่งกว่าเล่มที่มอบให้?

จะบอกว่ามันเป็นเคล็ดวิชาระดับลึกล้ำ?

ตัวตนอู๋ฝานเป็นอย่างไรกันแน่? ถึงขนาดมอบเคล็ดวิชาระดับลึกล้ำให้คนอื่นเป็นของขวัญวันเกิดได้อย่างง่ายดายแบบนี้?

อย่างที่รู้กันดีว่าเคล็ดวิชาระดับลึกล้ำทั้งหมดล้วนเป็นทรัพย์สินอันล้ำค่า กระทั่งสำนักเช่นสำนักล้ำสวรรค์ เคล็ดวิชาระดับลึกล้ำก็ไม่ใช่สิ่งที่มีทั่วไปในหมู่พวกเขา มีเพียงแต่ศิษย์หลักแห่งสำนักเท่านั้นจึงมีคุณสมบัติได้ฝึกฝนเรียนรู้ ขณะที่สำนักอื่นย่อมต้องมีแนวทางไม่ต่างกัน

แต่ตอนนี้อู๋ฝานกลับหยิบออกมามอบให้ราวกับของไม่มีค่าอย่างนั้นหรือ?!