บทที่ 21 คุณแน่ใจว่ายังมีทางเลือกอื่นอีกหรอ

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

แต่ทว่า เสียงสายน้ำไหลที่ลอยเข้าหูมาไม่ขาดสาย ก็กระตุ้นเส้นประสาททุกเส้นของณัฐณิชา เธอมองไปทางประตูห้องอาบน้ำด้วยท่าทางสับสน และพบว่าตัวเองมีอาการนอนไม่หลับอยู่บ้าง

เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตอนนี้ล้วนเหลวไหลมากเกินไป

เธอแต่งงานกับผู้ชายที่เพิ่งจะรู้จักกันได้สามวันคนหนึ่ง!

และผู้ชายคนนั้น ก็กำลัง…อาบน้ำอยู่ข้างในโดยมีกำแพงบางๆกั้นระหว่างเขากับเธออยู่

เมื่อรู้สึกได้ถึงความจริงในเรื่องนี้ ใบหน้าของณัฐณิชาก็เห่อร้อนขึ้นมา

เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องอาบน้ำเมื่อครู่นี้ ปรากฏขึ้นในสมองราวกับภาพยนตร์เรื่องหนึ่งอีกครั้ง…

ภาพเบื้องหน้าของณัฐณิชาคือนัยน์ตาลุ่มลึกคู่นั้นของธราเทพ ข้างใบหูคือลมหายใจร้อนผ่าวขณะที่เขาเอ่ยพูด ส่วนบนไหล่ก็มีอุณหภูมิอุ่นร้อนที่คล้ายกับถูกทิ้งเอาไว้จากท่อนแขนของเขา

ความจริงแล้วเขาหล่อมาก คนก็ไม่เลวเช่นกัน…

เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ ณัฐณิชาก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดซ่อนใบหน้าของตนเองเอาไว้แล้วหลับตาลงอย่างอดมิได้

นอนหลับ…นอนหลับ…

อย่าคิดเพ้อเจ้ออีกเลย!

ทั้งหมดล้วนเป็นเหตุสุดวิสัย เรื่องทั้งหมดล้วนทำเพื่อที่จะได้หาคุณพ่อคุณแม่ผู้ให้กำเนิดตัวเองให้พบได้เร็วขึ้น อืม!

ตอนที่ธราเทพสวมชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ ก็เห็นณัฐณิชาขดตัวอยู่ในผ้าห่มราวกับกระต่ายตัวน้อยๆตัวหนึ่ง

ณัฐณิชานอนหลับไปโดยไม่รู้ตัว

ธราเทพเดินมาถึงด้านหน้าเธอ ก็เห็นแพขนตาของเธอสั่นเล็กน้อย และยังมีร่างกายที่นอนขดแบบนั้น เป็นท่าทางไร้ซึ่งความรู้สึกปลอดภัย ในใจจึงเกิดความรู้สึกเอ็นดูขึ้นมา

วันรุ่งขึ้น ตอนที่ณัฐณิชาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงเสียแล้ว

เธอดันตัวให้ลุกขึ้นนั่ง และมองไปยังด้านข้าง ธราเทพก็เพิ่งจะลืมตาขึ้นเช่นกัน

“คุณ…คุณ…คุณมาอยู่บนเตียงได้อย่างไรกัน?!” ถามเสร็จแล้วก็รู้สึกได้ว่าไม่ถูกต้อง “ฉันหมายความว่า ฉันมาอยู่บนเตียงได้อย่างไร!”

ธราเทพลุกขึ้นมานั่ง สวมเสื้อผ้าไป พลางแย้มรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มองมาที่เธอ “ผมก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่า คุณจะชอบเป็นฝ่ายรุกขนาดนี้”

เกิดเสียงดังปุ้งขึ้นในสมองของณัฐณิชาภาพชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายย้อนกลับมาในสมอง

ยามดึกเมื่อคืนวานยิ่งนอนก็ยิ่งหนาว ในภายหลังจากไปเข้าห้องน้ำ เมื่อกลับมาก็เดินตรงมาล้มตัวลงนอนบนเตียง

ภายใต้อาการสะลึมสะลือ ก็จำได้ว่ามีคนมากอดเธอเอาไว้

สวรรค์…

เมื่อนึกถึงเรื่องพวกนี้ขึ้นมาได้ ณัฐณิชาก็อยากจะมุดเข้าไปในรูเสียจริง

เธอแอบมองธราเทพ ก็เห็นว่าเจ้าหมอนี่ตื่นขึ้นมา และเริ่มสวมเสื้อผ้าเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

และการเหลือบมองอย่างไม่ได้ตั้งใจนี้ ณัฐณิชาก็เห็นกล้ามเนื้อท้องแปดลูกเป็นลายเส้นชัดเจน…

“มองพอหรือยัง”

ทันใดนั้นธราเทพก็ถามออกมาประโยคหนึ่ง ทำให้ณัฐณิชารู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม จึงรีบเบนสายตาไปอย่างรวดเร็ว

“ใครมองคุณกัน”

“รีบลุกขึ้นมา ไปอาบน้ำแล้วลงไปกินข้าวเช้าข้างล่าง คุณปู่ไม่ชอบคนขี้เซาเอาแต่นอน”

“อ่อ” สมองของณัฐณิชาสับสนวุ่นวาย ก้มหน้าสวมรองเท้าแตะ ก้าวเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ และเริ่มอาบน้ำอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้น ณัฐณิชากับธราเทพก็ลงไปที่ชั้นล่างด้วยกัน เมื่อคนทั้งครอบครัวกินอาหารเช้าเสร็จด้วยความสงบไร้ซึ่งเสียงทะเลาะเบาะแว้ง ธราเทพก็ส่งณัฐณิชากลับไป

เมื่อกลับมา ณัฐณิชาก็ทรุดตัวลงบนโซฟาในห้องรับแขก ถอนหายใจเสียงยาว

แม้ว่าที่นี่เธอจะยังไม่คุ้นชิน แต่เมื่อเทียบกับการต้องรับมือกับคนในครอบครัวใหญ่ และแสดงเป็นลูกสะใภ้ที่เรียบร้อยงดงาม เธอก็ยังคงชอบที่นี่อยู่ดี

ณัฐณิชาถอดรองเท้าส้นสูง แหงนหน้าขึ้นมองธราเทพ “ฉันกลับไปที่คฤหาสน์เป็นเพื่อนคุณแล้ว เมื่อไรคุณถึงจะพาฉันไปพบกับอาจารย์ผู้มีพระคุณของคุณ?”

ขอเพียงแค่ได้พบกับอาจารย์ผู้มีพระคุณ เธอก็อาจจะหาพ่อแม่ที่แท้จริงของตัวเองเจอ

เห็นนัยน์ตาของณัฐณิชาเปล่งประกาย ธราเทพขมวดคิ้วเข้าหากัน “เมื่อวานคุณเพิ่งก่อเรื่องที่บ้าน ยังอยากให้ผมพาคุณไปพบคนอีกหริอ?”

“นี่คุณ!!”ณัฐณิชาชี้หน้าธราเทพอย่างโมโห ไม่คาดว่าเขาจะกลับกลอกถึงเช่นนี้!