ตอนที่ 124

The simple life of the emperor

เทียนหลางที่ได้ยินก็ถึงกับหันมองแอนเดียร์เล็กน้อยด้วยความสงสัย เธอจึงคลายความสงสัยให้กับเขาโดยบอกกับเทียนหลางว่า

”ฉันอยากจะให้คุณไปช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับอำพันปีศาจ แน่นอนว่าทางวาติกันจะให้ค่าเหนื่อยกับคุณอย่างพึงพอใจอย่างแน่นอน”
เทียนหลางได้ยินข้อเรียกร้องและข้อเสนอของแอนเดียร์แล้วเขาก็ต้องลูบคางครุ่นคิด ไม่ใช่ว่าเพราะเขาสนใจข้อเสนอของแอนเดียร์แต่เพราะในตอนนี้เขานั้นไม่ได้ขาดเงินถึงแม้จะขาดจริงเขาก็พอจะมีวิธีหาเงินของตัวเองอย่างเช่นไปรีดไถพวกสำนักใหญ่โดยขายเม็ดยาให้สักขวดสองขวด หรือไม่ก็สร้างเครื่องประดับดีๆสักชุดเอาไปประมูลก็พอจะให้เขามีเงินใช้ได้
ดังนั้นในเมื่อตัวของเทียนหลางไม่ได้ขาดเงินเขาจึงคิดไม่ออกว่าจะเอาอะไรดีจากวาติกัน แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็อยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับอำพันปีศาจที่ทางวาติกันกำลังครอบครองอยู่
เทียนหลางคิดอยู่สักพักก่อนจะตอบตกลงกับแอนเดียร์ ที่เทียนหลางตอบตกลงไปนั้นเพราะเขาอยากจะรู้ว่าเหตุใดอำพันปีศาจถึงมาปรากฏอยู่บนโลกที่แสนจะสงบสุขใบนี้ได้แม้ประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษย์โลกจะมีสงครามกันนับครั้งไม่ถ้วนแต่หากเอาไปเทียบกับโลกแห่งการบ่มเพาะแล้วละก็โลกใบนี้สมควรจะเรียกว่าสงบสุขเลยทีเดียว
เมื่อแอนเดียร์เห็นว่าเทียนหลางตอบตกลงเธอก็ดีใจเป็นอย่างมากก่อนจะกดโทรศัพเพื่อโทรหาใครคนหนึ่ง
เทียนหลางขับรถมาถึงบ้านของตัวเองทำเอาแอนเดียร์งุนงงเล็กน้อยถึงกับถามออกมา
”คุณมีอะไรที่จะต้องจัดการงั้นเหรอ ?”
”ก็นิดหน่อยคุณเข้ามาพักในบ้านก่อนก็แล้วกัน”
เทียนหลางเดินนำแอนเดียร์เข้ามาในบ้าน เมื่อแม่ของเทียนหลางเห็นแอนเดียร์เดินตามเขาเข้ามาก็ถึงกับตกใจก่อนจะพูดกับเทียนหลางว่า
”ลูกพาใครมาบ้านนะ ?”
”นี่คือแอนเดียร์เพื่อนของผมครับ พอดีว่าผมต้องไปช่วยงานของเธอที่ต่างประเทศนิดหน่อยจึงกลับมาบอกเรื่องกับพ่อแม่และก็เฟิงหยวนนิดหน่อยก่อนจะไปนะ”
เมื่อแม่ของเทียนหลางได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะบอกกับเขาว่าเฟิงหยวนอยู่ที่สวน เทียนหลางพยักหน้าก่อนจะถามถึงพ่อของเขา
”แล้วพ่อไปไหนละแม่ ?”
”ก็คงออกไปพบกับเพื่อนเก่าของเขานั่นแหละ”
”งั้นเหรอครับ”
จากนั้นเทียนหลางก็หันไปหาแอนเดียร์ที่กำลังมองสำรวจบ้านของเขาอยู่พร้อมกับบอกไปว่า
”ทำตัวตามสบายนะ อยู่คุยกับแม่ฉันไปพลางๆก่อนก็ได้”
แอนเดียร์พยักหน้าก่อนจะเข้าไปทักทายแม่ของเทียนหลางและนั่งลงพูดคุยกันตามประสาผู้หญิง
เทียนหลางเดินมายังสวนก่อนจะยิ้มออกมาและเดินตรงเข้าไปในบ้านแต่ในขณะที่เขากำลังจะก้าวขาเข้าบ้านนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันจำนวนหนึ่งขวางกั้นไม่ให้เขาเข้าไปภายในบ้านพร้อมกับเสียงอันเย็นเหยียบประดุจพายุฤดูหนาวอันยาวนานดังขึ้น
”เธอคนนั้นเป็นใคร ?”
เทียนหลางที่ได้ยินก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆออกมาก่อนจะบอกกับเฟิงหยวนว่า
”ใจเย็นที่รักเธอเป็นคนขององค์กรต่างประเทศมาขอความช่วยเหลือนะ”
เฟิงหยวนที่ได้ยินก็เงียบไปสักพักก่อนประตูบ้านจะเปิดออกแสดงถึงการที่เฟิงหยวนอนุญาตให้เทียนหลางเข้าไปด้านในได้แล้ว
เทียนหลางอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างมีความสุขก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆกับเฟิงหยวน เฟิงหยวนที่เห็นท่าทีของเทียนหลางเธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม
”ทำไมใบหน้าของคุณถึงมีความสุขแบบนั้น ?”
เทียนหลางยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะนอนลงบนตักของเฟิงหยวน
”นานแล้วที่ผมไม่ได้เห็นคนหึงผมขนาดนี้”
เฟิงหยวนที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยกับเทียนหลางว่า
”ถึงแม้ฉันจะใจดี แต่ก็ใช่ว่าจะยอมรับใครก็ได้ที่คุณพามาหรอกนะ”
”ผมเข้าใจ ผมไม่ได้พาเธอมาให้คุณดูตัวหรอกนะพอดีว่าเธอมาขอความช่วยเหลือนะ”
”ขอความช่วยเหลือ ?”
เฟิงหยวนเอียงคอสงสัยอย่างสง่างาม เทียนหลางจึงอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้กับเฟิงหยวนฟัง เมื่อเฟิงหยวนได้ฟังก็ถึงกับขมวดคิ้วก่อนจะแสดงท่าทีสงสัยออกมา
”ไม่ว่าจะเป็นไข่มุกฟ้าครามก็ดี อสูรโบราณก็ดี ตอนนี้กลับมีอำพันปีศาจขึ้นมาอีกดูเหมือนดวงดาวเล็กๆดวงนี้จะมีความลับซ่อนเอาไว้มากเกินไปเสียแล้ว”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า
”อีกไม่นานทุกอย่างจะเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่น่าห่วงตอนนี้ก็คือสงครามที่ใกล้จะปะทุขึ้นของทางฝั่งนู้น แม้ตัวผมจะบอกว่านิกายของเราเป็นกลางก็จริงแต่ไม่ช้านิกายของเราก็คงจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็คุยกันอีกหน่อยนิดถึงเรื่องต่างๆ สุดท้ายแล้วเฟิงหยวนก็ปล่อยให้เทียนหลางเดินทางมาอิตาลีกับแอนเดียร์เพื่อนช่วยแก้ปัญหาของเธอ ซึ่งก่อนมาเฟิงหยวนก็กำชับกับเทียนหลางว่าให้หาทางกอบโกยสิ่งของมีประโยชน์กลับมาด้วย
——————————————————————————————————————
สองวันต่อมาเทียนหลางกับแอนเดียร์ก็มายืนอยู่ตรงหน้าวิหารเก่าแก่อันงดงามแห่งหนึ่งในโรม แอนเดียร์หันมามองหน้าเทียนหลางพร้อมกับกล่าวขอบใจออกมา
”ฉันต้องขอบคุณ คุณจริงๆที่ยอมช่วยฉันและทางวาติกัน”
เทียนหลางส่ายหน้าพร้อมกับเอ่ยขึ้นมาว่า
”ไม่ต้องคิดมากหรอก ผมมีสิ่งที่อยากจะตรวจสอบอยู่เหมือนกันแล้วอีกอย่างผมไม่ได้มาฟรีๆสักหน่อย”
แอนเดียร์ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมา
”แน่นอนทางเราจะจ่ายให้คุณอย่างงามเลยทีเดียว”
เทียนหลางก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะพูดกับแอนเดียร์ว่า
”เอาละงั้นคุณช่วยแนะนำสถานที่ตรงหน้าของผมหน่อยสิ ผมค่อนข้างรู้สึกจะสนใจมันไม่น้อยเลย”
แอนเดียร์ที่ได้ยินคำขอร้องขอเทียนหลางเธอก็พยักหน้าพร้อมกับแนะนำวิหารตรงหน้าให้กับเทียนหลางได้ฟัง
”นี่คือมหาวิหารนักบุญเปโดร เป็นหนึ่งในสามมหาวิหารของวาติกันและเป็นศูนย์ใหญ่ขององค์กรลับวาติกันอีกด้วย ถ้างั้นเชิญคุณเข้าไปดูด้านในกันดีกว่า”
เทียนหลางก็ยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า
”เชิญคุณนำไปได้เลย”