ตอนที่ 198 หายนะ

สามีข้า คือพรานป่า

สามีข้า… คือพรานป่า

ตอนที่ 198 หายนะ

“สาวน้อยตระกูลหยุน อย่างน้อยนางก็อยู่หมู่บ้านเดียวกันกับเจ้า ตอนนี้นางกําลังทรมาน เจ้าจะไม่เข้าไปช่วยหน่อยหรือ?”

หยุนเถียนเถียนเกือบสําลักน้ําลายตัวเอง สมองของหัวหน้าหมู่บ้านจมไปในน้ําแล้วหรือ? เจตนาของคนตรงหน้าเพียงอยากให้นางกระโดดเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้สินะ

เมื่อคิดได้เช่นนั้น หยุนเถียนเถียนก็มีความคิดบางอย่าง นางก้าวออกมาและพูดว่า “หัวหน้าหมู่บ้าน… ข้ากับนายท่านผู้นี้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เกรงว่าถ้าข้าพูดอะไรก็คงไร้ประโยชน์เช่นกัน”

ใบหน้าของหัวหน้าหมู่บ้านมืดครึมพร้อมกล่าวเสียงค่อย “มีนายน้อยตระกูลหล่อยู่ข้างหลังนะ ถึงเอาแต่ทําตัวเหนือกว่าคนอื่น หากคําพูดสองสามประโยคของเจ้าสามารถช่วยให้คนพ้นทุกข์ได้ ทําไมเจ้าถึงไม่ทําล่ะ?”

หยุนเถียนเถียนหัวเราะอย่างดูแคลน “หัวหน้าหมู่บ้าน สมองท่านหายไปแล้วหรือ คาดหวังให้ข้าโง่เหมือนท่านหรือไร ถ้าข้ามองไม่ผิด คนที่หาเรื่องน่าจะเป็นคนที่ซื้อสูตรเนื้อจากหลีชุนเกี่ยว ข้าอ่อนแอไร้ความสามารถ จะช่วยนางไปทําไมกัน?”

หัวหน้าหมู่บ้านตะลึง เขาไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้ไปได้

หลี่เฟิงรู้สึกชื่นชมเด็กสาวที่กล้าโต้กลับ เขาจึงกล่าวออกไปบ้าง “ข้ามาเพราะสูตรเนื้อของบ้านนี้ ข้าจ่ายเงินไปถึงสองร้อยตําลึง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือของปลอม หากนําสูตรที่แท้มาให้ข้า ข้าจะปล่อยพวกมันไป หากข้ายังไม่ได้”

หลังจากที่เขาเว้นคําพูดที่เต็มไปด้วยบรรยากาศคุกคาม แม้จะไม่ได้พูดออกมาแต่สามารถรู้สึกถึงแรงอาฆาตนี้ได้

หลีชุนเกี่ยวหน้าถอดสี สูตรที่แท้จริงมีเพียงยัยเด็กเวรนั้นที่มี แต่นางจะเอาสูตรที่แท้จริงนั้นมาช่วยตัวเองได้เช่นไร?

เฉินเจียวเจียวที่หลบอยู่ในห้องวิ่งออกมา แม่ของนางไม่สามารถทําเรื่องน่าอับอาบได้ ดังนั้นมีแค่นางเท่านั้นที่ทําได้

ขอแค่ดึงหยุนเถียนเถียนลงมานรกได้ ต่อให้เสียหน้าเพียงใด ก็ไม่สําคัญ ยิ่งไปกว่านั้นหากทําแล้วมันได้ผลนางก็จะได้ชื่อเสียงในเรื่องความกตัญญอีกด้วย

“หยุนเถียนเถียน ข้าขอร้อง เจ้าช่วยพวกเราเถอะ ตอนนี้มีแค่เจ้าที่ช่วยครอบครัวของข้าได้เ”

หยุนเถียนเถียนยิ้มและพูดว่า “เฉินเจียวเจียว บอกมาสิว่าข้าจะช่วยครอบครัวเจ้าได้อย่างไร?”

“เจ้ามีสูตรที่แท้จริงอยู่มือ มันสามารถช่วยครอบครัวข้าได้ แม้สิ่งนั้นจะมีค่ามาก แต่มันหมายถึงชีวิตของคอรบครัวข้า”

เมื่อนางพูดจบ หยุนเถียนเถียนก็เงยหน้าหัวเราะเสียงดัง “มีคนเคยบอกว่าคนไร้ยางอาย บนโลกนี้มักอยู่ยงคงกระพัน เฉินเจียวเจียว เจ้ามันหน้าไม่อายเสียจริง เป็นครอบครัวเจ้าที่รับเงินสองร้อยตําลึง ถ้าข้านําสูตรนั้นให้กับเจ้า แล้วข้าได้อะไรหรือ?”

น้ําตาของเฉินเจียวเจียวไหลออกมาจนสายตาพร่ามัว และพูดขึ้นมา “เถียนเถียน ข้ารู้ว่าข้าล่วงเกินเจ้า แต่ตอนนี้มันเกี่ยวพันกับชีวิตของพวกข้า พวกข้ารับเงินสองร้อยตําลึงจริง แต่เจ้าจะไม่สนใจเราสามคนเลยหรือ ถ้าเจ้ายินดีที่จะช่วยพกเรา ข้าเฉินเจียวเจียวยินดีจะเป็นวัวเป็นม้าสําหรับเจ้า”

“อ้อ ไปเป็นวัวเป็นม้าให้ข้า ก็เหมือนเป็นคนของหยุนเคอสินะ สุดท้ายเจ้าก็ตลบหลังข้าเพื่อเข้าหาคู่หมั้นของข้างั้นรี แผนของเข้านับว่าไม่เลวเลย”

“ก่อนหน้านี้คนที่ขโมยสูตรไปจากข้าก็คือพวกเจ้า นําไปขายได้เงินมัน ก็เป็นเงินของพวกเจ้า ตอนนี้มีคนมาหาเรื่องเจ้าก็ผลักมันมาให้ข้างั้นหรือ ข้าสมควรต้องรับมันงั้นหรือ ข้าไม่ได้ติดหนี้อะไรเจ้านะ?”

เฉินเจียวเจียวคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความกังวลพร้อมกอดขาหยุนเถียนเถียนไว้แน่น

“ ข้ารู้ว่าข้าเคยล่วงเกิดเจ้ามาก่อน แต่เราเป็นเพื่อนบ้านกันนะ ช่วยพวกเราเถอะ!”

“เฉินเจียวเจียว ถ้าข้าส่งสูตรนั้นให้แล้วเจ้าเป็นอิสระ แล้วนายน้อยหลี่ล่ะ? เจ้าจะอธิบายกับเขาว่าอย่างไร อย่าใช้วิธีนี้บีบบังคับข้าเลย ทุกคนที่นี่ไม่ใช่คนโง่ อย่าเสแสร้งทําท่าทีเช่นนี้เลยมันไม่งาม!

จีชื่อเมื่อได้ฟังเช่นนั้นได้แต่ร้อนใจ ครอบครัวนี้ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก ถึงกับบีบบังคับหยุนเถียนเถียนได้ขนาดนี้

จีชื่อเดิมที่เป็นคนตรงไปตรงมาและมีความกล้ามากกว่าผู้หญิงทั่วไปมี เมื่อเห็นอย่างนั้นนางจึงก้าวเข้ามาหา “ข้านึกว่าคนนอกจะเข้ามารังแกคนในหมู่บ้านเราเสียอีก คิดไม่ถึงว่าคนหมู่บ้านจะทําเสียเอง เถียนเถียน… ในเมื่อนี่มันเป็นเรื่องของครอบครัวอื่น งั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ! พวกเจ้าจะไปที่ทางการหรือไม่ หรือจะแก้ปัญหากันเอง แต่นั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกข้าต้องใส่ใจ!”

หยุนเลี่ยนเกียนเดินตามป้าจอย่างเชื่อฟัง นางเดินออกจากลานบ้านไปอย่างไม่แยแส ส่วนคนอื่น ๆ บางคนก็ยังอยู่เดิมเพื่อชมละครตรงหน้า แต่บางคนก็รู้สึกขายหน้าเกินไปที่จะอยู่ตรงนี้

แต่ขณะนั้นเฉินเจียวเจียวก็ตะโกนขึ้น “หยุนเถียนเถียน! ครอบครัวข้าเป็นแบบนี้ก็เพราะเจ้า เพราะเจ้าคนเดียว! เจ้าจงใจซ่อนสูตรไม่ให้แม่ข้าหาเจอ เพราะอย่างนั้นสูตรที่เรามีจึงเป็นของปลอม!”

เมื่อหยุนเถียนเถียนได้ยินคําพูดไร้หัวคิดเช่นนี้ นางได้แต่ยิ้มเยาะหยัน เฉินเจียวเจียวคิดว่าจะรังแกข้าได้งั้นรึ?!

นางหันกลับไปมองหลี่เฟิงอย่างเฉยเมย “ท่านไม่ต้องไปสนใจบ้านนั้นหรอก สูตรที่แท้จริงอยู่ในมือข้า พวกมันไม่มีทางเอาไปได้แน่นอน เงินสองร้อยตําลึง ข้าคิดว่าน่าจะเหลืออยู่ มิสู้ออกไปค้นในห้องเสียดีกว่า ส่วนที่เหลือข้าว่าท่านปล่อยวางเสียเถอะ”

“แม้ว่าเฉินเจียวเจียวจะไม่ได้หน้าตาดีนัก แต่นางก็มีเสน่ห์ไม่น้อย นางรักเงินและคิดถึงแต่ความมั่งคั่ง หากติดตามนายท่านได้ก็อาจจะเป็นโชคของนางแล้ว ท่านคิดว่าอย่างไร?”

หลี่เฟิงมองไปที่หญิงสาวที่หยุนเถียนเถียนบอก แม้ใบหน้าของนางจะดูหมองคล้ํา แต่ก็สามารถบอกได้ว่าใบหน้าที่เรียบร้อยนั้นฉายแววสาวงามที่แท้จริง

นางหันกลับไปมองเฉินเจียวเจียวที่ร้องสะอื้น เมื่อเห็นสภาพของนางและไตร่ตรองดูดี ๆ มันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

เดิมที่เขาเพียงเป็นพ่อค้า ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายก็มาจากคู่ค้าหรืองานเลี้ยง รสชาติของหญิงสาวชาวนาที่บริสุทธิ์ เขายังไม่เคยลิ้มรสมันมาก่อน!

เฉินเจียวเจียวตกตะลึง นางไม่เคยคิดเลยว่าหยุนเถียนเถียนจะกล้าทําเช่นนี้

นางหันหน้าไปมองหลี่เฟิง แม้ว่าผู้นี้จะแต่งกายหรูหรา แต่แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าแก่กว่าพ่อของตนเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นภูมิหลังทางครอบครัวของบุคคลที่ร่ํารวยกว่าคนอย่างหยุนเคอแน่นอน

เฉินเจียวเจียวกระตือรือร้นที่จะมีชีวิตที่ดี นางปาดน้ําตาไม่ร้องไห้อีกต่อไป นางก้าวเท้าไปข้างหน้าและโค้งคํานับหลี่เฟิงด้วยความเคารพพร้อมส่งสายตาหวานซึ้ง