มุมมองบุคคลที่ 3 :
ออสตินนั่งอยู่บนลำต้นไม้โดยมีเอลด้าอยู่ในอ้อมกอด จนถึงตอนนี้ น้ำตาจากดวงตาของเอลด้านั้นเหือดแห้งไปแล้ว ในขณะที่มือของเธอนั้นติดกับเขาอย่างสมบูรณ์
ขณะที่เธอนั่งอยู่บนตักของเขา กลิ่นธรรมชาติของเธอผสมกับลมอ่อนๆ ที่โชยเข้าจมูกของเขา ในขณะเดียวกันการแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
+500 ความชอบ
+500 ความชอบ
+500 ความชอบ
มันเป็นวัฏจักรแปลกประหลาดที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นซ้ำๆ แต่ในช่วงเวลาปัจจุบันออสตินตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อมันในขณะที่เขาจดจ่ออยู่กับน้องสาวตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา
เขาค่อยๆ ลูบหลังของเธอเบาๆ แล้วพูดขึ้น
“ดีขึ้นรึยังเอลด้า?”
เมื่อได้ยินคำถามของออสติน เอลด้าก็เช็ดน้ำตาหยดสุดท้ายก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมองดวงตาของเขา และในตอนที่เธอทำแบบนั้น ออสตินก็ต้องหายใจเข้าลึกๆ เพื่อควบคุมตัวเองเอาไว้
เอลด้าในปัจจุบันมีใบหน้าแดงระเรื่อในขณะที่ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นรูปจันทร์เสี้ยวที่หมุนวนด้วยอารมณ์ที่อยากจะกลืนกินเขา
ริมฝีปากสีชมพูเย้ายวนของเธอแยกออกเล็กน้อย ขณะที่ทั้งใบหน้าของเธอกรีดร้องหาบางสิ่งที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ให้เธอได้
ออสตินรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงขึ้นในขณะที่เขารู้สึกถึงแรงดึงดูดอย่างลึกซึ้งต่อหญิงสาวในอ้อมแขนของเขา ราวกับว่าเวลาได้หยุดลงขณะที่ทั้งคู่จ้องตากันและกัน ทันใดนั้นก่อนที่ออสตินจะทันได้พูดอะไร เอลด้าก็ขยับริมฝีปากเข้าไปใกล้เขา
ดวงตาของออสตินมี ‘การต่อสู้’ อยู่ภายใน ดูเหมือนกำลัง ‘สับสน’ ว่าควรทำอย่างไร แต่ก่อนที่เขาจะได้โต้ตอบ เอลด้าก็ประทับริมฝีปากของเธอบนหน้าผากของเขาแล้ว
ออสตินหลับตาลงเมื่อเขารู้สึกถึงจูบของเอลด้าบนหน้าผากของตัวเอง เขารู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังจะละลายเมื่อรู้สึกได้ถึงจูบของเอลด้า ริมฝีปากของเธอนุ่มยิ่งกว่าปุยนุ่นเมื่อสัมผัสผิวของเขา
ผิวเนียนของเธอถูกับผิวของเขา ขณะที่เธอจูบหน้าผากของเขาต่อไปอีก 2-3 วินาที หลังจากนั้นเธอก็ผละหัวกลับไป ขณะที่มือข้างหนึ่งของเธอเคลื่อนไปที่ใบหน้าของเขา
เมื่อรู้สึกได้ออสตินก็ลืมตาขึ้นก่อนจะเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขที่สุดและพึงพอใจที่สุดที่เขาเคยเห็นบนใบหน้าของเอลด้า
ดวงตาของเธอซึ่งก่อนหน้านี้มีความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ดูเหมือนจะพบคำตอบบางอย่างแล้ว ในขณะที่ความรู้สึกที่เธอซ่อนไว้จากเขาถูกแสดงออกมาอย่างเต็มที่
ขณะที่ดวงตาและร่างกายของเธอกรีดร้องด้วยความรักต่อเขา รอยยิ้มของเธอก็หวานขึ้นขณะที่เธอพูดพร้อมกับถูใบหน้าของเขา
“ขอบคุณนะคะพี่”
“เรื่องอะไรเหรอ?”
ออสตินถามกลับไปก่อนที่เอลด้าจะตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่กว้างขึ้น
“สำหรับทุกๆ อย่างเลยค่ะ ทั้งที่คอยปกป้องหนู, ที่คอยช่วยหนู, ที่เป็นพี่ชายของหนู, ที่เป็นแสงสว่างในอุโมงค์อันมืดมิดให้หนู, ที่คอยอยู่เคียงข้างหนูในตอนที่ตกต่ำที่สุด และ….”
เมื่อเธอพูดถึงคำพูดสุดท้าย เธอก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดูเหมือนจะเพื่อควบคุมอารมณ์ของเธอเอง ดวงตาของเธออ่อนลงด้วยความรักที่ไม่มีวันตายเมื่อเธอพูดคำสุดท้าย
“และที่เป็นผู้ชายที่หนูรักและตกหลุมรักค่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดสุดท้ายของเอลด้า ดวงตาของออสตินก็เบิกกว้างด้วยความ ‘ไม่เชื่อ’ ขณะที่ดวงตาของเขาเริ่มกรอกไปมาอย่าง ‘ผิดปกติ’
ออสตินดูเหมือนจะสับสนอย่างมากและไม่เชื่อในคำพูดของเอลด้า เขาเปิดปากพูดในขณะที่ใบหน้ายิ้มเครียด
“อย-อย่าล-ล้อพี่เล่นแบบนี้สิเอลด้า”
ออสตินดูหมดหวังที่จะซ่อน ‘ความวิตกกังวล’ ของเขา แต่คำพูดของเขาดูเหมือนจะยืนยันความสงสัยบางอย่างของเอลด้าแล้ว ในขณะที่เธอพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ต้องห่วงค่ะพี่ หนูจะทำให้แน่ใจว่าพี่จะรับรู้ความรู้สึกของตัวเองเช่นกันค่ะ”
“ธ-เธอหมายความว่ายังไง?”
ออสตินถามด้วยท่าทาง ‘ตื่นตระหนก’ แต่เอลด้ากลับไม่พูดอะไรเลย
เธอลุกขึ้นจากอ้อมกอดของเขาก่อนจะยืนอยู่บนลำต้นของต้นไม้ ก่อนที่เธอจะจับมือเขาเพื่อนำทางไปยังสถานที่ๆ หนึ่ง
ออสตินไม่พูดอะไรขณะที่เขาปล่อยให้เอลด้านำทางไป ดูเหมือนเขาจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
และก่อนที่ออสตินจะทันได้ทันได้ทำอะไร ดูเหมือนเขาจะถูกพาเข้าไปในทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ซะแล้ว
ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เขาจ้องมองไปยังภาพที่สวยงามตรงหน้าที่ซึ่งมีดอกไม้บานอยู่สุดลูกหูลูกตานับไม่ถ้วนอยู่
ในขณะที่ซากุระสีชมพูขนาดใหญ่ที่เหมือนต้นไม้ได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับที่กลีบสีชมพูสวยงามร่วงหล่นลงสู่พื้นโดยรอบพร้อมกับมัน
ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนที่คลื่นที่สวยงามเหมือนสีรุ้งเริ่มชัดเจนเมื่อมันลอยอยู่เหนือพวกเขา ยังไม่สิ้นสุดเมื่อมีหิ่งห้อยจำนวนมากเริ่มออกมาล้อมรอบดอกไม้ขณะที่พวกมันเต็มพื้นที่ด้วยแสงกะพริบ
ฉากนี้เหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดเพราะความงามของธรรมชาติล้วนมารวมกันเป็นทิวทัศน์ที่ตื่นตาตื่นใจจนใครต่อใครต้องตะลึงตาค้าง
“สนใจเต้นด้วยกันหน่อยไหมคะ?”
ขณะที่ออสตินยืนตะลึงอยู่นั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังมาถึงหูของเขาก่อนที่เขาจะหันไปทางเอลด้า ซึ่งตอนนี้ยืนในท่าทางเหมือนสตรีขุนนางที่กำลังขอเขาเต้นรำอยู่
ออสตินดู ‘งุนงง’ กับเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ไม่นานนักเขาก็ส่ายหัวและยิ้มพร้อมกับยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อยอมรับข้อเสนอ
เอลด้าเองก็ยื่นมืออันนุ่มนวลของเธอออกมาเช่นกันก่อนที่ทั้งคู่จะร่วมเต้นรำด้วยกัน
ออสตินไม่รู้ว่ามันเป็นแบบนี้ได้ยังไง แต่จู่ๆ ดนตรีก็เริ่มเล่น มันทั้งผ่อนคลายและสนุกสนาน และมันกระตุ้นให้เขาเกิดความปรารถนาในการเต้น
ออสตินโอบเอวของเอลด้าด้วยมือข้างหนึ่ง ในขณะที่อีกข้างหนึ่งจับมือของเอลด้า พวกเขามองหน้ากันโดยไม่พูดอะไรสักคำในระหว่างที่เริ่มเต้นรำ
ร่างกายของพวกเขาเคลื่อนไหวไปตามจังหวะขณะที่พวกเขาเต้นรำในทุ่งดอกไม้ กลีบดอกไม้สีชมพูยังคงร่วงหล่นลงสู่พื้น ในขณะที่หิ่งห้อยส่องแสงในยามค่ำคืน
พวกเขาลืมไปแล้วว่าตนเป็นใครรวมถึงหน้าที่ความรับผิดชอบทั้งหมดของพวกเขาด้วย ขณะที่พวกเขาเต้นรำอย่างอิสระภายในทุ่งดอกไม้ในพร้อมกับเพลิดเพลินกับการอยู่ร่วมกัน และตอนนั้นเองที่เอลด้าโน้มตัวไปข้างหน้าและกระซิบถ้อยคำบางอย่างใส่หูของออสติน
“พี่รู้สึกยังไงเหรอคะกับการที่หนูต้องแต่งงานกับใครซักคน?”
คำถามของเอลด้าเกิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน แต่มันกลับมาถึงเขาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของออสตินเบิกกว้างด้วยความ ‘โกรธ’ แต่เขาก็รีบพยายาม ‘ซ่อน’ มันไว้ แต่มันกลับไม่มีประโยชน์เนื่องจากเอลด้าเห็นมันแล้ว รอยยิ้มของเธอกว้างขึ้นก่อนที่จะกระซิบข้างหูของออสตินในระหว่างที่เต้นรำอยู่
“พี่จะรู้สึกยังไงถ้าเห็นหนูกอดผู้ชายคนอื่นอย่างมีความสุข หรือแม้กระทั่งจูบเขาคะ?”
“พี่จะรู้สึกยังไงที่หนูต้องไปแต่งงานกับใครก็ไม่รู้คะ?”
“พี่จะรู้สึกยังไงกับการที่หนูมีครอบครัวกับผู้ชายอื่นคะ?”
ยิ่งเอลด้าพูดมากเท่าไหร่ สายตาของออสตินที่ ‘บิดเบี้ยว’ ก็ยิ่งมากขึ้น เขาดูเหมือนกำลังจะระเบิดและเขาก็พูดขึ้นมา
“ไม่!”
และการเต้นรำของพวกเขาหยุดลงในขณะที่รอบๆ รอบตัวมีแต่ความเงียบ ใบหน้าของออสตินเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนขณะที่เขาจ้องมองไปยังเอลด้า ในเดียวกันดวงตาของเอลด้านั้นเต็มไปด้วยความรักขณะที่เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาของออสตินและพูด
“ทำไม? ทำไมพี่ถึงโกรธหล่ะคะ?”
“พ-พี่…”
ท่าทางของออสตินดูซับซ้อนและเศร้าใจมาก เมื่อเห็นแบบนั้นก็มีความเจ็บปวดและความรู้สึกผิดผ่านดวงตาของเอลด้า แต่เธอยังคงเฉียบคมขณะที่เธอมองไปยังคนที่เธอรักและถามอีกครั้ง
“ทำไมกันคะพี่? ทำไมพี่ถึงโกรธกันหล่ะคะ?”
“น-นั่นเพร-”
ออสตินพูดไม่จบในขณะที่เขามองเอลด้าด้วย ‘ความขมขื่น’ ที่ซ่อนอยู่ เธอสังเกตเห็นมันขณะที่เธอจับหน้าเขาและพูด
“ฉันไม่สนหรอกค่ะพี่ หนูไม่สนว่าเราจะเป็นครอบครัวกัน หนูไม่สนสายสัมพันธ์ของเรา หนูไม่สนว่าใครจะพูดยังไง สิ่งที่หนูสนใจคือหนูรักพี่ค่ะและหนูจะไม่มีวันยอมแพ้ แล้วพี่หล่ะคะ?”
คำพูดของเอลด้าอยู่ในใจของออสตินในขณะที่ ‘ความลังเล’ บางอย่างของเขาหายไป จิตใจของเขาโล่งขึ้นเมื่อเขาจ้องมองไปที่เอลด้า จนในไม่ช้าใบหน้าของเขาก็กลายเป็นผู้ตกอยู่ในความรักในขณะที่เขาพูด
“ใช่แล้วเอลด้า พี่ไม่อยากยอมแพ้และไม่มีวันยอมแพ้เพราะพี่รักเธอ”
เมื่อได้ยินคำพูดของออสติน น้ำตาเพียงหยดเดียวก็ไหลออกมาจากดวงตาของเอลด้า และในไม่ช้ามือของออสตินก็ขยับก่อนที่พวกมันจะประสานอยู่รอบเอวของเอลด้าโดยแนบเธอเข้ามาใกล้เขา ใบหน้าของพวกเขาห่างกันเป็นเซ็นติเมตรขณะที่ออสตินเคลื่อนไปข้างหน้าเพื่อจับริมฝีปากของเอลด้าไว้ด้วยการจูบ ราวกับสัมผัสตัวตนที่นุ่มนวลที่สุดในโลก นั่นคือความรู้สึกที่ออสตินรู้สึกเมื่อริมฝีปากของเขาประสานกับเอลด้า
แขนแกร่งของเขาโอบเธอไว้แนบชิด ขณะที่มือของเอลด้าขยับเพื่อกอดเขาแน่นโดยไม่เต็มใจที่จะแยกจากกัน
เอลด้ารู้สึกเหมือนพบที่ของตัวเองขณะที่เธอกดริมฝีปากของเธอกับคนที่เธอรัก และในขณะที่พวกเขายังคงจูบกัน หิ่งห้อยรอบๆ พวกเขาก็ยังคงโบยบินพร้อมกับกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
ภายในความงดงามนี้ คู่รักต้องห้าม 2 คนได้ค้นพบตัวเองแล้ว
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต