175 ตัดสินใจนโยบาย

11 – 14 นาที เล่ม 6

เราสรุปการโทรกับวิสเคานต์วิลโรสด้วยสัญญาว่าจะไปเจอพวกเขาต่อหน้าหลังจากพิธี เอลด์มัวร์ยังดูเหมือนมีอย่างสองอย่างที่อยากพูดกับผมที่สัมผัสเอลม่า แต่……

“ฮิโระซังคือผู้รับเหรียญจู่โจมปีกดาบเงิน และไม่นาน จะได้ดาวทองอันทรงเกียรติยิ่งมากกว่านั้นอีก คุณถูกมองเป็นผู้กล้าจักรวรรดิแล้ว และการมีเอลม่าใกล้คนขนาดกระสุนใหญ่กับชื่อเสียมาเท่าคุณก่อนใครอื่นนั้นเสนอความได้เปรียบให้เราถ้าคุณดูมันจากมุมมองตระกูลขุนนาง”

“กุโออออออ้!? มิลฟี่! ฉันยอม ฉันยอม!”

มิลฟี่ซัง ผู้จับเอลด์มัวร์ผู้ยังไม่เป็นมิตรเข้าด้วยการล็อกแขนขณะเธอพูดด้วยรอยยิ้ม ดูค่อนข้างน่าทึ่ง…… ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแม่ของเอลม่า

“แต่มันดูเหมือนฉันนำตัวเองออกจากบ่วงบาศด้วยเหตุผลซึ่งฉันไม่เข้าใจจริงๆ”

ผมพึมพำในน้ำสียงตะลึงระหว่างนั่งอยู่บนขอบเตียง

“โอ้ เธอพูดเกี่ยวกับเรื่องที่แม่ฉันสื่อเหรอ? ยังไงซะ พูดมันง่ายๆ เธอบอกถึงว่าคนเหล่านั้นผู้คุมลูกสาวห้าวของแม่เขาไม่ได้ไม่มีสิทธิ์ชีนิ้วเมื่อลูกสาวคนนั้นเองสามารถได้ความสนใจจากทหารรับจ้างผู้ยอดเยี่ยมและโดดเด่นอย่างเธอ เพราะเธอสามารถได้รับเหรียญจู่โจมปีกดาบเงินและดาวทองจริง”

“……ฉันพูดยังไงดีล่ะ? อืม มันเหมือนเด็กๆสู้กันเลย”

“นั่นค่อนข้างแม่นยำอยู่หรอก จริงๆแล้ว ปรกตินั้นขุนนางดื่มด่ำตัวเองไปกับการคุยเรื่องเล็กๆโง่ๆเช่นนั้นแหละ”

เอลม่า ผู้ยังตัวไม่แห้งหลังจากอาบน้ำยักไหล่อย่างเมินเฉย พูดถึงแล้ว ผมก็เปียกชุ่มเหมือนกันเพราะเราอาบน้ำด้วยกัน

“ยังไงซะ พูดอีกอย่าง พวกเขาจะรับรู้คุณค่าของเธอไม่ว่าพวกเขาชอบมันหรือไม่ เพราะเธอสร้างผลงานอันเห็นได้ชัดเจนแล้ว พวกเขาจะไม่สามารถอ้างได้ว่าเธอมันเป็นพวกใจคดโกง หรือ มันอาจเหมาะสมมากกว่าที่จะนั่งอยู่ข้างหลังแล้วให้คนอื่นๆมีข้อสรุปของเขาแทน”

“พวก วงสังคมคือบางอย่างซึ่งฉันจะไม่เข้าใจจริงๆ แน่นอนว่ามันปัญหามากกว่าค่าของมัน”

“นั่นถูกแล้ว ฉันก็อิ่มตัวกับเรื่องน่าเบื่อและดื้อด้านพวกนั้นด้วย และนั่นก็คือหนึ่งในเหตุผลอันฉันวิ่งหนีออกจากบ้าน

“เธอเลือกตัวเลือกถูกแล้วแหละฉันว่า มันแค่รู้สึกดีกว่าเยอะในการไปที่ไหนก็ได้ที่อยากไปแล้วเห็นอะไรก็ได้ที่ยากเห็นด้วยตัวเอง เธอไปผจญภัยได้ กินอาหารหลายๆแบบ แล้วล่าโจรสลัดเป็นบางครั้งบางคราว แล้วทำอะไรอื่นก็ได้ที่เธอพบว่าน่าสนใจ มันรู้สึกเติมเต็มกว่าแน่นอน นั่นแน่นอนที่สุด”

“ไม่ใช่เหรอ?”

เอลม่าหัวเราะคิกคักอย่างร่าเริงแล้วนั่งต่อจากผม จากนั้นเธอเอียงซบกายเธอบนกายผมแล้วทำให้ตัวเองสบาย

“และฉันก็มีเธอ มีมิ เมย์ ทีน่า วิสเกอร์บนยานนี้ ฉันได้ไปผจญภัยกับสหายผู้ฉันรักและเติมเต็มชีวิตได้ดีกว่าคนเหล่านั้นผู้ถูกเขียนออกมาว่าเป็นนักผจญภัยโดยนิยายโฮโล และนั่นมันก็มากกว่าพอแล้วสำหรับฉัน นั่นทำไมฉันไม่มีเจตนาจะปล่อยชีวิตเช่นนั้นไป และเพื่อเก็บมันไว้ ฉันจะยินดีรับกับแผนอะไรก็ตามซึ่งแม่เธอทำขึ้นมา”

“เข้าใจแล้ว ดังนั้น พื้นฐานแล้ว นายเพิ่งตั้งเส้นขีดจำกัด ถูกไหม?”

“นั่นใช่แล้ว ในเรื่องของทีน่ากับวิสเกอร์ เราจะต้องปรึกษามันกับมีมิและเมย์เพื่อเตรียมตัวสำหรับพรุ่งนี้ แน่นอนที่สุดว่าเราต้องปกป้องชีวิตรายวันนของเรา”

“ใช่ นายพูดถูก”

และไม่นาน เอลม่ากับผมก็หลับไปบนเตียงหลังจากคุยเกี่ยวกับครอบครัวเธออีกนิดหน่อย

—————————————

วันต่อมา

มีมิ เมย์ เอลม่าและผมตัดสินใจปรึกษากันรอบสุดท้ายเกี่ยวกับแผนของเรากับพิธีหลังจากนี้บนโต๊ะกินเข้าเช้า

“หนูไม่มีปัญหากับแผนพี่ แต่พี่แน่ใจว่าพี่พอใจกับมันเหรอ ฮิโระซามะ?”

“หมายความว่ายังไงเหรอ?”

ผมถามมีมิผู้เอียงหัวของเธอ

“อืม หนูหมายถึง มีโอกาสดีทีพี่จะถูกรับรู้เป็นอัศวินจักรวรรดิอย่างเป็นทางการแล้วได้รับมอบตำแหน่งน่ะสิ”

“โอ้ ถ้าอย่างนั้น เกี่ยวกับเป็นความเป็นขุนนางหือ…… หนูหมายถึงพี่จะไม่ใช่แค่ได้รับชื่อเรียกกิตติมศักดิ์แต่เป็นหนึ่งชื่ออย่างเป็นทางการจริงๆ ถูกมั้ย?”

“ใช่แล้ว”

“อยากเป็นขุนนางเหรอ มีมิ?”

“เอ๋?”

มีมิเอียงหัวเธออีกครั้งหลังจากได้ยินคำถามของผม ผมก็อยากรู้ความคิดเห็นเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน

“พอเห็นมั้ยว่า ถ้าพี่กลายเป็นขุนนางอย่างเป็นทางการ น้องก็จะเป็นหนึ่งนั้นด้วยเหมือนกัน มีมิ ในกรณีนี้ เอลม่าจะเป็นภรรยาหลัก แล้วน้องน่าจะถูกปฏิบัติเป็นคนที่สอง ถูกมั้ย?”

“ปรกติแล้วก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละ เมื่อพิจารณาสถานะพวกกเรา แต่ฉันยังเป็นเอลฟ์นะเห็นมั้ย มันก็เป็นความจริงที่ว่าปรกติแล้วฉันค่อนข้างมีลูกยากกับคนเหล่านั้นเหมือนฉัน ดังนั้นการให้มีมิเป็นภรรยาคนแรกเนื่องจากนั่นก็เป็นไปได้ด้วย และส่วนตัวแล้ว ฉันไม่ถือในการที่ได้เป็นภรรยาน้อยเลยสักนิดด้วย จริงๆแล้ว ฉันน่ะคิดว่ามีมิเหมาะเป็นภรรยาอย่างเป็นทางการของเธอมากกว่า”

หลังจากได้ฟังเอลม่ากับการปรึกษาของผม และรับรู้ว่าเราหมายถึงอะไรกัน หน้ามีมิเปลี่ยนเป็นแดงจากความอาย

“ยังไงซะ เมื่อฉันเป็นขุนนางอย่างเป็นทางการ และได้รับความเป็นพลเมืองชั้นสูง มันจะไม่ยากที่จะลงหลักปักฐานในดาวเคราะห์ที่ไหนสักแห่งในจักรวรรดิ ตัวเลือกนั้นก็เปิดอยู่ แต่เราน่าจะไม่สามารถบินไปทั่วข้ามการแล็กซีในฐานะทหารรับจ้างได้อีกแล้วอย่างชัดเจน”

“ใช่…… โอ้ นี่ไงความคิด แทนจะลงหลักปักฐานกับพ่อในเมืองหลวงหลังจากได้เป็นอัศวิน เราอาจจะได้เวลาเยอะกว่าถ้าเราเข้าร่วมกับคริส เอิร์ลดาเลนวาลด์ยังติดค้างความช่วยเหลือของเรา และถ้าเธอได้เลื่อนขั้นสู่อัศวินหรือบารอนและไปอยู่ใต้เขา ฉันพนันเลยว่าเราจะสามารถทำอะไรได้อิสระมากกว่าใต้เขา แม้ว่ามันจะไม่เหมือนกันกับอิสระอันเราได้รับตอนนี้”

“…….เอ่อ แต่ไม่ใช่คริสจะหาประโยชน์จากนั่นแล้วไล่ตามฉันขึ้นเป็นสองเท่าแทนเหรอ?”

“ไม่ใช่ว่ามันไม่เป็นไรเหรอไง? เธอไม่ได้เกลียดการอยู่กับสาวคนนั้นด้วยตัวเองนี่ ฮิโระ?”

“เอ่อ ฉันก็ว่า แต่ยังไงก็ตามแต่……”

แน่นอน ผมจะรู้สึกดีที่ถูกโหยหาอย่างมีไฟหลงใหลโดยสาวน่ารัก แต่ผมไม่รู้เกี่ยวกับการพึ่งพาสาวคนนั้นผู้พื้นฐานแล้วผมทิ้งไปเสียงดงามปานนั้นระหว่างย้อนกลับไป… เธอน่าจะขึ้นนำโจมตีโดยไม่ออมมมือเมื่อเธอได้เรียนรู้ว่าผมเป็นขุนนางด้วยตัวเอง

ณ เวลานั้น ผมยอมรับการช่วยเหลือของคริสไม่ได้สำหรับหลายเหตุผล แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอะไรๆจะเปลี่ยนเมื่อผมกลายเป็นขุนนาง หรือ แม้ว่าไม่มีเหตุผลเหล่านั้น การที่ผมลงมือกับคริสตอนนี้ยังผิดทุกรูปแบบอยู่รู้ไหม ใช่ นั่นไม่ได้แน่นอน

ถ้าผมลงมือสกปรกบนสาวอายุเท่านั้น แน่นอนมันจะเป็นอาชญากรรม! ผมจะถูกจับกุมโดยตำรวจแน่นอน!

“ยังไงซะ ฉันนยอมรับว่าฉันพบว่ามันน่าสนใจนิดหน่อยที่จะได้แหย่มือไปเป็นขุนนาง แต่ฉันยังชอบการเป็นทหารรับจ้างอิสระไร้การผูกมัดมากกว่าให้นานไปกว่านี้อีก หรือ ที่อัตราการสนทนาตอนนี้กำลังไป มันอาจนำไปสู้การพัฒนาแปลกๆ เช่น ด้วยเหตุผลบางอย่าง มีมิปฏิเสธที่จะแต่งงานกับฉันอย่างเเย็นชาหรือบางอย่าง ฉันน่าจะไปขุดหลุมที่ไหนสักแห่งแล้วฝังตัวเองทั้งเป็นถ้าเกิดมันเป็นอย่างนั้น”

“ม-มันไม่เป็นไรหรอก! หนูยินดีจะแต่งงานกับพี่ ฮิโระซามะ!!”

“ใช่ นั่นแหละที่ฉันอยากได้ยินล่ะ!”

“จ้า จ้า ดีสำหรับเธอหือ ฉันก็จะแต่งกับเธอด้วยแน่นอน”

มีมิส่งเสียงแหลมสูงในความยินดีพร้อมหน้ายังแดงสดและทำท่าสร้างกำลังใจ ผมหันหาเอลม่า และพบว่าเธอเหลือกตาใส่ผมแล้วหัวเราะคิกคัก

เมย์แค่มองปฏิสัมพันธ์เราเงียบๆด้วยสายตาตั้งใจมองอย่างอบอุ่น

“เธออยากจะแต่งกับฉันด้วยมั้ย เมย์?”

“หนูจะตามท่านไปไม่ว่าที่ไหนที่ท่านต้องการหนู นายท่าน”

“ใช่ ฉันเดาว่าฉันจะแต่งเอลม่ากับเมย์ด้วยเหมือนกันหือ”

“จ้า จ้า ได้เลย เพราะนายกลิ้งความคิดไปทางนั้นแล้ว ถ้าแต่งงานกับคริส ทีน่าและวิสเกอร์ด้วยเหมือนกันล่ะ? หรือ แล้วแต่งกับยานอวกาศตรีเซเรน่าด้วยล่ะ?”

“เอ่อ ฉันน่าจะขอผ่านกับยานอวกาศตรีเซเรน่าแหละ”

เพราะเห็นไหม ถ้าผมเข้าไปมีความสัมพันธ์แบบั้นจริงๆกับยานอวกาศตรีเซเรน่าหลังจากเป็นขุนนาง ผมมีลางสังหรณ์แรงจัดๆว่าจะนำไปสู่ปัญหาที่ระเบิดแรงกวาตอร์ปิโดปฏิกิริยาตอบสนองต่อต้านยาน

“มาเมินเรื่องเกี่ยวกับยานอวกาศตรีเซเรน่าสำหรับตอนนี้ โอเคป่าว? ถ้าอย่างั้น มันจะเป็นยังไงล่ะเมย์ ยินดีแต่งงานกับฉันไหม?”

“ค่ะ เพราะทั้งหมดเอไออิสระก็ถูกรับรู้เป็นพลเมืองอย่างเป็นทางการ มันแม้แต่เป็นไปได้ที่หนูจะมีลูกกับท่านถ้าท่านหวัง นายท่าน”

“จริงจัง?”

“แน่นอนค่ะ จริงจัง นายท่าน แต่มันต้องการขั้นตอนอันซับซ้อนและค่าใช้จ่ายพอสมควร”

“พวก วิทยาศาสตร์น่าทึ่งจริงเลย……”

อย่างไรบนโลกนี้ที่จริงแล้วผมมมีลูกกับเมย์ผู้เป็นแอนดรอยด์ได้? มันจะผ่านขั้นตอนการโคลนนิงหรือบางอย่างหรือ? หรือ แล้วคุณจะจัดหมวดหมูเด็กซึ่งเกิดจากมนุษย์กับเอไออิสระอย่างไร? มันกระตุ้นความสงสัยทางปัญญาของผมจริงจังเลย

“ยังไงซะ เราพูดอออกทะเลกันแล้ว แต่เราชัดเจนกับแผนถูกไหม? ไม่สำคัญว่าอะไรเกิดขึ้น เราจะยืนกรานทำกิจกรรมในฐานะทหารรับจ้างอิสระต่อไป ถึงจุดนั้น และเรายินดีจะยอมเปลี่ยนบางอย่างถึงจุดหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เราจะต่อต้านไม่สำคัญว่าอะไรถ้าเงื่อนไขจบที่การมีผลกับวิถีชีวิตปัจจุบันขอเรามากเกินไป ประมาณนั้นแหละ”

“ค่ะ!”

“ได้เลย”

“รับทราบ”

สามคุณนายพยักหน้า โยช ตอนนี้เราอยู่หัวเรื่องเดียวกันแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นแล้วทีน่ากับวิสเกอร์ล่ะ? พวกเธอยังไม่กลับมาเลยตั้งแแต่พวกเธอไปที่ทำงานดาวเทียม ถูกมั้ย?”

“ใช่ มันดูเหมือนพวกเธอถูกมอบหมายงาโดยบริษัทสเปซดเวิร์กและพวกเธออยู่ในที่ทำงานดาวเทียมข้ามคืนเพื่อทำมันให้เสร็จ”

“อุว้าา นั่นมันบริษัทดำเยอะเลย……”

ดวอร์ฟดูเหมือนจะอึดมากกว่ามนุษย์โดยรวม แต่แม้อย่างนั้น การให้พวกเธออยู่ข้ามคืนเพื่อเสร็จงานเป็นกองใหญ่ๆยังดูเหมือนบางอย่างซึ่งบริษัทดำจะทำ แค่วัฒนธรรมบริษัทแบบไหนที่จริงๆแล้วสเปซดเวิร์กเป็น ผมสงสัย

ขณะผมคิดอะไรแบบนั้น ออดในห้องอาหารดังขึ้น นั่นหมายถึงเรามีผู้มาเยือน แต่……?

“บางคนนัดไว้เหรอ เมย์?”

“ไม่ค่ะ ไม่มีใครเป็นพิเศษ”

หลังจากพูดอย่างนั้น เมย์หันไปตั้งใจมองอากาศว่างเปล่า เธออาจดูระบบวงจรปิดบัวดำอยู่เพื่อดูว่าผู้มาเยือนเป็นใคร

“มันดูเหมือนทีน่ากับวิสเกอร์กลับมาแล้วค่ะ”

หืม? ถ้าอย่างนั้น ทำไมออดดั่งล่ะ? เรามอบสิทธิ์การเข้าถึงให้พวกเธอแล้วนี่ พวกเธอไม่น่าจะต้องสร้างปัญหากดออดเลย

“มันไม่ใช่แค่ทีน่ากับวิสเกอร์ค่ะ มันดูเหมือนพวกเธอนำพาพวกพ้องมากับพวกเธอด้วย”

“พวกพ้อง?”

“ใช่ค่ะ มีคุณนายดวอร์ฟเหมือนพวกเธอ กับมนุษย์บางคนด้วยเหมือนกัน”

“……? คิดยังไงกัน พวกเธอ?”

“ฉันก็สงสัย?”

“ถ้าสองคนนั้นพาคนเหล่านี้มากับเธอ ถ้าอย่างนั้นพวกเขาน่าจะเกี่ยวข้องกับสเปซดเวิร์ก บางทีมันเกี่ยวกับสารคดีทหารรับจ้างซึ่งพวกเธอบอกเรากับไปตอนนั้น?”

“อ๊ะ…… โอ้ ใช่ เรามอบสิทธิ์ให้ความสำคัญครอบคลุมเนื้อหาหือ”

“ใช่ค่ะ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการลดราคา อย่างไรก็ตาม เราก็เห็นด้วยกับเงือนไขบางอย่างเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ด้วย”

ถ้าอย่างนั้นบางทีคนเหล่านี้มาเยือนเพื่มอบการทักทายหือ? แม้อย่างนั้น มันจะดีกว่าถ้าพวกเขาจัดการนัดหมายกับเราก่อน อุมุ

“ยังไงซะ ฉันเดาว่ามันไม่น่าเจ็บตัวที่จะฟังพวกเขา เรายังให้พวกเขาไปทีหลังได้”

“ถูก”

“เอ๋…… เราจะไม่รับการสัมภาษณ์เหรอ?”

เมื่อมาคิดดูแล้ว มีมิอยากทำเต็มที่เกี่ยวกับการได้รับการสัมภาษณ์นี่หือ

“มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์แหละ ไม่ว่าแบบไหน มาฟังพวกเขาก่อนแล้วกัน”

หลังจากผมพูดอย่างนั้น ผมสบตากับเมย์ เธอพยักหน้าแล้วเปิดใช้งานจอโฮโล เมื่อจอโฮโลอยู่บนเครือข่าย พี่น้องช่าง ผู้หน้าตากลายเป็นอะไรเหมือนหมาป่าทิเบต ปรากฏอยู่ต่อหน้าเรา

“ดีใจที่เธอกลับมากัน พวกเธอ ถ้าอย่างนั้น ใครคือคนหลังพวกเธอล่ะ?”

『พวกเขาเป็นคนจากแผนกบันเทิงน่ะบอส…… ขอโทษที่รบกวนบอสนะ แต่อย่างน้อยฟังพวกเขาให้เราก่อนได้มั้ย? ได้โปรดเถอะนะ?』

ทีน่า ผู้ดวงตาเสียความเงางามไป ถอนหายใจขณะเธอขอร้องพวกเรา

อา อึน พวก คนจากสื่อบันเทิงเหมือนกันในมิติใดๆก็ตามหือ ผมเดาว่าเราเก็บสมองให้พร้อมดีกว่าถ้าอย่างนั้น

แปลโดย: wayuwayu

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล ติดตามข่าวสาร สปอนเซอร์ตอน ช่องทางติดต่อ Facebook : wayuwayu แปล / X : @wayutl