จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 161

ในห้วงทะเลลึกราวหนึ่งหมื่นเมตร สายฟ้ากระพริบวาบขึ้นอย่างต่อเนื่องจนปั่นป่วนไปทั่วใต้ทะเล

เมื่อครู่นี้จิตใจของเขามัวแต่จดจ่ออยู่กับกู่จาง และมือสังหารทั้งสี่จนลืมเลือนไปเลยว่ายังมีอสูรยักษ์คอยจ้องมองมาจากในความมืด การปรากฏตัวอย่างกระทันหันของมันทําให้ฉินเทียนตกใจและเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี

สัตว์อสูรระดับแปด กว่าจะมาถึงขั้นนี้ได้อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลานับพันปี สัตว์อสูรระดับนี้ยังมีสติปัญญาไม่ได้ด้อยไปกว่ามนุษย์สักเท่าใด ดังนั้นจึงนับเป็นศัตรูที่น่ากลัวอย่างมาก

ปลาไหลไฟฟ้าตัวนี้ซ่อนตัวอยู่ในความมืดคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มมนุษย์มาพักใหญ่แล้ว ตอนที่เหยาคงปรากฏตัวออกมา ในใจมันก็บังเกิดความหวาดกลัวและลังเลว่าจะซ่อนตัวต่อไปดีหรือไม่

แต่หลังจากพบว่าร่างกายของเหยาคงอยู่ในสภาวะอ่อนแอ จิตสังหารของมันก็ปรากฏขึ้นทันที ดังนั้นมันจึงพุ่งตัวออกมาเตรียมจัดการเหยื่อ

ปลาไหลไฟฟ้า สัตว์อสูรระดับแปด ร่างกายยาวร้อยกว่าเมตร ผิวตามลําตัวเป็นสีฟ้าจนดูคล้ายมังกรสมุทรตัวหนึ่ง ตามร่างกายของมันยังมีกระแสไฟฟ้ากระพริบวูบวาบคอยฟาดผ่าใส่วัตถุที่เฉียดเข้าใกล้

“น้องสาวมันเถอะ!”

“เจ้ามันก็เก่งแต่กับคนอ่อนแอเท่านั้นแหละ”

“ตอนคนอยู่กันเยอะก็ไม่โผล่ออกมา ดันโผล่ออกมาตอนเหลือบิดาอยู่คนเดียว เจ้ามันน่ารังเกียจจริงๆ”

ระหว่างหลบหนีฉินเทียนก็หันกลับมามองพร้อมก่นด่าเพื่อระบายโทสะ

ปลาไหลไฟฟ้ามีลําตัวที่ใหญ่โตแต่กลับเคลื่อนที่ได้รวดเร็วมาก สะบัดหางไม่กี่ครั้งก็พุ่งแหวกน้ํามาราวกับจรวด สิ่งที่ฉินเทียนด่าทอออกไปย่อมไม่เข้าหูของมัน

ฉินเทียนได้ยินเสียงปะทุของกระแสไฟฟ้า พอหันกลับไปมองก็พบว่าปลาไหลไฟฟ้าได้ปล่อยสนามไฟฟ้าไล่หลังเขามา จนใกล้บรรลุถึงตัวของเขาแล้ว ฉินเทียนไม่ขบคิดให้มากความขณะเรียกใช้บ้าคลั่งขั้นที่สองทันที

ความเร็วของเขาพลันเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ในใจของเขาคิดว่าคงทิ้งระยะปลาไหลตัวนั้นมาได้ช่วงใหญ่แล้ว แต่ก่อนที่จะทันได้หันกลับไปมอง ไม่คาดว่าจะเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นคราหนึ่ง กระแสไฟฟ้าพลันม้วนรอบร่างของเขาจนชาหนึบ

“ถล่มมารดามัน!”

พลังแห่งความมืดพลันปะทุออกจากร่างและกลืนกินกระแสไฟฟ้าที่กําลังช็อตเขาอยู่ แต่ผ่านไปเพียงครู่เดียว พลังแห่งความมืดก็สลายไป

ฉินเทียนใจหายวาบ “ได้ยังไง!”

ฉินเทียนใช้พลังปราณไปมากกับการต่อสู้ก่อนหน้า หากยังเร่งความเร็วหลบหนีแบบนี้ต่อไปก็คงหมดสิ้นพลังปราณในไม่ช้า ความเร็วในการฟื้นฟูของแก่นภายในร่างก็ไม่ทันกับความต้องการของเขา

หากไร้ซึ่งพลังปราณ ตัวเขาก็จะตกเป็นเป้านิ่ง

ดูจากท่าทางของปลาไหลไฟฟ้าแล้ว คงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะปล่อยเขาไป หากไม่จัดการกับมัน มันก็จะไล่ล่าเขาไปสุดหล้าฟ้าเขียว

“ไม่เข้าใจเลยจริงๆ หรือเพราะกลิ่นเนื้อของข้ามันหอมหวลขนาดนั้นเลย?”

ฉินเทียนหยุดร่างลงก่อนที่ในมือจะปรากฎหอกยาวสามเมตรขึ้นมา ฉินเทียนกระชับหอกมั่นก่อนจะเล็งไปยัง ปลาไหลไฟฟ้าที่อยู่ทางด้านหลัง ปากยังตะโกนออกไปว่า “หากพยัคฆ์ไม่แสดงอํานาจ ผู้คนก็คงคิดว่าเป็นแมวป่วยตัวหนึ่งสินะ”

ฉินเทียนแทงหอกออกไปข้างหน้าก่อนที่พลังงานไร้ลักษณ์จะพุ่งออกไปเป็นแนวยาว

ในพื้นที่ทะเลลึกราวหนึ่งหมื่นเมตร สัตว์อสูรที่ดํารงคงอยู่ได้ล้วนแต่มีขนาดตัวใหญ่ยักษ์และมีพลังมหาศาล การโจมตีทั่วไปไม่มีทางทําร้ายพวกมันได้

ปลาไหลไฟฟ้ายังคงพุ่งตามมาโดยไม่คิดจะหลบหลีกพลังที่ฉินเทียนยิงออกไป มีเพียงสนามไฟฟ้าที่อยู่รอบร่างของมันเท่านั้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

พลังที่หอกในมือของฉินเทียนยิงออกไปพลันสลายหายไปราวกับอากาศธาตุ

ฉินเทียนมักจะใช้เคล็ดวิชชุทะลวงฟ้าจัดการพวกสัตว์อสูรจนไหม้เกรียม ไม่คาดคิดว่าจะมีวันที่ต้องมาเจอเองกับตัว “คิดไม่ถึงว่าการเผชิญหน้ากับสายฟ้าจะน่าหงุดหงิดขนาดนี้ ไอ้ไส้เดือนไฟฟ้าเอ๊ย! รอดูเลว่าบิดาจะ จัดการกับเจ้ายังไง….”

ฉินเทียนเรียกใช้ทักษะเทพแห่งความมืดทําลายล้างทันที

พลังแห่งความมืดทะลักออกจากร่างของฉินเทียนก่อนจะหมุนวนไปตามตัวหอก ไม่ช้าพลังแห่งความมืดก็ปกคลุมร่างของเขาเอาไว้ทั้งหมด ฉินเทียนแสยะยิ้มพลางกล่าวว่า “ไม่ว่าสายฟ้าจะรุนแรงแค่ไหนก็ไม่มีทางด้านการกลืนกินนี้ได้”

พลังแห่งความมืดเริ่มหมุนวนรอบร่างอย่างบ้าคลั่งจนแปรสภาพเป็นลูกข่างขนาดใหญ่ชนเข้ากับสายฟ้า

ปลาไหลไฟฟ้าชะงักเล็กน้อย

ในแววตาของมันฉายแววความกลัวอยู่ลางๆ ปริมาณกระแสไฟรอบตัวพลันเพิ่มความหนานแน่นขึ้นก่อนจะยิงไฟฟ้าออกมาทางฉินเทียน

สายฟ้าได้สลายกลุ่มความมืดไปเล็กน้อย ฉินเทียนจึงรีบฟื้นฟูมันให้กลับมาสภาพเดิม

หากไม่ใช่เพราะพลังแห่งความมืดมีคุณสมบัติกลืนกินพลังแล้วล่ะก็ ป่านนี้ฉินเทียนคงร่างไหม้เกรียมไปแล้ว

แม้พลังแห่งความมืดจะกลืนกินพลังไฟฟ้าเข้าไป แต่ตอนที่พลังทั้งสองกระทบกันก็ยังทําให้ฉินเทียนชาวาบไปครู่หนึ่งราวกับถูกมังกรสายฟ้ารัดพันร่าง พลังปราณในจุดตันเถียนไหลขึ้นเร็วที่สร้างเป็นพลังแห่งความมืดซ่อมแซมส่วนที่สลายไป

ตอนนี้ระยะห่างระหว่างทั้งสองคือหนึ่งร้อยเมตร

ปลาไหลไฟฟ้าพลันเก็บสายฟ้ากลับเข้าร่างก่อนจะสะบัดหางขนาดใหญ่แทน ในฐานะสัตว์อสูรระดับแปด พละกําลังของมันจะมีมากเพียงใดกัน?

เมื่อหางอันใหญ่โตฟาดปะทะกับพลังแห่งความมืด พลังแห่งความมืดก็แตกกระจายทันที

ฉินเทียนตะลึง คิดไม่ถึงว่ามันจะละทิ้งพลังไฟฟ้าแล้วเปลี่ยนมาใช้หางฟาดแทน ดูเหมือนเจ้าตัวใหญ่นี้จะฉลาดไม่เบา

ไม่มีเวลาให้ขบคิดมากความ หางอันใหญ่โตก็ฟาดมาอีกครั้ง

ด้วยความเร็วของมัน ฉินเทียนไม่มีเวลาให้หลบหลีก

ฉินเทียนไม่หลบหลีก แต่กลับพุ่งเข้าใส่ เขาเร่งความร็วจนถึงขีดสุดแล้วซัดหอกในมืออกไป ในใจกู่ร้องสุดเสียง “คชสารชําระล้าง!”

พลังแห่งคชสารชําระล้างพลันถูกรวบรั้งไปที่มือทั้งสองจนหนักอึ้งราวค้อนสงคราม หมัดทั้งคู่ต่อยเข้าใส่ศีรษะของปลาไหลไฟฟ้าอย่างเกรี้ยวกราด “บิดาจะทุบเจ้าให้ตาย!”

เมื่อเสริมด้วยพลังคชสารชําระล้าง หมัดแต่ละข้างของเขาก็หนักกว่าหนึ่งแสนจิน หากต่อยใส่ภูเขา ภูเขาลูกนั้นก็ต้องบังเกิดรอยแตกแยกขึ้นมา

ปลาไหลไฟฟ้าพลันหรี่ตาลง ดวงตาของมันกลอกกลิ้งอย่างเจ้าเล่ห์

“เวรล่ะ!”

ฉินเทียนหน้าซีด แผ่นหลังรู้สึกเย็นวาบ

“เปรี้ยง….”

สนามไฟฟ้าอันหนาแน่นพลันปรากฏขึ้น และสายฟ้าที่ขนาดเท่าอสรพิษยักษ์เส้นหนึ่งก็ฟาดใส่แผ่นอกของฉินเทียนเข้าอย่างจัง ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทําให้ประสาทสัมผัสทั่วทั้งร่างเชื่องช้าลง ร่างกายของฉินเทียนพลันลอยลิ่วออกไป

ฉินเทียนรวบรวมสติกลุ่มสุดท้ายใช้พลังคชสารชําระล้างคุ้มครองกาย จากนั้นคนก็หมดสติไป…..

แม้แต่สัตว์อสูรยังเจ้าเล่ห์ได้ขนาดนี้ โลกนี้มันบ้าไปแล้ว

อย่าให้บิดารอดไปได้นะ…..

ไม่อย่างนั้นหากเจอกันครั้งหน้า บิดาจะจัดการเจ้าให้สาสม!

ในห้วงสติอันเลือนลาง ฉินเทียนคล้ายมองเห็นนักรบถือตรีศูลสองคนปรากฏตัวขึ้นแล้วใช้ตรีศูลในมือทิ่มแทงปลาไหลไฟฟ้าตัวนั้นจนตาย การลงมือรวบรัดหมดจดราวกับกําลังฆ่าหนอนตัวหนึ่ง เห็นแล้วฉินเทียนก็สะทกสะท้อนใจ ความแข็งแกร่งช่างแตกต่างกันเหลือเกิน.. .

หนึ่งในนักรบจับหางปลาไหลไฟฟ้าก่อนจะลากตัวไป

นักรบอีกคนลอยตัวมาทางฉินเทียนที่ลอยเคว้งอยู่…….