บทที่ 190 สอบถาม

บทที่ 190 สอบถาม

หลังจบงานเลี้ยง ถังอวี่เฟยอาสาออกไปส่งอู๋ฝานด้วยตัวเอง ตอนนั้นบรรดาคนที่ดูอยู่ พวกเขาทำได้เพียงส่งสายตามองด้วยความอิจฉา

“รถของอาจารย์เหรอคะ?” ถังอวี่เฟยยืนอยู่ข้างรถของอู๋ฝาน พลางถามออกมาด้วยความประหลาดใจ “อาจารย์ไปซื้อรถมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะเนี่ย?”

ชายหนุ่มมีสถานะอย่างไร ถังอวี่เฟยรู้ดีอยู่แก่ใจ ครั้งก่อนตอนที่ไปช็อปปิงด้วยกันสองคน อู๋ฝานยังไม่มีรถเลยด้วยซ้ำ เลยใช้เป็นรถของเธอแทน แต่ไม่คิดว่าเขาจะสามารถซื้อรถมาได้รวดเร็วถึงขนาดนี้

ทั้งยังเป็นรถที่ยอดเยี่ยมเสียด้วย!

อู๋ฝานเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่เปิดร้านแผงลอยขายบาร์บีคิวไม่ใช่เหรอ? ขายบาร์บีคิวทำเงินได้ถึงขนาดนี้เลย?

“เพิ่งซื้อมาน่ะครับ” อู๋ฝานตอบกลับ

“รถคันนี้ ไม่เลวเลยนะคะ” ถังอวี่เฟยมองสำรวจรถ ก่อนจะพบว่าไม่อาจจำแนกได้ว่าเป็นรถแบรนด์อะไร จึงทำได้เพียงแค่บอกว่าเป็นรถที่ดี

“ขอบคุณที่มางานวันเกิดในวันนี้นะคะ ฉันดีใจจริง ๆ ค่ะ” ถังอวี่เฟยบอก

“ก็มาย้ำผมทุกวันแบบนั้น ถ้าไม่มาคงได้ถูกฉีกทึ้งจนตายแน่เลยครับ” อู๋ฝานหัวเราะตอบ

“ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” ถังอวี่เฟยมองค้อนอู๋ฝานเล็กน้อย “ในใจของอาจารย์ฉันเป็นเสือสาวดุร้ายงั้นเหรอคะ?”

เมื่อได้เห็นเสน่ห์และความงามของถังอวี่เฟย อู๋ฝานก็พูดออกไปอย่างไม่รู้ตัว “ไม่ใช่เสือสาวหรอกครับ แต่เป็นภูตจิ้งจอกต่างหาก!”

คำเรียกอย่างภูตจิ้งจอก เป็นฉายาที่นักศึกษาทั้งหลายใช้เรียกถังอวี่เฟย และนักศึกษาเหล่านั้นก็มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย นั่นก็เพราะว่าถังอวี่เฟยดูเย้ายวนในสายตาทุกคนเป็นอย่างยิ่ง

หลังได้ยินคำพูดของอู๋ฝาน จู่ ๆ ถังอวี่เฟยก็หน้าแดงขึ้นมาอย่างหาได้ยาก ทว่าก็ไม่ได้ต่อว่าชายหนุ่มกลับคืน แต่เลือกที่จะแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะขยับไปใกล้ชิดยิ่งขึ้น แล้วจึงเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้น พอจะหลงเสน่ห์ของภูตจิ้งจอกตัวนี้ไหมคะ? ขอจากใจจริงด้วยนะคะ”

“แค่ก! แค่ก!” อู๋ฝานกระแอมไอเล็กน้อย สุดท้ายก็ส่ายศีรษะตอบรับ “ตอนนี้ดึกแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”

“ทางบ้านเข้มงวดขนาดนั้นเลยเหรอคะ? เธอคนนั้นไม่ให้อาจารย์ได้มีเวลาบ้างเลยเหรอคะ?” ถังอวี่เฟยไม่ค่อยยินดีเท่าไหร่นัก ตอนที่พบว่าชายหนุ่มกำลังจะกลับแล้ว

“อะไรนะครับ?” อู๋ฝานชะงักงันไปครู่หนึ่ง เพราะสับสนและสงสัยกับคำพูดของหญิงสาว

“หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ไงคะ” ถังอวี่เฟยตอบกลับ “เธอควบคุมอาจารย์เข้มงวดถึงขนาดนี้เลยเหรอ? หรือเพราะอาจารย์กลัวเธอกันคะ?”

ตอนนั้นเองอู๋ฝานจึงตระหนักได้ว่าถังอวี่เฟยเข้าใจสัมพันธ์ระหว่างตนกับหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ผิดไป ดังนั้นจึงตอบกลับ “เข้าใจผิดแล้วครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรกับหลิ่วเหยียนเอ๋อร์นะครับ”

“งั้นเหรอคะ?” ถังอวี่เฟยยังมีท่าทีไม่เชื่อถือ “ถ้าอย่างนั้น อาจารย์คิดว่าใครสวยกว่ากัน ฉัน! ..หรือว่าเธอ?”

พูดจบถังอวี่เฟยก็เอียงศีรษะเล็กน้อย จัดผมให้เป็นทรงสวย เม้มริมฝีปากเบา ๆ ก่อนจะช้อนดวงตาเป็นประกายจ้องมองอู๋ฝาน

จู่ ๆ อู๋ฝานก็รู้สึกหัวใจเต้นรัวขึ้นมา กระทั่งลอบสบถอยู่ภายใน ‘ภูตจิ้งจอกของแท้ แล้วก็ยังเป็นภูตจิ้งจอกระดับงามล่มเมืองด้วย ยั่วยวนขนาดนี้จะมีใครต้านทานไหวกัน?’

“แค่ก! แค่ก! พวกคุณสวยทั้งคู่นั่นแหละครับ” อู๋ฝานตอบรับ

“ในเมื่ออาจารย์ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ ถ้าอย่างนั้น.. ลองพิจารณารับฉันเป็นแฟนดู ดีไหมคะ?” ถังอวี่เฟยกล่าวพลางก้าวเท้าเข้าหา จนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม แทบจะแนบกายร่วมร่างกับอีกฝ่าย

ตอนนี้ระยะห่างระหว่างคนทั้งสองเหลือเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ทำให้อู๋ฝานสามารถสังเกตเห็นทุกรายละเอียดบนใบหน้าของถังอวี่เฟยได้อย่างชัดเจน ..มันใกล้เกินไป! ทั้งความยั่วยวน และสายตาอันร้อนแรงของหญิงสาว รวมกับลมหายใจอบอุ่นบางเบา มันทำเขายิ่งรู้สึกราวกับว่าใจกำลังจะอ่อนยวบลง สุดท้ายจึงเป็นฝ่ายถอยเท้ากลับเสียเอง

“นักศึกษาถัง อย่าล้อเล่นเลยครับ” อู๋ฝานตอบกลับ

“แล้วรู้ได้ยังไงคะว่าฉันกำลังล้อเล่น บางทีฉันอาจจะกำลังพูดความจริงจากใจอยู่ก็ได้ ลองดูไหมล่ะคะ?” ถังอวี่เฟยก้าวเท้าเข้ามาใกล้มากขึ้น พลางตอบกลับ “แล้วก็อย่าเรียกฉันว่านักศึกษาถังนะคะ เรียกแค่อวี่เฟยก็พอค่ะ”

“คือว่า.. ผมยังมีเรื่องต้องจัดการ คงต้องขอตัวก่อนนะครับ!” อู๋ฝานรู้สึกว่าตนกำลังจะถูกการรุกไล่ของถังอวี่เฟยครอบงำ ดังนั้นจึงต้องเร่งหาข้อแก้ตัวหลบหนีก่อนจะงับเหยื่อที่อีกฝ่ายหย่อนไว้

ถังอวี่เฟยมองอู๋ฝานที่มีท่าทีเขินอาย ก่อนจะเผยรอยยิ้มบาง ๆ ออกมา หลังจากมองตามรถของชายหนุ่มที่ขับออกไปอย่างช้า ๆ แล้ว เธอก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมขณะพึมพำกับตัวเอง “ทำยังไงดีนะ? รู้สึกชอบเขามากขึ้นอีกนิดแล้วสิ”

อู๋ฝานไม่ทราบความคิดของถังอวี่เฟย เพียงแต่รู้สึกว่าหญิงสาวอันตรายเกินไป แม้หลิ่วเหยียนเอ๋อร์จะงดงามเช่นกัน แต่ต่อหน้าเธอนั้น อู๋ฝานไม่เคยเกิดความรู้สึกเหมือนวันนี้มาก่อนเลย

หลังส่งอู๋ฝานเรียบร้อย ถังอวี่เฟยก็กลับเข้าไปในคฤหาสน์ ตอนนี้เหลือเพียงบิดา มารดา ปู่ และญาติพี่น้องคนสนิทภายในโถง เมื่อพวกเขาเห็นเธอกลับเข้ามา สายตาจึงหันมามองเป็นทางเดียว

“เป็นอะไรกันคะ?” ถังอวี่เฟยถามด้วยสีหน้าสับสน เธอก้มมองชุดตนเอง และพบว่าก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ก่อนจะรู้สึกโล่งอก เพราะถ้าเผลอทำอะไรเปิ่น ๆ ต่อหน้าอู๋ฝาน อาจจะถูกดูหมิ่นเอาได้

“อวี่เฟย มานั่งตรงนี้ก่อน” พ่อของถังอวี่เฟยบอก พร้อมโบกมือเรียกลูกสาว

ถังอวี่เฟยรู้สึกเกิดความสงสัยขึ้นมา ขณะเดินไปนั่งที่โซฟา ท่าทีแบบนี้ของตระกูลคือกำลังรอคอย เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องต้องการจะพูดคุย และไม่ใช่เรื่องเล็กเสียด้วย

“อู๋ฝานกลับไปแล้วเหรอ?” ถังหมิงเจี๋ยเอ่ยถาม

เมื่อครู่ถังอวี่เฟยรับหน้าที่ไปส่งอู๋ฝานเดินทางกลับ ขณะที่ถังหมิงเจี๋ยและคนอื่นในตระกูลถังไปส่งคนของสำนักล้ำสวรรค์ รวมถึงแขกคนอื่น

“ค่ะ” ถังอวี่เฟยพยักหน้าตอบรับ

“อู๋ฝานคนนั้น เขาเป็นใครกันแน่?” ถังหมิงเจี๋ยถาม “แล้วลูกมีความสัมพันธ์ยังไงกับเขา?”

“อู๋ฝาน? เขาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเจียงโจวค่ะ พวกเรามีความสัมพันธ์แบบศิษย์และอาจารย์ค่ะ” ถังอวี่เฟยตอบตามตรง

“ถ้าอย่างนั้นทำไมลูกถึงเชิญเขามางานปาร์ตี้วันเกิด แล้วยังมีของขวัญล้ำค่านั่นอีก?” ถังหมิงเจี๋ยถาม ส่วนคนอื่น ๆ ในตระกูลถัง ต่างก็มองที่ถังอวี่เฟย เห็นได้ชัดว่ากำลังรอคอยคำอธิบายจากเธอ

“เขาเป็นอาจารย์ของหนู หนูเชิญเขามาปาร์ตี้วันเกิด มีอะไรผิดปกติกันล่ะคะ?” ถังอวี่เฟยตอบกลับ “ส่วนเรื่องของขวัญวันเกิด หนูไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ”

“มีแค่ความสัมพันธ์ศิษย์กับอาจารย์แน่นะ? เขาเป็นแค่อาจารย์ธรรมดาคนหนึ่งงั้นเหรอ?” ถังหมิงเจี๋ยยังคงไม่เชื่อ

“พวกเราเป็นศิษย์อาจารย์กันจริง ๆ ค่ะ” ถังอวี่เฟยตอบรับ “แต่เขาก็อยู่แวดวงอื่นนอกเหนือจากอาจารย์เหมือนกัน รู้สึกว่าอีกไม่นานกำลังจะเปิดร้านอาหารอะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ”

“ร้านอาหาร? เขาเป็นเชฟ?” ถังหมิงเจี๋ยมึนงง และคนอื่นในตระกูลถังต่างก็มีสีหน้าแทบจะเป็นแบบเดียวกัน

ตระกูลถังและผู้อาวุโสเทียนเหอต่างก็คิดเช่นเดียวกันว่า ในเมื่ออู๋ฝานสามารถให้ของขวัญยิ่งใหญ่ระดับนั้นได้ คงจะไม่ใช่คนธรรมดา อาจจะเป็นคนของสำนักใหญ่ แต่ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นอาจารย์จริง ๆ ทั้งยังเปิดร้านอาหารด้วย

“ค่ะ” ถังอวี่เฟยตอบรับ

“อวี่เฟย พวกเราสงสัยว่าอู๋ฝานคงจะไม่ใช่คนธรรมดา ไม่อย่างงั้นแล้ว เขาคงไม่มอบเคล็ดวิชาฝึกฝนระดับลึกล้ำให้ลูกง่าย ๆ ในเมื่อลูกกับเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แบบนั้นก็ถือเป็นเรื่องดีกับตัวลูกและพวกเราตระกูลถัง รักษาความสัมพันธ์นี้เอาไว้นะ” ถังหมิงเจี๋ยตอบกลับ

ตอนนี้เองที่ปู่ของถังอวี่เฟยเอ่ยขึ้น “อวี่เฟย หลานเองก็ไม่ใช่เด็กแล้ว ที่มหาวิทยาลัยมีคนชอบหรือยัง?”

“ไม่มีค่ะ คนในมหาวิทยาลัยมีแต่พวกเสแสร้ง หนูไม่ชอบเลยสักนิด” ถังอวี่เฟยตอบกลับ

ต้องยอมรับว่าในมหาวิทยาลัยเจียงโจว ถ้าเทียบกันเรื่องระดับของไอคิวก็ไม่ใช่สถานที่ที่เลวร้าย อย่างน้อยด้านการเรียนก็เป็นอย่างนั้น และแน่นอนว่ามีหลายคนที่พยายามไล่ตามจีบถังอวี่เฟยอยู่ ทว่าเธอไม่สนใจใครสักคน ดังนั้นจนถึงตอนนี้จึงวางตัวเป็นโสด