ตอนที่ 54: หารือกับผู้บังคับบัญชา

อันที่จริง เสี่ยวเฉิงเองก็ไม่ได้คิดว่าหัวหน้าใหญ่ของแก๊งเต่าดำจะมีอิทธิพลมากมายอะไรขนาดนั้น เพราะอีกฝ่ายก็เพียงแค่ส่งคำเชิญพิฆาตมาให้เท่านั้น

ในเช้าวันรุ่งขึ้น ผู้บังคับบัญชาได้เรียกเสี่ยวเฉิงมายังห้องทำงานทันทีก่อนที่จะเลิกกะ

“ดูเหมือนเมื่อคืนนายจะหุนหันพลันแล่นเกินไปหน่อยนะ…” ผู้บังคับบัญชาพลันมองไปยังเสี่ยวเฉิง“คิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่กัน? แล้วแบบนี้พวกเราจะปกป้องนายได้ยังไง? แล้วก็ไม่ต้องพูดเลย ขนาดฉันเองยังไม่กล้าเข้าไปยุ่งหรือยั่วโมโหหัวหน้าใหญ่ของแก๊งเต่าดำเลย ส่วนนายเองก็เป็นแค่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวน ทำไมต้องทำทุกอย่างราวกับตัวเองเป็นสายลับระดับประเทศอยู่ตลอดเวลาด้วยล่ะ?

เสี่ยวเฉิงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย “งั้นหัวหน้ารู้เรื่องเจ้าหน้าที่หวังที่ถูกกระทืบจนต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ที่โรงพยาบาลหรือยังล่ะครับ?”

“แน่นอน ฉันรู้เรื่องนั้นแล้ว” ผู้บังคับบัญชาพลันตอบกลับ “แต่นายก็น่าจะประเมินสถานการณ์ก่อนสิ นายควรจะถามเจ้าหน้าที่หวังก่อนว่าเขาต้องการให้เรื่องนี้มันจบแบบไหน นี่นายกำลังทำให้เขาลำบากใจมากเลยนะ รู้ตัวใช่ไหม? แล้วถ้าอีกฝ่ายส่งใครสักคนมาทำร้ายเขาอีกครั้งเพื่อแก้แค้นนายล่ะ?”

“พวกมันจะกล้าส่งใครมาอีกล่ะครับ?” เสี่ยวเฉิงพลันเบิกตากว้าง “ไม่ว่ายังไง ผมนี่แหละจะฉีดหนังพวกมันออกทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่เลย!”

ผู้บังคับบัญชาพลันกระแทกโต๊ะอย่างกังวลใจ “ถ้าขืนนายยังประมาทแบบนี้อยู่ แล้วต่อไปจะเป็นยังไงล่ะ? เราเป็นเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนนะ ไม่ใช่ตำรวจอาชญากรรมที่ต้องมาคอยไล่จับผู้ร้ายสักหน่อย งานลาดตระเวนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนสูง แถมนายต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นอย่างใจเย็นด้วย งั้นช่วยบอกฉันหน่อยสิ เมื่อวานนี้นายไปทำอะไรให้หัวหน้าใหญ่ของแก๊งเต่าดำโกรธจนต้องส่งคำเชิญพิฆาตมากัน?”

เสี่ยวเฉิงเพียงแค่ยืนอยู่ที่เดิมและไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา

ทันใดนั้น ประตูห้องทำงานก็พลันเปิดออก ผู้กองพลันเดินเข้ามาพร้อมกับมองไปยังเสี่ยวเฉิงราวกับเพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรก

ผู้กองเดินเข้ามาหาผู้บังคับบัญชาพร้อมกล่าวคำพูด “ผมส่งคนไปตรวจสอบให้แล้วครับ เมื่อคืนนี้เสี่ยวเฉิงเข้าไปซัดกับสมาชิกของแก๊งเต่าดำตั้งห้าสิบคนแหนะ! พอดีมีคนในไนต์คลับถ่ายคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ได้ทัน แถมเขายังเอาวิดีโอที่ถ่ายไปโพตส์ลงในสื่อออนไลน์อีกด้วยครับ ตอนนี้เรื่องกำลังบูมเลยครับหัวหน้า”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลูกตาของผู้บังคับบัญชาก็แทบจะหลุดออกมาจากเบ้า “ห้าสิบคน? นายแน่ใจนะ?”

เจ้าหน้าที่พลันหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดวิดีโอพร้อมกล่าวคำพูด “ผมดาวน์โหลดมาให้แล้ว ลองดูได้เลยครับ”

ภายในวิดีโอ ใครคนหนึ่งจากไนต์คลับได้บันทึกเหตุการณ์ที่เสี่ยวเฉิงตะลุมบอนกับอีกฝ่ายทั้งห้าสิบคนเอาไว้ได้ มันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดและเลือดพล่านมาก มากเสียจนผู้บังคับบัญชาแทบจะไม่กระพริบตาเลย

“เอ่อ… ตอนดูคลิปครั้งแรก ผมก็ทำหน้าแบบเดียวกับหัวหน้าเลยครับ” เจ้าหน้าที่เกือบจะหลุดขำออกมา

ทว่า ผู้บังคับบัญชาพลันกระพริบตาอย่างเชื่องช้า

“มีกี่คอมเมนต์? แล้วมันบูมมากขนาดไหนกัน?” ผู้บังคับบัญชาพลันถามขึ้น

“แทบจะกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งได้เลยแหละครับหัวหน้า แต่ดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่จะเชียร์เสี่ยวเฉิงกันหมด โดยเฉพาะคนในเมืองซ่างเฉิงนี่แหละครับ น่าจะเป็นเพราะพวกเขาเองก็ไม่ถูกชะตากับพวกแก๊งเต่าดำเหมือนกัน อันที่จริง ผมว่าพวกเขาน่าจะรู้สึกโล่งใจที่เสี่ยวเฉิงเอาชนะอีกฝ่ายทั้งห้าสิบคนได้”

“โล่งใจบ้านป้านายสิ!” ผู้บังคับบัญชาไม่รู้เลยว่าตัวเองควรจะร้องไห้หรือหัวเราะออกมาดี “ตอนนี้เบื้องบนเองก็เอาแต่โทรมาหาฉันไม่หยุดเลย โดยเฉพาะแผนกสอบสวนคดีอาญา พวกเขาเอาแต่ถามฉันเรื่องการทำงานข้ามเขตพื้นที่ควบคุมไม่หยุดหย่อนเลยเนี่ย! ฉันจะไปอธิบายให้คนพวกนั้นฟังยังไงกันล่ะทีนี้?”

อันที่จริง เสี่ยวเฉิงเองก็ไม่ได้ต้องการให้ผู้บังคับบัญชาตกที่นั่งลำบากเลย “ผมจะรับผิดชอบเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นคนเดียวเองครับหัวหน้า”

“แล้วนายจะทำแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ?!” ผู้บังคับบัญชาพลันทุบโต๊ะอีกครั้ง “ทั้งกรมสอบสวนคดีอาญาแล้วก็หน่วยงานระดับสูงต่างก็โทรมาหาฉัน พวกเขาเอาแต่ถามว่าทางฝั่งเรากำลังทำบ้าอะไรกันอยู่… เราจะรับผิดชอบแล้วก็ดูแลเรื่องค่าเสียหายทั้งหมดที่นายก่อได้ยังไงกัน? อันที่จริง ทั้งหน่วยงานระดับสูงแล้วก็กรมสอบสวนคดีอาญาแทบจะยกคดีทั้งหมดของพวกแก๊งเต่าดำมาให้พวกเราจัดการแล้วด้วยซ้ำ แล้วถ้าสุดท้ายมันเป็นแบบนั้น พวกเราก็ต้องทำงานกันทั้งวันทั้งคืนแบบไม่ได้นอนแน่!”

เสี่ยวเฉิงพลันตอบกลับ “มันเป็นความผิดของผมเองครับหัวหน้า ตอนที่ยังอยู่ในกองทัพ ผมเป็นคนที่ค่อนข้างหัวร้อนง่าย ยังไงเสีย ในอนาคตผมจะควบคุมสติตัวเองให้ดีกว่านี้ครับ ผมขอยอมรับบทลงโทษทุกอย่างเองคนเดียว”

“คิดว่ามันเป็นแค่การตีกันข้างถนนหรือยังไงกัน? ดูวิดีโอสิ! ฉันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันโหดกว่าในหนังอีกนะ! นี่มันไม่ได้เรียกว่า ‘รุนแรงนิดหน่อย’ แล้ว มันเรียกว่า ‘โคตรรุนแรง’ เลยต่างห่างล่ะ!” ผู้บังคับบัญชาพลันตะคอกออกมา “แต่ยังไง นายก็จะยอมรับบทลงโทษทุกอย่างเองคนเดียวใช่ไหม?”

เสี่ยวเฉิงพลันพยักหน้า

“ดีเลย กองบัญชาการตำรวจของเมืองซ่างเฉิงต้องการย้ายนายไปที่แผนกสอบสวนคดีอาญาเพื่อทำการลงโทษ ฉันคิดว่าตำรวจหลายนายที่นั่นน่าจะอยากเจอนายเหมือนกันแหละ เพราะดูเหมือนนายจะช่วยให้พวกเขาเคลียร์งานเสร็จไวขึ้นกว่าเดิม… ยังไงก็เถอะ ก็ต้องขอบใจด้วยแล้วกัน อย่างน้อย การปรากฏตัวของเจ้าหน้าที่กรมตำรวจเขตตะวันตกอย่างนายก็น่าจะช่วยอะไรเมืองนี้ได้บ้างแหละ” ผู้บังคับบัญชาไม่รู้เลยว่าตัวเองควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี