เมืองแห่งการศึกษา โรงเรียนเขต7 ณ หอโทคิวะได……….

 

เป็นที่รู้กันดีว่า หนึ่งห้องของหอโทคิวะไดจะให้อาศัยอยู่กันสองคน อย่างเช่นมิโคโตะกับคุโรโกะในสมัยก่อน……….

 

สำหรับปัจจุบัน มิโคโตะได้ย้ายมาอยู่บ้านวู่หยานแล้ว และนี่ได้ทำให้คุโรโกะมีบาดแผลทางใจแสนสาหัส ทุกๆวันเธอทำตัวราวกับคนบ้าปากก็ตะโกนว่า ‘คุณพี่ไม่มีวันทิ้งหนูหรอก’ หรือไม่ก็ ‘สักวันนึงคุณพี่จะต้องกลับมาแน่’ ด้วยเหตุนี้เธอจึงปกป้องสิทธิ์ไม่ยอมให้ใครย้ายเข้ามานอนแทนที่มิโคโตะ……..

 

แต่ท้ายที่สุดด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่ของผู้ดูแลหอ จึงทำให้ห้องของคุโรโกะมีคนใหม่ย้ายเข้าไปอยู่จนได้……….

 

แม้ว่ามิโคโตะจะเป็นเลเวล5 แต่มันก็ไม่ทำให้เธอมีสิทธิพิเศษมากกว่าใคร นี่แสดงให้เห็นถึงความเข้มงวดในกฎระเบียบของคุณผู้ดูแลล่ะ………

 

แต่ว่าไอ้ความเข้มงวดในกฎนี้ มันก็ยังมีคนที่แหก..แค่กๆมีสิทธิพิเศษในการใช้ห้องคนเดียวได้อยู่!

 

คนๆนั้นก็คือ ควีนซามะ โชคุโฮ มิซากิ!

 

ถึงจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษ แต่ด้วยพลังของโชคุโฮที่สามารถควบคุมผู้คนได้ แม้แต่การเปลี่ยนหอทั้งหอให้กลายเป็นหอส่วนตัวของเธอยังเรียกได้ว่าง่ายดายมาก!

 

ในเวลานี้เอง ณ ห้องอาบน้ำ……….

 

โชคุโฮกำลังค่อยๆปลดเสื้อผ้าออกอย่างช้าๆ ทำให้เรือนร่างอันงดงามออกมาอวดโฉมต่อโลก เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังจะอาบน้ำ……..

 

ก้มตัวลงไปถอดถุงน่องสีขาวออกจากต้นขาเรียบเนียนมีเสน่ห์ ถ้าภาพนี้มีผู้ชายมาเห็นล่ะก็รับรองได้เลยว่าคนๆนั้นต้องเลือดกำเดาแตกแน่

 

โยนเสื้อผ้าลงตะกร้าใกล้ๆ โชคุโฮลูบไล้ผิวของตัวเอง จากนั้นบนใบหน้าเธอก็ผุดเอารอยยิ้มมั่นใจขึ้น ก่อนที่จะเริ่มอาบน้ำ…….

 

น้ำร้อนไหลลงมาจากบนสู่ล่าง พรมรดลงบนผิวกายขาวเนียน หยดน้ำไหลรินลงไปตามหุ่นอันน่าหลงใหลของเธอ เกิดเป็นภาพอันงดงามขึ้น

 

ยื่นขาออกมาอย่างเป็นธรรมชาติราวกับเป็นนางแบบชั้นยอด แล้วยังมีหน้าอกใหญ่โตนี่อีก……..

 

ถ้าวู่หยานอยู่ที่นี่ล่ะก็ เขาคงจะพูดว่า แหกกฎเกินไปแล้ว (@สวยเกินจนเรียกว่าแหกกฎ)

 

โชคุโฮส่ายผมบรอนด์ทองของเธอไปมาไล่น้ำ จากนั้นก็ปิดสวิตช์ฝักบัว แล้วนั่งไปลงในอ่างอาบน้ำ จากนั้นหลับตาลงด้วยความพึงพอใจ เธอเอ็นจอยไปกับการแช่น้ำที่เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่เธอชอบที่สุด

 

ผ่านไปพักนึง โชคุโฮก็ลืมตาขึ้นแล้วยกมือสัมผัสหน้าอกตัวเอง แม้ว่าเธอจะใช้แรงจับน้อยนิดขนาดที่ว่าตบยุงยุงยังไม่ตาย โชคุโฮก็ยังรู้สึกวูบวาบจนใบหน้าอันงดงามของเธอขึ้นสี

 

ถอนหายใจ โชคุโฮไม่เข้าใจว่าทำไมหน้าอกตัวเองถึงเซนซิทีฟขนาดนี้…….

 

และเพราะเหตุนี้นานๆทีโชคุโฮจึงจะจับหน้าอกตัวเอง……….

 

นอนแช่ในอ่างอาบน้ำ โชคุโฮก็เผลอหวนคิดไปถึงช่วงเวลาในวันนั้น วันที่ได้ไปเดทกับไอ้บ้าโรคจิต คนที่จับหน้าอกเธอตามใจชอบ ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งโกรธ

 

ยกมือตบลงบนผิวน้ำอย่างแรงราวกับคิดจะระบายอารมณ์ จากนั้นโชคุโฮ มิซากิ ก็พูดด้วยความโมโหว่า “ไอ้บ้า ทั้งๆที่ฉวยโอกาสกับฉันไปตั้งขนาดนั้นแท้ๆ แต่กลับเงียบหายหัวไปไม่ยอมมาหาฉันเลยสักครั้ง! ไอ้เจ้าบ้า!!”

 

หลังจากได้ระบายไป โชคุโฮก็กลับไปนอนแผ่ในน้ำต่อ ถอนหายใจ “หมอนั่นตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่นะ?…..”

 

หลังจากพูดประโยคนี้ไป โชคุโฮก็กรอกตา “คงกำลังหวานแหววอยู่กับ มิซากิ มิโคโตะ ล่ะสิ! ฮึ้ม! ไม่เข้าใจจริงๆว่ายัยอกกระดานนั่นมีอะไรดี!”

 

พูดเสร็จลูกตาโชคุโฮก็ผุบลงมาที่หน้าอกตัวเอง มองดูหน้าอกใหญ่โต เธอก็พูดพึมพำกับตัวเองว่า

 

“ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะโดนนายเอาเปรียบอีกไหมนะ……”

 

“งั้นฉันขอจับตอนนี้เลยนะ!”

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงหยอกล้อดังออกมา ทำโชคุโฮช็อคอย่างมาก เธอมุดตัวลงไปในน้ำตามสัญชาติญาณเพื่อปกปิดร่างตัวเอง จากนั้นเธอก็หันไปตะโกนใส่ที่ต้นเสียง

 

“ใคร!”

 

“โอ้? ทั้งที่เมื่อกี้ยังบ่นคิดถึงกันอยู่แท้ๆ แล้วตอนนี้กลับมาถามเนี่ยนะว่าฉันเป็นใคร?”

 

เสียงบุคคลปริศนาดังขึ้นตอบ ได้ยินเสียงคุ้นเคยในที่สุดโชคุโฮก็รู้ว่าเป็นใคร นัยน์ตาดวงดาวของเธอเป็นประกาย หลังจากนั้นเธอก็เห็นเขายืนอยู่ตรงประตูห้องน้ำ………

 

ผมสีดำที่ยาวลงมาถึงหน้าผาก นัยน์ตาสีแดงนุ่มลึกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันลี้ลับ นัยน์ตานี้ได้ทำให้ใบหน้าที่แต่เดิมธรรมดาดูหล่อขึ้นเยอะ

 

ในเวลานี้เองนัยน์ตาสีแดงของเขากำลังเต็มไปด้วยความสุข มองดูร่างกายเปลือยเปล่าที่แช่ในน้ำ เขามองดูตรงๆอย่างไม่คิดปกปิด

 

“นาย!”

 

โชคุโฮไม่รู้ว่าตอนพูดตัวเองมีอารมณ์แบบไหน มันมีทั้งความสุขที่เห็นอีกฝ่าย และความโกรธที่เห็นเขามองร่างกายที่เปลือยหมดทั้งตัวของเธอ และยังมีความรู้สึกอยากตะโกนด่าอีกฝ่ายที่หายหัวไปนานไม่ยอมติดต่อเธอเลย ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้อารมณ์ของเธอกลายเป็นซับซ้อน

 

ในที่สุดความเป็นลูกผู้หญิงก็ได้เอาชนะอารมณ์อื่นๆไป จากนั้นใบหน้าของเธอก็ขึ้นสีแดง แล้วตะโกนใส่ด้วยความอายและโกรธว่า “ยังไม่รีบออกไปอีก!”

 

วู่หยานหันหัวไปอีกทางด้วยความผิดหวัง เขาเดาะลิ้นแล้วพูดว่า “เห้อ พระเจ้า ทั้งๆที่เมื่อกี้ยังบ่นว่าไม่ยอมมาหาแท้ๆ ตอนนี้พอมาก็ไล่ให้ไป…….”

 

ได้ยินโชคุโฮก็ปรี๊ดทันที เธอตะโกนกลับไปด้วยความโมโหและเขินอาย “อย่างน้อยนายก็ดูเวลาและสถานที่หน่อยสิ!”

 

วู่หยานหัวเราะแหะๆ แล้วหันกลับไปมองสำรวจผิวที่เปร่งประกายจากแสงสะท้อนบนหยดน้ำตามตัวโชคุโฮ จากนั้นเขาก็พูดยิ้มๆว่า “ไม่ใช่ว่าตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ดีสุดๆแล้วงั้นเหรอ? ฉันถึงกับขอบคุณตัวเองในอดีตเลยนะที่เลือกมาเวลานี้น่ะ”

 

“นาย…..”

 

โชคุโฮไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับไอ้คนหน้าด้านตรงหน้าดี เธอรู้เพียงแต่ว่าสีหน้าของเธอตอนนี้มันคงจะน่าขบขันกับอีกฝ่ายไม่น้อย นี่ทำให้โชคุโฮก่นด่าตัวเองในใจ

 

ในฐานะที่เป็นราชินีแห่งโทคิวะได เธอสมควรที่จะมีกริยาท่าทางสงบและเต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่พอมาอยู่ต่อหน้าวู่หยานเธอกลับอารมณ์ขึ้นลงไม่สงบเหมือนปกติ นี่ทำให้เธอไม่พอใจ

 

บางทีวู่หยานอาจรู้สึกได้ว่าเธอเริ่มไม่พอใจแล้ว เขาจึงแบมือออกแล้วทำหน้าประมาณว่า ‘โทษตนไม่ได้นะ’ “น่า ควีนซามะ อย่าคิดมากนักเลย จับก็เคยมาแล้ว แล้วนับประสาอะไรกับแค่มองล่ะ…….”

 

ใบหน้าที่แต่เดิมก็ขึ้นสีอยู่แล้ว พอได้ยินคำพูดวู่หยาน เธอก็หน้าแดงขึ้นอีกหลายส่วน จนสุดท้ายโชคุโฮก็ทำได้แค่ซุกร่างกายลงใต้น้ำเพื่อเพิ่มความรู้สึกปลอดภัยให้กับตัวเอง

 

แม้ว่าเธอจะยอมแพ้ที่จะทำเป็นเข็มแข็งและมั่นใจไป แต่เธอก็ยังแคร์กับการที่ร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองโดนเพศตรงข้ามมอง แต่ว่าเธอคงไม่รู้ว่าไอ้ท่าทางนี่มันยิ่งทำให้ตัวเธอดูน่ารักขึ้น…….

 

นัยน์ตาดวงดาวของเธอได้มองประสานเข้ากับนัยน์ตาสีแดงของเขา ไม่รู้ว่าทำไมแต่เธอก็รู้สึกชอบนัยน์ตาอันแปลกประหลาดของเขา โชคุโฮรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้มองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น

 

ทว่าไม่นานนักเธอก็หลุบสายตาลง และมองบนใส่วู่หยาน “นายเล่นมาซะถูกเวลาแบบนี้ มีเรื่องอะไรรึไง?”

 

วู่หยานตอบกลับด้วยสีหน้าขึงขัง “แน่นอนว่ามาเพื่อเจอควีนซามะยังไงล่ะ!”

 

ได้ยินโชคุโฮก็จ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็งโดยที่ไม่พูดอะไร วู่หยานก็พยายามรักษาใบหน้าจริงจัง ทว่าเวลาผ่านไปภายในห้องอาบน้ำอันเงียบเชียบ สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้

 

“ก็ได้ ฉันมาเพราะมีเรื่องจะคุยกับเธอ…..”

 

โชคุโฮหันหน้าไปอีกทางแล้วทำเสียง ‘เหอะ’ เธอรู้ดีว่าไม่มาหาเธอถ้าไม่มีเรื่องอะไร นี่ทำให้วู่หยานจำต้องหัวเราะแห้งๆ

 

“มีอะไรก็พูดมา!”

 

วู่หยานยกนิ้วเกาแก้ม แล้วมองผิวกายน่าหลงไหลของอีกฝ่ายต่อ

 

“อืม มันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร เอาเป็นว่าเรามาคุยเรื่องที่เธอพูดเมื่อกี้กันดีกว่าไอ้ที่ว่า ‘ใครจะมาเอาเปรียบตัวเอง’ นั่นน่ะ…….”