บทที่ 241 หนี

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 241 หนี

บทที่ 241 หนี

“ฉันรู้ว่าวิชามายาของนายทรงพลังมาก เพราะฉะนั้นนายต้องสร้างร่างมายาของตัวเองขึ้นมา แล้วหลังจากนั้นฉันจะพานายออกไป” วิชามายาของฉู่เหินนั้น ถูกเปิดเผยตั้งแต่ตอนที่พาซ่างกวงเสี่ยวฟู๋กลับบ้าน ถ้าหากวิชามายานี้ไม่ได้ความ เกรงว่าเหล่าผู้เก่งกาจไม่ถ้วนคงจะสร้างความเดือดร้อนให้เขาไปนานแล้ว

คนส่วนใหญ่ที่รู้เรื่องนี้คือพรรคเก่าแก่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับฉู่เหิน เม่ยซานเหนียงเองก็อยู่ในกลุ่มของพวกเขาในวันนั้นเธอรู้เรื่องนี้ดี

หลังจากได้ยินคำพูดของเม่ยซานเหนียง ฉู่เหินก็ไม่ลังเลและเริ่มต้นสร้างภาพมายาในคุกน้ำทันที เพียงแต่ว่าหากต้องตบตาผู้ฝึกยุทธเก่งๆเหล่านี้แล้วล่ะก็ ภาพมายาเขาจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

การสร้างภาพมายาต้องใช้พลังจำนวนมากเพราะต้องอาศัยการเชื่อมต่อพิเศษระหว่างภาพมายากับตัวเขาเอง ถ้ามองผ่านๆจากคนธรรมดาคงไม่เป็นไร แต่ถ้าผู้ฝึกยุทธเก่งๆมาเห็นเข้า ต่อให้เขาออกไปได้อีกฝ่ายก็ตามล่าเขาเจออยู่ดี

หลังจากที่ฉู่เหินจัดการทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เขาก็เห็นว่าเม่ยซานเหนียงหยิบกระเป๋าหนังเล็ก ๆ ออกมาจากเอวของเธอและค่อย ๆ เปิดปากถุงออก มีลมพัดออกมาในขณะเดียวกันก็มีแรงดูดขนาดใหญ่ถูกปล่อยออกมาแล้วดึงฉู่เหินเข้าไป

ของวิเศษอันนี้ทำให้ฉู่เหินตกใจจนอ้าปากค้าง ต้องเข้าใจว่าของวิเศษที่น่าอัศจรรย์นี้ เกือบจะเหมือนกับถุงวิเศษของราชาปีศาจวัว* (ถุงวิเศษของราชาปีศาจวัว=มีพลังในการดูดสิ่งของเข้าไป) ที่ฉู่เหินไม่รู้ก็คืออันที่อยู่ในมือของเม่ยซานเหนียงอันนี้มันคือของทำเลียนแบบถุงวิเศษของราชาปีศาจวัวในเรื่องไซอิ๋วนั้นเอง แม้ว่ามันจะไม่ได้ทรงพลังเท่ากับถุงวิเศษของจริง แต่ถ้าอีกฝ่ายอยู่ในระดับเดียวกับหรือต่ำกว่าเจ้าของ ถุงวิเศษนี้จะสามารถดึงอีกฝ่ายเข้ามาได้โดยไม่มีทางป้องกันใด ๆ

แม้มันจะดูเล็กๆแต่อย่าๆด้ดูถูกมัน ภายในโลกของถุงวิเศษ ฉู่เหิงพบว่าพื้นที่ในนี้ใหญ่ผิดปกติ เกรงว่าคงจะมีพื้นที่อยู่เกือบหนึ่งพันลูกบาศก์เมตรเทียบเท่ากับแหวนมิติระดับ 4-5 ได้เลย

ในถุงวิเศษ เขาไม่รับรู้อะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกเลย พื้นที่ๆนี่แปลกไปจนเขาไม่สามารถตรวจจับอะไรได้ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับให้อีกฝ่ายทำตามใจ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ฉู่เหินรู้สึกเวียนหัวจากนั้นเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ หลังจากทำให้จิตใจให้มั่นคงแล้ว ฉู่เหินก็ยืนขึ้นมาแล้วพูดขอบคุณเม่ยซานเหนียง เรื่องสัญญาใจนั้นเขาไม่ได้พูดอะไรมากมาย เพราะเขาจดจำคำสัญญานี้เอาไว้แล้ว

หลังจากปล่อยฉู่เหินที่นี่ เม่ยซานเหนียงก็จากไปและพูดว่า “ที่ๆ อันตรายที่สุดคือที่ๆ ปลอดภัยที่สุด!”

เมื่อมองดูร่างที่จากหายไปของเม่ยซานเหนียง ฉู่เหินก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าประโยคนี้เป็นเรื่องจริง หากหญิงชราคนนั้นรู้ว่าเขาหนีออกมาต้องถูกไล่ล่าอย่างแน่นอน อีกฝ่ายต้องคิดว่าเขาหนีไปจากภูเขาเทียนซานแน่ๆ ด้วยเหตุนี้จึงมีคนไม่มากนักที่ค้นหาบนภูเขา

แต่ฉู่เหินก็ไม่ได้วางใจ แม้ว่าเขาจะได้รับการช่วยเหลือจากเม่ยซานเหนียง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ทรยศเขา หลังจากตัดสินใจแล้วฉู่เหินก็รีบจากไปยังทิศทางอื่นอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่เดินทางเขารู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มกระจายความร้อนแปลกๆออกมา เมื่อความร้อนนี้แผ่กระจายเขารู้สึกว่าฮอร์โมนของเขาถูกหลั่งออกมาเร็วมาก มันไม่ใช่เรื่องดีเพราะตรงั้นของเขามันแข็งเหมือนเหล็กแล้ว!

ในขณะที่วิ่งไปข้างหน้า ฉู่เหินปล่อยแมวนพเวทย์ออกมา เพราะเขารู้สึกว่าเขาถูกพิษเล่นงาน ซึ่งแมวนพเวทย์ที่ไวต่อพิษกำลังตรวจสอบเขาอย่างละเอียด

แมวนพเวทย์ออกมา มันสูดดมฉู่เหินอย่างหนักมันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ มันสามารถดูดสารพิษทั้งหมดออกไปได้แต่ฉู่เหินก็ไม่หาย เมื่อเป็นแบบนี้ฉู่เหินก็ทำได้เพียงขมวดคิ้วแน่น

เขาต้องหาที่หลบซ่อนดีๆ ก่อนหากถูกปีศาจยัยแก่นั่นจับได้ เกรงว่าเขาคงไม่ได้หนีออกมาอีกแล้ว ขณะที่เขาพยายามจะวิ่งไปข้างหน้า เขารู้สึกเหมือนไฟกำลังลุกไหม้อยู่ภายในตัวของเขาทำให้ตัวเขากระตุก

ขณะที่เขาวิ่งไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เขาก็รู้สึกทุกข์ทรมานมาก หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป แม้ว่าจะไม่มีใครมาจับตัวเขา เขาก็ถือว่าเป็นอันตรายอยู่ดี ระหว่างที่เขาครุ่นคิดและสงสัยว่าจะเอายังไงดี หุบเขาตรงหน้าก็ปรากฏขึ้นและที่ใต้หุบเขามีน้ำไหลออกมาจากถ้ำ

ฉู่เหินวิ่งตรงไปยังน้ำที่ไหลออกมาจากถถ้ำอย่างไม่ลังเล ดวงตาของเขาตรวจสอบรอบ ๆ ที่นี่เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถทนต่อไปได้อีกต่อไป เขาสามารถสูญเสียความคิดของตัวเองได้ตลอดเวลา!

ฉู่เหินกระโดดลงไปในแม่น้ำใต้ถ้ำ จากนั้นพยายามจัดการไอ้นั้นของเขาในแม่น้ำมืดๆ แม่น้ำที่มืดมิดนี้เย็นมาก ถึงแม้มันจะไม่เท่าทะเลสาบเย็นของเขาเอง แต่น้ำที่นี่ก็เย็นจนตัวเขาสั่น

หลังจากแช่ตัวในน้ำ เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายตื่นตัวมันค่อนข้างอึดอัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดสำคัญของเขาบวมราวกับจะระเบิดได้ทุกเมื่อ!

หลังจากคิดอยู่สักพักเขาก็หยิบวัสดุดิบออกมาสร้างค่ายกลป้องกันง่าย ๆ ที่ด้านล่างของแม่น้ำ ค่ายกลนี้ไม่ได้ป้้องกันใคร มันแค่ป้องกันไม่ให้เขาถูกน้ำพัดลอยไปไหนมาไหน ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถปักหลักในแม่น้ำได้อย่างมั่นคง พวกที่กำลังไล่ล่าเขา พวกมันคงไม่เชื่อว่าเขาจะมาเล่นน้ำในถ้ำแบบนี้

ฉู่เหินรู้สึกว่าเขาทนได้อีกไม่นานนักและเกรงว่าเขากำลังจะเสียสติ เขาจึงไม่ลังเลที่จะปล่อยให้ฉู่เฟิงออกมาปกป้องตัวเขาและจับมือฉู่เหินเพื่อดึงสติ

ฉู่เฟิงผู้ซึ่งมีความรู้สึกเหมือนมนุษย์แล้ว ตกใจมากเมื่อเห็นว่าฉู่เหินถูกพิษหลังจากที่เขาสอบถามฉู่เหินเขาก็สงสัยว่าฉู่เหินอาจโดยพิษยาปลุกกำหนัด ซึ่งแน่นอนว่าพิษนี้ไม่มีอะไรสามารถช่วยได้ นอกจากต้องทำเรื่องอย่างว่าเท่านั้น!

อันที่จริงในตอนนี้ยังมีตัวเลือกที่ฉลาดอยู่ ในวงแหวนมิติฉู่เหินมีสาวงามที่พร้อมมีอะไรกับเขา แต่สำหรับฉู่เหิน การทำร้ายหญิงสาวเพื่อช่วยตัวเองให้รอดไม่ใช่สิ่งที่เขาทำได้ เขาไม่มีความคิดเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ

โชคดีที่น้ำที่นี่เย็นมากทำให้ ความรู้สึกของเขาค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ฉู่เหินรู้ว่ามันแค่ช่วยบรรเทาได้ชั่วคราวและไม่ได้ผลอะไรมากนัก ด้วยความสิ้นหวังเขาเลือกที่จะช่วยตัวเองอย่างเงียบ ๆ โดยหวังจะบังคับให้พิษออกจากร่างกาย แต่หลังจากทดลองไปซักพักเขาก็พบว่าทั้งหมดนี้มันไร้ประโยชน์!!!

ทางด้าน เฉินเจียน ที่มาถึงภูเขาเทียนซานก่อนใคร ก็มองไปรอบๆอย่างสิ้นหวังที่นี่มันใหญ่เกินไป มันยากเกินไปที่จะหาคนในสภาพแวดล้อมแบบนี้ โชคดีที่หญิงชราผู้ตามติดเฉินเจียนนั้นแข็งแกร่งมาก เรื่องแค่นี้ไม่ยากสำหรับเธอ!

ทั้งสองเข้าไปในภูเขา ไม่ช้าพวกเธอก็พบกับเหล่ากองกำลังที่กำลังออกมาไล่ล่าจากพรรคกรระบี่แห่งเทียนซานทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันทันทีหลังจากเจอกัน โชคดีที่พวกเขาพบว่าทั้งสองไม่ใช่เป้าหมายที่พวกเขากำลังตามหา ทำให้แรงกดดันลดลงไปได้เล็กน้อย พวกเขานำภาพเหมือนออกมาและถามว่าเธอเห็นคนคนนี้หรือไม่

เฉินเจียนเงยหน้าขึ้นเพื่อดู คนในรูปนี้ไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นฉู่เหิน!

ตอนนี้การที่อีกฝ่ายกำลังตามหาฉู่เหิน ก็พิสูจน์แล้วว่าตอนนี้ฉู่เหินกำลังตกอยู่ในอันตราย เธอจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาที่ดุร้าย เธอหันหลังจากไป ทันที ทำให้ศิษย์ 2-3 คนจากพรรคกระบี่แห่งเทียนซานรู้สึกสับสนและสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรของเธอกันแน่นะ

เฉินเจียนไม่ได้บอกว่าเธอกำลังตามหาฉู่เหิน เธอต้องหาฉู่เหินให้เจอก่อน พวกเขา เฉินเจียนจดจำฉู่เหินได้ดี เธอไม่มีทางลืมฉู่เหินเด็ดขาดตอนนี้เธอกำลังจะไปหาเขา!