ความคิดเห็นนี้ทําให้ Weibo ของชิเลยระเบิดทันที

[CG เหรอ? ฉันรู้แล้วว่าคนสามารถต่อสู้กับหมาป่าด้วยมือเปล่าได้ยังไง!]

[บ้าจริงพวกเราโดนหลอก! Y ทําทุกอย่างเพื่อชื่อเสียงของเขา ช่างไร้ยางอาย!]

[มันเป็นเรื่องหลอกลวง! น่ารังเกียจ! ต้องเป็นการโปรโมทซีรีส์แน่ ๆ]

[ดวงตาของอาจารย์ชิเฉียบแหลมและช่างสังเกต ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้

[Y ออกไปจากวงการบันเทิงซะ!]

พลังของนักส่งสแปมนั้นไร้ขีดจํากัด และเธรดก็เข้าสู่หน้าเทรนด์อย่างรวดเร็ว

นักส่งสแปมและแฟน ๆ ของชิเลยนับไม่ถ้วนรวมตัวกันเพื่อติดตามการเ นผู้นําของชิเลยและโจมตี Y ราวกับกลุ่มสุนัขบ้า

แม้แต่เพจ Weibo ที่เหย่หลิงเฉินเพิ่งลงทะเบียนก็ยังเต็มไปด้วยการดูถูก

[Y คนหลอกลวง! ออกไปซะ!]

[คนไร้ยางอาย ไอ้หมาข้างถนน!]

[โฉันพนันได้เลยว่าผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้บางคน ไม่สามารถแม้แต่จะโจมตีอาจารย์ชิได้]

เหยู่หลิงเฉินไม่ตอบอะไร แฟน ๆ ของเขาจํานวนมากได้เข้ามาที่เพจของชเล่ยแล้ว และทั้ง สองฝ่ายก็เริ่มฉะกัน

(มันยากนักเหรอที่จะยอมรับว่าใครบางคนมีความสามารถ?]

เชิเลยเป็นพวกเห็นแก่ตัว คิดว่าตัวเองมีค่ามากขึ้นเมื่อทําให้คนอื่นเขาต่ําลงเหรอ?]

[นี่คือบุคลิกของดาราเหรอ? ชิเลยน่ารังเกียจมาก!]

หลีไก่อยู่ข้างเหย่หลิงเฉิน เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป [ไม่มีใครประสบความสําเร็จได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามและฉันขอใช้ตัวเองเป็นเครื่องรับประกันว่าวิดีโอของ Y นั้นเป็นของจริง!บุคคลนั้นต้องการทําให้ตัวเองดูเก่ง กล้าหาญกว่าคนอื่น ๆ ด้วยการกดขี่ผู้อื่นให้จมลง]

[อ่า “Legend of the Heroine’ กําลังออกอากาศอยู่ ดังนั้นแน่นอนว่าผู้กํากับหลี่จะยืนเคียงข้าง Y! แต่ว่านะ คุณจะหลอกลวงคนดูเกินไปหน่อยไหม? คุณดูถูกสติปัญญาของเราด้วยวิดีโอการต่อสู้กับหมาป่าด้วยมือเปล่ามันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?! มนุษย์สามารถต่อสู้กับสัตว์ป่าได้อย่างนั้นหรือ?]

ซิเล่ยหัวเราะด้วยความพอใจในตัวเองอย่างมาก และพูดอย่างเย่อหยิ่ง [ฉันคิดว่าหมาป่าต้องได้รับการเลี้ยงดูโดยตัว Y เอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายวิดีโอนี้! หมาป่าที่เชื่องจะไม่โจมตีเจ้านายของมัน แต่ Y กลับฆ่ามันอย่างโหดเหี้ยม! แค่เพื่อเรียกชื่อเสียงให้กับตัวเองเขาแย่กว่าสัตว์เดรัจฉาน!]

[นั่นสมเหตุสมผลแล้ว อาจารย์ช คุณวิเคราะห์ได้ดี!]

[เราสนับสนุนอาจารย์ชิ Y ไร้ยางอายเกินไป! ]

[ประหลาด! ซาดิสม์ที่สุด! เขาไม่ใช่มนุษย์! Y เป็นความอัปยศและความล้มเหลวของวงการบันเทิง!]

สุดท้าย ชิเลยโพสต์ Weibo ใหม่ว่า “I am a Hero” ที่นําแสดงโดยตัวเองกําลังจะเข้าฉายหมัดแต่ละอันถูกแสดงออกมาอย่างสมจริงและทุกอย่างเป็นกังฟูของจริงทุกคนอย่าพลาด!]

[อาจารย์ชิ พวกเราจะสนับสนุนคุณ!]

[เราเชื่อมั่นในศิลปะการต่อสู้ของอาจารย์ชิเท่านั้น]

“เขาช่างเลวร้ายอะไรเช่นนี้! ใส่ร้ายและทําให้เธอแย่เพียงเพื่อต้องการที่จะโปรโมท ภาพยนตร์ของเขา!”เสียวเฟยเฟยกล่าว ฟันของเธอบดและหน้ามืดด้วยความโกรธ

“ พวกกากเดน! นี่จะต่ําไปถึงไหน!” ใบหน้าของหลินเต็มไปด้วยความโกรธ เธอได้เห็นเหย หลิงเฉินจับหมาป่าด้วยตาของเธอเองและเขาเสี่ยงชีวิตของตัวเองที่จะทําเช่นนั้น “แต่ว่านะ คุณจะต้องไม่หุนหันพลันแล่นตามเกมของเขาคุณต้องรักษาภาพลักษณ์ของคุณ คุณสามารถพูดเป็นนัยๆได้ว่ามันไม่จริง แต่คุณไม่สามารถดูถูกเขามากเกินไปอย่างชัดเจนจนสังเกตเห็นได้”

หลินสามารถบอกได้ว่าแม้แต่อารมณ์ของเหย่หลิงเฉินก็ยังมืดมน

“ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันมีแผน” เหย่หลิงเฉินกล่าวอย่างเรียบง่ายก่อนจะตอบใน Weibo

[ในเมื่อนายมั่นใจขนาดนั้น ทําไมเราไม่มาเจอกันหน่อยล่ะ]

[นายน่ะนะ? พวกมดปลวกไร้ค่า! นายไม่มีสิทธิ์ที่จะชกกับฉัน] ชิเลยตอบอย่างเย็นชา

[เก็ในเมื่อนายพูดไปหมดแล้ว แต่พอฉันมาท้าจริงกลับบ่ายเบี่ยง? หรือจริง ๆ แล้วนายกลัวกัน แน่?]

[อ่า นายรู้วิธีการแสดงให้แนบเนียนอย่างแน่นอน แต่หลอกฉันไม่ได้หรอก! นายคิดว่านายเป็นผู้เชี่ยวชาญเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ ฉันจัดการนายได้ด้วยมือเดียวด้วยซ้ํา!]

[หุบปากเถอะ ใคร ๆ ก็พูดได้ทั้งนั้น ทําไมเราไม่นัดกันอีก 2 วันข้างหน้าล่ะ?]

[อ่า นายไม่มีสิทธิ์]

ใบหน้าของเหย่หลิงเฉินมืดลงยิ่งกว่าเดิม ชายคนนี้กําลังเล่นเกมประสาทกับเขาอยู่ แต่เขาแค่เบี่ยงตัว ทุกคําตอบก็แค่ อ่า อ่า” เขาคิดว่าตัวเองเย่อหยิ่ง เก่งกาจ แต่คําพูดของเขากลับทําให้ตัวเองดูแย่

ใช่แล้ว นายเป็นใคร นายไม่ได้ดีพอที่อาจารย์ชิจะลดตัวลงมาแข่งด้วยหรอก]

[ไม่มีใครขี้ขลาดเหมือนนายหรอก! นายแค่พยายามจะใช้อาจารย์ชเพื่อทําให้ตัวเองดังเท่านั้นพอแหละ!]

เห็นได้ชัดว่าซิเล่ยกําลังใช้เหย่หลิงเฉินเป็นเครื่องมือให้ตัวเองโด่งดัง ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด

[ทุกคนไปต่อ! สั่งสอนเขา! ทําลายเขาซะ!]

ชิเลยเองก็โยนประโยคทางเลือกสองสามประโยคเป็นครั้งคราวเพื่อเป่าเปลวไฟของผู้ฟังต่อไปเขามักจะอยู่แต่ข้างสนาม หัวเราะอย่างเย็นชาและซุ่มโจมตีเป็นบางครั้ง บางครั้งก็นําการโจมตีครั้งใหม่ด้วย!

นอกจากแฟน ๆ ของชิเลยและนักส่งสแปมแล้ว คนอื่น ๆ ก็แค่ร่วมสนุกกัน

อินเทอร์เน็ตเป็นแพลตฟอร์มที่ใหญ่มาก และตราบใดที่มีคอมพิวเตอร์ซ่อนอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าคุณเป็นใคร ดังนั้น ผู้คนจํานวนมากจึงปล่อยวาง ไม่สนใจ กล่าวหาผู้อื่นอย่างไร้เหตุผล และแสดงความคิดเห็นที่ทําร้ายกันทางออนไลน์ หรือพูดคุยเกี่ยวกับกิจการระดับชาติ

คนประเภทนี้มักเรียกขานว่านักเลงคีย์บอร์ด และพวกเขาส่วนใหญ่มีความรู้สึกต่อตัวเองเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย คุณค่าของพวกเขามีอยู่ทางออนไลน์เท่านั้น และพวกเขามีความยินดีอย่างยิ่งในการกลั่นแกล้งผู้อื่นในโลกไซเบอร์โดยไม่คํานึงถึงถูกหรือผิด พวกเขาจะเริ่มต้นการโจมตีต่อตัวบุคคลก่อน (Ad hominem) เนื่องจากไม่มีความรับผิดชอบที่จะต้องแบกรับ

ที่สําคัญที่สุด คนที่พวกเขาโจมตีตอนนี้คือคนอวดดีเหมือน Y ดังนั้นความรู้สึกพึงพอใจและสิทธิพิเศษจากการทําเช่นนั้นจึงมีเอกลักษณ์และชัดเจน

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากเป็นดาราดังเช่นเสี่ยวเฟยเฟย พวกเขาจะไม่ต่อสู้กลับหรือเสี่ยงที่จะถูกตราหน้าว่าเป็นจิ้งจอกหรือหญิงแพศยา ชื่อเสียงและสถานะที่ถูกรักษามาอย่างระมัดระวังจะถูกทําลายในทันที

ยาขมแค่ไหนก็ต้องกลืนกิน

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตเหล่านี้กําลังต่อต้านเหย่หลิงเฉิน Y เป็นเพียงหนึ่งในบุคคลของเขา เขาเป็นอัจฉริยะ เขาจะต้องทนรับความขุ่นเคืองจากการถูกคนจํานวนมากลากลงมาหรือไม่?

พวกเขาจะโจมตีเขาโดยไม่ต้องรับโทษหรือไม่?

พวกเขาคิดว่าเขาจะรับมันด้วยพระคุณอันดีหรือไม่?

เพียงเพราะคน ๆ หนึ่งเป็นดาราหนังและเป็นคนสาธารณะ พวกเขาจึงถูกต่อว่าได้แบบนี้เหรอ?

นี่ไม่ใช่เวลาสําหรับเหตุผล เมื่อคนอื่นดูหมิ่นและโจมตีคุณ พวกเขาก็ตัดสินใจว่าจะไม่สมเหตุ สมผลการตอบสนองที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียวคือเมื่อคุณถูกคนอื่นโจมตี คุณจะต้องตอบโต้จนกว่าพวกเขาจะถูกทําลาย! ต้องตายกันไปข้าง!!

ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์ที่อัจฉริยะอย่างเหย่หลิงเฉินไม่สามารถควบคุมได้

ไม่ว่าการแข่งขันจะเป็นเช่นไร อัจฉริยะมักจะอยู่เหนือเสมอ และก็ไม่มีข้อยกเว้น!

เหย่หลิงเฉินเข้าโจมตี Baidu ทันทีและเริ่มค้นคว้าวิธีการสาดโคลนและดูถูกผู้คน

“ทักษะการเรียนรู้ตัวเอง การดูถูกคน การดูถูกความสามารถ +1”

“ทักษะการเรียนรู้ตัวเอง การดูถูกคน การดูถูกความสามารถ +1”

“ทักษะการเรียนรู้ตัวเอง การดูถูกคน การดูถูกความสามารถ +1”

“ทักษะการเรียนรู้ตัวเอง การดูถูกคน การดูถูกความสามารถ +1”

เสี่ยวเฟยเฟยและหลินมองดูอย่างตกตะลึง พวกเขาแลกเปลี่ยนสายตากัน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล

จากพฤติกรรมของเขาเหย่หลิงเฉินได้รวบรวมกําลังของเขาเพื่อโจมตีด้วยฝูงนักรบคีย์บอร์ดบน Weibol

“หลิงเฉิน อย่าใจร้อนเลย! แม้ว่าเธอจะไม่ได้เปิดเผยใบหน้าของเธอ ความนิยมของเธอ ในแบบ Y ก็ไม่ได้มาง่าย ๆ นะ! อย่าทิ้งภาพลักษณ์ของเธอไปเพราะคนประเภทนี้เลย!” เสี่ยวเฟยเฟยอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาและเตือนเขา

“คุณเฟยเฟย คอยดูนะ! การแสดงกําลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!” เหย่หลิงเฉินยิ้มเล็กน้อย ความ สามารถในการดูถูกของเขาเพิ่มขึ้นจากเดิม 10% เป็น 100%!

ถ้ามีอันดับการดูถูกผู้คน ตอนนี้เขาเป็นราชาอันดับหนึ่งแล้ว!

เขาเปิด Weibo ที่ซึ่งสงครามคําพูดยังคงโหมกระหน่ํา

ไม่ได้พูดมาซักพักแล้ว แต่ชิเลยยังคงวางแผนชักนําให้แฟน ๆ ของเขาและนักส่งสแปมโจมตีบัญชี Weibo ของเหย่หลิงเฉิน

[เป็นอะไรไป? ตอนนี้โดนแฉความจริงแล้วไม่กล้าออกมาพูดเหรอ?]

[ไหน Y อยู่ไหน? ออกมา]

ถ้าทนไม่ไหวแล้วก็ออกไปตั้งแต่ตอนนี้ซะ! ก่อนที่จะหมดโอกาสในการหนี]

[ยังมีไอ้โง่ที่สนับสนุน Y อยู่อีกเหรอ? ทําไมไม่ตาสว่างสักทีว่าถูกคนหลอกลวงคนนี้ต้มซะเปื่อยแล้ว!]

การดูถูกที่มากมายเช่นนี้ทําให้แฟน ๆ ของ Y จมน้ําตายพวกเขาไม่สามารถต่อสู้กลับได้

ผู้อํานวยการหลีได้เปิดช่องทางร่วมกับผู้คนเพื่อขอให้ชเล่ยลบโพสต์ แต่ชิเลยปฏิเสธที่จะให้ความสนใจ