บทที่ 26 ทั้งสองคนล้วนผิดด้วยกัน

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

คราวนี้ณัฐณิชาก็ไม่กล้านั่งข้างเขาอีกแล้ว เธอลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

“พอแล้วๆ ฉัน…ฉันกลับก่อนแล้วกัน”

เอ่ยจบ ก็หยิบกล่องอาหารขึ้นมา แล้ววิ่งหนีออกจากห้องทำงานไปอย่างรวดเร็ว

จู่ๆธราเทพก็รู้สึกว่าชีวิตที่จืดชืดมีแสงสว่างอยู่บ้าง เมื่อมองเงาร่างที่จากไปของเธอ ริมฝีปากก็โค้งขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ณัฐณิชาวิ่งลนลานออกมา ใครจะไปรู้ว่าตอนที่กำลังจะเข้าไปในลิฟต์โดยสาร จะมีหญิงสาวทำทรงผมดัดลอนโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน เธอรีบร้อนเดินออกมาจากลิฟต์โดยสาร ทั้งสองคนจึงชนกัน

ต่อมาชานมที่อยู่ในมือของหญิงสาวก็กระเซ็นออกมาโดนร่างของทั้งสองคน

“อ๊า!” หญิงสาวกรีดร้องเสียงแหลม

“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”

แม้ว่าทั้งสองคนจะทำเสื้อผ้าสกปรก และล้วนไม่ระมัดระวังด้วยกันทั้งคู่ แต่ณัฐณิชารู้สึกได้ว่าเมื่อครู่ร้อนรนมากเกิน เมื่อมองไปยังเสื้อผ้าสีขาวที่ถูกทำให้สกปรกของฝ่ายตรงข้ามแล้ว ในใจก็รู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายเดือดร้อน

“คุณคิดว่าฉันดูเหมือนไม่เป็นอะไรหรือ”

หญิงสาวขึงตาใส่ณัฐณิชาอย่างมีโทสะ “เสื้อตัวนี้ของฉันเพิ่งจะซื้อมาใหม่ ฉันเพิ่งจะใส่เป็นครั้งแรกในวันนี้!”

หญิงสาวเอ่ย พลางเช็ดเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างด้วยความหงุดหงิด ณัฐณิชาเห็นว่าเสื้อผ้าชุดนี้ของฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนว่าจะมีคุณภาพดี ทั้งยังเป็นสีขาว ตอนนี้ก็เปื้อนเป็นวงใหญ่ ไม่น่าดูเป็นอย่างมาก และดูเหมือนว่าจะทำความสะอาดได้ยากเช่นกัน

ณัฐณิชาจึงเอ่ยว่า “ถ้า…ถ้าอย่างนั้นฉันจะชดเชยให้คุณแล้วกันค่ะ”

“ชดเชยหรือ? คุณชดเชยให้ไหวหรือไงกัน! ลูกพี่ลูกน้องฉันเพิ่งซื้อกลับมาจากต่างประเทศให้ฉัน เสื้อผ้านี้เป็นตัวที่ตัดตามสัดส่วนของผู้สั่งซื้อ จ่ายไปหนึ่งหมื่นห้าพันเลยนะ!”

ณัฐณิชาเบิกตากว้างขึ้นมาทันที หนึ่งหมื่นห้าพัน??? เสื้อสูทสีขาวตัวหนึ่งเนี่ยนะ?!

ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ โลกของคนรวยนั้นไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ

แต่ว่าจะทำอย่างไรดี เธอทำให้คนอื่นสกปรกจริงๆ แม้ว่าเสื้อผ้าตัวเองจะเปื้อนสีไปด้วย แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ชุดเดรสบนร่างของตัวเองก็น่าจะไม่ได้แพงขนาดนั้น

นี่คือชุดที่ธราเทพให้ผู้ช่วยซื้อให้เธอ ตอนนั้นเธอเคยถามผู้ช่วยนรินทร์ว่าเสื้อผ้าพวกนี้ราคาเท่าไร เธอจะได้คืนธราเทพได้ ทว่าผู้ช่วยนรินทร์กลับเอ่ยว่า ไม่เท่าไร ถ้าหากว่าเธอไปคืนเงินค่าเสื้อผ้า จะทำให้ท่านประธานรู้สึกเสียหน้ามาก ในเมื่อผู้ช่วยนรินทร์พูดมาขนาดนี้แล้ว ณัฐณิชาจึงรับความปรารถนาดีของธราเทพเอาไว้โดยไม่กระบิดกระบวนอีก

“แม้ว่าเสื้อผ้าของคุณจะมีราคาสูง แต่ถ้าส่งไปซักทำความสะอาด ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถซักจนสะอาดได้ เอาแบบนี้แล้วกัน ฉันจะจ่ายค่าซักให้ ถ้าหากว่าซักไม่สะอาด อย่างนั้น…ฉันก็จะชดใช้เงินให้คุณ”

ณัฐณิชาที่นึกถึงการต้องชดใช้เงินหนึ่งหมื่นห้าพันแล้ว ก็รู้สึกปวดใจ แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่ชอบบิดพริ้ว

สำหรับเรื่องที่ว่าจะหาเงินหนึ่งหมื่นห้าพันนี้มาจากไหนนั้น เธอก็คิดเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ธราเทพเป็นถึงประธานทวีศักดิ์ทินโชติกรุ๊ป เงินเหล่านี้ต้องมีแน่นอน เธอยืมเขาชั่วคราว เดี๋ยวกลับไปทำงานแล้วค่อยๆใช้คืนก็ได้แล้ว

ในตอนนี้เองที่ไม่รู้ว่าใครหัวเราะพรืดออกมา หลังจากนั้นก็มีเสียงคุ้นหูของหญิงสาวลอยมา

“คุณณัฐณิชา คุณไม่เข้าใจแฟชั่นนี่คะ เสื้อที่อยู่บนร่างของคุณปณิดาไม่สามารถซักได้ค่ะ”

ณัฐณิชาหันหน้าไป ก็เห็นฐิติกานต์เดินนวยนาดเข้ามา

“ซักไม่ได้? ถ้าอย่างนั้นจะเรียกว่าเสื้อผ้าหรือ” ณัฐณิชาถามอย่างไม่สบอารมณ์

คราวนี้ได้เป็นเสียงหัวเราะเยาะของผู้หญิงที่ชื่อปณิดามาแทน

“เลขาฐิติกานต์ นี่มันคนโง่จากที่ไหนกัน มาอยู่ที่ชั้นของพวกเราได้อย่างไรกัน”

ฐิติกานต์ก็ไม่รีบร้อนแนะนำให้ปณิดารู้จัก เธอกำลังเกลียดณัฐณิชาอยู่ ตอนนี้ปณิดายังไม่รู้ฐานะของณัฐณิชา จึงใช้ประโยชน์จากปณิดามาทำให้ณัฐณิชาขายหน้าสักครั้ง