บทที่ 158 เซี่ยฟางเฟยผู้ชั่วร้าย

ชั่วอึดใจต่อมา ถังหลี่ก็คว้าหูของเว่ยฉิงและบิดอย่างแรง ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นก่อนจะพบกับใบหน้าของภรรยา

ถังหลี่บิดหูเขาอย่างหมั่นเขี้ยวจนใบหน้าน้อย ๆ ของนางบิดเบี้ยวไปด้วยความโมโห

นางกำลังลงโทษเขา!

เย่!

“เจ้าเพี้ยนหรือ? ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก!” ถังหลี่จ้องมองเขาโดยไม่พูดอะไร

เว่ยฉิงอ้าแขนออกคว้าตัวถังหลี่เข้าไปกอด

“ยิ่งดุด่ายิ่งแปลว่ารัก แสดงว่าเจ้ารักและห่วงใยข้า”

หญิงสาวพยายามจะผละออก แต่เว่ยฉิงก็กอดรัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ

“ปล่อย!”

“ไม่ปล่อย!”

“เจ้าเป็นพวกอันธพาลหรืออย่างไร!”

“… ข้าแค่อยากกอดเจ้าเอง!”

เว่ยฉิงฉีกยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์มาให้ ก่อนจะฝังศีรษะไว้ที่ซอกคอของถังหลี่

“ฮูหยินเจ้าฟังข้าก่อน ข่าวลือพวกนั้นไม่จริง ตอนที่ข้าได้ยินข้าขนลุกไปหมด!”

แม้ว่าถังหลี่จะรู้ว่าข่าวลือพวกนั้นไม่มีมูล แต่หญิงสาวก็ยังรู้สึกโกรธเคืองอยู่ดี ตอนนี้นางค่อย ๆ ใจเย็นขึ้น เว่ยฉิงขยับตัวนั่งลงกับพื้น รั้งหญิงสาวขึ้นมานั่งบนตักของเขา วงแขนแข็งแรงของเว่ยฉิงโอบรัดเอวของนางไว้แน่น

“บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น?” ถังหลี่กล่าว

ชายหนุ่มเริ่มเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาให้นางฟัง เซี่ยฟางเฟยถูกลักพาตัวอย่างไร เว่ยฉิงหานางพบได้เช่นไร และเขาช่วยเหลือนางเช่นไร

“ฮูหยิน ข้าไม่ได้แตะต้องตัวนางเลยด้วยซ้ำ ข้าแค่พังประตูเข้าไปก่อนจะให้สาวใช้ของนางเข้าไปดูแลนาง จากนั้นก็สั่งลูกน้องให้ช่วยเหลือนาง ข้าไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดเรื่องจึงเป็นเช่นนี้” เว่ยฉิงกล่าว

ชายหนุ่มรู้สึกหดหู่ใจมาก เห็นได้ชัดว่าตัวเขาพยายามระมัดระวังอย่างเต็มที่เพื่อเลี่ยงคำครหา แต่ข่าวลือออกมาแบบนี้ได้อย่างไร?

ใครกันที่พูดพล่ามไร้สาระเช่นนี้!

ถ้าเขารู้ล่ะก็ จะฉีกปากมันเสีย!

หลังจากที่ถังหลีได้ฟังเรื่องทั้งหมด ใบหน้าของนางขมวดยุ่งทันที

เซี่ยฟางเฟย?

ชื่อนี้คุ้นเคยมาก….

เซี่ยฟางเฟยใช่สตรีที่ทะลุมิติมาคนนั้นใช่หรือไม่?!

นางเป็นหลานสาวของนายท่านเซี่ยหรือ?

สตรีนามว่าเซี่ยฟางเฟยนี้พุ่งเป้ามาที่ถังหลี่ เดิมที่นางเข้าใจว่าเซี่ยฟางเฟยอาจจะอิจฉาความงามของตน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แบบนั้น ถังหลี่ฉุกคิดเรื่องบางอย่างได้ ในตอนที่นางหันไปมองสามี เว่ยฉิงก็เป็นบุรุษรูปงาม ขนาดสวมเสื้อผ้ามิดชิดยังเห็นได้ชัดถึงมัดกล้ามเนื้อด้านใน รวมถึงหน้าท้องแปดก้อนของเขาด้วย หญิงสาวเงยหน้าอีกครั้งจ้องมองไปที่ใบหน้าของอีกฝ่าย

“ฮูหยิน มีอะไรติดหน้าข้าหรือ?” เว่ยฉิงทำหน้าฉงนมองนาง

“เซี่ยฟางเฟย…สนใจในตัวเจ้าหรือ?”

“เอ่อ…นิดหน่อย แต่ว่า! ข้ารักษาระยะห่างกับนางตลอด!” เว่ยฉิงรีบยืนยันความบริสุทธิ์ของเขาอย่างรวดเร็ว

“ดี ถ้าเจ้าเข้าใกล้นาง ข้าจะตัดของเจ้าออกซะ!” ถังหลี่สูดลมหายใจและพูดอย่างเย็นชา

“ฮูหยิน…หากขาดมันไปเจ้าจะมีความสุขได้อย่างไร” เว่ยฉิงกล่าวหยอกล้อ แต่ทันทีที่ถังหลี่มองมา เขารีบหุบปากตัวเองทันที

“ฮูหยิน …มีอีกเรื่องหนึ่ง ข้าคิดว่าการที่เซี่ยฟางเฟยโดนโจรลักพาตัวไปครั้งนี้ เป็นแผนการที่เตรียมไว้สำหรับข้า”

“แผนการ?”

เว่ยฉิงเริ่มเล่าถึงการคาดเดาของตนเองอีกครั้ง

หลังจากที่พูดจบชายหนุ่มรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย ตอนนี้ภรรยาจะคิดว่าเขาเป็นบุรุษที่หลงตัวเองหรือเปล่า? จะมีสตรีคนใดจะยอมเปลืองกายเพื่อผูกมัดบุรุษเช่นนั้น

หลังจากฟังคำบอกเล่าของเว่ยฉิงแล้ว ถังหลี่ก็อยากตะโกนคำว่า ‘นังตัวแสบ’ ออกมา! เซี่ยฟางเฟยผู้นี้เก่งกาจเสียจริง!

สตรีข้ามมิติคนนั้นต้องเป็นพวกจับผู้ชายอันดับต้น ๆ ก่อนเข้ามาในนวนิยายเรื่องนี้แน่นอน! คนทั่วไปไม่อาจจะต้านทานเล่ห์กลของนางได้เลย หากวันใดจิตใจของสามีนางเกิดไม่มั่นคงขึ้นมา คงได้ถูกหญิงสาวผู้นี้หลอกล่อไปเป็นแน่

สตรีเช่นนี้คือผู้เชี่ยวชาญในการพังบ้านคนอื่นแน่นอน หากบ้านถูกพังไปแล้วก็เหลือแต่เพียงหายนะเท่านั้น

เว่ยฉิงมองไปที่ใบหน้าบิดเบี้ยวของภรรยา เขารีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า

“ฮูหยิน แต่ข้าอาจจะคิดผิดไปเอง นางเป็นสตรีในสกุลสูงศักดิ์…”

“ไม่เลย เจ้าคิดถูกแล้ว นางวางแผนที่จะรวบหัวรวบหางเจ้าแน่!” ถังหลี่กล่าว

“ฮูหยิน แต่ข้าก็เป็นบุรุษหยาบคายไร้การศึกษา”

เว่ยฉิงพูดและเกาศีรษะอย่างไร้เดียงสา

“ไม่ เจ้ารูปงามและมีความสามารถ”

เมื่อได้รับคำชมจากภรรยาเว่ยฉิงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

เหตุใดเขาถึงหล่อเหลาเพียงนี้ ดึงดูดพวกแมลงวันเสียจริง แต่ถ้าหากเขาดูไม่ดี ภรรยาก็คงไม่นึกชอบใจเขาหรอก เว่ยฉิงจำได้ดีว่าตอนที่พบกันครั้งแรก ถังหลี่เองมองเขาด้วยสายตาอย่างไร?

“เป็นไปได้ว่านางเป็นผู้แพร่กระจายข่าวลือนี้”

“แต่นางเป็นสตรี การแพร่ข่าวลือเช่นนี้จะมีผลดีอย่างไร?” เว่ยฉิงคิดไม่ตก

“เจ้าไม่ได้ตอบรับความรู้สึกนาง…นางคิดว่าเป็นความผิดของเจ้า ดังนั้นนางจึงโยนเรื่องนี้มาให้เจ้ารับผิดชอบ” ถังหลี่กล่าว

ถังหลี่ลองวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของความคิดหญิงข้ามมิติผู้นั้น นางเป็นหญิงยุคใหม่จึงไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องเกียรติและชื่อเสียงมากเกินไปนัก จากนิสัยที่เห็นแก่ตัวของนาง เซี่ยฟางเฟยมักจะโยนให้ผู้อื่นรับผิดชอบแทนนางเสมอ ส่วนในคราวนี้คนโชคร้ายผู้นั้นคือสามีของถังหลี่

“เพราะข้า? ไม่ใช่ว่านางทำตัวเองหรอกหรือ?” เว่ยฉิงตกตะลึง

“คนอย่างนางไม่มีทางยอมรับผิดหรอก นางแค่โยนให้ผู้อื่นเท่านั้น” ถังหลี่กล่าว

“ผู้หญิงคนนี้วิปริตไปแล้ว!” เว่ยฉิงพูดไม่ออก เขารู้สึกเหมือนจมูกมีน้ำมูกอุดตันจนเขาสั่งออกมาไม่ได้

ยิ่งเว่ยฉิงคิดถึงเรื่องนี้มากเพียงใด ก็ยิ่งรู้สึกว่าเซี่ยฟางเฟยผู้นั้นชั่วร้ายมากขึ้นเท่านั้น ด้วยแผนการร้ายเช่นนี้หากถังหลี่ไม่ได้ไว้ใจเขา ตอนนี้ครอบครัวเขาคงจะแตกร้าวไปแล้ว

ในตอนที่ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่ว ต่อให้เขาจะอธิบายอย่างไรก็คงไม่มีใครยอมฟัง ทุกคนต่างพากันตราหน้าว่า เว่ยฉิงไม่ ‘รับผิดชอบ’ ต่อคุณหนูเซี่ย ในขณะที่นางสะบัดก้นกลับเมืองหลวงไป แต่ครอบครัวเว่ยยังอยู่ที่นี่ ผู้คนต้องดูแคลนเป็นแน่

ภรรยาของเขาจะถูกเยาะเย้ย ลูก ๆ จะถูกผู้คนซุบซิบนินทา คนสกุลเว่ยคงเงยหน้าขึ้นไม่ได้ …

เว่ยฉิงไม่เคยทำร้ายนาง แต่เหตุใดนางจึงทำเช่นนี้?!

ดวงตาของเว่ยฉิงเต็มไปด้วยความโกรธ มันแฝงไปด้วยไอสังหารที่เดือดพล่านอยู่ในอกของเขา

ถังหลี่รู้สึกบรรยากาศรอบตัวเย็นยะเยือกขึ้นมาเมื่อนางเงยหน้าขึ้น ก็พบใบหน้าของเว่ยฉิงเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดราวกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย

แต่ในชั่วพริบตาเว่ยฉิงก็กลับมามีท่าทีอ่อนโยนกับนางอีกครั้ง ราวกับสิ่งที่เห็นเมื่อครู่คือภาพลวงตา

อาจจะเพราะแสงที่มืดสลัวในห้องจึงทำให้นางตาฝาดไปชั่วครู่

“เว่ยฉิง เจ้าไม่ต้องสนใจนางหรอก ข้าจะหาวิธีจัดการกับนางเอง” ถังหลี่กล่าว

ชายหนุ่มวาดวงแขนข้างหนึ่งโอบเอวของหญิงสาวไว้ และจับมือเล็ก ๆ ของถังหลี่เขามาโอบกอดตนเอง

จะไม่สนใจได้อย่างไร เขาเป็นชายอกสามศอก จะโยนทุกอย่างให้ภรรยาตัวน้อยของตนได้อย่างไรกัน?

“ฮูหยิน ข้ามีเรื่องอยากคุยกับเจ้า” เว่ยฉิงกล่าว

“พูดสิ” ถังหลี่พิงวงแขนของเว่ยฉิง ก่อนจะแหงนหน้าไปมองเขา

ชายหนุ่มเริ่มอธิบายถึงแผนการที่เขาวางไว้ สามีภรรยาปรึกษากันด้วยเสียงเบา ๆ ไม่นานนักก็พากันเดินออกมาจากห้อง

ทางด้านฉางลู่นั้น เดิมทีเด็กหนุ่มกลัวว่าข่าวลือที่เกิดจะทำให้ความสัมพันธ์ของนายหญิงและนายท่านเว่ยมีรอยร้าว แต่ตอนนี้เขารู้สึกโล่งใจมากที่เห็นคนทั้งคู่ยังจับมือกันอยู่

“ฮูหยิน ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัวไปจวนสกุลเซี่ยก่อน”

“ไปเถอะ” ถังหลี่ไปส่งอีกฝ่ายที่หน้าประตู

ทันที่ที่เว่ยฉิงกลับไปยังจวนสกุลเซี่ย เขารีบไปหานายท่านเซี่ยทันที