ตอนที่ 202 หัวหน้าหมู่บ้านหลั่งน้ําตา

สามีข้า คือพรานป่า

ตอนที่ 202 หัวหน้าหมู่บ้านหลั่งน้ําตา

หยุนเถียนเถียนเคาะประตูเคาะประตูบ้านอย่างรวดเร็ว จากนั้นไม่นานจึงมีเสียงตอบรับออกมาจากด้านใน

“มาแล้ว”

หยุนเสียนเถียนมองบนเล็กน้อย หากเป็นเมื่อก่อนนางคงคิดว่าเสียงนี้อ่อนโยนไม่น้อย ทว่าในตอนนี้นางกลับคิดว่ามันเป็นการเสแสร้งแกล้งทํา!

ถึงอย่างไรหญิงสาวชนบทในหมู่บ้านก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงนิสัยได้

ขณะที่กําลังครุ่นคิด ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านพลันเปิดประตูออกและมองดูโดยรอบ นางเห็นนายอําเภอยืนตระหง่านพร้อมอารักขามากมายทันที

นางถึงกับตื่นตระหนกและรีบเชิญทุกคนเข้ามาด้านใน

ตอนนี้ไม่มีใครที่จะดูแลแขกของบ้านได้เลย เพราะหัวหน้าหมู่บ้านไม่อยู่ นางไม่สนใจนายน้อยหลี่ที่ยืนอยู่ด้วยอีกต่อไป จึงเอ่ยปากตะโกนเรียกลูกสาวของตนอย่างรวดเร็ว

เฉินไฉ่อได้ยินเสียงร้องเรียกก็พลันหงุดหงิดยิ่ง เพราะนางไม่อาจอ่านหนังสือ “ปราชญ์รูปหล่อและโฉมงาม” จนจบได้

แต่ทุกอย่างกลับสงบนิ่งลงเมื่อนางได้พบหน้าของนายน้อยหลี่ที่นางเฝ้าฝันถึง

เฉินไฉอีก้าวไปด้านหน้าพร้อมเอ่ยปากเสียงหวาน “ท่านแม่ เรียกข้ามาทําสิ่งใดหรือ?” แก้มของนางขึ้นสีอย่างประหม่า

ตอนนี้ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านไม่สนใจเรื่องนั้นอีกต่อไป นางรีบตระเตรียมน้ําเพื่อต้มชาและหันไปสั่งลูกสาวอย่างร้อนรน “เจ้ารีบไปทางตะวันตกของหมู่บ้าน ตามพ่อของเจ้ากลับบ้านให้เร็วที่สุด ตอนนี้นายอําเภออยู่ที่บ้านเราแล้ว!”

เฉินไฉ่อีพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังเดินชายตาอ้อยอิ่ง ไม่ยอมออกจากบ้านไปเสียที เนื่องจากต้องการเรียกร้องความสนใจจากนายน้อยหลี่

แม้นางจะอยากแสดงออกมาแค่ไหนว่าต้องการพูดคุยกับเขา แต่ผู้เป็นแม่กลับไม่เข้าใจ และยิ่งเห็นว่านางกําลังลีลาท่ามาก ก็ยิ่งร้อนใจจึงตะโกนเสียงดังอย่างเกรี้ยวกราด

“นังโง่! มัวทําอะไรอยู่? รีบไปบอกพ่อเจ้าว่ามีแขกมาหาที่บ้าน!”

เฉินไฉ่ เผยสีหน้าหงุดหงิดอย่างไม่ปิดกั้น แต่นางก็ไม่กล้าที่จะโต้เถียง ยังไงซะนางก็ไม่อยากกลายเป็นหญิงสาวอกตัญญูต่อหน้านายน้อยหลี่เช่นกัน!

หยุนเถียนเถียนลอบหัวเราะอย่างสนุกสนาน แต่ใครเล่าจะ รู้ว่าการแสดงออกของนางจะไม่สามารถรอดพ้นจากสายตาของเฉินไฉอี อีกฝ่ายจับจ้องหยุนเถียนเถียนอย่างอุ่นเคืองใจก่อนจะรีบก้าวออกจากลานบ้านไปอย่างรวดเร็ว

ไม่นาน น้ําชาถูกเสิร์ฟบนโต๊ะอย่างครบครันและหัวหน้าหมู่ บ้านก็กลับมาพร้อมกับอาการเหนื่อยหอบเนื่องจากวิ่งอย่างเร่ง

แม้เขาจะเห็นว่านายอําเภอมาที่บ้าน เขาก็ยังไม่ร้อนใจเท่ากับการได้เห็นนายน้อยหลี่ที่อยู่ข้าง ๆ ยกยิ้มหน้าระรื่น หัวหน้าหมู่บ้านจับจ้องลูกสาวของตนด้วยใบหน้าเดือดดาลทันที

แค่วิ่งกลับมาก็เหนื่อยหอบแล้ว แต่ตอนนี้เฉินไฉ่จําเป็นต้องเก็บความเหนื่อยล้าไว้และเดินบิดไปมาด้วยความเป็นอาย

เมื่อนึกถึงเรื่องราวบางอย่าง หัวหน้าหมู่บ้านก็อดไม่ได้ที่จะท้องไส้ปั่นป่วน คนหนึ่งคือนายอําเภอ คนหนึ่งคือนายน้อยหลี่ ไม่ว่าจะเป็นใคร เขาก็ไม่อาจยั่วยุได้! เขาหันไปหาลูกสาว พร้อมกัดฟันกล่าวเสียงค่อย “ออกไปซะ บอกแม่เจ้าให้ตระเตรียมอาหารให้ดี! ไปช่วยนางในครัวอย่าได้โผล่หน้าออกมา!”

แม้หัวหน้าหมู่บ้านจะไม่พอใจนัก แต่เขาก็ไม่คิดสนใจลูกสาวอีก เขาหันมาหานายอําเภอพร้อมครุ่นคิดว่ามีสิ่งใดที่ไป ทําให้อีกฝ่ายเคืองใจหรือไม่… แต่ถึงอย่างไร ตอนนี้ก็ต้องดูแลแขกที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดเสียก่อน!

แต่ดูเหมือนนายอําเภอจะไม่สนใจสิ่งที่หัวหน้าหมู่บ้านกําลังจะปรนนิบัติ เขาหันไปสั่งการเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง “เข้าไปด้านใน หาที่รกร้างไร้เจ้าของแล้วไปวัดมาสามสิบไร่! อ้อ สาวน้อยหยุนสามารถไปเลือกได้ตามสบายเลย ไม่ต้องรีบร้อนล่ะ!”

หยุนเถียนเถียนเอียงศีรษะไปมาราวกับไม่เต็มใจที่จะออกไป เพราะต้องการรู้ว่านายอําเภอจะกล่าวสิ่งใดกับหัวหน้าหมู่บ้าน แต่สุดท้ายแล้วนางก็จําเป็นต้องยอมจํานนและเดินออกไปกับเจ้าหน้าที่กลุ่มใหญ่

เมื่อนายอําเภอเห็นเด็กสาวคนนั้นออกไปแล้ว สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันที

“เฉินซึ่ง! เหมือนว่าครั้งที่แล้วเจ้าจะจําสิ่งที่ข้าพูดไม่ได้ ทํา ไมจึงไม่ดูแลนางให้ดี? ทําไมถึงกล้าหาญสร้างความขุ่นเคืองใจ ให้กับนาง? เจ้าเบื่อชีวิตนี้แล้วงั้นหรือ!”

คําพูดของนายอําเภอทําให้หลี่ซื่อฮวาตื่นตระหนกในทันที เด็กสาวคนนั้นเพียงกล่าวว่าไม่พอใจ นายอําเภอก็พร้อมที่จะปกป้องนางทันที!

เหงื่อเย็นเฉียบหลั่งออกทุกรูขุมขนของหัวหน้าหมู่บ้าน ในตอนแรกเขาคิดว่าเด็กน้อยคงไม่มีทางเข้าถึงตัวของนายอําเภอได้ อีกทั้งนายอําเภอคงไม่สนใจหมู่บ้านเทพธิดาน้อย ๆ แห่งนี้ แต่ใครจะรู้ว่าเด็กสาวคนนั้นไปร้องบอกผู้มีอํานาจจริง

“ท่านนายอําเภอ! ข้ามีความกล้าเพียงน้อยนิด แน่นอนว่า ข้าย่อมไม่กล้าละเลยคําพูดของท่าน มันเป็นเพียงสตรีสองคนทะเลาะกันเท่านั้น แล้วหลังจากเกิดเรื่องข้าก็ดูแลบุตรสาวของตัวเองอย่างดี นางบันสิ่งใดให้ท่านรับฟังงั้นหรือ?”

นายอําเภอยิ้มอ่อนก่อนจะกล่าวต่อ “อย่าพยายามจะเสแสร้งแกล้งทํา! นางไม่ได้ขอให้ข้าพูดกล่าวหรือต่อว่าเจ้า นางเพียงมาหาข้าและขอซื้อที่ดินสามสิบไร่เท่านั้น แล้วเหตุใดนางจึงไม่ยอมมาพบเจ้าโดยตรง? การซื้อที่ดินก็เพียงแค่มาพบเจ้าก็จบเรื่อง แต่เจ้าต้องทําให้นางอุ่นเคืองใจแน่ นางจึงวิ่งมาหาข้า!”

“หลังจากนั้นข้าจึงให้เจ้าหน้าที่สืบเสาะว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้น ในหมู่บ้านแห่งนี้ แน่นอนว่าชาวบ้านล้วนไม่โกหกเจ้าหน้าที่! ถึงคราวที่ต้องพิจารณาแล้วล่ะ… เฉินซ่ง! เจ้ายังเหมาะที่จะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านอยู่หรือไม่? แต่ข้าคิดว่าไม่!”

หลี่ซื่อฮวาตื่นตระหนกอีกครั้ง เขารู้สึกได้ว่ารถม้าคันหน้าหยุดบ่อยครั้ง กลายเป็นว่านายอําเภอสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปถามไถ่กับชาวบ้านงั้นหรือ? เด็กสาวคนนั้นเป็นผู้ใดกันถึงสามารถทําให้นายอําเภอร้อนรนได้มากถึงเพียงนี้? เหตุใดเขาจึงยอมลงพื้นที่และจัดการเรื่องราวทั้งหมดให้กับนางด้วยตนเอง?

นายน้อยหลี่กล่าวถามอย่างสงสัย “ท่านนายอําเภอ… ข้าขอสอบถามได้หรือไม่ว่านางมีสิ่งใดพิเศษ ท่านจึงดูแลนางดีนัก… มีเหตุผลใดหรือไม่?”

นายอําเภอหันมองนายน้อยหลี่พร้อมรอยยิ้ม เขารู้ได้ทันทีว่านายน้อยหลี่คงยังไม่รู้ เพราะเด็กสาวคนนั้นก็คงไม่มีทางบอกกล่าวว่าเขาให้สัญญาไว้ว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี นางคงไม่เคยเอาชื่อของเขาไปอวดอ้างที่ใดแน่!

“นางมิใช่คนธรรมดาที่จะสามารถละเลยได้ เป็นการดียิ่ง หากนายน้อยหลี่จะมีสัมพันธไมตรีกับนางไว้ รักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ให้ดี เพราะในอนาคตนางอาจจะช่วยเหลือนายน้อยได้!”

แม้ประโยคนั้นจะไม่ชัดเจนนัก แต่มันก็แจ่มชัดในใจของหลี่ชื่อฮวา!

“ไม่เพียงแค่มณฑลไม่สามารถเพิกเฉยต่อนางได้ แต่ท่านหลงเยวที่มาจากเมืองหลวงก็ยังให้ความสําคัญกับนาง! หากนายน้อยมีสัมพันธ์ที่ดีกับนาง แน่นอนว่าท่านหลงเยว่อาจจะ ยอมพูดคุยดี ๆ ด้วยได้ไม่ยาก ว่าแต่… นายน้อยไม่ได้สังเกตเลยงั้นหรือว่าช่วงหลัง ๆ มานี้ไม่มีใครเข้ามาสร้างปัญหาให้กับธุรกิจของเจ้าเลย?”

หลี่ซื่อฮวาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ แต่โชคดีที่เขาไม่ใช่ชายหนุ่มไร้เหตุผล หากเป็นอย่างนั้นเขาคงไม่ยอมปล่อยนางไปแน่ เพราะนางเคยนอนอยู่ในบ้านของเขามาก่อน

หากครั้งนั้นหาเรื่องนาง อย่าได้กล่าวถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ เพียงแค่กล่าวถึงสิ่งที่นางจะได้รับในภายหน้า ข้าก็คงไม่ปล่อยมือจากนางไปแน่!