“การ์ดเลื่อนระดับพลัง?”

ลู่เฟิงผงะเล็กน้อยและรีบเปิดดูข้อมูล

การ์ดเลื่อนระดับพลัง (ระดับต่ำ) : โฮสต์สามารถใช้ได้กับตัวละครที่อัญเชิญมาเพื่อเลื่อนระดับพลังไปสู่ระดับที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น หลังจากใช้งาน ตัวละครที่ใช้จะถูกยกระดับพลังภายในสามเดือน

ข้อจำกัด : การ์ดเลื่อนระดับพลัง ในปัจจุบัน เป็นระดับต่ำสุด สามารถใช้ปรับปรุงความแข็งแกร่งของ ตัวละครที่มีพลังระดับต่ำกว่าขั้นเชื่อมจิตวิญญาณได้เท่านั้น

ข้อแนะนำ : ตัวละครในปัจจุบัน มีเพียง ฮวามู่หลาน เท่านั้น ที่มีระดับพลังอยู่ในเกณฑ์ โฮสต์ ต้องการยกระดับพลังของ ฮวามู่หลานหรือไม่?

รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ ลู่เฟิง ระบบ ยังคงมีของดีเช่นนี้อยู่ ก่อนหน้านี้ เขากังวลว่าความแข็งแกร่งของ มู่หลาน จะต่ำเกินไป แต่ไม่คิดเลยว่า จะมีสิ่งนี้ที่ช่วยเหลือปัญหานี้ได้

“ใช้มันปรับปรุงความแข็งแกร่ง มู่หลาน ของฉัน!”

“ติ๊ง การ์ดเลื่อนระดับพลัง ถูกใช้สำเร็จ ตัวละครอัญเชิญ ฮวามู่หลาน จะยกระดับถึงระดับ 6 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ ภายในระยะเวลาสามเดือน!”

เยี่ยมมาก!

ลู่เฟิง รู้สึกพึงพอใจกับของสิ่งนี้ ในอีกสามเดือน มู่หลาน จะยกระดับพลังไปถึงระดับ 6 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ ซึ่งมันสูงกว่าเขาถึงสามระดับย่อย

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สนใจ เพราะความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างเพิ่มพูนในตอนหลัง

“ระบบ ฉันต้องการใช้โอกาสอัญเชิญสุดท้าย”

“ติ๊ง กำลังดำเนินการ”

“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ได้รับ หนังสือทิเบตระดับต่ำ”

“หนังสือทิเบตระดับต่ำ : ภายในบันทึกเทคนิคฝึกฝนร่างกาย 50 แบบ เทคนิคฝึกฝนพลังปราณ 50 แบบ หากสามารถฝึกฝนได้ครบ จะสามารถดึงศักยภาพพลังเพิ่มขึ้นมาอีก 50 %”

“เชี่ย ของโครตดี!”

ดวงตาของลู่เฟิงสว่างวาบขึ้น หนังสือทิเบต นี้วิเศษมาก

ในอดีต เหตุผลที่ นิกายหยุนกง สามารถขึ้นเป็นหนึ่งในนิกายที่แข็งแกร่งได้ก็เพราะทักษะการฝึกฝนที่มีเฉพาะของนิกายตัวเอง มันสามารถช่วยให้คนธรรมดา สามารถเรียนรู้การฝึกฝน และ เพิ่มความแข็งแกร่งได้

อีกอย่างจะต้องรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความลับสูงสุดของนิกาย ผู้ที่ได้รับการฝึกฝนจากนิกายที่มีหนังสือทักษะเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ได้รับความโดดเด่นทั้งสิ้น

เช่นเดียวกับ ตระกูลชนชั้นสูงในอาณาจักรหนานหยาน เหตุผลที่พวกเขากล้าต่อต้าน ลู่เฟิง เป็นเพราะสถานะของพวกเขาสามารถส่ง ลูกหลานไปฝึกฝนที่นิกายต่าง ๆ ได้ ซึ่งแตกต่างจากลู่เฟิง ที่เป็นคนของราชวงศ์เพียงคนเดียว

เขาได้อาศัยอยู่ภายในอาณาจักรหนานหยาน และ ถึงแม้อาณาจักรหนานหยาน จะมีทรัพยากรมากขนาดไหน มันก็ยังเป็นแค่ประเทศระดับล่าง ไม่มีทางที่ราชวงศ์ของประเทศระดับล่างจะเหนือไปกว่านิกายที่ทรงพลังได้

หาก ลู่เฟิง ไม่มีการช่วยเหลือจาก พวก เจี๋ยสวี่ หรือ คนอื่น ๆ เขาก็ไม่มีทางต่อต้านตระกูลชนชั้นสูงเหล่านี้ได้เลย

โชคดีที่ตอนนี้ เขามีหนังสือทิเบต เขาสามารถเผยแพร่สิ่งนี้เพื่อผูกขาดตระกูลชนชั้นสูงเหล่านี้ได้

ภายในมี เทคนิคฝึกฝนร่างกาย 50 แบบ และ 50 แบบ เทคนิคการฝึกฝนพลังปราณ แค่สิ่งนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้นักรบหลายคนคลั่งจนแทบบ้าแล้ว

“ตอนนี้ความกังวลของฉันก็ได้รับการแก้ไขแล้ว”

ลู่เฟิง ได้ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้า แม้ว่าเขาอยากจะจัดการกับตระกูลชนชั้นสูงของอาณาจักรหนานหยาน แต่เขาก็กังวลอีกปัญหานึง เนื่องเพราะท้ายที่สุดคนเหล่านี้ก็คือรากฐานของอาณาจักรหนานหยาน

ตอนนี้ เขามี หนังสือทิเบต เขาสามารถผูกมัดตระกูลเหล่านี้ให้ภักดีต่ออาณาจักรและกลายเป็นขุมพลังให้ได้

“ระบบฉันรู้สึกชอบคุณมากขึ้นเรื่อย ๆ หากเป็นไปได้ ฉันอยากจะหาคู่ให้กับคุณเป็นระบบอีกสองสามระบบคุณน่าจะชอบมันนะ!”

“…”

ระบบไม่ได้ตอบกลับ

“รายงาน!”

ในเวลานี้ จินยี่เหว่ย ได้มาหา ลู่เฟิง

“ว่ามา!”

“ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพลิโป้ แม่ทัพฉู่ กลับมาแล้ว พวกเขายังพาแม่ทัพหนุ่มที่ถูกบอกว่าเป็นคนสังหาร กานฉวน มาด้วย!”

“โอ้ว,ให้พวกเขาเข้ามา!”ลู่เฟิง อยากรู้อยากเห็นว่า แม่ทัพหนุ่ม ที่ลิโป้ พามาด้วยเป็นใคร

หลังจากนั้นไม่นาน ลิโป้ ก็มาถึงเบื้องหน้าของ ลู่เฟิง

“ข้าน้อย ลิโป้!”

“ข้าน้อย ฉู่ต้าเหว่ย!”

“ข้าน้อย เตียวอุ๋น!’

“ถวายบังคมฝ่าบาท ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน!”

ลู่เฟิง ไม่ได้ตอบ เขาจ้องมองไปที่แม่ทัพหนุ่มข้างหลังลิโป้และกล่าวถาม”เมื่อครู่ เจ้าบอกว่าเจ้าชื่ออะไรนะ?”

“ข้าน้อย นามสกุล เตียว แซ่ อุ๋น ถวายบังคมฝ่าบาท!”เตียวอุ๋น รีบตอบกลับ

ในขณะเดียวกัน ก็มีท่าทีประหลาดใจของ ลู่เฟิง ซึ่งทำให้ เตียวอุ๋น รู้สึกแปลกใจ เป็นไปได้หรือไม่ว่าฝ่าบาทจะรู้จักเขา หรือ ว่า ไม่พอใจเขากัน

เตียวอุ๋น!

ลู่เฟิง ตกใจ และ รีบกล่าวถามระบบทันที”ระบบ เตียวอุ๋น ใช่ตัวละครรอง ที่มีนามสกุลว่า เตียว ใช่หรือไม่?”

“ติ๊ง ถูกต้อง เป็น เตียวอุ๋น!’

ฮ่าฮ่า ที่แท้ก็เป็นเขา!

ลู่เฟิง รู้สึกมีความสุขมาก ท้ายที่สุดแล้ว เตียวอุ๋นก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงมากทีเดียว

เตียวอุ๋น ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในห้าแม่ทัพยอดเยี่ยมที่สุดภายใต้เงื้อมมือของโจโฉ

จากการประเมินของ โจโฉ ที่มีต่อ เตียวอุ๋น หากเขาไม่ได้ ถึงแก่กรรมด้วยอาการเจ็บป่วย ล่ะ ก็ในอนาคตย่อมกลายเป็นขุนศึกฟ้าสะท้านอย่างแน่นอน

แม้แต่ ศัตรู อย่าง หลิวเป่ย ก็ยังมีการประเมินตัวเขาไว้สูงมากเช่นเดียวกัน

นี่สามารถจินตนาการได้ว่า เตียวอุ๋น แข็งแกร่งขนาดไหน

แต่ในอีกด้านนึงของ วรรณกรรมสามก๊ก ล่อกวนตง ได้กล่าวไว้ว่าก่อนเกิด ศึกผาแดง ใน ค.ศ. 208 โจโฉได้สั่งประหารเตียวอุ๋นซึ่งเป็นแม่ทัพเรือของวุยก๊กพร้อมกับ ชัวมอ แม่ทัพเรืออีกคนหนึ่งตามแผนของ จิวยี่ แม่ทัพใหญ่ของ ง่อก๊ก อันนำไปสู่ความพ่ายแพ้อย่างยับเยินของโจโฉในสงครามครั้งนั้น

ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่โต้เถียงกันยากในอดีตของประวัติศาสตร์

น่าเสียดายที่การตายนั้นคลุมเครือเกินไป

เขาไม่คิดเลยว่า แม่ทัพนามสกุลเตียว แท้จริงแล้วจะเป็น เตียวอุ๋น

เขาได้คลิกข้อความของ เตียวอุ๋นทันที

เตียวอุ๋น :แม่ทัพที่มีชื่อเสียงในยุคสามก๊ก เก่งกาจในการควบคุมเหล่าทัพอย่างชาญฉลาด มีความสามารถในการใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์ทั้งยังทำหน้าที่ได้ดีในฐานะผู้บัญชาการทหาร

เผ่าพันธุ์ : มนุษย์

ระดับพลัง : ระดับ 1ขั้นจักรพรรดิ (เนื่องจากข้อจำกัดของระบบ ระดับพลังในปัจจุบันคือ ระดับ 7 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ โฮสต์ต้องอัพเกรดขั้นอาณาจักรพลังใหญ่ เพื่อปลดล็อคขั้นพลังย่อยทั้งห้าของตัวละคร)

ความภักดี : 89

การตั้งค่าตัวละคร : เตียวอุ๋น เป็นบุตรชายคนที่สองของ เตียวเฮยฉี ผู้พิทักษ์เมืองผิงกวง เมื่อเขายังเด็กเขาได้ออกเดินทางไปเข้าสำนักร้อยก๊ก ในหยูโจว เพื่อศึกษาร่ำเรียน เขาเพิ่งกลับมาที่เมืองผิงกวนเมื่อหนึ่งเดือนก่อน

“ไม่เลวเลย!”

ลู่เฟิง พอใจกับความแข็งแกร่งของ เตียวอุ๋น อย่างมาก นักรบระดับ 7 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ ทั้งยังมีความภักดีมากกว่า 89

นอกจากนี้ เตียวอุ๋น ยังเป็นบุตรชายคนที่สองของ จางเฮยฉี แม่ทัพเฒ่าของเมืองผิงกวง ความภักดี 98 นี้แสดงให้เห็นว่า คนในเมืองผิงกวงส่วนใหญ่ไม่ได้ต่อต้านเขา

ลิโป้ มองไปที่ ลู่เฟิง อย่างระวัง เขารู้สึกว่า ลู่เฟิงกำลังสนใจในตัวของ เตียวอุ๋น ดังนั้นเขาจึงได้พูดขึ้น”ฝ่าบาท หากไม่ใช่เพราะ การปรากฏตัวของ แม่ทัพเตียว ในครั้งนี้ เกรงว่า กานฉวน คงจะหลบหนีไปได้สำเร็จ”

ลู่เฟิง รู้ดีว่า ลิโป้ กำลังหมายถึงอะไร”เตียวอุ๋น ข้าเองก็พอได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามาบ้างเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทำหน้าที่ในฐานะแม่ทัพคนนึงได้ดีเยี่ยมเช่นนี้”

เมื่อ เตียวอุ๋น ได้ยิน เขาก็แปลกใจ ฝ่าบาท รู้จักเขาได้อย่างไร?

เขาเดินทางตั้งแต่ยังเด็ก และ เพิ่งกลับมาเมื่อไม่นานมานี้ แม้แต่ บิดาของเขา ยังไม่รู้ว่า เขามีความสามารถอะไร แต่ฝ่าบาททรงทราบได้อย่างไร?

เมื่อมองดูรูปลักษณ์ของ ลู่เฟิง มันไม่ได้มาจากคำโกหก นั่นเป็นใบหน้าของความมั่นใจ

นี่ทำให้เขารู้สึกเคารพจักรพรรดิลู่เฟิงเพิ่มขึ้น ค่าความภักดีของเขาได้เพิ่มขึ้นอีก สามแต้ม