หลังจากเล่นกับถังลี่เสวี่ยสักพัก จากนั้นเขาก็ปรุงเนื้อย่างอร่อยๆ ให้เธอ และไปทำการฝึกฝนแบบปิดในห้องลับ

ดูเหมือนว่า ‘วิธีที่เร็วที่สุดสำหรับผู้ฝึกฝนในการพัฒนาตนเองคือผ่านประสบการณ์ชีวิตและความตาย’ มันไม่ใช่เรื่องโกหก เนื่องจากเสี่ยวเฮยมีการฝึกฝนที่ดีขึ้นทุกครั้งที่เขาฟื้นจากบาดแผลร้ายแรง อย่างเช่นตอนนี้ หรือในป่าแสงจันทร์ก่อนหน้านี้

ถังลี่เสวี่ยไม่ต้องการเสียเวลาของเธอไปกับการเดินเล่นรอบ ๆ ดังนั้นเธอจึงไปฝึกทักษะการแทรกซึมทั้งหมดของเธอเพื่อให้ถึงระดับเชี่ยวชาญเร็วขึ้น

แต่เมื่อเธอไปลาดตระเวนรอบ ๆ ลานบ้านของเสี่ยวเฮยแล้ว เธอสังเกตคนหนึ่งในจำนวนคนของเสี่ยวเฮยที่ทำตัวค่อนข้างน่าสงสัย

ใช่ และเขาเป็นหนึ่งในคนที่ดูแลเสี่ยวเฮยเมื่อคืนนี้ นั้นก็คือ เฟิงเอ๋อ!

ถังลี่เสวี่ยขมวดคิ้ว ขณะที่เธอตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่าจะติดตามเฟิงเอ๋อ ในขณะที่เธอยังอยู่ในโหมดซ่อนตัวและทักษะการแทรกซึมทั้งหมดของเธอ!

เธอเปิดใช้ทักษะการแทรกซึมทั้งหมดของเธอ รวมไปถึงทักษะ [ลักลอบ] อย่างต่อเนื่องเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว และเธอก็เปิดใช้งานมันอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาระดับความแข็งแรงของเธอเอาไว้ด้วย

เฟิงเอ๋อนั้นระมัดระวังตัวมากเช่นกัน เขาตรวจสอบรอบๆ ตัวของเขาหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามเขาไป จากนั้นเริ่มเร่งฝีเท้า แต่ไม่ว่าเขาจะระมัดระวังแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางรู้ว่ามีจิ้งจอกที่มองไม่เห็นกำลังติดตามเขาไปอยู่

‘น่าสงสัยจริงๆ! เสี่ยวเฮยให้เขาไปส่งข้อความลับอย่างงั้นหรอ หรือเขา… ยังไงก็ตาม ฉันจะตามเขาไปตอนนี้! ฉันจะหาคำตอบให้ได้!’

อย่างไรก็ตามเฟิงเอ๋อนี้ไม่เพียงแต่ฉลาด แต่ยังระมัดระวังอย่างมากด้วย! เขายังเลี้ยวหลายรอบทุกมุมเกือบทำให้ถังลี่เสวี่ยหลงทาง

ถังลี่เสวี่ยกัดฟันด้วยความโกรธ เธอเริ่มคิดใหม่ว่าควรตามเฟิงเอ๋อต่อไป หรือยอมแพ้ เพราะผู้ชายคนนี้ไวมาก! เธอคงจะตามเขาไปไม่ทัน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป!

‘ฉันตามเขาไปทุกวิถีทาง! ฉันจะยอมแพ้ครึ่งทางแบบนี้ได้ยังไงกัน!’

ถังลี่เสวี่ยเปิดหน้าต่างรายการทักษะของเธอ และซื้อทักษะที่มีประโยชน์หลายอย่างเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของเฟิงเอ๋อ

[คุณได้รับความสามารถในการมองเห็นที่มากขึ้น!]

[คุณได้รับความสามารถในการได้กลิ่นที่มากขึ้น!]

[คุณได้รับความสามารถในการได้ยินที่มากขึ้น!]

ด้วย [การได้กลิ่นที่มากขึ้น] จมูกของ ถังลี่เสวี่ยนั้นดีกว่าสุนัขมากในตอนนี้! การติดตามเฟิงเอ๋อด้วยกลิ่นของเขาที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในอากาศตอนนี้กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอแล้ว!

[การได้ยินที่มากขึ้น] ทำให้หูจิ้งจอกของถังลี่เสวี่ยเฉียบคมจนเธอได้ยินเสียงฝีเท้าของเฟิงเอ๋อที่แทบจะไม่ได้ยิน!

ไม่ต้องพูด [การมองเห็นที่มากขึ้น] ทำให้ถังลี่เสวี่ยสามารถเห็นการเคลื่อนไหวของเฟิงเอ๋อได้อย่างชัดเจน!

ด้วยทักษะใหม่ทั้งหมดนี้ ถังลี่เสวี่ยสามารถค้นหาเส้นทางของเฟิงเอ๋อ ได้อย่างง่ายดาย และติดตามเขาจากระยะไกลอย่างเงียบ ๆ!

อย่างไรก็ตามถังลี่เสวี่ยประหลาดใจอีกครั้งกับความระมัดระวังของเฟิงเอ๋อ บางครั้งเขาก็หยุดและซ่อนอยู่หลังอาคารขนาดใหญ่ ในขณะที่ถือกริชพิษอยู่ในมือพร้อมที่จะฆ่าคนสะกดรอยตามเขามา

ในความเป็นจริง ถ้าถังลี่เสวี่ยไม่มีทักษะการแทรกซึมทั้งหมดรวมถึงทักษะ [ลักลอบ] ของเธอ เธอคงจะโดนเฟิงเอ๋อจับได้ไปแล้ว

โชคดีที่ถังลี่เสวี่ยมองไม่เห็นเธอ และไม่สามารถพบร่องรอยใดๆ จากการติดตามของเธอได้ ดังนั้นเขาจึงค่อยๆลดความระมัดระวังลง

ด้วย [การมองเห็นที่มากขึ้น] ของเธอ ถังลี่เสวี่ยสามารถมองเห็นเฟิงเอ๋อให้กระดาษแผ่นเล็ก ๆ แก่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนที่ออกจากห้องน้ำอย่างลับๆ เมื่อพวกเขาเดินผ่านกัน จากนั้นทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ต่างกันโดยที่ทำเหมือนไม่รู้จักกันเลย

‘บ้าเอ้ย! แล้วตอนนี้ฉันควรตามใครดีล่ะ ระหว่างเจ้าหน้าที่ลาดตระเวร หรือเฟิงเอ๋อ?’

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ถังลี่เสวี่ยตัดสินใจตามเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนแทน! เพราะเธออยากรู้จริงๆ ว่ากระดาษแผ่นเล็กๆ นั้นจะจบลงที่ใด!

เป็นอีกครั้งที่ถังลี่เสวี่ยเริ่มต้นการเดินทางเพื่อสะกดรอยตาม!

จากเฟิงเอ๋อไปยังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน…

จากเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนสู่ลูกศิษย์ที่ผ่านไป…

จากศิษย์คนนั้นสู่คนรับใช้ที่กวาดพื้น…

‘นี่มันอะไรกันเนี่ย! นี่เป็นเหมือนเครือข่ายข้อมูลนิกายในนวนิยายหรือภาพยนตร์ใช่ไหม!’

หลังจากที่คนรับใช้คนนั้นกวาดพื้นเสร็จแล้ว เขากำลังมุ่งหน้าไปยังที่เก็บอาหารแล้วนำรถเข็นใส่ส่วนผสมอาหารไปที่ห้องครัว

ถังลี่เสวี่ยที่ยืนอยู่ใกล้คนรับใช้คนนั้นเสมอตระหนักว่าเขาใส่กระดาษแผ่นเล็ก ๆ นั้นเข้าไปในกะหล่ำปลีก่อนที่จะโยนมันเข้าไปในรถเข็น

ในห้องครัว ส่วนผสมอาหารทั้งหมดจะถูกทำเป็นอาหารที่เหมาะสม ถังลี่เสวี่ยดูกะหล่ำปลีอีกครั้งและเห็นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ อยู่ข้างใน

‘ฉันควรเอากระดาษแผ่นนั้นไปส่งให้เสี่ยวเฮยเพื่อเป็นหลักฐานหรือไม่? ไม่… มันจะทำให้คนเหล่านั้นรู้ก่อน ถ้าหากกระดาษมันหายไปอย่างกะทันหัน! มันจะดีกว่าถ้าฉันเห็นมันก่อนว่ากระดาษชิ้นนี้จะไปถึงไหนในที่สุด… หลังจากนั้น… เอาละ หลังจากนั้นฉันจะคิดอีกทีแล้วกัน…’

และเมื่อเขาจะหั่นกะหล่ำปลี เชฟก็เอากระดาษแผ่นเล็กๆ ออกมาแล้วซ่อนไว้ในแขนเสื้ออย่างเงียบๆ ในท้ายที่สุด หลังจากที่เขาเตรียมอาหารทั้งหมดเสร็จแล้ว เขาก็หยิบตะเกียบออกมา…

เชฟดึงตะเกียบหนึ่งอันออกเป็นสองอันแล้วยัดกระดาษแผ่นเล็กๆ เข้าไปในรูเล็กๆ ข้างในตะเกียบ ก่อนที่เขาจะรวมมันกลับเป็นอันเดียวเหมือนก่อนหน้านี้

‘แม่เจ้า! ตะเกียบก็มีฟังก์ชั่นแบบนี้ด้วยหรอ! ซ่อนข้อความลับเนี่ยนะ?!’

ถังลี่เสวี่ยไม่รู้ว่ารูเล็กๆ ภายในตะเกียบนี้อาจจะเต็มไปด้วยพิษร้ายแรง! เมื่อมีคนใช้ตะเกียบอันนั้น พิษร้ายที่อยู่ข้างในจะถูกขับออกจากปลายตะเกียบไปยังอาหารที่มันสัมผัสอย่างลับๆ!

ลองนึกภาพถ้าอาหารทั้งหมดได้รับการยืนยันแล้วว่าสะอาดปราศจากพิษ แล้วจะมีใครยืนยันว่าตะเกียบที่เขาจะใช้นั้น ปลอดจากพิษด้วยรึเปล่า? ไม่มีอยู่แล้ว!

แต่เคล็ดลับเล็ก ๆ นี้จะไม่มีประโยชน์สำหรับคนอย่างเสี่ยวเฮยที่รู้กลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่บ้างแล้ว

น่าเสียดายที่ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าตะเกียบชนิดนี้สามารถใช้ส่งจดหมายลับแบบนี้ได้เช่นกัน!

คนใช้หลายคนหยิบอาหารทั้งหมดที่เชฟเตรียมไว้แล้วด้วยถาดหลายถาด แล้วพวกเขาก็ออกจากครัว

ถังลี่เสวี่ยตามคนรับใช้หลายคนอย่างเงียบ ๆ ด้วยทักษะการแทรกซึมทั้งหมดของเธอรวมทั้ง [ลักลอบ] ของเธอก็เปิดใช้งานอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งคนใช้ทั้งหมดเข้าไปในลานใหญ่ที่มีสระปลาคาร์พสีทอง และประดับด้วยต้นไม้ที่สวยงาม

ถังลี่เสวี่ยต้องการตามพวกเขาและเข้าไปด้วยแต่สัญชาตญาณของเธอบอกให้เธอหยุด ดังนั้นเธอจึงหยุดโดยสัญชาตญาณ ในขณะที่มองไปที่ประตูด้วยสายตาของเธอที่เสริมความสามารถแล้ว

ร่างกายของถังลี่เสวี่ยสั่นเล็กน้อย ขณะที่เธอรู้สึกว่าเหงื่อเย็นของเธอเริ่มไหลออกมาจากหน้าผาก เมื่อเธออ่านป้ายชื่อเหนือทางเข้าบ้านหลังใหญ่

โม่ ชองหลิน เรสซิเด้นซ์

‘ไม่จริงน่า! นี่มันบ้านของคนอ้วนหัวล้านไม่ใช่เหรอ! ถ้าอย่างนั้นเฟิงเอ๋อคือ… ผู้ทรยศอีกคนสินะ!’