นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 1 ไม่อยากแต่งงานและก็ไม่ต้องฆ่าตัวตาย
ตอนเย็นหลังจากเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง คนในหมู่บ้านต้าสือล้วนมานั่งเพลิดเพลินอยู่ใต้ร่มเงาต้นพลับพลา พูดคุยนินทาคนอื่นอยู่ตรงนั้น
“กุ้ยหลานสาวแก่อายุสิบแปดของตระกูลโจวจะแต่งงานแล้ว ไม่รู้ว่าแต่งงานกับใคร”
“เป็นนายพรานที่พาลูกชายวัยสองขวบของเขาไปอาศัยอยู่บนภูเขาเมื่อหนึ่งปีที่แล้วไง แลกกับหมูป่าตัวโตหนึ่งตัว”
“ไอหยา ผู้หญิงที่ดีคนหนึ่งทำไมถึงถูกท่านแม่ของนางปล่อยทิ้งไว้จนกลายเป็นสาวแก่ ยังจะต้องไปเป็นท่านแม่เลี้ยงคนอื่นอย่างกะทันหัน ข้าได้ยินมาว่านายพรานคนนั้นเมื่อก่อนเคยฆ่าคน พวกเจ้าดูท่าทีน่าหวาดกลัวของเขานั่นสิ”
ภายในป่าลึก กระท่อมไม้ที่เงียบโดดเดี่ยว มีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่ บนตัวสวมชุดเสื้อคลุมสีแดงตัวเก่า ตัวผอมผิวหน้าเหลือง
ชายร่างกำยำคนหนึ่งถือถ้วยข้าวต้มมา หยิบช้อนขึ้นมาแล้วป้อนผู้หญิงคนนั้น หญิงสาวคนนั้นราวกับฝันร้าย มือโบกสะบัดไปมา
โจวกุ้ยหลานลืมตา มองเห็นผู้ชายตรงหน้า แล้วก็เอื้อมมือจะไปต่อยหน้าผู้ชายคนนั้นอย่างแรง ผู้ชายจับแขนเรียวของนางไว้อย่างคล่องแคล่ว แล้วก็กดลงไปบนเตียง
หญิงสาวตื่นตระหนก รีบใช้มืออีกข้างดิ้นรน ชายคนนั้นใช้แขนที่ถือถ้วยกดนางไว้ ใบหน้าทั้งสองคนแนบชิดกัน ลมหายใจของผู้ชายคนนั้นรดบนใบหน้าของนาง สัมผัสที่อบอุ่นทำให้จิตใจนางกระสับกระส่าย
“อันธพาล รีบปล่อยข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะไปฟ้องเจ้า”
โจวกุ้ยหลานดิ้นรน ในใจตื่นตระหนก
นางประสบอุบัติเหตุจนตายแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้ถึงนอนอยู่บนเตียง บนตัวยังมีผู้ชายคนหนึ่ง?
ในขณะที่กำลังคิดอยู่ เริ่มปวดหัวขึ้นมา นางหลับตาทนไม่ไหว แล้วความทรงจำที่ไม่ใช่ของนางก็พุ่งขึ้นมา
หลายวันก่อน สวีฉางหลินแบกหมูป่าตัวใหญ่วิ่งไปสู่ขอนางที่บ้าน ท่านแม่ของเจ้าของเดิมรีบตอบตกลงทันที เจ้าของเดิมไม่อยากเป็นท่านแม่เลี้ยงใครจึงเอาหัวชนขอบประตูจนตายอย่างจนใจ
ท่านแม่ของเจ้าของเดิมก็เป็นคนมีความสามารถ ที่สามารถแบกเอาตัวเจ้าของเดิมมายังบนเขาได้ในวันนั้น
หลังจากรับรู้ความทรงจำทั้งหมดแล้ว โจวกุ้ยหลานรีบจัดการข้อมูลในหัวสมองอย่างรวดเร็ว นางข้ามภพมา? แล้วคืนนี้ก็เป็นวันเข้าห้องหอของนาง?
ไม่ได้ไม่ได้ ไม่ได้อย่างเด็ดขาด นางจะถูกผู้ชายคนนี้ย่ำยีไม่ได้
ในขณะที่กำลังคิดอยู่ มือของตนทั้งสองข้างที่ถูกทับไว้ถูกปลดปล่อย นางรีบลืมตาขึ้น แล้วก็สบสายตาเย็นยะเยือกของผู้ชาย
สวีฉางหลินขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ขืนใจเจ้าหรอก ไม่อยากแต่งงานก็ไม่ต้องฆ่าตัวตาย”
เสียงนี้…..ราวกับเสียงเทพบุตร
โจวกุ้ยหลานถูกเสียงของสวีฉางหลินสยบทันที ดวงตาทั้งคู่เบิกโตขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว นิ่งจ้องมองดูผู้ชายตรงหน้า
รูปลักษณ์แข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยว หน้าตาคมได้รูป ยังมีหุ่นที่สามารถมองเห็นผ่านเสื้อผ้านี้ ระดับเทพบุตรเลยทีเดียว
ในขณะที่กำลังชื่นชมอยู่ในใจ ก็ได้ยินเสียงเจ้าก้อนน้อยพูดขึ้นว่า “พ่อ…..”
โจวกุ้ยหลานใช้แรงทั้งหมดที่มีหันหน้าไปจากใบหน้าผู้ชายคนนั้น หันไปดูที่มาของเสียง แล้วก็เบิกตาโตขึ้นมาอีกครั้ง
เจ้าก้อนน้อยน่ารักมาก ดวงตาดำเหมือนนิล ร่างกายอ่อนนุ่ม สายตาที่มองดูนางแฝงไปด้วยความกลัวคนแปลกหน้า ทำให้หัวใจดวงน้อยของนางสั่นไหว
นี่เท่ากับได้ครอบครองสามีรูปงามอย่างไร้ที่ติ กับเจ้าก้อนน้อยน่ารักคนหนึ่ง
“ไม่ไป ยังไงข้าก็ไม่ไป”
เพิ่งมาถึงโลกนี้เอง นางไม่มีเงิน และก็ไม่มีที่พัก ที่นี่มีชายรูปงามกับเจ้าก้อนน้อยน่ารัก นางไม่ไปไหนอย่างแน่นอน
โจวกุ้ยหลานเอื้อมมือไปหาเจ้าก้อนน้อย ลูบคลำไปมาบนใบหน้าของเขา ความรู้สึกที่นุ่มลื่นนั้น ทำให้นางถอนหายใจ สัมผัสนุ่มรู้สึกดีอย่างมาก
“ต่อไป ข้าก็คือท่านแม่ของเจ้าแล้วนะ ว่าง่าย เรียกท่านแม่สิ”
เจ้าก้อนน้อยไปหลบอยู่ข้างหลังสวีฉางหลิน
โจวกุ้ยหลานชักมือกลับ ในขณะที่กำลังคิดอยู่ว่าจะปลอบเจ้าก้อนน้อยยังไง ท้องของนางก็ร้องขึ้นมาอย่างหิวโหยว่า
นางส่ายหัวอย่างไม่รู้จะทำยังไง อยากพูดอะไรเพื่อปกปิด สวีฉางหลินที่อยู่ด้านข้าง ยื่นถ้วยข้าวต้มให้กับนาง
โจวกุ้ยหลานยิ้มหัวเราะ รับถ้วยข้าวต้มมา หยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวต้มใส่ปาก เจ้าก้อนน้อยที่นั่งอยู่บนเตียงจ้องมองดูข้าวต้มในถ้วยโจวกุ้ยหลาน แล้วก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
สัมผัสได้ถึงสายตาของเจ้าก้อนน้อย นางตักโจ๊กขึ้นมาหนึ่งช้อน แล้วยื่นไปตรงหน้าเจ้าก้อนน้อย
เจ้าก้อนน้อยแอบเหลือบมองพิจารณาดูโจวกุ้ยหลาน แล้วก็หันไปมองสวีฉางหลิน
“ท่านแม่ให้เจ้ากินด้วย กินสิ”
โจวกุ้ยหลานยิ้มแย้ม ผิวที่ซีดเหลืองแทบจะฉีกขาด
เจ้าก้อนน้อยแทบจะทำให้ใจนางละลาย หากสามารถทำให้เขาเรียกนางว่าท่านแม่ได้ แบบนั้นคงจะมีความสุขอย่างมาก
เจ้าก้อนน้อยลังเลสักพัก ลองขยับเข้าไป ปากอันน้อยนิดยื่นไปกินข้าวต้มในช้อนนั่น
มีท่านแม่นี้ดีจริงๆ….
ใบหน้าน้อยขาวผ่องแก้มอันอ่อนนุ่มของเจ้าก้อนน้อยแดงระเรื่อ ทำให้โจวกุ้ยหลานอยากที่จะอุ้มขึ้นมาแล้วก็จูบสองที
ทั้งสองคนแบ่งข้าวต้มให้กันเสร็จแล้ว โจวกุ้ยหลานลูบหัวเจ้าก้อนน้อยอีกครั้ง เส้นผมนุ่มนิ่มทำให้จิตใจของนางยิ่งอ่อนนุ่ม
นางถือถ้วยเปล่า แล้วกำลังจะลงมาจากเตียง สวีฉางหลินรับเอาถ้วยของนางเดินเอาไปวางบนโต๊ะ จากนั้นก็เริ่มถอดเสื้อผ้า
โจวกุ้ยหลานพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า “เจ้า เจ้าจะทำอะไร?”