ณ หอโทคิวะได คุณหนูทั้งหลายไม่ได้รู้ตัวเลยว่าขณะที่พวกเธอกำลังคุยกันว่าเครื่องสำอางแบบไหนดีที่สุด หรือเสื้อผ้าไหนสวย คนที่พวกเธอรักและเทิดทูนที่สุด โชคุโฮ มิซากิ ก็กำลังโดนคนที่พวกเธอเรียกว่า ขยะ กัดกินอย่างเอร็ดอร่อย……

 

สงครามยังคงดำเนินต่อไปสภาพภายในห้องกับนอกห้องนั่นช่างแตกต่างราวกับอยู่คนล่ะโลก

 

ที่แตกต่างก็คือข้างนอกนั่นเงียบสงบแต่ข้างในห้องกลับเต็มไปด้วยกลิ่นแปลกและเสียงครางอันมีเสน่ห์ที่ชวนให้คนได้ยินรู้สึกหัวใจเต้นตึกตัก…….

 

ในเวลานี้ควีนซามะได้เลิกต่อต้านแล้ว เธอนอนไปกับเตียงโดยที่มือทั้งสองจับผ้าปูที่นอนแน่น บนใบหน้าเธอปรากฏความสุขที่สุดอยู่บ่อยครั้งพร้อมทั้งเสียงครางที่มาจากปากเธอ……..

 

ร่างกายสั่นไหวโยกไปมาไม่หยุด แน่นอนว่านี่ย่อมทำให้หน้าอกโตๆของเธอแกว่งไปมาด้วย ทุกครั้งที่มันแกว่งเอก็จะครางออกมาอย่างรุนแรง…..

 

ส่วนตัวการที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ก็มาจากหมาป่าด้านหลังที่กำลังคุกเข่ามือทั้งสองจับเอวแล้วเคลื่อนสะโพกอย่างรวดเร็ว!

 

“อื้ออ~ ~ ~”

 

โชคุโฮทำได้เพียงแค่คล้อยตามเหมือนเรือลำเล็กๆท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำ ซึ่งมีท่าทีว่าจะทนไปได้อีกไม่นานแล้ว…….

 

มิซากิไม่ได้รู้ตัวเลยว่ารูปร่างอันยั่วนวนและหน้าอกที่แกว่งไปมาของเธอมันได้กระตุ้นคนด้านหลังขนาดไหน ผลคือเธอต้องทนรับพายุที่โหมกระหน่ำรุนแรงกว่าเก่า……

 

หยาดเหงื่อหยดแล้วหยดเล่าได้ไหลออกมาจากผิวหนังเนียนนุ่มที่บัดนี้ได้ขึ้นสีชมพูของมิซากิ ทุกครั้งที่มีเหงื่อออกมาก็จะมีกลื่นแปลกแต่หอมหวานลอยออกมาจากรูขุนขนของเธอมาปะปนกับอากาศในห้องด้วย ทำให้ชายหญิงทั้งคู่คึกคักกว่าเก่าชนิดที่ว่าถึงอยากหยุดก็หยุดไม่ได้แล้ว

 

แน่นอนว่าเมื่อเหงื่อออกมาตามตัวได้ชั่วครู่พวกมันก็ไหลไปตามสัดส่วนน่าหลงใหลของเธอก่อนจะหยดลงบนผ้าปูเตียง นี่จึงทำให้ตอนนี้ผ้าปูเปียกแฉะไปหมด……

 

ทว่าความชื่นนี่ไม่เพียงแต่ไม่ทำให้ทั้งสองรู้สึกไม่สบายตัวกลับกัน พวกเขารู้สึกว่ามันยังไม่มากพอ!

 

และนี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่วู่หยานทุ่มสุดตัวกระแทกไม่ยั่ง!

 

เหตุผลอย่างอื่นก็คือตอนที่เขากระแทก มิซากิก็จะเปล่งเสียงครางอันเย้ายวนที่ขนาดพระได้ยินยังต้องตบะแตก!

 

ชั่วขณะนึง ร่างกายมิซากิก็หดเกร็ง มือที่จับผ้าปูก็ออกแรงกำมากกว่าเดิม และตรงเท้าก็เริ่มบิดไปมา ความรู้สึกที่ไม่รู้จักได้ก่อตัวขึ้นภานในร่างกายมิซากิอย่างรวดเร็ว

 

มิซากิไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่เธอรู้สึกในปั่นปวน มิซากิรีบหันไปหาวู่หยานแล้วพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำชุ่มชื่นด้วยเหงื่อว่า

 

“…..เดี๊ยว…..”

 

ลมหายใจวู่หยานขาดช่วงไปเมื่อเห็นใบหน้ามิซากิ เจ้าตัวไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองมีเสน่ห์แค่ไหนด้วยสีหน้าแดงๆและนัยน์ตาที่เปียกชื้นนั่น

 

วู่หยานหอบหายใจถี่รัว เขาไม่หยุดตามคำขอเธอ แต่เร่งความเร็วกระแทกหนักกว่าเดิม!

 

แรงกระแทกอันรุนแรงได้ทำให้มิซากิครางออกมาทันที เธอรู้สึกได้ว่ายิ่งเขาทำมากเท่าไหร่บางอย่างในตัวเธอก็จวนจะแตกออกมาเท่านั้น ไม่นานนักมิซากิก็เงยหน้าขึ้นร้อง

 

“อื้อออ!!!”

 

ราวกับเสียงคร่ำครวญ เสียงร้องเธอดังก้องไปทั่วทั่งห้อง แม้แต่ประตูก็ไม่อาจป้องกันเสียงเธอได้หมด…….

 

ถ้าในเวลานี้มีคนเดินผ่านห้องเธอมาล่ะก็ต่อให้หูไม่ดีแค่ไหนก็ต้องได้ยิน…….

 

ขณะเดียวกันวู่หยานก็ครางฮ่าออกมาด้วยความพอใจใบหน้าเขาสดใสมากราวกับว่าความกลุ้มใจทุกอย่างได้ถูกชำละล้างไปหมดแล้ว…..

 

“งึ้ม….”

 

หลังจากครางเสียงยาวออกไป ตัวมิซากิก็กระตุก เธอล้มพับไปโดยที่ปากก็ส่งเสียงน่ารักออกมา เป็นเสียงที่สามารถทำให้คนได้ยินตัวร้อนรุ่มไปด้วยราคะได้!

 

น่าเสียดายที่ในห้องนี้มีผู้ชมแค่คนเดียว ตอนที่มิซากิเสร็จไปไฟในตัววู่หยานเองก็ได้มอดดับลงเช่นกัน ทว่ามันก็ดับได้ไม่นาน เวลาผ่านไปมันก็จะถูกจุดติดขึ้นอีกครั้ง…….

 

วู่หยานหัวเราะออกมาด้วยความสบายตัวแล้วล้มลงไปนอน ส่วนมิซากิก็นอนหอบหายใจหนักโดยที่หน้าอกเธอก็ยกขึ้นลงตามจังหวะหายใจด้วย

 

มิซากิลืมตาขึ้น แล้วหันไปมองหน้าวู่หยานด้วยความยากลำบาก

 

เมื่อเห็นหน้าชอบใจของเขา หน้าผากเธอก็มีเส้นเลือดปูดขึ้นมาจากนั้นเอื้อมมือไปบีบเนื้ออ่อนตรงเอววู่หยาน อย่างแรง ทันที!

 

แน่นอนว่าไอ้ อย่างแรง เนี่ยมันก็แค่ในความคิดของเธอคนเดียว เพราะตอนนี้แรงส่วนใหญ่ของเธอได้หมดไปกับสงครามเมื่อกี้แล้ว…..

 

“พูด!! ทั้งหมดนี่นายตั้งใจใช่ไหม!!!”

 

การที่มิซากิจะคิดแบบนี้มันก็มีเหตุผลอยู่ คิดดูเล่นมาตอนที่ตนกำลังอาบน้ำมองยังไงมันก็ตั้งใจชัดๆ

 

อนิจจัง มิซากิไม่ได้รู้เลยว่าในโลกนี้ก็ยังมีไอ้หัวเม่นที่สามารถบังเอิญ ล้มจับหน้าอกหรือเปิดประตูเห็นตอนจังหวะเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ราวกับ ‘ตั้งใจ’ อยู่…….

 

ถึงแม้แรงของมิซากิจะน้อยนิดขนาดทำร้ายเส้นผมของวู่หยานยังไม่ได้เลยก็ตาม แต่เขาก็ยังทำสีหน้าเจ็บปวดแบบสุดๆแล้วร้องออกมาอย่างโอเวอร์ “ใช่ที่ไหน! นี่มันบังเอิญจริงๆนะ!”

 

“เชื่อนายก็โง่แล้วย่ะ!”

 

มิซากิมองค้อนใส่เขา เธอยังจำได้เลยว่าเมื่อกี้อีกฝ่ายเล่นบังคับเธอให้เปลี่ยนท่าตั้งหลายรอบ ยิ่งคิดมิซากิก็ยิ่งโกรธ (@ท่าตอนมีอะไรกันนั่นแหละ)

 

เมื่อไหร่กันที่ โชคุโฮ มิซากิ คนนี้ตกต่ำถึงขนาดมาโดนคนอื่นควบคุม?……

 

บางทีอาจเป็นเพราะเหตุการณ์ในอดีต ทำให้มิซากิไม่ชอบการถูกควบคุมมาก ไม่เว้นแม้แต่เรื่องบนเตียง ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจเอาคืน!

 

เธอลุกขึ้นแล้วขึ้นไปนั่งบนตัววู่หยานด้วยท่าcowgirl เห็นใบหน้าอึ้งๆชองเขา มิซากิก็ยิ้มแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหวานใส

 

“เมื่อกี้นายเล่นจนพอใจแล้ว ถ้างั้นก็ถึงตาฉันบ้างล่ะ!”

 

ได้ยินวู่หยานก็ตะลึง แล้วพูดออกมาอย่างติดๆขัดๆ “คะ..คะ…ควีนซามะ….”

 

มิซากิก็ถลึงตามองวู่หยานอย่างดุดัน แล้วพูดแทรกว่า “อะไร! หรือนายมีปัญหา!”

 

วู่หยานสะดุ้งกลัว เขาพูดไม่ออกไปครู่นึง แล้วเอ่ยปากว่า “เอ่อ..คือ..ธะ..เธฮยังมีแรงเหลือ?”

 

ได้ยินมิซากิก็หน้าแดง จากนั้นความอายก็เปลี่ยนเป็นความโกรธเธอตะโกนออกมา “ไม่ใช่เรื่องของนาย! นายเป็นคนเริ่มก่อนนะ! หยุดพูดมากได้แล้ว!!”

 

ด้วยเหตุนี้วู่หยานของเราจึงหุบปากลงอย่างว่าง่าย ขณะที่ในใจก็รู้สึกแปลกใหม่ บางทีการโดนควีนรุกบ้างก็คงไม่เลว……

 

มิซากิกัดฟันกรอดด้ยความขมขื่น ตัวเธอสั่นระริกขณะที่ข่มกลั้นความเขินอาย แล้วค่อยๆกดตัวลงไปบนไอ้นั้นของเขา…….

 

เมื่อร่างกายทั้งสองเชื่อมต่อกันอีกครั้ง วู่หยานก็ร้องออกมาด้วยความสดชื่น ส่วนมิซากิก็ครางออกมาเสียงหวานนุ่ม……

 

หลังจากนั้น ความทรงจำเรื่องบนเตียงที่ได้มาจากการใช้ Mental Out กับคนอื่นก็ค่อยๆส่งผลออกมาบนสนามจริง…..

 

มองดูเต้านมคู่โตที่เด้งไปมาตรงหน้าตน บวกกับเสียงครางที่ดังเข้ามาในหู และความรู้สึกสบายที่ร่างกายส่งมา วู่หยานก็หลับตาลงเอ็นจอยไปกับช่วงเวลานี้…….

 

เสียงคราง….ยังคงดำเนินต่อไป……

 

@ กลุ่ม6-10ลดราคาเหลือกลุ่มละ100ครับจาก200 อ่านได้ที่แอป Justread