ตอนที่ 164 ปักธง

สำหรับเพลงที่สามารถไต่ขึ้นสู่หนึ่งร้อยอันดับแรกของชาร์ตบริษัทผลิตผลงานเพลงแล้ว การจัดอันดับนี้สำคัญมากแค่ไหนไม่ต้องบอกก็รู้

เพราะการจัดอันดับนี้ ในความหมายหนึ่งก็คือการจัดอันดับความสามารถของบริษัททั่วทั้งฉีโจว

นี่เป็นกุญแจสำคัญในการเจรจารับออเดอร์!

ดังนั้นบริษัทผลิตเพลงทุกบริษัทในฉินโจวจึงให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนอันดับมาก

สตาร์ไลท์กระโดดขึ้นไปอยู่ในหนึ่งร้อยอันดับแรกนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก

โดยเฉพาะหากมองจากภายนอก หั่วเยี่ยนมิวสิกเป็นฝั่งที่เสียหายเพียงฝ่ายเดียว

แต่นั่นก็ทำให้บริษัทซึ่งอันดับอยู่ใกล้เคียงกับสตาร์ไลท์มิวสิกเกิดความวิตกขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่พวกเขาล่วงรู้ถึงเหตุผลที่สตาร์ไลท์มิวสิกทะยานขึ้นอันดับมาเช่นนี้แล้ว

“ใช้แค่คนคนเดียวเนี่ยนะ”

“นักแต่งเพลงที่ชื่อเซี่ยนอวี๋นี่โหดไปหรือเปล่า แค่ในเวลาสั้นๆ ก็ทำออเดอร์ระดับห้าดาวออกมาสองชิ้นแล้ว หนึ่งในนั้นยังรวมไปถึงออเดอร์เพลงประกอบซีรีส์ฟอร์มใหญ่ของธันเดอร์มูลค่าสามล้านหยวนด้วย?”

“อันดับของพวกเราไม่มั่นคง”

“เซี่ยนอวี๋คนนี้น่าสนใจมาก มีที่ไหนกันที่คนคนเดียวก็พาบริษัทลอยขึ้นมาติดหนึ่งในร้อยได้”

“ถ้าเซี่ยนอวี๋ทำผลงานได้ดีพอ บริษัทอันดับเก้าสิบลงไปแบบพวกเราก็น่าจะเสี่ยงตกอันดับ?”

“…”

ความรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงเหล่านี้ส่วนมากมาจากบรรดาบริษัทซึ่งอยู่หลังจากอันดับที่ 90

บริษัทซึ่งอยู่เหนืออันดับที่ 90 ไม่จำเป็นต้องกังวลกับมากถึงขนาดนั้นว่าสตาร์ไลท์จะเป็นภัยคุกคามต่อตำแหน่งของพวกเขา

เพราะรูปแบบของสตาร์ไลท์มิวสิกเองก็มีข้อเสียมากเกินไป ต่อให้เซี่ยนอวี๋จะแข็งแกร่ง แต่ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นแค่คนคนเดียว

ดังนั้นเมื่อเทียบกับบริษัทเหล่านั้นซึ่งอันดับอยู่แนบชิดกับสตาร์ไลท์มิวสิกแล้ว บริษัทซึ่งอยู่เหนืออันดับที่ 90 ขึ้นไปนั้นอยู่ในสถานะของผู้ชมเสียมากกว่า

ไฟกองนี้ลามมาไม่ถึงชายคาบ้านพวกเขาหรอก

ทว่าเรื่องอย่างการที่เซี่ยนอวี๋นำพาบริษัทขึ้นอันดับเช่นนี้ ก็ทำให้บริษัทผู้รับงานหลายแห่งตกอกตกใจไปตามกัน

พวกเขาจะไม่เห็นสตาร์ไลท์มิวสิกอยู่ในสายตาได้ แต่จะใช้ทัศนคติเดียวกันมองเซี่ยนอวี๋ไม่ได้

ความจริงแล้ว หลังจากที่สองออเดอร์นี้ของเซี่ยนอวี๋สำเร็จแล้ว ก็ดึงดูดสายตาจากผู้คนในสายอาชีพนี้ของฉีโจวได้ไม่น้อย

และในการจัดอันดับผู้รับงาน

บริษัทโลนวูล์ฟซึ่งปัจจุบันนี้อยู่ในอันดับที่สูงถึงอันดับที่ 13 แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องปรายตามองการแข่งขันระหว่างบริษัทไก่กาเหล่านี้หรอก

สำหรับโลนวูล์ฟแล้ว บริษัทที่อันดับต่ำกว่า 50 ล้วนจัดอยู่ในกลุ่มไก่กา ส่วนบริษัทที่ไม่ติดอยู่ในหนึ่งร้อยอันดับแรกนั้นนับว่าเป็นไก่กาไม่ได้ด้วยซ้ำไป

ในตอนนั้น

ในการประชุมใหญ่ของแผนกประพันธ์เพลงของโลนวูล์ฟ หัวหน้ากำลังเรียกระดมพนักงาน

“ในออเดอร์ของชีซิงเอนเตอร์เทนเมนต์ เรดมูนกำลังจะมาแข่งกับเรา เราจะต้องคว้าออเดอร์นี้มาให้ได้ ต่อให้จะทำไปเพื่อเอาชนะเรดมูนก็ตามแต่ ออเดอร์ครั้งนี้หวังว่านักประพันธ์เพลงทุกคนในบริษัททุกคนจะมีส่วนร่วม เงื่อนไขและข้อกำหนดที่ผู้ว่าจ้างต้องการ ผมส่งให้แต่ละคนแล้ว ทางที่ดีพวกคุณระดมความคิดกันก็ได้ แน่นอนว่าผมไม่ได้ให้พวกคุณทำโดยเปล่าประโยชน์ บริษัทจะจัดสรรส่วนแบ่งให้พวกคุณตามระดับผลงานที่คุณผลิตออกมา!”

ถูกต้องแล้ว

เพราะออเดอร์ที่ชีซิงเอนเตอร์เทนเมนต์เปิดมาในครั้งนี้เป็นออเดอร์แข่งขัน ฉะนั้นแล้วในตอนนี้จึงมีทั้งหมดห้าบริษัทที่เข้าร่วมการชิงชัย

กระนั้น สำหรับโลนวูล์ฟแล้ว อันที่จริงออเดอร์พวกเขามีคู่แข่งสิริรวมทั้งสิ้นแล้วเพียงหนึ่งราย

นั่นก็คือบริษัทเรดมูนซึ่งอยู่ในอันดับที่ 15 ของการจัดอันดับผู้รับงาน

ส่วนอีกสามบริษัทของชีซิงเอนเตอร์เทนเมนต์น่ะหรือ?

มองจากความสามารถแล้ว เทียบกับโลนวูล์ฟกับเรดมูนไม่ได้เลย

เชื่อว่าชีซิงเอนเตอร์เทนเมนต์เองก็เข้าใจในจุดนี้ดี

แม้พวกเขาจะหามาห้าบริษัทพร้อมกัน ทว่าเพชรน้ำหนึ่งของออเดอร์นี้ แท้จริงแล้วก็อยู่เพียงแค่เรดมูนกับโลนวูล์ฟ

หากจะบอกว่าอีกสามบริษัทนั้นถูกใส่มาเพียงเพื่อเติมให้ผู้เข้าแข่งขันครบจำนวนก็คงรุนแรงเกินไป แต่สรุปแล้วก็เป็นการเดินหมากเผื่อว่าจู่ๆ โชคดีขึ้นมาเท่านั้นเอง

ชีซิงเอนเตอร์เทนเมนต์เพียงแค่อยากวัดดวงก็เท่านั้น ยามที่ต้องเลือกจริงๆ ก็เหมือนกับไม่ได้มีสามบริษัทนี้อยู่ในตัวเลือกมาตั้งแต่แรกแล้ว

……

มุมมองที่เรดมูนมีต่อออเดอร์แข่งขันก็คล้ายคลึงกัน

ปากบอกว่ามีถึงห้าบริษัทเข้าร่วมประลอง ในความจริงแล้วอีกสามบริษัทที่เหลือก็เป็นแค่พวกปลายแถวที่อยากเสี่ยงโชค

คู่แข่งที่แท้จริงของเรดมูนมีเพียงโลนวูล์ฟเท่านั้น

แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเทียบกับความมั่นอกมั่นใจของโลนวูล์ฟแล้ว ทางเรดมูนมีคนที่ทำการตรวจสอบข้อมูลของอีกสามบริษัทด้วย

นี่เป็นระบบของเรดมูน ซึ่งน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมภายในบริษัท

ในห้องประชุม

หัวหน้าเอ่ยขึ้นราวกับเป็นกิจวัตรประจำวัน “นอกจากโลนวูล์ฟแล้ว อีกสามบริษัทที่เหลืออยู่ในอันดับที่สามสิบแปด ห้าสิบห้า และหนึ่งร้อย…”

นักประพันธ์เพลงไม่น้อยส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมาอย่างอดไม่ได้

อันดับที่ 38 กับอันดับที่ 55 ก็ว่าไปอย่าง

แต่ในนี้มีบริษัทอันดับที่หนึ่งร้อยด้วย?

อีกนิดเดียวก็จะหลุดหนึ่งร้อยอันดับแรกแล้วนะ

กลับเป็นรองหัวหน้าซึ่งเอ่ยอธิบาย “พวกนายอาจไม่ได้ติดตามสถานการณ์ของบริษัทพวกนี้ บริษัทอันดับที่หนึ่งร้อยมีชื่อว่าสตาร์ไลท์มิวสิก ก่อนหน้านี้พวกเขาเพิ่งจะร่วมงานกับธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์ แล้วก็ทำออเดอร์ราคาสามล้านหยวนสำเร็จ”

“อะไรนะ”

“สามล้าน?”

“ธันเดอร์เอนเตอร์เทนเมนต์?”

“มียอดฝีมือมาประจำหรือเปล่า”

“ผลงานของมือทองสินะ?”

บรรดานักแต่งเพลงใของเรดมูนรีบข่มความรู้สึกดูแคลนที่มีอยู่ในทันที ไม่ว่าจะเป็นเพราะโชคช่วยหรือเหตุผลอื่นใด ออเดอร์ราคาสามล้านหยวนนั้นไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย

ถ้าหากนี่เป็นมูลค่าเพียงน้อยนิด เรดมูนคงไม่มีทางเปิดการประชุมเป็นกรณีพิเศษเพียงเพื่อออเดอร์ราคาสามล้านหยวนของชีซิงเอนเตอร์เทนเมนต์หรอก!

แน่นอนว่าการให้ความสำคัญในระดับนี้ไม่ใช่เพราะเงินเพียงอย่างเดียว ถ้าหากเป็นเพราะเงิน เรดมูนและโลนวูล์ฟคงไม่มีทางมองเป็นเรื่องใหญ่โตถึงขนาดนี้

เหตุผลที่สำคัญก็คือ ทางเรดมูนต้องการใช้โอกาสนี้เอาชนะโลนวูล์ฟ และไต่ขึ้นอันดับให้ได้ตามเป้าหมาย

ต้องเข้าใจว่า

อันดับของโลนวูล์ฟและเรดมูนอยู่ใกล้เคียงกันมาก

ทั้งสองบริษัทจึงอยู่ในสภาวะสลับกันขึ้นๆ ลงๆ

นี่ก็เป็นเหตุผลที่ชีซิงเลือกเรดมูนกับโลนวูล์ฟในเวลาเดียวกัน พวกเขาเห็นว่าโลนวูล์ฟกับเรดมูนไม่ลงรอยกัน จึงใช้จังหวะที่ทั้งสองบริษัทชิงดีชิงเด่นกันทำให้พวกเขาพยายามสุดกำลังเพื่อออเดอร์นี้

“พวกคุณน่าจะเข้าใจกันแล้ว”

รองหัวหน้าพยักหน้า “นี่เป็นเหตุผลที่บริษัทเรามีกฎว่าไม่ว่าจะเป็นออเดอร์ไหนก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่ นอกจากสตาร์ไลท์มิวสิกแล้ว ช่วงนี้อีกสองบริษัทที่อยู่อันดับสามสิบกว่าห้าสิบกว่านั่นก็ทำผลงานได้ไม่เลวเลย ห้ามทำเสียเรื่องเด็ดขาด ถึงยังไงออเดอร์แข่งขันในฉีโจวก็มีตั้งเยอะแยะ กรณีตัวอย่างที่บริษัทใหญ่ทำพังก็มีมาไม่รู้เท่าไหร่ ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนรุ่นก่อน…”

ต่อให้ชีซิงเอนเตอร์เทนเมนต์จะอยากลองวัดดวง ก็ไม่ได้สุ่มจิ้มผู้รับงานในฉีโจวออกมา

เกณฑ์ที่พวกเขาเลือกบริษัทนั้นย่อมเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง

ในมุมมองของเรดมูนและโลนวูล์ฟแล้ว อีกสามบริษัทที่เหลือไม่ได้เป็นอันตรายมากนัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้เป็นภัยคุกคามเลย

หลังจากจบการประชุม

หัวหน้ากล่าวกลั้วหัวเราะกับรองหัวหน้า “ทำไมคุณจะต้องระแวงไปซะทุกอย่างแบบนี้ล่ะครับ บริษัทเราเคยรับออเดอร์แข่งขันมาก็ไม่น้อย เคยทำพังซะที่ไหนกัน”

หัวหน้าฟันธงอย่างมั่นอกมั่นใจ

“ที่ทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะฉันอยากให้พวกเขาทำเต็มที่หรือไงคะ” รองหัวหน้าแบมือยักไหล่ “เป้าหมายที่แท้จริงไม่ใช่โลนวูล์ฟ แต่โลนวูล์ฟก็ไม่เคยทำพังเหมือนกัน เรื่องแบบนี้ทำพังกันง่ายๆ ได้ที่ไหนกันคะ”

รองหัวหน้าเองก็ปักธงฝั่งตนเองอย่างมั่นใจเช่นกัน

ในความคิดของทั้งสอง อันที่จริงการปักธงว่างานจะต้องสำเร็จนั้นเป็นการปรับตัวในการทำงานอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ค่อนข้างเป็นบวก

สำหรับโลนวูล์ฟและเรดมูนแล้ว การแพ้ให้อีกฝ่ายไม่นับว่าเป็นการทำพัง เพราะฝีมือของทั้งสองบริษัทต่างก็โดดเด่นมากทีเดียว

แต่ถ้าหากพลาดท่าให้กับสามบริษัทที่เหลือ ก็นับว่าเป็นการทำพังที่แท้จริง เพราะศักยภาพของอีกสามบริษัทนั้นด้อยกว่าเรดมูนและโลนวูล์ฟ

ฉะนั้นที่พูดว่าทำพังอะไรนั่นก็เป็นเพียงการล้อเล่น

เพราะออเดอร์นี้ไม่ได้มีผู้เข้าร่วมประลองเพียงคนเดียว แต่มีสองคนต่างหากล่ะ!

………………………………………………………