บทที่ 29 รอผมกลับบ้าน

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

ณัฐณิชาหนังศีรษะชาวาบ รีบส่ายหน้าทันที

ทุกวันในตอนเช้าเย็นที่ต้องรับมือกับท่านประธานผู้หลงตัวเองคนนี้ก็มากพอแล้ว ถ้าหากว่าต้องเผชิญหน้ากับเขาทั้งวัน แค่คิดก็ขนลุกแล้ว

ปณิดามองธราเทพกับณัฐณิชาที่ก้มหน้ากระซิบคุยกัน ราวกับว่ารอบด้านไม่มีใคร ในใจก็กรีดร้องด้วยความอิจฉาริษยา จนอยากจะกัดฟันด้วยความโมโห

แต่ว่าไม่เป็นไร เธอบอกกับตัวเองเงียบๆ ตอนนี้ธราเทพไม่ได้รักตัวเอง ก็ไม่ได้หมายความว่าหลังจากนี้จะไม่รัก ขอเพียงแค่อยู่ข้างกายธราเทพไปเรื่อยๆ เธอจะต้องมีโอกาสแน่นอน!

เธอกำลังจะสอบถามช่องทางการโอนเงิน แต่กลับได้ยินธราเทพเอ่ยว่า “คุณปณิดา อีกสักครู่ ผู้ช่วยของผมจะติดต่อเรื่องการชดใช้เงินทั้งหมดกับคุณ”

หลังจากนั้นธราเทพ ก็จูงมือณัฐณิชากลับไปยังห้องทำงานใหม่

เหลือเพียงแค่ลูกน้องทุกคนที่ตะลึงอ้าปากค้าง และฐิติกานต์กับปณิดาที่โมโหจนหน่วยตาแดงก่ำ

เมื่อกลับมาถึงห้องทำงานประธานบริษัท ณัฐณิชาก็รีบเอ่ยถามทันทีว่า “ชุดนี้ของฉันราคาหนึ่งแสนจริงๆหรือ?”

“อืม”

เขาตอบเรียบๆ “ทำไมหรือ”

ณัฐณิชาหมดคำจะพูด เขาถึงกลับกล้าถามว่าทำไมหรือ!

“ทำไมคุณถึงซื้อชุดแพงขนาดนี้ให้ฉันกัน!” สีหน้าณัฐณิชาเต็มไปด้วยคำถามและไม่เข้าใจ

ธราเทพกลับขมวดคิ้ว “เงินของผม จะใช้อย่างไร ก็น่าจะเป็นอิสระของผมนะ”

“…”

ไม่เข้าใจเหตุผลของเจ้าหมอนี่จริงๆ

ทว่าในเมื่อคนจ่ายเงินพูดมาขนาดนี้แล้ว ณัฐณิชาจึงไม่ปวดใจเรื่องเงินแทนเขาอีก เพราะว่าเธอยังโกรธเขาอยู่บ้าง

“ทำไม เป็นเพราะเสื้อผ้าแพงเลยโกรธผมหรือ” ธราเทพเห็นท่าทางโมโหของเด็กสาวแล้ว ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ล้อเล่นกับเขา ในใจก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้วเช่นกัน

ณัฐณิชาสูดลมหายใจลึก เอ่ยอย่างใจกว้างว่า “ไม่ใช่!”

ตอนนี้ในใจของณัฐณิชาคิดว่า แม้ว่าเมื่อครู่คุณจะปกป้องฉัน จัดการเรื่องราวได้ค่อนข้างยุติธรรม แต่ฉันก็เป็นกังวลต่อสายตาในการเลือกคนมาทำงานของคุณ

ฐิติกานต์คนนั้นทำเกินไปแล้ว! เมื่อครู่นี้ยังแสร้งเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับปณิดาอยู่เลย ธราเทพล้วนไม่เห็น!

ทว่าคิดๆดูแล้วก็ช่างเถอะ ณัฐณิชาไม่ชอบเอ่ยนินทาคนอื่นลับหลัง ถ้าหากไม่ใช่ว่าวันนี้รีบร้อนแล้วล่ะก็ คงจะไม่ทำให้ธราเทพต้องตำหนิปณิดาหรอก

อีกอย่างเธอก็รู้สึกได้ว่า ถึงฐิติกานต์คนนั้นจะน่ารังเกียจ แต่สามารถอยู่ข้างกายธราเทพได้ ก็น่าจะมีความสามารถ และณัฐณิชาก็รู้ว่า ตัวเองเป็นเพียงแค่ภรรยาที่แต่งงานกับธราเทพตามข้อตกลงเท่านั้น สำหรับเรื่องที่ว่าเขาจะใช้เลขาแบบไหน ลูกน้องแบบใด ความจริงแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอขนาดนั้น

ดังนั้นณัฐณิชาจึงไม่ได้เอ่ยพูดอะไรต่อ สะบัดหลุดออกจากมือของธราเทพ “ในเมื่อไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันไปก่อนแล้วกัน”

ธราเทพกลับดึงเธอเอาไว้อีกครั้ง “รอสักครู่”

ขณะที่ณัฐณิชากำลังจะถามว่าธราเทพยังมีเรื่องอะไรอีก ก็เห็นเขาหยิบเสื้อสูทของตัวเองมาคลุมลงบนไหล่ของเธอ เสื้อสูทสำหรับบุรุษนั้นตัวใหญ่ จึงอำพรางรอยเปื้อนบนร่างของณัฐณิชาเอาไว้ได้พอดี

เดิมณัฐณิชาคิดจะปฏิเสธ แต่เมื่อคิดดูแล้ว เดินออกไปด้วยเนื้อตัวที่เปรอะเปื้อนก็ไม่ค่อยดีจริงๆ ถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็เป็นถึงภรรยาท่านประธานทวีศักดิ์ทินโชติกรุ๊ป จำเป็นต้องระวังเรื่องภาพลักษณ์

“ถ้าอย่างนั้นฉันไปแล้วนะ”

“อืม” ธราเทพยัดโทรศัพท์มือถือใส่มือเธอ ถือโอกาสเขกศีรษะณัฐณิชาไปทีหนึ่ง “ลืมนั่นลืมนี่ ทั้งยังซุ่มซ่าม”

ณัฐณิชาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความโมโห นวดหน้าผากแล้วขึงตาใส่ธราเทพครู่หนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์ พลางร้องอุทธรณ์ออกมา “เจ็บนะ! ธราเทพ!”

ธราเทพโค้งมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม “คืนวันนี้ผมจะกลับไปกินข้าวที่บ้าน รอผมด้วยล่ะ”