บทที่ 244 พบกัน
บทที่ 244 พบกัน
ในภูเขาเทียนซานนี้มีคนไม่มาก หลังจากปลอมตัวแล้วอะไรๆ มันก็สะดวกกว่าเดิม แต่หากเดินโต่ง ๆ ออกไปมันคงอันตรายเกินไปยิ่งไปกว่านั้นหน้าตาของฉู่เฟิงและเขาก็คล้ายคลึงกันมาก มันคงไม่ดีนักที่จะพาเขาออกมาข้างนอก
ร่างของฉู่เหินหายไปอย่างช้า ๆ หลังจากนั้นไม่นานแสงไฟก็กระพริบขึ้น เฉินเจียนและหญิงชราปรากฏตัวอีกครั้ง! เฉินเจียนในตอนนี้มีน้ำตาไหลอาบแก้ม เธออยากวิ่งออกไปหาฉู่เหินอย่างมีความสุขแต่เธอก็ทำไม่ได้
ถ้าเธอออกไปเธอรู้ว่าเธอจะทำลายการแต่งงานที่มีความสุขระหว่างฉู่เหินกับเสี่ยวชิง
ในเมื่อเธอมาอย่างเงียบ ๆ เธอก็จะเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ เช่นกันเธอไม่อยากทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองแปดเปื้อน เธอจึงทำได้แค่เงยหน้าขึ้น หลับตาไม่อยากมองภาพใดๆ อีก
หญิงชราถอนหายใจเมื่อเห็นแบบนี้ “ไปกันเถอะ ฉันสร้างเกราะป้องกันการโจมตีให้กับเจ้าหนุ่มนั่นไว้แล้ว แต่ไม่ได้สร้างให้มันแข็งแกร่งมากหรอกนะไม่งั้นเขาจะรู้ตัว อย่างน้อยนี้มันจะช่วยเขาให้รอดจากการถูกลอบฆ่าได้สัก 2-3 ครั้งส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองแล้ว”
เฉินเจียนพยักหน้าเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร เธอกอดแขนของอาจารย์เบา ๆ แม้ว่าเธอจะลังเลและรู้ว่าเธอควรปล่อยก็ตาม แต่อาจารย์เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร
10 นาทีต่อมาฉู่เหินก็เห็นเงาคนกำลังเดินมาอย่างช้า ๆ ตรงหน้าเขาหลังจากสังเกตอย่างละเอียด เขาก็รู้สึกว่าเงาของคนเหล่านี้ค่อนข้างคุ้นเคยทีเดียว ไม่นานเขาก็เห็นสามร่างที่คุ้นเคยมาตั้งแต่ไกลซึ่งคนเหล่านี้คือ
หลิวเสี่ยวชิง ซ่างกวงเสี่ยวฟู๋ และโจวหู่ ที่มาตามหาตัวเขา
ทั้งสามคนมองสบตากับเขาก็รู้ได้ในทันทีว่านี้คือ ฉู่เหิน แม้ว่าตอนนี้เขาจะปิดบังตัวเองด้วยหน้ากาก แต่เพียงแวบเดียว เสี่ยวชิงก็รับรู้ว่าคนผู้นี้คือ
ฉู่เหิน ได้ภายในเสี้ยววินาที แม้ว่าบรรยากาศรอบกายของฉู่เหินและรูปลักษณ์ภายนอกจะเปลี่ยนไป แต่ท่าทางและดวงตาของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
“ทำไมมาที่นี่กัน ที่นี่มันอันตรายมากนะรีบไปเร็วเข้า” หลังจากเดินไปหาทั้งสาม ฉู่เหินก็พูดอย่างจริงจังกับทั้งสามคน
โจวหู่ตื่นตัวเขายื่นมือออกไปบังหญิงสาวทั้งสอง หากฉู่เหินกล้าก้าวมาข้างหน้าอีกแค่ก้าวเดียว เขาจะทำโจมตีอย่างไม่ลังเล เมื่อเห็นภาพนี้ฉู่เหินรู้สึกทำตัวไม่ถูก แล้วก็ตบหัวตัวเองอย่างเพิ่งจะนึกออก ก็เขาสวมหน้ากากหนังมนุษย์อยู่ แต่ในขณะที่เขากำลังจะถอดหน้ากากหนังมนุษย์ คำพูดของเสี่ยวชิงทำให้เขาหัวเราะเบาๆ
“พี่โจว เขาคือฉู่เหินยังไงล่ะ” เสี่ยวชิงไม่สงสัยในตัวตนที่แท้จริงของฉู่เหินตั้งแต่ตอนแรก หลังจากนั้นฉู่เหินพูดออกมาเมื่อกี้ เธอก็แน่ใจถึง 10 ส่วน!
หลังจากที่โจวหู่ได้ยินเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ เขามองสำรวจทั่วตัวฉู่เหินและวิธีที่คนๆ นี้มองพวกเขา
ในสายตาคนงี่เง่าแบบโจวหู่เขามองไม่ออกจริงๆ อย่างไรก็ตามเขารู้สึกประหลาดใจที่เสี่ยวชิงสามารถจดจำอีกฝ่ายได้ในทันที แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะระลึกถึงวันเก่าๆ ฉู่เหินรีบถอดหน้ากากหนังมนุษย์ออกจากใบหน้าของเขาเพื่อยืนยันก่อนที่จะใส่มันบนใบหน้าอีกครั้ง เขามองส่งสัญญาณให้คนอื่น ๆ รีบลงจากภูเขา
พอโจวหู่ได้เห็นใบหน้าใต้หน้ากากที่ถูกถอดออกแล้ว เขาอดไม่ได้ที่ประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดว่าฉู่เหินจะมีลูกเล่นอะไรแบบนี้ ซ่างกวงเสี่ยวฟู๋ไม่ได้พูดอะไร ยังไงซะคนที่ให้หน้ากากกับเขาก็คือเธอ แล้วทำไมเธอจะจำมันไม่ได้ละ?
ขณะที่ฉู่เหินลงจากภูเขา โมเจียวก็กำลังค้นหาฉู่เหินรอบภูเขาเทียนซาน แต่ในครั้งนี้ เธอมามือเปล่าไม่รู้เลยว่าชะตากรรมแบบไหนกำลังรอเธออยู่?
ตำนานโบราณและเรื่องลึกลับที่มีจำนวนมากมายจนไม่มีที่สิ้นสุด ว่ากันว่ามีมรดกตกทอดมากมายที่กำลังรอการค้นพบในอนาคต แต่ของระดับสูงเหล่านี้ต้องการผู้ที่มีโชคชะตาตรงกัน ส่วนผู้ที่ไม่มีโชคชะตาแม้จะเดินหาหลายพันครั้งคุณก็ไม่อาจพบอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว!
เห็นได้ชัดว่าโมเจียวเป็นหนึ่งในผู้ที่มีโชคชะตา เธอบังเอิญก้าวเข้าไปในพื้นที่ทับซ้อนโดยไม่ได้ตั้งใจ มีทิวทัศน์นับพันในพื้นที่ทับซ้อนและมีสมบัตินับไม่ถ้วน หลังจากที่เด็กสาวตัวเล็กๆหลงเข้าไปก็ไม่มีใครรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรื่องนี้เราจะยังไม่พูดถึงมันในตอนนี้แล้วทุกคนจะได้รู้ในอนาคต!
ระหว่างทางกลุ่มของฉู่เหินค่อยๆ เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง โชคดีที่คนของพรรคกระบี่แห่งเทียนซาน คิดว่าเขาไม่ได้อยู่บนเทือกเขาเทียนซานแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พบอุปสรรคใด ๆ ระหว่างทางลงเขาในที่สุดพวกเขาก็ออกมาถึงด้านนอกของเทือกเขาเทียนซานโดยไม่มีอุปสรรคอะไร หลังจากมาถึงที่นี่ฉู่เหินไม่สามารถใช้ใบหน้าปลอมได้อีกต่อไป มิฉะนั้นเขาอาจจะซวยได้ !
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉู่เหินก็เปลี่ยนใบหน้าให้กลายเป็นฉางเย่ ใบหน้านี้ของฉู่เหิน ทำเสี่ยวชิงก็อดไม่ได้ที่จะมองฉู่เหินด้วยท่าทางแปลก ๆ
“พี่ฉู่ คนนี้คือใครหรอ? ดูไม่เลวเลย?” หญิงสาว อ้าปากค้างและเดินวนรอบ ๆ ฉู่เหิน เธอถอนหายใจด้วยคำพูดที่แฝงความชื่นชม ท่าทางแบบนี้ทำให้ฉู่เหินถอนหายใจ สาวน้อยคนนี้เรียนรู้ท่าทางแย่ ๆ แบบนี้มาจากไหนกันนะ
“ก็แค่คนที่เจอระหว่างทาง ไม่มีอะไรระหว่างพวกเราสองคนทั้งนั้น” ไม่อธิบายก็ดีอยู่แล้ว คำอธิบายนั้นทำให้รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของโจวหู่และซ่างกวงเสี่ยวฟู่
ท่าทางที่เหมือนถูกจับได้ของฉู่เหิน ทำให้เขาพูดไม่ออก “สายตาของพวกเธอเป็นอะไรไปเนี่ย? เห็นฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ? ฉันจะไปสนิทสนมกับคนข้างทางไปทั่วได้ยังไง ตอนนี้ฉันมีเสี่ยวชิงแล้ว ไม่มีทางคิดอย่างนั้นเด็ดขาด อีกทั้งถ้าให้ฉันเลือก ฉันจะเลือกสาวงามอย่างซ่างกวงเสี่ยวฟู่ซะดีกว่า”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้โจวหู่ก็อดหัวเราะไม่ได้ ส่วนเสี่ยวชิงกับซ่างกวงเสี่ยวฟู่ก็หน้าแดงด้วยความเขินอาย!
“พี่ฉู่ ครั้งนี้อันตรายมากเลยเหรอ ทำไมพี่ไม่โทรหาฉันนานขนาดนี้?” หลังจากหัวเราะเสร็จเสี่ยวชิงก็อดไม่ได้ที่จะมองฉู่เหินด้วยความกังวล
ฉู่เหินจ้องมองที่เสี่ยวชิงท่าทางที่เป็นห่วงของเธอทำให้ฉู่เหินรู้สึกดีไม่น้อยเขาค่อย ๆ เล่าประสบการณ์ของตัวเองอย่างช้า ๆ
“คุณฉู่ ตอนนี้ผมชื่นชมคุณจริง ๆ ไม่เพียงแต่ความสามารถในการต่อสู้ที่สูงส่ง เสน่ห์ของคุณก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า สามารถดึงดูดสาว ๆ ได้ถึงขนาดนี้ แม้แต่หญิงชราก็สามารถดึงดูดได้ นับถือจริง ๆ”
หลังจากได้ฟังคำที่โจวหู่พูดออกมา ฉู่เหินก็กลอกตาอย่างเอื้อมระอา เขามองไปอีกทางแล้วตีสีหน้าอย่างจริงจัง จากนั้นเขาก็พึมพำกับตัวเอง
“นายก็ดูท่าไม่เลวนี้ หญิงแก่นั้นฉันรู้จักแล้ว เดี๋ยวเอาเป็นว่าฉันแนะนำให้เธอรู้จักกับนายบ้างดีกว่า วันดีคืนดีเธออาจจะไปหานายก็ได้ เตรียมตัวไว้ให้พร้อมล่ะ”
หลังจากได้ยินเรื่องตลกนั้นของฉู่เหินใบหน้าของโจวหู่ก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว ทุกคนต้องรู้ว่าเขาอยู่ในวัยสามสิบแล้ว แต่เขายังไม่มีแฟนเลยด้วยซ้ำถ้าต้องมีภรรยาเป็นยัยแก่ เขาขอฆ่าตัวตายดีกว่า
เมื่อเห็นท่าทางตลก ๆ ของโจวหู่ หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาหญิงสาว 2 คนรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องตลกที่ฉู่เหินแกล้งโจวหู่ แต่พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าในอนาคตอันใกล้ของพวกเขา เมื่อเม่ยชิง (หญิงชราผู้เป็นอาจารย์ของเม่ยซานเหนี่ยง) ได้พบโจวหู่เธอก็ชอบใจมากหลังจากไล่ล่ากันอย่างดุเดือดโจวหู่ก็กลัวจนหนีไปต้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือนถึงจะจบเรื่องได้
หลังพูดคุยและหัวเราะกันอยู่นานทุกคนก็เตรียมจากไป แต่ฉู่เหินไม่กล้าที่จะออกเดินทาง เขาเชื่อว่าทุกสถานีรถไฟตอนนี้ถูกควบคุมโดยคนของพรรคกระบี่แห่งเทียนซานแล้ว หากเขากล้าที่จะออกไปโชว์ตัว เขาคงจะถูกจับในทันที หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้วเขาก็นึกถึงสถานที่ๆ ยอดเยี่ยมแห่งหนึ่ง
“ลงจากเขาเทียนซานแล้วตรงไปที่ภูเขาไฟนั่นคือภูเขาแห่งเปลวเพลิง จากนั้นเลี้ยวไปที่ลั่วหลาน มุ่งตรงไปที่ทะเลทรายกัมแท๊ก หลังจากนั้นพวกเราจะผ่านชิงไห่เดินทางไปที่ทะเลสาบชิงไห่” ไม่ต้องพูดอะไรมากแม้ว่าการเดินทางนี้จะยาวไกล แต่เห็นได้ชัดว่ามันปลอดภัยกว่ามาก!
หลังจากออกจากภูเขาเทียนเซียน พวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านใกล้ๆ พวกเขาอยู่และพักที่นั้นหนึ่งวัน หลังจากกินและดื่มแล้วเขาก็เดินทางกันต่อแน่นอนว่ามันปลอดภัยที่สุดที่จะแฝงตัวไปพร้อมคนที่ออกเดินทางจากที่นี่
บทที่ 244 พบกัน
ในภูเขาเทียนซานนี้มีคนไม่มาก หลังจากปลอมตัวแล้วอะไรๆ มันก็สะดวกกว่าเดิม แต่หากเดินโต่ง ๆ ออกไปมันคงอันตรายเกินไปยิ่งไปกว่านั้นหน้าตาของฉู่เฟิงและเขาก็คล้ายคลึงกันมาก มันคงไม่ดีนักที่จะพาเขาออกมาข้างนอก
ร่างของฉู่เหินหายไปอย่างช้า ๆ หลังจากนั้นไม่นานแสงไฟก็กระพริบขึ้น เฉินเจียนและหญิงชราปรากฏตัวอีกครั้ง! เฉินเจียนในตอนนี้มีน้ำตาไหลอาบแก้ม เธออยากวิ่งออกไปหาฉู่เหินอย่างมีความสุขแต่เธอก็ทำไม่ได้
ถ้าเธอออกไปเธอรู้ว่าเธอจะทำลายการแต่งงานที่มีความสุขระหว่างฉู่เหินกับเสี่ยวชิง
ในเมื่อเธอมาอย่างเงียบ ๆ เธอก็จะเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ เช่นกันเธอไม่อยากทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองแปดเปื้อน เธอจึงทำได้แค่เงยหน้าขึ้น หลับตาไม่อยากมองภาพใดๆ อีก
หญิงชราถอนหายใจเมื่อเห็นแบบนี้ “ไปกันเถอะ ฉันสร้างเกราะป้องกันการโจมตีให้กับเจ้าหนุ่มนั่นไว้แล้ว แต่ไม่ได้สร้างให้มันแข็งแกร่งมากหรอกนะไม่งั้นเขาจะรู้ตัว อย่างน้อยนี้มันจะช่วยเขาให้รอดจากการถูกลอบฆ่าได้สัก 2-3 ครั้งส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองแล้ว”
เฉินเจียนพยักหน้าเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร เธอกอดแขนของอาจารย์เบา ๆ แม้ว่าเธอจะลังเลและรู้ว่าเธอควรปล่อยก็ตาม แต่อาจารย์เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร
10 นาทีต่อมาฉู่เหินก็เห็นเงาคนกำลังเดินมาอย่างช้า ๆ ตรงหน้าเขาหลังจากสังเกตอย่างละเอียด เขาก็รู้สึกว่าเงาของคนเหล่านี้ค่อนข้างคุ้นเคยทีเดียว ไม่นานเขาก็เห็นสามร่างที่คุ้นเคยมาตั้งแต่ไกลซึ่งคนเหล่านี้คือ
หลิวเสี่ยวชิง ซ่างกวงเสี่ยวฟู๋ และโจวหู่ ที่มาตามหาตัวเขา
ทั้งสามคนมองสบตากับเขาก็รู้ได้ในทันทีว่านี้คือ ฉู่เหิน แม้ว่าตอนนี้เขาจะปิดบังตัวเองด้วยหน้ากาก แต่เพียงแวบเดียว เสี่ยวชิงก็รับรู้ว่าคนผู้นี้คือ
ฉู่เหิน ได้ภายในเสี้ยววินาที แม้ว่าบรรยากาศรอบกายของฉู่เหินและรูปลักษณ์ภายนอกจะเปลี่ยนไป แต่ท่าทางและดวงตาของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
“ทำไมมาที่นี่กัน ที่นี่มันอันตรายมากนะรีบไปเร็วเข้า” หลังจากเดินไปหาทั้งสาม ฉู่เหินก็พูดอย่างจริงจังกับทั้งสามคน
โจวหู่ตื่นตัวเขายื่นมือออกไปบังหญิงสาวทั้งสอง หากฉู่เหินกล้าก้าวมาข้างหน้าอีกแค่ก้าวเดียว เขาจะทำโจมตีอย่างไม่ลังเล เมื่อเห็นภาพนี้ฉู่เหินรู้สึกทำตัวไม่ถูก แล้วก็ตบหัวตัวเองอย่างเพิ่งจะนึกออก ก็เขาสวมหน้ากากหนังมนุษย์อยู่ แต่ในขณะที่เขากำลังจะถอดหน้ากากหนังมนุษย์ คำพูดของเสี่ยวชิงทำให้เขาหัวเราะเบาๆ
“พี่โจว เขาคือฉู่เหินยังไงล่ะ” เสี่ยวชิงไม่สงสัยในตัวตนที่แท้จริงของฉู่เหินตั้งแต่ตอนแรก หลังจากนั้นฉู่เหินพูดออกมาเมื่อกี้ เธอก็แน่ใจถึง 10 ส่วน!
หลังจากที่โจวหู่ได้ยินเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ เขามองสำรวจทั่วตัวฉู่เหินและวิธีที่คนๆ นี้มองพวกเขา
ในสายตาคนงี่เง่าแบบโจวหู่เขามองไม่ออกจริงๆ อย่างไรก็ตามเขารู้สึกประหลาดใจที่เสี่ยวชิงสามารถจดจำอีกฝ่ายได้ในทันที แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะระลึกถึงวันเก่าๆ ฉู่เหินรีบถอดหน้ากากหนังมนุษย์ออกจากใบหน้าของเขาเพื่อยืนยันก่อนที่จะใส่มันบนใบหน้าอีกครั้ง เขามองส่งสัญญาณให้คนอื่น ๆ รีบลงจากภูเขา
พอโจวหู่ได้เห็นใบหน้าใต้หน้ากากที่ถูกถอดออกแล้ว เขาอดไม่ได้ที่ประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดว่าฉู่เหินจะมีลูกเล่นอะไรแบบนี้ ซ่างกวงเสี่ยวฟู๋ไม่ได้พูดอะไร ยังไงซะคนที่ให้หน้ากากกับเขาก็คือเธอ แล้วทำไมเธอจะจำมันไม่ได้ละ?
ขณะที่ฉู่เหินลงจากภูเขา โมเจียวก็กำลังค้นหาฉู่เหินรอบภูเขาเทียนซาน แต่ในครั้งนี้ เธอมามือเปล่าไม่รู้เลยว่าชะตากรรมแบบไหนกำลังรอเธออยู่?
ตำนานโบราณและเรื่องลึกลับที่มีจำนวนมากมายจนไม่มีที่สิ้นสุด ว่ากันว่ามีมรดกตกทอดมากมายที่กำลังรอการค้นพบในอนาคต แต่ของระดับสูงเหล่านี้ต้องการผู้ที่มีโชคชะตาตรงกัน ส่วนผู้ที่ไม่มีโชคชะตาแม้จะเดินหาหลายพันครั้งคุณก็ไม่อาจพบอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว!
เห็นได้ชัดว่าโมเจียวเป็นหนึ่งในผู้ที่มีโชคชะตา เธอบังเอิญก้าวเข้าไปในพื้นที่ทับซ้อนโดยไม่ได้ตั้งใจ มีทิวทัศน์นับพันในพื้นที่ทับซ้อนและมีสมบัตินับไม่ถ้วน หลังจากที่เด็กสาวตัวเล็กๆหลงเข้าไปก็ไม่มีใครรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรื่องนี้เราจะยังไม่พูดถึงมันในตอนนี้แล้วทุกคนจะได้รู้ในอนาคต!
ระหว่างทางกลุ่มของฉู่เหินค่อยๆ เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง โชคดีที่คนของพรรคกระบี่แห่งเทียนซาน คิดว่าเขาไม่ได้อยู่บนเทือกเขาเทียนซานแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พบอุปสรรคใด ๆ ระหว่างทางลงเขาในที่สุดพวกเขาก็ออกมาถึงด้านนอกของเทือกเขาเทียนซานโดยไม่มีอุปสรรคอะไร หลังจากมาถึงที่นี่ฉู่เหินไม่สามารถใช้ใบหน้าปลอมได้อีกต่อไป มิฉะนั้นเขาอาจจะซวยได้ !
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉู่เหินก็เปลี่ยนใบหน้าให้กลายเป็นฉางเย่ ใบหน้านี้ของฉู่เหิน ทำเสี่ยวชิงก็อดไม่ได้ที่จะมองฉู่เหินด้วยท่าทางแปลก ๆ
“พี่ฉู่ คนนี้คือใครหรอ? ดูไม่เลวเลย?” หญิงสาว อ้าปากค้างและเดินวนรอบ ๆ ฉู่เหิน เธอถอนหายใจด้วยคำพูดที่แฝงความชื่นชม ท่าทางแบบนี้ทำให้ฉู่เหินถอนหายใจ สาวน้อยคนนี้เรียนรู้ท่าทางแย่ ๆ แบบนี้มาจากไหนกันนะ
“ก็แค่คนที่เจอระหว่างทาง ไม่มีอะไรระหว่างพวกเราสองคนทั้งนั้น” ไม่อธิบายก็ดีอยู่แล้ว คำอธิบายนั้นทำให้รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของโจวหู่และซ่างกวงเสี่ยวฟู่
ท่าทางที่เหมือนถูกจับได้ของฉู่เหิน ทำให้เขาพูดไม่ออก “สายตาของพวกเธอเป็นอะไรไปเนี่ย? เห็นฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ? ฉันจะไปสนิทสนมกับคนข้างทางไปทั่วได้ยังไง ตอนนี้ฉันมีเสี่ยวชิงแล้ว ไม่มีทางคิดอย่างนั้นเด็ดขาด อีกทั้งถ้าให้ฉันเลือก ฉันจะเลือกสาวงามอย่างซ่างกวงเสี่ยวฟู่ซะดีกว่า”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้โจวหู่ก็อดหัวเราะไม่ได้ ส่วนเสี่ยวชิงกับซ่างกวงเสี่ยวฟู่ก็หน้าแดงด้วยความเขินอาย!
“พี่ฉู่ ครั้งนี้อันตรายมากเลยเหรอ ทำไมพี่ไม่โทรหาฉันนานขนาดนี้?” หลังจากหัวเราะเสร็จเสี่ยวชิงก็อดไม่ได้ที่จะมองฉู่เหินด้วยความกังวล
ฉู่เหินจ้องมองที่เสี่ยวชิงท่าทางที่เป็นห่วงของเธอทำให้ฉู่เหินรู้สึกดีไม่น้อยเขาค่อย ๆ เล่าประสบการณ์ของตัวเองอย่างช้า ๆ
“คุณฉู่ ตอนนี้ผมชื่นชมคุณจริง ๆ ไม่เพียงแต่ความสามารถในการต่อสู้ที่สูงส่ง เสน่ห์ของคุณก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า สามารถดึงดูดสาว ๆ ได้ถึงขนาดนี้ แม้แต่หญิงชราก็สามารถดึงดูดได้ นับถือจริง ๆ”
หลังจากได้ฟังคำที่โจวหู่พูดออกมา ฉู่เหินก็กลอกตาอย่างเอื้อมระอา เขามองไปอีกทางแล้วตีสีหน้าอย่างจริงจัง จากนั้นเขาก็พึมพำกับตัวเอง
“นายก็ดูท่าไม่เลวนี้ หญิงแก่นั้นฉันรู้จักแล้ว เดี๋ยวเอาเป็นว่าฉันแนะนำให้เธอรู้จักกับนายบ้างดีกว่า วันดีคืนดีเธออาจจะไปหานายก็ได้ เตรียมตัวไว้ให้พร้อมล่ะ”
หลังจากได้ยินเรื่องตลกนั้นของฉู่เหินใบหน้าของโจวหู่ก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว ทุกคนต้องรู้ว่าเขาอยู่ในวัยสามสิบแล้ว แต่เขายังไม่มีแฟนเลยด้วยซ้ำถ้าต้องมีภรรยาเป็นยัยแก่ เขาขอฆ่าตัวตายดีกว่า
เมื่อเห็นท่าทางตลก ๆ ของโจวหู่ หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาหญิงสาว 2 คนรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องตลกที่ฉู่เหินแกล้งโจวหู่ แต่พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าในอนาคตอันใกล้ของพวกเขา เมื่อเม่ยชิง (หญิงชราผู้เป็นอาจารย์ของเม่ยซานเหนี่ยง) ได้พบโจวหู่เธอก็ชอบใจมากหลังจากไล่ล่ากันอย่างดุเดือดโจวหู่ก็กลัวจนหนีไปต้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือนถึงจะจบเรื่องได้
หลังพูดคุยและหัวเราะกันอยู่นานทุกคนก็เตรียมจากไป แต่ฉู่เหินไม่กล้าที่จะออกเดินทาง เขาเชื่อว่าทุกสถานีรถไฟตอนนี้ถูกควบคุมโดยคนของพรรคกระบี่แห่งเทียนซานแล้ว หากเขากล้าที่จะออกไปโชว์ตัว เขาคงจะถูกจับในทันที หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้วเขาก็นึกถึงสถานที่ๆ ยอดเยี่ยมแห่งหนึ่ง
“ลงจากเขาเทียนซานแล้วตรงไปที่ภูเขาไฟนั่นคือภูเขาแห่งเปลวเพลิง จากนั้นเลี้ยวไปที่ลั่วหลาน มุ่งตรงไปที่ทะเลทรายกัมแท๊ก หลังจากนั้นพวกเราจะผ่านชิงไห่เดินทางไปที่ทะเลสาบชิงไห่” ไม่ต้องพูดอะไรมากแม้ว่าการเดินทางนี้จะยาวไกล แต่เห็นได้ชัดว่ามันปลอดภัยกว่ามาก!
หลังจากออกจากภูเขาเทียนเซียน พวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านใกล้ๆ พวกเขาอยู่และพักที่นั้นหนึ่งวัน หลังจากกินและดื่มแล้วเขาก็เดินทางกันต่อแน่นอนว่ามันปลอดภัยที่สุดที่จะแฝงตัวไปพร้อมคนที่ออกเดินทางจากที่นี่