ตอนนี้ หยางเว่ย ไม่สนใจอีกแล้วว่าเขาจะทำให้ตัวเองดูแย่มากแค่ไหนต่อหน้าเทพธิดา ของเขา สิ่งที่สำคัญกว่าในตอนนี้ก็คือเขาต้องทำทุกอย่างให้การเดิมพันเป็นโมฆะให้ได้ ไม่เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นอาจารย์คนแรกของราชวงศ์โจวที่ถูกนักศึกษาคนหนึ่งกดดันจนต้องลาออกจากการเป็นอาจารย์ในสถาบันศึกษา!
“เหอะ!”
เสียงพ่นลมหายใจด้วยความไม่พอใจดังก้องในห้องเรียน เหล่านักศึกษาต่างไม่พอใจ ที่เห็นว่า หยางเว่ย ตั้งใจจะไม่ทำตามกฎการเดิมพันที่วางเอาไว้
ซางหลิวอวี้ ก็ขมวดคิ้วเช่นกัน “อาจารย์หยาง ทุกคนในห้องเรียนนี้ต่างก็จับจ้องทุกขั้นตอนที่ซูอันแก้ไขโจทย์ของท่าน เขาจะโกงท่านได้อย่างไร?”
หยางเว่ย รู้สึกราวกับว่าซางหลิวอวี้ กำลังมองเขาด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามซึ่งมันยิ่งทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจมากขึ้น เขารีบตอบกลับทันที “ไม่ ๆ ท่านดูก่อนสิ! คำถามเหล่านี้อันที่จริงมันก็คาดเดาได้ง่าย ๆ ตราบใดที่ซูอันมีโชคสักหน่อยไม่ว่ายังไงเขาก็สามารถตอบได้เพราะตัวเลขคำตอบมันมีจำนวนไม่กี่หลักแค่นั้นเอง หรือไม่ท่านก็ลองดูวิธีแก้ของเขาสิ! ท่านหรือคนอื่น ๆ มีใคร ที่เข้าใจมันบ้างไหม? เห็นได้ชัดว่าเขาก็แค่ขีดเขียนไปเรื่อยและก็เดาคำตอบขึ้นมาแบบสุ่ม ๆ ก็เท่านั้น!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้นักศึกษาบางคนเหลือบไปดูในกระดาษทดของซูอันอีกรอบ ซึ่งมันทำให้พวกเขาเริ่มเห็นด้วยกับคำพูดของ หยางเว่ย เพราะว่าทุกอย่างที่เขียนอยู่ในกระดาษแผ่นนั้น พวกเขา ดูไม่ออกจริง ๆ ว่ามันคืออะไร แต่… ถ้าเขาเดาได้ทั้งหมดจริง ๆ โชคของเขามันจะไม่ดีเกินไปหน่อยหรือไง? แต่เดี๋ยวก่อนนะ คนผู้นี้เพิ่งชนะบ่อนและได้เงินรางวัลมาตั้ง 7,500,000 ตำลึงเงินนี่นา ดังนั้นมันก็อาจจะเป็นไปได้ใช่ไหมที่โชคจะอยู่ข้างคนผู้นี้อีกรอบ?
ซูอัน ถอนหายใจยาว “เฮ้อ เห็นเจ้าเป็นแบบนี้ข้าคงสุภาพกับเจ้าไม่ได้อีกแล้ว อันที่จริงข้า ได้ยินมานานแล้วว่าเจ้าเป็นคนไร้ยางอาย แต่ข้าไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าตัวจริงของเจ้ามันจะไร้ยางอายมากกว่าข่าวลือซะอีก เจ้าสามารถพูดจากลับขาวเป็นดำได้อย่างหน้าด้าน ๆ ต่อหน้านักศึกษา ของเจ้าเองที่อยู่กันหลายสิบคน เอาล่ะ ตอนนี้รีบ ๆ เข้าเรื่องสักที เจ้ารีบบอกมาได้แล้วว่าคำตอบทั้งหมดของข้าถูกหรือไม่”
“ต่อให้เจ้าจะตอบถูกหมดแล้วยังไง? หากสูตรคำนวณของเจ้ามันมั่วและเจ้าบังเอิญเดาคำตอบได้ถูกต้องทั้งหมด คะแนนที่เจ้าสมควรจะได้รับมันก็มีแค่ศูนย์เท่านั้น!” หยางเว่ย ยอมเถียงแบบข้าง ๆ คู ๆ เพื่อหาทางเอาตัวรอดให้ได้ “นี่คือกฎที่ใช่กันทั่วไปของคณิตศาสตร์ จุดประสงค์ของกฎคือเอาไว้ใช้จัดการกับคนที่เดามั่ว แต่ตอบคำถามได้ถูกแบบเจ้า!”
ซางหลิวอวี้ หัวเราะเบา ๆ ก่อนพูดว่า “อาจารย์หยาง ข้าคิดว่าคำพูดของท่าน เริ่มจะไม่สมเหตุสมผลมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วในตอนนี้ ต่อให้ ซูอัน จะโชคดีจริง เขาก็น่าจะเดาถูกได้แค่1 หรือ 2 ข้อเท่านั้น การที่เขาจะเดาได้ถูกหมดทั้ง 20 ข้อมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่นอน ส่วนสูตรการคำนวณของเขามันอาจจะวิธีการคำนวณแบบใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนก็ได้”
ด้วยหน้าตาอันงดงามและเสียงที่ไพเราะจับใจมันทำให้คำพูดของนางมีน้ำหนักมากกว่า คนทั่วไปเป็นสิบเท่า
“อาจารย์ซางพูดถูก!”
“มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะบอกว่าซูอันเดามั่วจนถูกได้ครบ 20 ข้อ!”
…
คิ้วของ หยางเว่ย กระตุกด้วยความโกรธ ผู้หญิงคนนี้จงใจเล่นงานข้างั้นนี่หว่า!
ด้วยสีหน้าที่มืดหม่น หยางเว่ย เริ่มไม่ไว้หน้าซางหลิวอวี้ แล้วเช่นกัน “อาจารย์ซาง ท่านเป็นอาจารย์สอนภาษา ดังนั้นข้าจะไม่โทษท่านที่ไม่รู้คณิตศาสตร์ แต่ข้าสามารถยืนยันได้เลยว่า สูตรการคำนวณที่เขาจดไว้นั้นไร้สาระอย่างยิ่ง แม้แต่อาจารย์สอนคณิตศาสตร์ของราชบัณฑิตยสถานในเมืองหลวงก็ยังไม่มีใครใช้การคำนวณแบบเขาสักคน ดังนั้นความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือเขาเดาคำตอบขึ้นมาทั้งหมดและมันก็บังเอิญว่าคำตอบเหล่านั้นมันกลับถูกทั้งหมดเช่นกัน ถ้าท่านไม่เชื่อ งั้นก็ลองให้เขาอธิบายดูก็ได้ว่าสูตรคำนวณของเขามันมีขั้นตอนเบื้องหลังว่าอะไรบ้าง”
เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าคำอธิบายของ ซูอัน จะสมเหตุสมผลหรือไม่ก็ตาม เขาก็เพียงแค่ยักไหล่ว่าไร้สาระ สถานการณ์ตอนนี้มันส่งผลกระทบต่อทักษะด้านการเป็นนักคณิตศาสตร์ของเขามากเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าใครจะมองว่าเขาทำตัวทุเรศยังไง
ซางหลิวอวี้ เองพูดไม่ออกเหมือนกันเพราะ หยางเว่ย กลับชี้จุดอ่อนของนางที่นางเป็นแค่อาจารย์สอนภาษาซึ่งมันทำให้คำพูดของนางเกี่ยวกับเรื่องคณิตศาสตร์ไม่มีน้ำหนัก
นางหันมองไปทางซูอันด้วยสายตาจนใจ พูดตามตรง นางอยากรู้ว่าเขาตั้งใจจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร
ซูอัน เอ่ยขึ้นแทรกอย่างใจเย็นว่า “ด้วยทักษะทางด้านของคณิตศาสตร์ของเจ้าที่มีเท่าหางอึ่ง ต่อให้ข้าอธิบายไปเจ้าก็ไม่มีวันเข้าใจอยู่ดี ดังนั้นข้าคงไม่เสียเวลาอธิบายอะไรให้เจ้าฟังทั้งนั้น”
หยางเว่ย โกรธมากจนเขาเริ่มหัวเราะออกมา “ฮ่า ๆ ๆ ๆ ! นั่นไง! ทีนี้ได้ยินกันแล้วหรือยัง ไอ้เด็กนี่มันไม่มีสูตรคำนวณอะไรหรอกมันก็แค่มั่วคำตอบไปเรื่อยก็เท่านั้นเอง! ไอ้ ซูอัน ไอ้เด็กเวรเจ้ารู้ไหมว่าการที่เจ้าใช้คำพูดไม่สุภาพกับข้าที่เป็นอาจารย์แบบนี้มันถือว่าเจ้าทำผิดกฎของสถาบัน หลังจากนี้ข้าจะส่งรายงานเรื่องนี้ให้กับทางสถาบันซึ่งแน่นอนว่าโทษของเจ้ามันคือถูกไล่ออก สถานเดียวกับการไม่เคารพอาจารย์ของเจ้าเอง!”
ท่านยั่วยุ หยางเว่ย สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +521!
เมื่อมองไปที่ หยางเว่ย ที่โกรธเคือง ซูอัน หัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “จริง ๆ แล้วมีวิธีที่ ง่ายมากในการแก้ไขสถานการณ์นี้ เดี๋ยวข้าจะสร้างโจทย์ขึ้นมา 20 ข้อและไม่ว่าเจ้าจะโกงหรือเดาเอาสุ่ม ๆ ตราบใดที่เจ้าตอบได้ถูกทั้งหมด… ไม่สิ ๆ มันมากไป เอาเป็นว่าข้าลดให้เหลือตอบครึ่งหนึ่งถูกก็แล้วกัน ตราบใดที่เจ้าตอบได้ถูกครบ 10 ข้อ ข้าจะยอมเก็บข้าวของออกจากสถาบันทันที แต่ถ้าเจ้าทำไม่ได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะทำตามเดิมพันที่พวกเราตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่แรก ฟังดูเป็นยังไง?”
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หยางเว่ย ยังคงเป็นข้าราชการของราชสำนักและเป็นอาจารย์ที่ได้รับการว่าจ้างอย่างเป็นทางการจากสถาบัน ทั้ง ซูอัน และสถาบันไม่สามารถขับไล่เขาด้วยการเดิมพัน เพียงอย่างเดียว อย่างไรก็เสีย ถ้าหยางเว่ยไม่สามารถตอบคำถามได้สักข้อที่เขาตั้งไว้ได้ล่ะ? ไม่ว่า หยางเว่ย จะไร้ยางอายเพียงใด เขาก็ไม่มีทางที่จะบากหน้าสอนที่นี่ต่อไปได้อีก
หยางเว่ยนั้น รู้สึกไม่มั่นใจกับข้อเสนออย่างกะทันหันของ ซูอัน เพียงแค่คิดว่า ซูอัน สามารถแก้ปัญหาทั้ง 20 ข้อได้อย่างง่ายดายก็เพียงพอที่จะข่มขู่ทำให้ความมั่นใจของเขาลดลง
ซางหลิวอวี้ ใช้โอกาสนี้พูดโหมกระแสมากขึ้นไปอีก “อาจารย์หยาง ไม่ใช่ว่าท่านกลัวโจทย์ของนักศึกษาซูอันหรอกใช่ไหม?”
“ไม่แน่นอน!” หยางเว่ย ยืดอกพร้อมพยายามปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติที่สุด “มา! เขียนคำถามของเจ้ามา ต่อให้เจ้าจะเขียนมา 200 ข้อข้าก็จะแก้มันทั้งหมดให้เจ้าได้เห็น!”
การเดิมพันรอบใหม่นี้มันก็ไม่เลวสักเท่าไหร่ เขาอาจจะไม่สามารถแก้คำถามได้ทั้ง 20 ข้อได้ แต่อย่างน้อยที่สุด เขาก็คาดเอาไว้ว่าอย่างน้อยเขาควรจะสามารถตอบคำถามได้สัก 10 ข้อได้ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์มานานแล้ว ดังนั้นมันไม่มีทางที่เขาจะแก้คำถามของเด็กคนนี้ไม่ได้เลยและตราบใดที่เขาทำสำเร็จ เขาจะสามารถส่ง ซูอัน ออกจากสถาบันได้!
ทางด้านของ ซูอัน ก็เหมือนจะเดาได้ว่า หยางเว่ย คิดอะไรจากปฏิกิริยาของฝั่งตรงข้าม ซูอัน ลอบยิ้มอย่างชั่วร้ายพลางคิดในใจ ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นความน่าสะพรึงกลัวของคณิตศาสตร์ของโลกที่ข้าจากมา!
มีคำถามมากมายที่เขาสามารถคิดได้ แต่เขาตัดสินใจที่จะไม่ใช้คำถามทางเรขาคณิตเพราะมันคงไม่มีใครในโลกนี้ที่รู้เรื่อง pi27 รัศมีของวงกลม และอะไรเทือกๆนั้น หากเขาตั้งคำถามแบบนั้นขึ้นมาคนอื่น ๆ จะคิดว่าเขาจงใจสร้างความลำบากให้กับ หยางเว่ย
เพื่อที่จะบดขยี้ หยางเว่ย อย่างหมดจด สิ่งที่เขาต้องทำคือตั้งคำถามที่ทุกคนอ่านแล้วเข้าใจแต่ไม่สามารถแก้ได้!
ไม่นานนัก ซูอัน ก็เขียนคำถามได้ครบ20คำถามขึ้นบนกระดานเพื่อให้คนอื่นเห็นได้อย่างแจ่มชัด จากนั้นเขาส่งกระดาษเปล่าที่เอาไว้ใช้สำหรับเขียนคำตอบให้กับหยางเว่ยด้วยรอยยิ้มที่จริงใจและพูดว่า “เนื่องจากเจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ข้าเชื่อว่าคำถามเหล่านี้น่าจะไม่ยากเกินไปสำหรับเจ้า”
หยางเว่ย ประหลาดใจกับความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างกะทันหันของ ซูอัน เขาพ่นลมหายใจเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “แน่นอน คำถามที่มาจากคนรุ่นเยาว์อย่างเจ้ามันจะยากขนาดไหนกัน?”
จากนั้น หยางเหว่ย จึงเริ่มมองไปที่คำถามแรกที่อยู่บนกระดาน
‘ตัวเลขสองตัวจาก 1 ถึง 20 ผลของการบวกตัวเลขสองตัวนั้นมอบให้กับชายคนที่ 1 และผลของการคูณตัวเลขทั้งสองนั้นมอบให้กับชายคนที่ 2 ชายคนที่ 1 บอกว่าเขาไม่รู้ว่าตัวเลขสองตัวนั้นคืออะไร และชายคนที่ 2 บอกว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเองที่ชายคนที่ 1 กล่าวว่าเขารู้คำตอบแล้ว และชายคนที่ 2 ก็เอ่ยขึ้นตามติดๆเช่นกันว่าเขาเองก็รู้คำตอบแล้วเหมือนกัน
‘ตัวเลขสองตัวนั้นคืออะไร?’
จากคำถามที่ ซูอัน คิดขึ้น แนวคิดเรื่องการคูณก็มีอยู่ในโลกนี้ ดังนั้นคำถามนี้จึงไม่ได้อยู่นอกหลักสูตร
27Pi ค่าพาย (Pi) คือ ค่าคงตัวทางคณิตศาสตร์
หยางเว่ย กะพริบตาปริบ ๆ หลายครั้งหลังจากเห็นคำถาม นี่มันคำถามบ้าอะไรกันเนี่ย? ข้าไม่เคยเห็นคำถามแบบนี้มาก่อน! นะ นี่… ข้าจะแก้ปัญหาบ้า ๆ แบบนี้ได้ยังไง!
ในแวบแรกคำถามมันดูเรียบง่ายมาก แต่เมื่อเขาพยายามแก้ปัญหานี้ เหงื่อที่เย็นยะเยือก ก็เริ่มผุดขึ้นบนหน้าผากแบบไม่มีหยุดหย่อน เขาตระหนักได้ว่าความรู้ด้านคณิตศาสตร์ที่เขาสะสมมาตลอดชีวิตของเขาที่ผ่านมา มันไม่สามารถเอามาใช้หาวิธีแก้ปัญหานี้ได้!
นักศึกษาที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็เริ่มพูดคุยกันถึงคำถามดังกล่าว นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นคำถามแปลกใหม่เช่นนี้ อย่างไรก็ตาม แม้หลังจากใช้สมองมาเป็นเวลานาน พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นแก้โจทย์ข้อนี้อย่างไร
“พวกเจ้าทุกคนเงียบกันให้หมดข้าต้องการสมาธิ!”
ในตอนแรก หยางเว่ย คิดว่าเขาอาจจะได้รับแรงบันดาลใจการแก้โจทย์ข้อนี้จากนักศึกษาพวกนี้ก็ได้ แต่แล้วพอฟังไปฟังมามันกลายเป็นว่าคำพูดส่วนใหญ่ของนักศึกษาพวกนี้นั้นไร้สาระ มันไม่มีความคิดเห็นไหนที่ช่วยให้ดีขึ้นเลย สิ่งนี้ทำให้เขาผิดหวังจนอยากจะทุ่มเก้าอี้ใส่นักศึกษารอบ ๆ !
ในทางกลับกัน บรรดานักศึกษาเมื่อถูก หยางเว่ย ตวาด พวกเขาต่างก็พากันแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ลับหลังและก่นด่าในใจ ถุย! เจ้าแก้คำถามไม่ได้แล้วมาใส่อารมณ์กับข้างั้นเหรอไอ้อาจารย์โง่!
สีหน้าของ หยางเว่ย เปลี่ยนเป็นมืดหม่นไม่ต่างอะไรกับถ่านไม้ก่อนหนึ่งเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของบรรดานักศึกษาที่อยู่ในห้อง แต่ในทันใด จู่ ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่าคำตอบมันน่าจะมีเพียง20 ตัวเลขเท่านั้น อย่างมากที่สุดข้าจะลองตัวเลขทีละตัว ข้าคิดว่านี่มันน่าจะเป็นวิธีที่ไอ้เด็กนี่มันใช้แก้ปัญหาของข้าก่อนหน้านี้!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หยางเว่ย จึงรีบสงบสติอารมณ์ก่อนจะคิดคำนวณต่อไป
บรรดานักศึกษารอบ ๆ เมื่อได้เห็นว่า หยางเว่ย เริ่มมีความคืบหน้าบ้างแล้ว พวกเขาก็ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประทับใจขึ้นมาบ้าง