ตอนที่ 33

Hell mode

บทที่ 33 คำแนะนำ

โรดันกลับมาช้า แต่ยังทันเวลาอาหารเย็นทำให้ทุกคนมากินพร้อมหน้า แล้วก็พูดออกมาเหมือนกับเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

โดนหัวหน้าหมู่บ้านเรียกไป

ปีที่แล้วโดนเรียกไปพร้อมกับเกลด้า แล้วบอกให้พาประชาชนเข้าร่วมการล่าหมูป่าด้วย ผลสรุปแผนการสู้ไม่เป็นไปได้ด้วยดีทำให้โรดันที่ไปล่าบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย

พอได้ยินดังนั้น สีหน้าของเทเรเซียก็รุนแรงขึ้น เป็นใบหน้าที่ปนไปด้วยความเป็นห่วง ความโกรธและความไม่สบายใจ

“ละ แล้วบอกว่าอะไรเหรอคะ!?”

ถึงโรดันจะไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ก็ทำการซักถามไป

โรดันที่กำลังจะตักซุปผักที่มีเศษเนื้อถึงกับแข็งทื่อ ดูเหมือนจะเป็นเนื้อหาที่ตอบทันทีไม่ได้ ทำให้เกิดความเงียบขึ้น

และทำการบอกออกมาหลังจากที่เวลาผ่านไปสักพัก

“โดนบอกมาว่า 2 ปีนี้อยากจะให้ทำการล่าเนื้อหมูป่าเพิ่มเป็นเท่าตัว หรือก็คือ 20 ตัว เพราะอย่างนั้นเลยอยากจะให้ทั้งประชาชนและทาสติดที่ดินเข้าร่วมการล่าให้ได้”

“หา!? เอ๊ะ! เรื่องนั้น!! ปะ ปีก่อนก็ด้วย!!!”

โรดันประกาศเรื่องที่ทำให้เทเรเซียเป็นกังวลที่สุดออกมา เพราะหวั่นไหวมากทำให้พูดออกมาไม่เป็นคำ อยากจะบอกว่าเมื่อปีก่อนเกิดอะไรขึ้น พอคนเป็นแม่อย่างเทเรเซียส่งเสียงดังออกมาทำให้มูระร้องไห้

เทเรเซียรีบร้อนกล่อมมูระ

“คุณพ่อ เรื่องนี้เอาไว้คุยกันทีหลังรอให้มัชชูกับมูระนอนก่อนได้ไหม?”

““เอ๊ะ?””

โรดันกับเทเรเซียประหลาดใจกับท่าทีของอเลน เขาพูดอย่างเรียบๆในขณะที่เอาช้อนตักซุปเขาปากแตกต่างกับเทเรเซียที่หวั่นไหวจนตะโกนออกมา ท่าทางราวกับว่าไม่ได้ฟังอะไรเลย

พอล้างจานเสร็จ ก็พามัชชูกับมูระไปนอน เนื่องจากมัชชูเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินตอนกลางวัน ทำให้เหนื่อยจนหลับไป เลยเอาผ้าห่มห่มจนถึงไหล่

พอกลับจากห้องสำหรับเด็กมาที่ห้องนั่งเล่น ทั้งโรดันและเทเรเซียก็ก้มหน้าอยู่ น้ำร้อนที่อยู่ในแก้วไม้เองก็อุ่นแล้ว เทเรเซียรู้สึกไม่สบายใจมากและกำแก้วด้วยมือทั้งสองข้างจนผิวน้ำสั่นไหว

“ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อ ขอฟังเรื่องราวต่อหน่อยได้ไหม”

“นั่นสินะ”

พอบอกอย่างนั้น ก็เล่าเรื่องที่ได้ยินจากหัวหน้าหมู่บ้านออกมา ซึ่งเกลด้าเองก็อยู่ที่นั่นด้วย

เนื้อหาก็อย่างที่บอกไว้เมื่อครู่ ใน 2 ปีนี้อยากจะให้ทำการล่าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ตอนนี้จากเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม ทำการจับได้ 10 ตัว เลยอยากจะให้จับมาทั้งหมด 20 ตัว

แล้วหัวหน้าหมู่บ้านก็พูดเพิ่มเติมออกมา สิ่งนี้ไม่ใช่การขอจากหัวหน้าหมู่บ้าน แต่เป็นคำสั่งของท่านเจ้าเมือง

ตั้งหลายปีมาแล้วที่รับคำสั่งมาจากท่านเจ้าเมือง ว่าพอจะเพิ่มจำนวนเกรซบอร์ได้หรือไม่ ถึงสิ่งนั้นจะมาถึงหัวหน้าหมู่บ้าน ทำให้หัวหน้าหมู่บ้านเอาคำพูดนั้นมาบอกกับโรดันและเกลด้าอีกที

ได้ทำการบอกหัวหน้าหมู่บ้านไปว่าสิ่งนั้นมันยาก คนที่ทำได้มีน้อย มีแค่ทาสติดคนเดิมๆที่ไปล่าแค่ 20 คน เมื่อปีก่อน ที่เอาประชาชนเข้าร่วมด้วยก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทำไม่ได้ แต่ทาสติดที่ดินมีครอบครัว ซึ่งมีทาสติดที่ดินหลายคนเลยที่คิดว่าเนื้อของหมูป่ามันถูกกว่าชีวิต ทำให้ครอบครัวต่างไม่เห็นด้วย

“ถ้างั้น คราวนี้คงปฏิเสธเหมือนกันใช่ไหมคะ?”

ต้องการจะบอกว่าปฏิเสธมาทุกปี ปีนี้จะปฏิเสธอีกก็คงไม่เป็นไร

“แต่ก่อนจะถึง 2 ปีให้หลังที่เพิ่มเป็น 2 เท่า ถ้าหากปีนี้ล่าไม่ได้ 15 ตัวแล้วละก็ ท่านเจ้าเมืองบอกว่าจะทำการรับสมัครทาสติดที่ดินในอาณาจักรเพิ่มอยู่”

ดูเหมือนท่านเจ้าเมืองอยากให้จับหมู่ป่าเพิ่มขึ้นให้ได้ คงอยากจะบอกว่าถ้าทำการรวบรวมทาสติดที่ดินภายในอาณาจักรเพิ่มก็จะทำให้มีผู้เข้าร่วมการล่าได้มากขึ้น แล้วจำนวนหมูป่าที่จับได้ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

คงโดนบอกมาว่าภายในอาณาจักรเองก็มีทาสติดที่ดินอีกมากที่อยากจะไปล่า

“เอ๊ะ? จะเพิ่มจำนวนทาสติดของหมู่บ้าน?”

“ใช่แล้ว เพิ่มจำนวนทาสติดที่ดินของหมู่บ้าน อาจจะทำให้ที่ดินต่อคนลดลงไปด้วย ไม่แน่อาจจะทำการยึดที่ดินของทาสติดที่ดินไม่ไปทำการล่าก็ได้”

หัวหน้าหมู่บ้านยังบอกไว้ว่า ทาสติดที่ดินจะมีที่ดินไม่ได้และไม่มีสิทธิในการถือครอง ท่านเจ้าเมืองตัดสินใจที่จะทำการยึดที่ดินซึ่งสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

“อะ อะไรกัน!”

พอได้ฟังจากหัวหน้าหมู่บ้าน ทำให้สายตาของโรดันว่างเปล่า พอจะรู้แล้วว่าทำไมโรดันถึงทำสีหน้าอึมครึมอยู่ตลอด

ดูเหมือนผู้ส่งสารของท่านเจ้าเมืองจะบอกกับหัวหน้าหมู่บ้านว่า ทำการขอร้องมาหลายปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถ้าหากทำยังไงก็เพิ่มไม่ได้คงมีแต่ต้องทำอย่างนี้

“เกลด้าบอกว่า อยากให้เพิ่มความถี่ในการล่าขึ้นอีกหน่อย เลยคิดว่าจะเรียกทุกคนมารวมตัวกันเพื่อบอกในวันพรุ่งนี้”

จะเพิ่มความถี่จากการที่ไปล่าทุกๆ 10 วัน ถ้าทำอย่างนั้นแล้วน่าจะเพิ่มจำนวนได้อยู่หรอก เลยตั้งใจจะพูดเกี่ยวกับการเพิ่มความถี่ในการล่าตั้งแต่เดือนหน้ากับเหล่าทาสติดที่ดินที่เข้าร่วมการล่า

“ถ้าอย่างนั้น หากปีหน้ากับสองปีหน้าตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนที่จะล่าแล้วละก็ คงจบลงที่ต้องเพิ่มจำนวนทาสติดที่ดินอยู่ดีก็ได้”

อเลนที่ฟังมาโดยตลอดเอ่ยปากแทรกขึ้นมา

(ต่อให้ฝืนเพิ่มความถี่ อาจจะทำให้ผู้ที่ไปทำการล่าเลิกเพิ่มขึ้นก็ได้)

การที่ไปล่าทุกๆ 10 วันมันมีเหตุผลอยู่ อยากจะให้มีสมดุลระหว่างการไปล่ากับการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าหากเพิ่มจำนวนแล้วละก็ ถึงจะได้เนื้อเป็นรางวัลเพิ่ม แต่จะมีอันตรายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

“หา!? ใช่แล้ว อย่างนั้นแหละ”

ถึงจะประหลาดใจที่อเลนพูดออกมาได้ราวกับเป็นเรื่องปกติ แต่มันก็เป็นอย่างนั้น ซึ่งโรดันเองก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น

“สรุปแล้วเพื่อที่จะทำอย่างนั้นมีแต่ต้องเพิ่มจำนวนคนที่จะไปทำการล่า”

“อือ อย่างนั้นแหละ แต่การเพิ่มของปีที่แล้วมันผิดพลาด ไม่รู้ว่าจะมีคนใหม่เข้ามาเพิ่มด้วยหรือเปล่า ถึงจะมีอาจจะทำให้การล่ายากขึ้นก็ได้”

โรดันตอบคำพูดของอเลนกลับไปอย่างจริงจัง

หลังจากที่โรดันบาดเจ็บสาหัส ก็ทำการพรวนดิน กับทำงานบ้านอย่างคอยดูแลน้องชาย ทำการจับอัลบาเฮรอนเกินกว่า 10 ตัวเพื่อปกป้องครอบครัวอย่างเอาเป็นเอาตาย โรดันเข้าหาอเลนที่คอยค้ำจุนครอบครัวมากกว่าลูกชายคนโต แล้ว

“ผมมีความรู้ที่เทพแห่งผู้สร้งเอลเมียร์ประทานมาให้อยู่”

(ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาพูดเรื่องที่กุก่อนหน้านี้ตรงนี้ เอาเถอะอย่างนั้นน่าจะได้รับความเชื่อถืออยู่)

“!?”

โรดันเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ อเลนมีการทดสอบที่คน 100 คนยังไม่อาจทำให้สำเร็จได้อยู่ เพื่อที่จะผ่านการทดสอบนั้น เทพแห่งผู้สร้างจึงประทานพลังและความรู้มาให้ นั่นคือสิ่งที่บอกให้โรดันกับเทเรเซียทราบ

“เกี่ยวกับเรื่องในครั้งนี้ ให้ผมจัดการได้ไหม คิดว่าพอจะทำอะไรได้อยู่”

อเลนประกาศออกมาว่าจะใช้ความรู้ที่ได้รับจากพระเจ้าวางแผนแก้ไขปัญหาในครั้งนี้

หลังจากนั้นเช้าวันรุ่งขึ้น เกลด้า โรดัน แล้วก็อเลน 3 คน อยู่ที่บ้านของโรดัน โดยอเลนบอกว่าจะบอกต่อจากเมื่อวานตอนที่เกลด้าอยู่ด้วย

มันเป็นเรื่องที่จะไม่คืบหน้าหากไม่ได้รับความเห็นชอบและความร่วมมือจากเกลด้า เพราะโรดันกับเกลด้าทั้งคู่เป็นหัวหน้าในการล่าหมูป่า

“อเลน จริงเหรอที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมการล่าหมูป่าปลอดภัยได้?”

ดูเหมือนจะไม่ได้รับความเชื่อใจเท่าโรดัน คะแนะนำจากผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมการล่าสักครั้ง แถมยังเป็นคำแนะนำของเด็กอายุ 6 ขวบ

“บอกว่าปลอดภัยแน่นอนไม่ได้หรอก”

(การล่าไม่มีอะไรแน่นอน)

ช่วงนี้พูดกับเกลด้าด้วยวิธีการพูดแบบเดียวกับครอบครัวแล้ว เพราะโดนบอกว่าไม่จำเป็นต้องพูดสุภาพก็ได้

““หา!?””

โรดันกับเกลด้าทำสีหน้าแบบว่าเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วสินะออกมา

“แต่คิดว่าน่าจะปลอดภัยกว่าวิธีที่ทั้ง 2 คนคิดอยู่ เดิมทีการให้คนใหม่มาทำหน้าที่กำแพงมันเป็นอะไรที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อยู่แล้วด้วย”

(การให้คนใหม่ที่เลเวลน้อยและพลังป้องกันต่ำเป็นเต้าหู้มาทำหน้าที่กำแพงเนี่ย)

ตอนอเลนยังเป็นเคนอิจิ เพื่อที่จะทำให้ตัวละครของตัวเองแข็งแกร่งขึ้น จะใช้เวลาหลายชั่วโมงไปกับการล่า สิ่งนั้นเป็นเวลาหลายหมื่นชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการล่าคนเดียว การจับคู่ล่า หรือล่อมายังสถานที่ล่า มันมีการล่าหลากหลายวิธีการ วิธีการล่าจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับประสบการณ์และสถานที่

วิธีการล่าหมูป่านั้นง่ายๆ จะทำการล่อมาถึงที่ล่า แล้วให้คนที่รับหน้าที่กำแพงสกัด แล้วจึงค่อยลงมือจัดการ โดยวิธีการนี้จะถูกเรียกว่าการล่อมาสถานที่ล่า

เนื่องจากมีประสบการณ์เอาคนใหม่เข้ามาร่วมล่าแล้ว ทำให้มีประสบการณ์มากมายที่จะต้องอบรมคนใหม่ยังไงให้ทำได้อย่างปลอดภัย

“หา? มีวิธีการที่ดีกว่าด้วยเหรอ?”

“มีอยู่แล้ว จะทำการอธิบายต่อจากนี้ แล้วก็”

“หือ? แล้วก็อะไรเหรอ?”

“การล่าครั้งถัดไป ผมอยากจะเข้าร่วมด้วย”

อเลนประกาศว่าอยากจะเข้าร่วมการล่า อเลนแนะนำวิธีการล่าที่ปลอดภัยกว่าการเอาคนใหม่เข้าไปให้ทั้งคู่ฟัง