ตอนที่ 112 – ชั้นยัดข้อหาให้แครสซัส!

*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

“เทเรโด, เขาพูดถูกนะ, จริงๆแล้วแครสซัสกับเวิร์นเนอร์ก็กล่าวหากันแล้วก็โทษกันไปมา พวกเราทุกคนก็รู้อยู่ มันคงจะไม่ยุติธรรมหากท่านตัดสินว่าแครสซัสเป็นโจทก์ส่วนเวิร์นเนอร์เป็นจําเลยและดูเหมือนว่าท่านยังเข้าข้างแครสซัสอีกด้วย หากทําเช่นนี้เจ้ากําลังทําให้สภาชิกสภาอย่างพวกเราเป็นที่ครหาและไม่ยุติธรรม ตอนนี้ข้าชักจะสงสัยการกระทําของท่านซะแล้วสิ!”

หลังเสียงของแอนดรูว์ ออเรเลียส ค้อตต้าเงียบลงไปได้แปปเดียว ชายคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมาแล้วกล่าวหาเทเรโด.

ที่ใดมีมนุษย์ ที่นั่นย่อมมีอุปสรรค์ และที่ใดมีความถูกต้อง ก็ต้องมีความไม่ถูกต้องเช่นกัน

“ข้าเองก็เห็นด้วยกับความเห็นของซาตานที่ว่าพวกเรามีสิทธิ์ที่จะตัดสินอย่างชอบธรรมและเราเองก็มีสิทธิ์ที่จะไต่สวนและตัดสินด้วย นี่ท่านคิดว่าเราเป็นผู้เข้าฟังคําตัดสินเฉยๆรียังไง? ท่านกําลังริดรอนสิทธิ์ของเรารึ?”

“หากเจ้าไม่เข้าใจความยุติธรรมล่ะก็ เทเรโด ลงมาซะแล้วถอยออกไป ข้าคิดว่ามีคนอีกมากที่รู้งานกว่านี้”

“ลงมา!”

“ลงมา!”

เสียงของทุกคนค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ

ตอนนี้สถานการณ์ได้เลยเถิดเกินกว่าที่เย่เทียนคาดไว้มาก, คําพูดของเขาได้ไปจุดประกายสงครามระหว่างสมาชิกสภาแล้วก็กล่าวหากันไปมา

ต้อกๆๆๆๆๆ…

เทเรโดเอาคทาเคาะพื้นรัวๆอย่างเร็วและรุนแรงนานมากจนทั่วศาลก็เงียบลง

เทเรโดจ้องเขม็งไปทางเย่เทียนที่กําลังยิ้มอยู่และรู้ตัวแล้วว่าเขากําลังเจอกับศัตรูตัวฉกาจ. แล้วตอนนี้เขาก็ไม่สามารถช่วยเหลือแครสซัสได้อีกแล้ว

วิคเตอร์ปาดเหงื่อออกจากหน้าผากด้วยความกลัวขณะเดียวกันเขาก็ยกย่องเย่เทียนอย่างสุดซึ้ง. หากเย่เทียนโอหังพอที่จะพลิกสถานการณ์แล้วล่ะก็ ตระกูลของเขาคงแพ้ตั้งแต่เริ่มแน่

เทเรโดลําเอียงอย่างเห็นได้ชัดเลย!

“ท่านสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติทุกท่าน, ข้าขออภัยกับคําพูดโอหังของข้าด้วยและข้าขอคืนคําในสิ่งที่พูดไป. พวกท่านคือสมาชิกสภาผู้ผดุงความยุติธรรม, ผู้พิทักษ์ความถูกต้อง. พวกท่านทุกคนคือเสาหลักของโรม, ผู้ปกป้องแห่งโรม…”

เย่เทียนแล้วกล่าวชม.

ต้อกๆๆๆๆๆ

เทเรโดเอาคทาเคาะพื้นแรงๆอีกครั้งแล้วตะโกนว่า “ซาตาน, ตอนนี้ข้ายังไม่อนุญาตให้เจ้าพูด!!”

จากนั้นเขาก็มองมาทางเย่เทียนอย่างโกรธเกรี้ยว, เขาคิดว่าเย่เทียนนั้นน่ารังเกียจมาก

เจ้าหน้าใหม่ที่ไม่เกรงกลัวเขาแถมยังมาทําเหมือนที่นี่เป็นที่ของตัวเองอีก อยากพูดอะไรก็พูดรึไง!

“ข้าขออภัยด้วย ข้าแค่ลืมตัวไปหน่อย!”

เทเรโดหน้าหนาอยากจะเริ่มทุกอย่างใหม่ทั้งหมดจึงกล่าว

“ลืมตัวรครับ? หากท่านยังลืมตัวพูดอะไรแบบนี้ได้ล่ะก็ ก็แปลว่าท่านไม่เหมาะสมกับตําแหน่งจริงๆ ไม่งั้นแล้วมันก็ถือว่าเป็นการฆาตกรรมหากท่านตัดสินประหารผิดเพียงแค่ลืมตัว”

เย่เทียนไม่อยากให้เขาเนียนเปลี่ยนเรื่องไปง่ายๆเขาเลยพยายามพูดเพิ่มอีก

“หุบปาก!!”

เทเรโดแทบจะระเบิดออกมาแล้วจากนั้นเขาตะโกนใส่เย่เทียน.

“มันยังไม่เริ่มซักหน่อยเลยหนิครับ. ข้าเองก็มีสิทธิ์บ่นนะ…”

เย่เทียนพูด, เขาต้องการจะทําให้เขาโกรธจนตาย เขาจะได้หมดความอดทนแล้วถูกแทนที่ไป.

“เอาล่ะเอาโจทก์กับจําเลยมาซักฟอกพร้อมกันได้แล้ว!!”

เทเรโดตัดสินใจเมินเย่เทียนซะ เพราะยิ่งคุยกับเขาเขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น!

“ต้องแบบนั้นสิเ”

เย่เทียนพยักหน้าด้วยความพอใจแล้วเดินไปทางแท่น

“เจ้าหมอนี่มันไปพัวพันกับตระกูลเวิร์นเนอร์ได้ยังไงกันแถมยังกล้าหมิ่นชนชั้นสูงไปเกือบครึ่งอีก? โชคดีนะที่เขากล่าวชมไปน่ะ”

เพราะคดีนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภาดังนั้นออเรเลีย, ยูเลียและท่านหญิงฉินน่า สตรีทั้งงามสามแห่งชนชั้นสูงจึงเข้ามาร่วมได้

ยูเลียชื่นชมที่เย่เทียนกล่าวหมิ่นแล้วรู้จักกล่าวชมชนชั้นสูงเพื่อให้พวกเขาสบายใจอีกครั้งมาก

“หมอนี่พยายามจะดึงคนมาฝั่งเราจริงๆ! ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะช่วยตระกูลเวิร์นเนอร์ได้รึปาว. เป็นชายที่น่าคนหาจริงๆ”

ออเรเลียพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง, เย่เทียนแสดงอภินิหารให้เธอเห็นหลายรอบแล้ว, เขาเป็นชายที่เต็มไปด้วยความลึกลับและเสน่ห์จริงๆแถมยังรู้สึกอุ่นใจด้วย.

“เอาเลยครับอาจารย์ ท่านทําได้แน่!”

ซีซาร์ตัวน้อยกําหมัดและตื่นเต้นมากเวลามองไปที่เย่เทียน เขาเดาว่าเย่เทียนคงเตรียมพร้อมมาดีแล้ว.

เย่เทียนจะแพ้รึป่าว?

ซีซาร์ตัวน้อยไม่มีความคิดนั้นในหัวเลยแม้แต่นิด!

“ทั้งสองฝ่าย, ต่อหน้าสมาชิกสภาทุกคนแล้ว โปรดสาบานตนต่อหน้าความยุติธรรมด้วย!”

เมื่อเย่เทียนค่อยๆเดินมาถึง เทเรโดก็พูดด้วยเสียงทุ้มแล้วกลั้นหายใจไว้

“ซาตาน ข้าไม่นึกเลยนะว่าท่านจะเป็นศัตรูของข้า!!”

แครสซัสอดไม่ไหวจึงพูดกับเย่เทียนอย่างเยือกเย็น.

“แครสซัส, นี่ไม่ใช่เวลามาหาเพื่อนนะ, เริ่มกันเลย. เราทุกคนมีงานยุ่งนะ!”

เย่เทียนยิ้มและพูดตรงๆ.

“เจ้า”

แครสซัสแทบจะกระอักตายเพราะคําพูดของเขาอีกครั้ง

“ท่านสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติทุกท่าน,

ข้า มาร์คัส ลิซิเนียส แครสซัส, ขอสาบานด้วยเกียรติของสาธารณรัฐโรมัน, โบสถ์เพรสไบที่เรียนและบ้านของข้าว่าข้าจะกล่าวแต่วาจาสัตย์จริง

ลูกสาวแห่งตระกูลเวิร์นเนอร์เฮร่า ได้สูญเสียความบริสุทธิ์ก่อนแต่งและลักลอบเป็นชู้กับสัตว์ประหลาด จนในคืนวันแต่งงานของข้ากับนาง สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวได้เข้ามาทําลายงานแต่งของเรา,เค่นฆ่าผู้คนอย่างบ้าคลั่งจนกลายเป็นงานเลี้ยงโชคเลือดไปจากนั้นก็ลักพาตัวเจ้าสาวไปด้วย! ไม่เพียงแต่เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของตระกูลเรา, ตระกูลของแขกผู้มีเกียรติเท่านั้น แต่ตระกูลแครสซัสของข้าก็ยังได้รับความอับอายจนเป็นที่หัวเราะเยาะให้ขายหน้าไปหมด. หลายวันมานี้ตัวข้าไม่อาจจะกินหรือหลับลงได้ แม้แต่บิดาของข้าเองท่านพ่อแครสซัสก็ยังไม่กล้ามาที่นี่วันนี้เลย!

ดังนั้นคําร้องเรียนของข้าคือให้ตระกูลเวิร์นเนอร์รับผิดชอบออกมาขออภัยและล้างความอับอายของพวกเราและชดใช้ความสูญเสียของแครสซัสเราและตระกูลของแขกทั้งหมดด้วย..

เพื่อท่านผู้อาวุโสที่ทรงเกียรติ, เจ้าหน้าที่ศาลและประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วย!”

แครสซัสเดือดดาลไปด้วยอารมณ์ ทั้งความโกรธและความบ้าคลั่ง

“ถ้าอย่างงั้นก็เตรียมพิจารณาเถอะ….”

เทเรโดพยักหน้าแล้วพูด

“เดี๋ยวสิ, ข้ายังไม่ได้พูดเลย? ท่านรู้เรื่องวิธีการยุติธรรมปาวครับ? หากไม่รู้ก็ลงมาแล้วให้คนอื่นขึ้นไปแทนเถอะ!”

พอเห็นเทเรโดเริ่มจะทําไม่รู้ไม่ชี้อีกรอบ รอบนี้เย่เทียนจึงหยาบคายมาก

“ลอร์ดซาตาน, ถึงตาท่านกล่าวเพื่อเวิร์นเนอร์แล้ว!”

เทเรโดจ้องไปทางเย่เทียนแล้วพูดอย่างโมโห.

“ข้าขอกล่าวหาความผิดให้แครสซัส! ความผิดใหญ่หลวงทั้ง3ข้อ!”

เย่เทียนกระแอมแล้วตะโกนออกมา, ราวกับว่าจะมีระเบิดหล่นลงมาในศาลเปาทุกคนให้กระจุยยังไงอย่างงั้น