ความรู้สึกคุ้นเคยของมิติที่โอบรอบตัวผมหายไปหลังจากกลับมาที่ห้อง และในขณะนั้นเองที่ได้มีร่างหนึ่งกระโดดเข้ามาในอ้อมกอดของผม ผมไม่แปลกใจเลยขณะรับร่างของเอลด้า เธอไม่พูดอะไรกับผมเลยในขณะที่โอบมือและขาของเธอรอบตัวผม 

ผมเห็นว่าเธอกังวลเลยเงียบและทำเพียงลูบหลังเธอเท่านั้น

หลายวินาทีผ่านไปก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นพร้อมกับดวงตาสีเขียวคู่สวยที่มองมาที่ผมอย่างลึกซึ้งโดยไม่พูดอะไร เธอผละออกจากร่างกายของผมก่อนจะเริ่มมองไปรอบๆ ร่างกายของผมเพื่อหาอาการบาดเจ็บหรือบาดแผลต่างๆ 

ผมให้เวโรนิก้าไปอยู่กับเอลด้าเพื่อให้เธอสบายใจ แต่ดูเหมือนว่าเอลด้าจะสบายใจก็ต่อเมื่อเธอเห็นว่าผมไม่เป็นไรเท่านั้น

ในที่สุดหลังจากตรวจร่างกายผมไปรอบหนึ่ง เอลด้าก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนที่เธอจะยิ้มและกอดผมอีกครั้ง โดยเอาศีรษะซบลงบนหน้าอกของผม 

เมื่อเห็นได้ว่าเธอเป็นห่วงผมมากจริงๆ มันก็ทำให้ผมมีรอยยิ้มบนใบหน้า ไม่มีอะไรต้องพูดระหว่างเราขณะที่มือทั้งสองข้างของผมขยับไปที่ก้นของเอลด้าอย่างลับๆ เพื่อโอบกอดไว้อย่างดีและยกเธอขึ้น

“อ๊า!”

เอลด้าแปลกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะหน้าแดงและเอามือโอบรอบคอของผมโดยไม่ได้พูดอะไรอีก 

ผมวางเอลด้าลงบนเตียงและปล่อยให้เธออยู่ตรงนั้นสักพัก ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนชุดเป็นชุดที่สะดวก โดยที่เอลด้าไม่ละสายตาจากร่างกายของผมเลยแม้แต่ครั้งเดียวขณะที่ผมเปลี่ยนชุด

ผมเห็นเธอมองเจ้าแท่งไม้ของผมอย่างลึกซึ้งขณะที่ผมกำลังเปลี่ยนชุดอยู่ มันตลกมากที่ได้เห็นสีหน้าของเอลด้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างรวดเร็วตั้งแต่ประหลาดใจ, จากนั้นก็เขินอายและตอนนี้เธอก็ละสายตาจากผมไม่ได้ แต่สิ่งที่น่าเศร้าคือมันต้องจบลงในขณะที่ผมสวมชุดสบายๆ เสร็จแล้ว 

ไม่นานผมก็อยู่บนเตียงอีกครั้งพร้อมกับดึงร่างเนียนนุ่มของเอลด้าเข้ามาหา

เธอไม่ขัดขืนในขณะที่เอาหัวซบลงบนหน้าอกของผมพร้อมกับโอบแขนของเธอกับผมอย่างมีความสุขขณะนอนอยู่บนตัวผม 

เมื่อเห็นว่าตาสีเขียวของเธอจดจ้องมาที่ผม ผมก็ยิ้มก่อนจะขยับหน้าเข้าไปขโมยริมฝีปากของเธอพร้อมกับมองลึกๆ เข้าไปในตาเธอและพูดขึ้น

“นอนเถอะ…”

เมื่อได้ยินคำพูดของผม เธอก็ผงกหัวและทำตัวผ่อนคลายลงในอ้อมกอดของผม เห็นอย่างนั้นแล้วผมก็ยิ้มอย่างมีความสุข พูดตามตรงผมเองก็อยากจะพรากความบริสุทธ์ของเธอเหมือนกัน แต่ผมรู้ว่ามันยังไม่ถึงเวลาเลยปล่อยปัญหาของเธอไป 

ผมอยากจะให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างช้าๆ และเหมาะสมกับเอลด้าจริงๆ เนื่องจากสายเลือดนางฟ้าของเธอที่บริสุทธิ์นั้นมีความหมายสูง

ผมเพิ่งเรียนรู้เรื่องนี้จากออร์เฟียสว่าในฐานะนางฟ้านั้น มันยากสำหรับเธอที่จะเปิดเผยอย่างสมบูรณ์ สายเลือดของเธอจะสร้างความขัดแย้งบางอย่างกับเธอ ดังนั้นสำหรับตอนนี้ผมต้องดำเนินการกับเธออย่างช้าๆ ในขณะที่ผมค่อยๆ ทำให้นางฟ้าตัวนี้เป็นของผม

ผมเห็นเอลด้าเริ่มหลับไปอย่างช้าๆ โดยที่มีมือของผมโอบเธอไว้ในอ้อมกอดเพื่อปกป้องเธอ

กลิ่นของเธอและร่างกายอันอ่อนนุ่มของเธอช่างเป็นงานศิลปะอย่างแท้จริง ขณะที่ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังผ่อนคลาย ผมก็จูบไปที่หน้าผากของเธอก่อนจะหลับตาและเข้าสู่ห้วงแห่งนิทรา

 

 

“โปรดรอสักครู่ขณะที่เราติดต่อหัวหน้าค่ะ”

ผู้หญิงที่ดูเป็นมืออาชีพและท่าทางแข็งแกร่งพูดขณะที่เธอรับตราที่ผมมอบให้เธอก่อนจะเดินจากไป 

เมื่อมองไปที่เธอแล้ว ผมก็ถอนหายใจเมื่อมองดูสถานที่ที่ตัวเองอยู่ ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในสำนักงานใหญ่ของสมาคมธนูนอกโรงเรียนบาบิโลน

หลังจากหลับไปผมก็ตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นพร้อมกับเอลด้าในอ้อมแขนของตัวเอง เธอกอดผมแน่นและไม่ยอมปล่อยเลย แต่น่าเศร้าที่ผมต้องย้ายเธอไปที่ห้องของเธอเอง เพราะมันคงจะไม่ดีถ้ามีใครเห็นเธอที่กำลังออกจากห้องของผม 

มันอาจสร้างข่าวลือที่ไม่พึงประสงค์มากมาย ดังนั้นโดยไม่มีใครรู้ผมได้ทำการย้ายผู้หญิงที่น่ารักคนนี้กลับไปยังห้องของเธอเอง และไม่ลืมที่จะสัญญาว่าจะออกเดทกับเธอ ซึ่งเธอก็แสดงท่าทียินดีออกมา

เวลาที่เหลือของวันนี้ก็ไม่ได้พิเศษอะไรนัก เอลด้าฉลาดพอที่จะรู้ว่าควรแสดงตัวอย่างไรต่อหน้าคนอื่น เพราะเธอไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ แต่ทุกคนก็เข้าใจได้ว่ามีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับเธอ เนื่องจากเอลด้านั้นยิ้มมากกว่าเมื่อก่อน รอยยิ้มของเธอบริสุทธิ์ที่สุดที่ทุกคนเคยเห็นและทำให้หลายคนตกหลุมรักมัน

ผมมั่นใจว่าตอนนี้ผู้ติดตามของเธอคงจะเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีก ดูเหมือนว่าเวลาที่ผมใช้กับเธอจะปลดโซ่ตรวนที่มัดใจเธออยู่ออกและเมื่อมันถูกปล่อยออกมา เสน่ห์ของเธอก็ดูเหมือนจะระเบิดออกมา ปัญหามากมายกำลังจะเกิดขึ้นในตอนนี้ แต่ผมก็ไม่ได้กังวลอะไร และในขณะที่ผมกำลังจะไปตามทางของตัวเอง ผมก็ได้รับการติดต่อจากเอเลนอร์

เธอดูเหมือนจะต้องการพบผมและเธอก็ดูไม่พอใจด้วย ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถพบตัวจริงกันได้ ผมก็ยังคงติดต่อกับเธออยู่ 

แม้ว่าเธอจะบอกว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ ผมกลับเห็นแค่ว่าเธอกำลังคิดถึงผมอยู่เท่านั้นเอง แล้วใครจะปฎิเสธกันหล่ะ? ผมผลักความรับผิดชอบทั้งหมดไปให้อเล็กซ์ก่อนจะออกจากสถาบันมา

โดยปกติแล้วมันไม่ง่ายเลยที่จะออกจากสถาบัน แต่เมื่อคุณมีคุณน้าที่น่ารักซึ่งมีความรู้สึกว้าวุ่นกับคุณ มันก็ง่ายมากที่จะออกไป เพราะผมต้องการหลีกเลี่ยงความสนใจ ผมจึงใช้สร้อยข้อมือมิติเพื่อเคลื่อนที่อย่างลับๆ ไปยังหอคอยของหัวหน้าสมาคมธนู ในเรื่องนั้นผมอดไม่ได้ที่จะเห็นด้วยว่าเมืองลอยฟ้านั้นเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน

แค่มองแวบเดียวผมก็ไปถึงหอธนูแล้ว ทั้งความหวังและความฝัน ทุกๆ อย่างของนักธนูถูกก่อตั้งโดยจักรพรรดินีแห่งธนู เอเลนอร์

หอคอยนี้มีรูปร่างเป็นลูกธนูโดยหัวลูกธนูนั้นหันลงด้านล่าง ส่วนด้านบนดูเหมือนปลายลูกธนูที่เป็นรูปตัว T มันช่างสวยงามจริงๆ ความจริงแล้วผมจะได้รับมรดกทั้งหมดนี้ในอนาคตในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้าคนต่อไปและเป็นศิษย์เพียงหนึ่งเดียวของเอเลนอร์ สำหรับตอนนี้มันยังเป็นความลับ แต่เอเลนอร์นั้นวางแผนที่จะจัดการงานใหญ่เพื่อกระจายข่าวอยู่

ผมครุ่นคิดเล็กน้อยเกี่ยวกับอนาคตขณะเดินเข้าไปในหอคอยพร้อมกับส่งข้อความถึงเอเลนอร์ ซึ่งได้รับการตอบกลับอย่างรวดเร็ว 

ขณะมองดูผู้คนทั้งหมดที่ทำงานและเคลื่อนไหวอยู่ภายในหอคอย ผมก็มาถึงสถานที่ที่เอเลนอร์พูดถึง 

ผมมอบป้ายให้พนักงานต้อนรับและตอนนี้ผมทำได้เพียงรอ แต่ไม่ต้องรอนานเพราะเธอกลับมาด้วยท่าทางที่เคารพ

“โปรดตามดิฉันมาค่ะท่าน”

มีบางคนจับตามองมาที่ผมเนื่องจากอยู่ๆ ผมก็ปรากฏตัวอย่างกระทันหันและสวมเสื้อคลุม แต่ความประหลาดใจของพวกเขายิ่งลึกซึ้งยิ่งขึ้นเมื่อพวกเขาเห็นว่าผมได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพนักงานต้อนรับ แถมผู้หญิงทุกคนที่ทำงานที่นี่ต่างก็ทรงพลังกันทั้งนั้นและจำนวนคนที่พวกเธอเคารพนับถือก็สามารถนับได้ในมือเดียว

ผมผงกหัวให้เธอก่อนที่เธอพาผมไปที่ห้องๆ หนึ่งที่มีวงเวทย์เทเลพอร์ตอยู่ ผมมองดูอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปและภายในไม่กี่วินาทีผมก็ถูกพาตัวไป 

วินาทีต่อมาที่ผมลืมตาขึ้น ผมก็อยู่ในห้องขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนสำนักงานแล้ว ผมไม่สามารถมองรอบๆ ให้ดีได้ เนื่องจากอยู่ๆ ก็มีอ้อมกอดพุ่งเข้ามาจากข้างหลังผม กลิ่นที่ผมจำได้โชยมาแตะจมูก ในขณะที่หน้าอกขนาดใหญ่สองเต้าเบียดกับหลังของผม

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต