ตอนที่ 166 จัดระเบียบบริษัทย่อย

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 166 จัดระเบียบบริษัทย่อย

ความเร็วของบทเพลงของสุ่ยอวิ๋นโดยส่วนมากไม่นับว่าเร็ว

ความจริงแล้วเพลงบัลลาดเองก็ยากที่จะเร่งความเร็วขึ้นอยู่เป็นทุนเดิม

ทว่าออเดอร์มีเงื่อนไขว่าผลงานในครั้งนี้จะต้องมีสไตล์ที่ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน แสดงว่าต้องมีจุดที่แตกต่าง

ตรงไหนล่ะที่แตกต่าง

จู่ๆ หลินเยวียนเองก็เพิ่งจะนึกได้หลังจากเผลอไปฟังเพลงของสุ่ยอวิ๋นเวอร์ชันเร่งความเร็ว

อันที่จริงสุ่ยอวิ๋นอยากได้บทเพลงที่แตกต่างจากเมื่อก่อน วิธีการที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นการทำให้เธอผู้ซึ่งเคยชินกับการร้องเพลงบัลลาดอ้อยอิ่งเนิบช้าตื่นตัวขึ้นมากะทันหัน!

ฉะนั้นหลินเยวียนจึงนึกถึงเพลงพรมจูบ

ในคลังเพลงของระบบมีเพลงที่ทำให้ตื่นตัวเยอะแยะไปหมด

แต่เพลงที่ทำให้รู้สึกตื่นตัว แถมไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นตัวสุ่ยอวิ๋น ตัวเลือกที่เหลืออยู่จึงลดลงไปอย่างถนัดตา

หลินเยวียนไม่กล้ารับประกันว่าตัวเลือกของตนจะตรงกับเงื่อนไขของออเดอร์มากที่สุด

แต่เขารู้สึกว่าอย่างน้อยเพลงพรมจูบก็ได้มาตรฐาน

เพราะที่จริงแล้วบทเพลงนี้สามารถถ่ายทอดผลงานซึ่งมีเอกลักษณ์ความเป็นสุ่ยอวิ๋นได้อย่างเต็มที่

เป็นเพลงรักซึ่งพบเห็นได้ดาษดื่นแท้ๆ แต่กลับไม่ใช่เพลงเศร้าชวนชอกช้ำระกำใจอย่างที่พบเห็นได้ทั่วไป หากแต่เป็นคำเสียดสีและประณามชายโฉดจากมุมมองของหญิงสาวคนหนึ่ง

สรุปแล้วก็คือน่าสนใจมากทีเดียว

บทเพลงนี้ฟังแล้วทำให้คนอยากขยับแข้งขยับขาตาม

ถ้าหากใส่วิดิโอประกอบเข้าไปด้วยจะยิ่งเพิ่มอรรถรส

ข้อมูลของเพลงแสดงให้เห็นว่าผู้ประพันธ์เนื้อเพลงนี้มีชื่อว่าหลินซี[1] นักแต่งเนื้อเพลงท่านนี้ไม่ต้องแนะนำมาก คนที่ไม่รู้จักจริงๆ สามารถสืบค้นข้อมูลเองได้

ส่วนผู้ประพันธ์ทำนองคือเหลยซ่งเต๋อ[2]

ไม่ต้องอธิบายให้มากความเช่นกัน ขอเพียงทุกคนรับรู้สถานะของเขาในวงการประพันธ์เพลง และสถานะของหลินซีในวงการประพันธ์เนื้อเพลงก็เพียงพอแล้ว

อย่างไรนี่ก็เป็นเพลงที่ยอดเยี่ยมมาก

แต่เพลงที่ยอดเยี่ยม ก็มักจะมาพร้อมกับราคาที่ต้องจ่าย อย่างไรก็ดีเมื่อระบบแจ้งราคา หลินเยวียนก็แทบจะผงะถอย

“ราคาการสั่งทำสองล้านหยวน”

ออเดอร์ราคาสามล้าน ราคาที่ระบบเรียกมาก็ปาไปสองล้านแล้ว!

หลินเยวียนแยกไม่ออกแล้วว่าเป็นเพราะนี่เป็นบทเพลงที่ยอดเยี่ยม หรือระบบฉวยโอกาสขึ้นราคาซะเอง ถึงอย่างไรหลินเยวียนก็รู้สึกว่าระบบจะเจ้าเล่ห์เพทุบายขึ้นทุกวัน “ทำไมช่วงนี้เพลงที่สั่งทำถึงแพงขึ้นเรื่อยๆ ล่ะ นายลดราคาอีกไม่ได้เหรอ สักแสนนึงเป็นไง”

หลินเยวียนต่อรองราคา

ระบบไม่ใส่ใจเขา “จะสั่งทำหรือไม่”

ระบบไม่สนใจใยดี หลินเยวียนสับสนอยู่ชั่วครู่ ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจสั่งทำเพลงพรมจูบ เนื่องจากออเดอร์ในครั้งนี้ค่อนข้างพิเศษ ต้องผลิตขึ้นมาให้เข้ากับตัวนักร้อง ฉะนั้นแล้วจึงไม่มีส่วนแบ่งพิเศษให้กับนักร้อง

กล่าวง่ายๆ ก็คือ

สุ่ยอวิ๋นไม่รับเงิน

เธอเป็นผู้จ่ายเงิน

มาคิดๆ ดูแล้วก็ถูก ฉันทำเพลงให้เข้ากับคุณแล้ว พอถึงตอนนั้นคุณนำเพลงไปร้อง แล้วยังได้รายรับอีก?

ออกจะไม่สมเหตุสมผลไปสักหน่อย

นอกจากนั้นแล้ว ส่วนแบ่งจากยอดดาวน์โหลดก็นับเป็นของทางสตาร์ไลท์มิวสิก

ออเดอร์ก็ส่วนออเดอร์

ส่วนแบ่งจากยอดดาวน์โหลดก็เป็นปัจจัยพื้นฐานในการตัดสินใจของหลินเยวียนด้วย

สิทธิ์ในส่วนนี้นับเป็นของผู้รับงานโดยปริยาย ถ้าไม่เป็นเช่นนี้ วงการเพลงของฉีโจวก็คงไม่ต้องคิดจะพัฒนาต่อไปหรอก

ชีซิงทุ่มเงินสามล้าน หมายจะทำเพลงนี้ให้สุ่ยอวิ๋นขับร้อง นี่จัดอยู่ในลิขสิทธิ์การขับร้องที่อธิบายไว้ในรายละเอียดสัญญา

ฉะนั้นแล้วออเดอร์สามล้านหยวนนี้หลินเยวียนคิดว่าไม่ขาดทุน

“ติ๊งต่อง”

ขณะที่บทเพลงผลิตออกมาเสร็จสมบูรณ์ จู่ๆ ระบบก็เอ่ยขึ้นว่า “โฮสต์มีความสามารถในการเลือกบทเพลงด้วยตัวเองแล้ว ออเดอร์หลังจากนี้โฮสต์จะต้องตัดสินใจเลือกเพลงด้วยตนเอง”

“อ้อ”

หลินเยวียนไม่ยินดียินร้าย

ความหมายของระบบก็คือเพลงพรมจูบนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมาก

ส่วนการเลือกเพลงของตนหลังจากนี้ ระบบเพียงแค่เปิดคลังเพลงทิ้งไว้ หลินเยวียนเองก็รับได้ เขารู้สึกว่าการเลือกเพลงนั้นไม่ได้ยากเกินความสามารถ

อย่างเช่นในครั้งนี้

สิ่งเดียวที่เขาต้องพิจารณาด้วยความรู้เฉพาะทางคงหนีไม่พ้นช่องเสียงและสไตล์ของตัวนักร้องเอง รวมไปถึงความสามารถในการตีความบทเพลงของตนเองด้วย หลินเยวียนคิดว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ยากเกินความสามารถ

สมมติว่านี่เป็นการสอบ

โจทย์ในข้อสอบที่เห็น แม้ว่าหลินเยวียนจะไม่สามารถตอบคำถามถูกต้องตามเฉลยได้ แต่หนังสืออ้างอิงก็วางอยู่ข้างๆ ถ้าหลินเยวียนพลิกอ่านหนังสืออ้างอิงพลางตอบคำถาม ไม่ว่าอย่างไรก็สามารถทำคะแนนที่ดีระดับหนึ่งได้

ในตอนนี้มีเพลงแล้ว

จะให้ส่งไปทันทีเลยหรือ

ไม่ได้อยู่แล้ว

ออเดอร์นี้เพิ่งปล่อยออกมาได้ไม่กี่วัน

ความเร็วในการผลิตออเดอร์ที่ผ่านมาของหลินเยวียนนั้นรวดเร็วเหลือเกิน ถ้าออเดอร์นี้ยังเร็วอีกก็ออกจะไม่สมเหตุสมผลแล้ว เรื่องระยะเวลานี้หลินเยวียนต้องจัดการให้เรียบร้อย

……

วันเสาร์เวียนวนมาอีกครั้ง

หลินเยวียนก็กลับไปที่บริษัทเช่นกัน

เขานั่งเก้าอี้ยังไม่ทันอุ่น ก็เห็นกู้เฉียงอวิ้นเดินยิ้มร่าเข้ามา “ตัวแทนหลินอยากดูออเดอร์ใหม่มั้ย”

“ครับ”

หลินเยวียนพยักหน้า

กู้เฉียงอวิ้นยิ้มแฉ่งยิ่งกว่าเดิม

เขาเพียงแค่มาหยั่งเชิง

ถ้าหากตัวแทนหลินยังดันทุรังทำออเดอร์ของชีซิงต่อไป จะต้องไม่สนอกสนใจออเดอร์อื่นอย่างแน่นอน แต่ถ้าตัวแทนหลินสนใจออเดอร์อื่นแบบนี้ละก็ หมายความว่าตัวแทนหลินยอมปล่อยออเดอร์ของชีซิงไปแล้ว!

ตอนนี้ดูท่าจะยอมแพ้จริงๆ แล้ว

ยอมแพ้ก็ดีแล้ว!

ไม่ทันไร เบื้องหน้าของหลินเยวียนก็มีข้อมูลออเดอร์ใหม่มากองอีกเป็นตั้ง ดูท่าแล้วออเดอร์ของบริษัทในช่วงนี้จะมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า

แต่แม้ว่าออเดอร์จะมากขึ้น แต่กลับไม่มีชิ้นไหนที่หลินเยวียนชอบเลย “ทำไมไม่มีออเดอร์ราคาสามล้านเลยล่ะครับ”

เหมือนกับที่ดูเมื่อคราวก่อนเลย

ออเดอร์ที่แพงที่สุดราคาแค่สองล้านเอง

กู้เฉียงอวิ้นยิ้มขื่น “ตอนนี้ตัวแทนหลินสนใจแค่ออเดอร์ราคาสามล้านเหรอครับ”

หลินเยวียนตอบ “ไม่ใช่ครับ”

กู้เฉียงอวิ้นได้ยินดังนั้นก็พลันลิงโลด

หลินเยวียนเอ่ย “ถ้าเป็นออเดอร์ราคาสามล้านขึ้นไปก็ยิ่งดีครับ”

กู้เฉียงอวิ้นห่อเหี่ยวลงทันที รอยยิ้มระคนความจนใจ “ตัวแทนหลิน ในฉีโจวถึงจะมีผู้ว่าจ้างเยอะ แต่ที่จริงแล้วออเดอร์ราคาสามล้านหยวนหาได้ยากมากนะครับ แม้แต่บริษัทระดับเรดมูนหรือโลนวูล์ฟโดยปกติแล้วก็ยังรับออเดอร์ราคาล้านสองล้านเป็นหลักเลย…”

หลินเยวียนไม่ได้พูดอะไร กู้เฉียงอวิ้นจึงกล่าวต่อไป

“ส่วนออเดอร์ราคาสามล้านขึ้นไป โดยทั่วไปแล้วบริษัทผลิตเพลงสิบอันดับแรกในวงการถึงจะกล้ารับ ที่พวกเรารับออเดอร์มา ครั้งแรกเป็นเพราะเวลากระชั้นเกินไป ธันเดอร์ให้เวลาแค่หนึ่งเดือน อีกครั้งหนึ่งเป็นออเดอร์แข่งขัน คุณก็เห็นว่าออเดอร์แข่งขันยุ่งยากขนาดไหน พวกเราจะทำสำเร็จก็ต้องไปแย่งมาจากปากของเรดมูนกับโลนวูล์ฟให้ได้”

หลินเยวียนขมวดคิ้ว

ราคาที่สั่งทำจากระบบสูงมาก ถ้าหากผู้ว่าจ้างเสนอมูลค่ามาสองล้าน งั้นจะให้เขาจ่ายเงินอีกเงินสองล้านสั่งผลิตเพลงก็แทบจะไม่มีความหมายอะไรเลย

“ไม่งั้นตัวแทนหลินลองพิจารณาตัวสองล้านก่อนมั้ยครับ” กู้เฉียงอวิ้นถามหลินเยวียนอย่างคาดหวัง

หลินเยวียนส่ายหน้า “ไว้ก่อนแล้วกันครับ”

กู้เฉียงอวิ้นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ

หลินเยวียนเพิ่งทำออเดอร์สำเร็จไปสองชิ้น ก็ย่อมต้องการเวลาสักหน่อย

เรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับระยะเวลาที่ตัวแทนหลินอยู่ในฉีโจว นักแต่งเพลงมือทองก็เป็นคน ต้องการเวลาพักบ้าง จะให้รับงานทุกวี่ทุกวันได้ที่ไหนกัน

“จริงสิ”

ครั้นกำลังออกจากห้องทำงาน จู่ๆ กู้เฉียงอวิ้นก็เอ่ยขึ้นมา “เป็นเพราะศักยภาพของออเดอร์ที่ตัวแทนหลินทำ บริษัทเราถึงได้เข้าไปอยู่ในหนึ่งร้อยอันดับแรกของชาร์ตบริษัทผลิตเพลงในฉีโจว ถ้าตัวแทนหลินสนใจก็ลองเข้าไปดูอันดับได้นะครับ”

“ครับ”

“อีกเรื่องคือ…”

กู้เฉียงอวิ้นคล้ายกับกำลังข้ามผ่านการตัดสินใจอันยากลำบาก “ผมอยากจัดระเบียบบริษัทย่อยใหม่ในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่บุคลากรไปจนถึงระบบ ไม่ทราบว่าตัวแทนหลินมีความเห็นอะไรมั้ยครับ”

“ไม่มีครับ”

หลินเยวียนไม่รู้เรื่องการบริหารบริษัท

กู้เฉียงอวิ้นกล่าวอย่างจริงจังว่า “เรื่องเขียนเพลงยกให้ตัวแทนหลิน ส่วนเรื่องจัดการบริษัทผมจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ครับ”

………………………………………….

[1] หลินซี (หลั่มซิก) หรือชื่อจริงคือ Albert Leung นักประพันธ์เนื้อเพลงชาวฮ่องกง มีผลงานซึ่งร่วมงานกับศิลปินดังมากมาย เช่นเฟย์ หว่อง (Faye Wong) แอนดี เลา (Andy Lau) หรือหลิวเต๋อหวา เลสลี จาง (Leslie Cheug) รวมไปถึงมาเรียม หย่อง (Mariam Yeung) หรือหยางเชียนหวา เคยได้รับรางวัล Golden Needle Award ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติในวงการเพลง C-POP จนกระทั่งในปี 2019 ผลงานเพลงของ Albert Leung ได้ถูกนำออกจากแอปพลิเคชันฟังเพลงทั้งหมดของสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องจากเขาแสดงจุดยืนสนับสนุนการชุมนุมประท้วงในฮ่องกง

[2] เหลยซ่งเต๋อ หรือมาร์ค ลุย (Mark Lui) นักประพันธ์เพลง นักร้อง โปรดิวเซอร์ และดีไซเนอร์ชาวฮ่องกง ร่วมงานกับศิลปินจำนวนมาก เช่นแฮ็กเคิน ลี (Hacken Lee) อลัน ทัม (Alan Tam) เลออน ไหล่ (Leon Lai) เป็นต้น