ตอนที่ 50

Earth’s Best Gamer

มันเป็นที่ทราบกันโดยทั่วว่า ‘ความกลัว’ จะทำงานแตกต่างกันไปในแต่ละคน บางครั้งมันก็จะทำให้ใครบางคนปัสสาวะออกมาโดยไม่รู้ตัวหรืออาจช่วยให้ใครบางคนมีสมาธิอย่างมากแม้จะอยู่ในถานการณ์ที่สิ้นก็ก็ตาม

โชคดีที่ซูนงอิ๋งเป็นคนแบบหลังอย่างเห็นได้ชัด

แต่ในทันทีที่เธอจัดการหมาป่าตรงหน้าเสร็จ หมาป่าอีกตัวหนึ่งก็ปรากฏในอากาศและตะครุบเข้าหาเธอพร้อมกับแยกเขึ้ยวโดยไม่สนใจคนอื่น อาจเป็นเพราะตัวที่ซูนงอิ๋งสังหารไปเป็นครอบครัวของมัน

ซูนงอิ๋งกรีดร้องและสะดุดล้ม การกระทำก่อนหน้านี้ของเธอเป็นผลลัพธ์ระยะสั้นจากความกล้าที่เพิ่มขึ้นมาอย่างกระทันหัน การเคลื่อนไหวอย่างสิ้นเปลืองทำให้แรงของเธอหมดลง ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถยกดาบของเธอขึ้นมาฟันได้อีกต่อไป

เธอรู้สึกว่าสมองของเธอว่างเปล่าเมื่อฟันที่เปื้อนเลือดของหมาป่าอยู่ใกล้หัวของเธอ

ลูกศรพุ่งเข้าที่คอของหมาป่า แต่สิ่งนี้ได้ขัดขวางสิ่งมีชีวิตตัวนั้นจากการพุ่งเข้าไปหาซูนงอิ๋ง

ลูกศรใหญ่สีทองแดงพุ่งออกมาและปักลงในหัวของหมาป่า พลังที่รุนแรงทำให้ร่างที่กำลังพุ่งของมันกระเด็นออกไป

[สังหารหมาป่าน้ำเงิน (ระดับสามัญอันดับ 5) ค่าประสบการณ์ที่ได้รับ : 15]

“ตามที่คาด สิ่งที่หน่วยสอดแนมพูดนั้นไม่ถูกต้อง” จีเย่พึมพำ “สมาชิกเพศผู้ตัวใหญ่ของพวกมันระดับสูงกว่าที่เราคาดไว้มาก”

ถึงอย่างนั้น สิ่งนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้หมาป่าอยู่เหนือกว่ามนุษย์ที่สามารถใช้อาวุธและเครื่องมือได้

หลังจากช่วยซูนงอิ๋ง จีเย่ก็รีบเล็งไปที่หมาป่าอีกตัววึ่งกำลังจะสังหารชนพื้นเมืองที่ไร้เรี่ยวแรง ในการต่อสู้ระยะกลาง ลูกศรของเขาทำงานได้ดีอย่างมหัศจรรย์ การโจมตีแต่ละครั้งจะสังหารหมาป่าและส่งมันกระเด็นออกไป

เขาได้วางแผนที่จะฝึกฝนทหารใหม่ด้วยวิธีที่รุนแรง แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะส่งพวกเขาไปตาย ด้วยการเฝ้าระวังจากบริเวณใกล้เคียง เขาตั้งใจที่จะทิ้งการต่อสู้ให้กับพวกเขาในขณะที่ป้องกันผลลัพธ์อันเลวร้ายจากระยะไกล นอกเหนือจากการจัดการกับเป้าหมายที่ไกลเกินไปบางครั้ง เขาและหลู่จือเซินก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังต้องคอยระวังสิ่งที่อันตรายมากกว่าเพราะฝูงหมาป่ามีเล่ห์เหลี่ยมมากกว่าจำนวนขนของพวกมันอย่างเห็นได้ชัด

ทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น จีเย่ก็สังเกตเห็นเงาขนาดใหญ่หลายตัวซ่อนอยู่บนแท่นสูงใกล้ๆ พวกมันแทบจะดูเหมือนกับวัวขนาดเล็ก

ตามคำสั่งของผู้นำของพวกมัน หมาป่าตัวใหญ่สี่ตัวที่มีขนสีน้ำเงินเข้มจะโผล่ออกมาจากป่าและพุ่งไปยังที่ที่จีเย่และหลู่จือเซินซ่อนตัวอยู่

จีเย่ให้ความสนใจกับสนามรบหลักและสังหารหมาป่าตัวเล็กอีกตัวหนึ่งที่เกือบจะกีดคอของหลี่ชิง หลู่จือเซินจะคอยตอบโต้หมาป่าตัวหนึ่งที่ซุ่มโจมตีซึ่งพยายามโจมตีจีเย่จากด้านหลัง เขาใช้หมัดเรืองแสงของเขาต่อยหมาป่าที่หลังของมันและส่งมันกระเด็นไปชนกับต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร

น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าขนหนาของหมาป่าจะทำให้แรงหมัดลดลง ไม่นานหมาป่าที่บาดเจ็บก็หายจากอาการตกตะลึงและเริ่มเคลื่อนไหวร่วมกับพวกพ้องของมันอีกครั้ง

เนื่องจากหมัดของเขาไม่สามารถรับมือกับสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นได้ดีมากนัก ในไท่ช้าหลู่จือเซินก็พบว่าตัวเองต้องดิ้นรน

ในขณะที่หลู่จือเซินกำลังยุ่งอยู่ หมาป่าอีกตัวก็ค่อยๆ เดินขึ้นไปบนแท่นสูงและสังเกตสนาบรบอย่างเงียบๆ ราวกับเป็นเรื่องปกติ หมาป่าตัวนี้มีขนสีดำที่หลังของมัน ดูเหมือนว่ามันจะเป็นหมาป่าที่ตัวใหญ่ที่สุดที่ปรากฏตัวในวันนี้ ทันทีที่มันปรากฏตัวออกมา หมาป่าตัวอื่นทั้งหมดก็เริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้นและไม่ประมาทราวกับพวกมันได้รับการสนับสนุน แรงกดดันของชนพื้นเมืองและผู้เล่นใหม่เพิ่มมากขึ้น

“ในที่สุด”

ทั้งจีเย่และหลู่จือเซินดูดีใจมากกว่าประหลาดใจ

หมาป่าตัวใหญ่ตัวนั้นก็คือ ‘ผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นเป้าหมายระดับวิสามัญ’ ที่พวกเขาวางแผนที่จะสังหาร เพื่อล่อให้มันออกมา ทั้งจีเย่และหลู่จือเซินต่างตั้งใจแสดงท่าทางราวกับว่าพวกเขาถูกหมาป่าขนสีน้ำเงินเข็มตรึงไว้ ด้วยวิธีนี้ ‘หัวหน้าหมาป่า’ จะลดการป้องกันและหยุดซ่อนตัวอยู่หลังพวกพ้องของมัน

แม้ว่าพวกเขาจะกวาดล้างฝูงหมาป่าจนหมด แต่การปล่อยให้หัวหน้าของพวกมันหลบหนีไปได้หมายถึงภัยคุกคามต่อชรพื้นเมือง มันจะเป็นปัญหาหากสิ่งมีชีิวตที่ฉลาดเช่นนี้เลือกที่จะซ่อนตัวและจัดการชนพื้นเมืองที่ออกไปทำงานนอกถิ่นฐานในขณะที่หลีกเลี่ยงนักล่าที่มีความสามารถ

แต่เนื่องจากมันเลือกที่จะแสดงตัว…

จีเย่หมุนตัว 180 องศาและปล่อยลูกศรออกไปทันที ทำให้หมาป่าที่ซุ่มโจมตีกระเด็นไปยังที่ที่มันพุ่งเข้ามา

หลู่จือเซินรัวหมัดใส่ป่าหมาตัวอื่นและหักกระดูกสันหลังของมันในระหว่างนั้น ในเมื่อเขาไม่จำเป็นต้องแสดงอีกต่อไป เขาจึงสามารถใช้พลังเหนือธรรมชาติของเขาได้อย่างอิสระวึ่งทำให้เขาสามารถต่อยทะลุเหล็กได้ ไม่มีทางที่ร่างกายของสัตว์ร้ายทั่วไปจะสามารถทนได้

หลังจากสังหารหมาป่าตัวใหญ่เสร็จ จีเย่ก็เพิ่งค้นพบว่าพวกเขาต้องจัดการกับมอนเตอร์อันดับ 6 ก่อน แต่ว่าสิ่งมีชีวิตดังกล่าวจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อเขาเลย

เขาบรรลุสิ่งที่เขาต้องการแล้ว นั่นก็คือการดึงหัวหน้าหมาป่าโดยแสร้งทำเป็นว่ากำลังจะแพ้