SGS บทที่ 326 – อิหยังวะเนี่ย…..

ทุกคนจดจ่ออยู่กับการปะทะกันของทั้งสอง บางคนเพ่งสายตามองเสียจนราวกับลูกตาจะหลุดออกจากเบ้าให้ได้……

ถึงทั้งคู่จะประมือกันไม่นานแต่มันก็ไม่ได้น่าเบื่อเลย สำหรับคนดูส่วนใหญ่ที่พวกเขาเห็นมีเพียงแค่วู่หยานกับไป่หลิงพุ่งมาปะทะกันกลางอากาศก่อนที่จะแยกตัวออกมายืนจ้องหน้ากัน

แน่นอนว่าไม่นับนักเรียนพิเศษที่ยืนดูติดขอบสนาม พวกเขาเห็นหมดทุกอย่าง เมื่อทั้งสองแยกตัวจากกันพวกเขาก็ส่งเสียงร้องเชียร์ทันที

ไป่หลิงขมวดคิ้วแน่นมองวู่หยาน จากการลองเชิงเมื่อกี้เขากลับพบว่าตัวเองไม่สามารถมีชัยเหนืออีกฝ่ายในด้านทักษะฝีมือได้เลย!

แววตาเปร่งประกาย ไป่หลิงเริ่มคำนวณตัววู่หยานในใจ ‘อีกฝ่ายมีทั้งความเร็วและชั้นเชิงต่อสู้ที่เหนือกว่า ถ้าสู้ในระยะประชิดเราเสียเปรียบแน่ มีทางเดียวที่เราจะสะกดข่มอีกฝ่ายได้ก็คือ….ปราณพิเศษของตระกูลไซโตะ!’

คิดได้แบบนี้ก็ลงมือทันที ตัวไป่หลิงสั่นเบาๆจากนั้นมีปราณสีน้ำเงินแพร่กระจายออกมาจากตัว ปราณน้ำแข็งที่กำลังห่อหุ้มตัวเขาไว้ดูสวยงามมาก แต่ทุกคนในที่นี้ก็ไม่มีคิดสบประมาทเพราะความสวยนี้เลย….

วู่หยานยกคิ้ว ยกดาบนิเอโทโนะ โนะ ชานะขึ้นเล็กน้อย เขารู้สึกสนใจมากว่าไป่หลิงมันจะมาไม้ไหนเซอร์ไพรส์ตน…….

ทันใดนั้นเองปราณรอบกายไป่หลิงก็ได้แยกตัวออกมาจากเขา แล้วแปรสภาพเป็นคลื่นความเย็นปกคลุมไปทั่วทั้งลานประลอง!

ขณะที่ไป่หลิงยังคงปล่อยปราณออกมาไม่หยุด จู่ๆวู่หยานก็รู้สึกได้ถึงแรงกดทันแปลกๆทับลงบนตัวเองมันให้ความรู้สึกราวกับจมอยู่ใต้น้ำ

เห็นาภาพนี้บิงเมียนก็ตื่นเต้นทันที เขาเองก็ฝึกฝนปราณชนิดเดียวกันมีหรือจะดูไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น?

มันเป็นมากกว่าแรงกดดัน ทั้งสามารถลดความเร็วของศัตรูได้และยังลดอัตราฟื้นฟูปราณด้วย!

นี่เป็นหนึ่งในท่าที่พิเศษที่สุดของตระกูลไซโตะ และเขา บิงเมียน ก็ยังไม่ได้เรียนเลย…….

แน่นอนว่าแรงกดดันแค่นี้ย่อมไม่ส่งผลอะไรเท่าไหร่กับวู่หยาน อย่างมากก็แค่ลดความเร็วของเขาลง ส่วนอัตราฟื้นฟูปราณยิ่งไม่เกี่ยวใหญ่! ก็เขายังไม่มีปราณหรือพลังเวทย์เลย!

ทว่าเรื่องนี้คนอื่นย่อมมองไม่ออก…….

“ไม่ว่านายจะเก่งแค่ไหน ภายใต้เขตแดนนี้ก็ต้องได้รับผลอะไรบ้างละ อย่างน้อยๆก็คงไม่ได้เร็วเหมือนเมื่อกี้แน่……..” มองดูวู่หยานที่อยู่ตรงจุดศูนย์กลางของเขตแดน ไป่หลิงก็ยกยิ้ม

วู่หยานเลิกคิ้วเล็กน้อยเขารู้สึกร่างกายมันหน่วงๆจริง นี่ทำให้เขาอดที่จะชมไป่หลิงไม่ได้

สมแล้วที่ขึ้นมาถึงสิบอันดับแรกได้ เอ็งมีสกิลพิเศษที่สามารถเอาเปรียบนักเรียนแรงค์7คนอื่นนี้เอง…….

วู่หยานมองดูไอสีน้ำเงินที่คล้ายๆหมอกลอยอยู่รอบตัว จากนั้นฟันดาบใส่ไปทีผลคือใบดาบผ่านไปเฉยๆราวกับฟันอากาศปกติ!

ในเวลานี้เองไป่หลิงก็ได้เคลื่อนไหว

เท้ากระทืบพื้น ไป่หลิงไปโผล่ใกล้ตัววู่หยานทันที!

“ฟึบ!ฟึบ!”

ไป่หลิงตวัดมีดสั้นใส่วู่หยานด้วยวิธีคดโค้งราวกับงูฉก ทุกๆตำแหน่งที่ฟันเขาได้เล็งไปยังจุดแตกต่างกันทั่วร่าง

ต้องพูดเลยว่าไป่หลิงนี่ช่างจับจังหวะจับโอกาสเก่งจริงๆ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงจะโดนฟันแล้วติดสถานะเชื่องช้าซ้ำไปเรื่อยๆจนแพ้แน่

แต่มันไม่ใช่กับวู่หยานที่มีวิถียุทธอมตะ!

“เคร้ง! เคร้ง!”

ด้วยความช่วยเหลือของวิถียุทธอมตะ วู่หยานขยับเท้าเคลื่อนไหวด้วยขอบเขตที่เล็กน้อยอย่างถึงที่สุดขณะที่มือก็ตวัด นิเอโทโนะ โนะ ชานะ ขึ้นไปรับเงามีดสั้นที่บุกเข้ามา!

ผลคือเงามีดนับไม่ถ้วนได้ถูกกันไว้ด้วยนิเอโทโนะ โนะ ชานะหมด ทุกครั้งที่กันก็จะเกิดเสียงปะทะของใบมีดดังขึ้น พอเกิดขึ้นถี่ๆเข้าก็กลายเป็นจังหวะเสียงเพลง!

ตรงหลังมือข้างที่จับนิเอโทโนะ โนะ ชานะเริ่มมีเส้ดเลือดปูดขึ้นมา วู่หยานรู้สึกประหลาดใจหน่อยๆกับแรงที่แฝงมากับมีสั้นพวกนี้ มันให้ความรู้สึกยังกับเขาฟันใส่แท่งน้ำแข็งยังไงยังงั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีร่างกายของTrue Ancestor ป่านนี่ดาบคงจะกระเด็นหลุดมือไปแล้ว

นอกจากยังความถี่นี้อีก ทำให้แม้แต่วู่หยานก็ยังรู้สึกยุ่งยาก

ทว่าโชดยังดีที่ไป่หลิงไม่อาจคงจังหวะฟันรัวๆแบบนี้ได้นานเพราะมันใช้พลังงานไปไม่น้อยเลย ผ่านไปหนึ่งนาทีความถี่ในการฟันก็ได้ลดน้อยลง นี่ทำให้แรงกดดันที่เขาได้รับลดลงไปเยอะเลย!

เวลานี้เองวู่หยานก็ได้เบิกตาขึ้นเล็กน้อย มือยกดาบฟันไปในแนวนอนบีบบังคับให้ไป่หลิงถอยหล่นออกไป ตัวเขาเองก็ก้าวถอยหลังไปหลายก้าวเช่นกัน

“หมอนี่….มีฝีมือไม่เลวเลย….” วู่หยานพ่นลมหายใจออกมาทีนึง แล้วมองไป่หลิงที่กำลังหอบแฮ่กๆ หลังจากปะทะกันพักหนึ่งวู่หยานก็เข้าใจรูปแบบการต่อสู้ของอีกฝ่ายแล้ว!

ไป่หลิงจ้องวู่หยานเขม็ง เห็นอีกฝ่ายไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยเลยเขาก็รู้สึกปวดหัวจี๊ด กลับกันเป็นเขาเสียเองที่เหนื่อย

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคนที่จะได้หมดแรงก่อนก็คงเป็นตัวเขาเองแน่!

ไม่ เราจะยื้อการต่อสู้ให้นานกว่านี้ไม่ได้แล้ว ต้องรีบจบให้เร็วที่สุด!

ทันใดนั้นเองก็มีปราณสีน้ำเงินจำนวนมากระเบิดออกมาจากตัวไป่หลิงแล้วหุ้มตัวเข้าไว้เป็นชั้นๆหนาขึ้นเรื่อยๆจนดูเหมือนโดมแสงย่อมๆ เห็นภาพแปลกๆวู่หยานก็เริ่มระวังตัวขึ้น เขาไม่ต้องการแพ้เพราะประมาทคู่ต่อสู้ พอคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะเล่นของหนัก วู่หยานก็เริ่มคิดว่า ถึงเวลาที่เขาควรจะเอาจริงแล้วมั้ย?

ใช่แล้ว ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้วู่หยานยังไม่ได้เอาจริง! เขาใช้แค่วิถียุทธอมตะบวกกับร่างกายของTrue Ancestorชนะมาจนถึงตอนนี้!

เขายังไม่ได้ใช้พลังจิตเท่าไหร่เลย อย่างมากก็ทำแค่ปล่อยไฟฟ้าออกมากระตุ้นเสริมความเร็วและพลังกาย ยังเหลือลูกเล่นอีกเยอะที่ยังไม่ได้ใช้!

เทียบกับเฟยเฟยแล้วไป่หลิงอ่อนแอกว่าเล็กน้อย เพราะงั้นถ้าเขาไม่อ่อนข้าให้หน่อยมันก็คงจะจบเร็วเกินไป ตอนนั้นเฟยเฟยสามารถสู้กับเขาได้อย่างสูสีก่อนที่เขาจะมี วิถียุทธอมตะ กับ สายเลือดแท้ เสียอีก!

แล้วนี่ยังไม่นับเลเวลเขาที่เพิ่มขึ้นมากกว่าตอนสู้กับเฟยเฟยอีกตั้งเยอะ!

ตอนนี้วู่หยานคุ้นชินกับวิถียุทธอมตะแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะออมมือให้อีก!

ประกายไฟฟ้าปรากฏออกมาจากทั้งตัววู่หยาน ออร่าเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และนัยน์ตาสีแดงของเขาก็ได้เปลี่ยนเป็นสีทอง!

ทว่าพริบตาต่อมาก็กลับเป็นสีแดงอย่างเดิม แม้แต่ไฟฟ้าเขาก็ยังเก็บเข้าร่าง

นี่ไม่ใช่เพราะเขาคิดอ่อนต่อให้หรืออะไร แต่เป็นเพราะตอนนี้…มันมี….เห้ออ….คนโผล่ออกมาคั่นกลางระหว่างเขากับไป่หลิง…..

วู่หยานถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในใจไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี……

อิหยังนักหนาวะ…..ใคร….มันเข้ามาขวางอีกแล้วเนี่ย….

//ติดตามอ่านตอนล่วงหน้าได้ที่เพจเฟสบุ๊ค – ห้องสมุดคนรักนิยายแปล 

ปัจจุบันมีทั้งหมด 1620 ตอน จุกๆ