ตอนที่ 68 จ่ายค่าธรรมเนียมอีกครั้ง?

หยางเย่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่อาจารย์จางตัดสินใจรับเฉียวอวี่เอ๋อเป็นศิษย์ทันที แต่ก็เขาก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว อาจารย์จางทำเช่นนั้นเพราะเขา หรือบางทีเพราะ ‘อาจารย์’ ของหยางเย่ เมื่อนึกได้เช่นนั้น หยางเย่รู้สึกสงสัยคนที่เป็นอาจารย์เขามากขึ้น เพราะไม่เพียงแค่ผู้อาวุโสในสำนักดาบราชันจะเกรงกลัวแล้ว แม้กระทั่งอาจารย์ยันต์ขั้นจิตปฐพีเองก็เกรงกลัว ‘อาจารย์’ ผู้นี้เช่นกัน

‘หรือเขาเป็นอาจารย์ยันต์ขั้นจิตวิญญาณกันนะ? หรือจะเป็นขั้นจิตสวรรค์?’

เมื่อหยางเย่กำลังครุ่นคิด อาจารย์จางได้เดินกลับมาพร้อมชุดทองคำเข้ม และกล่องสองใบ อาจารย์จางวางเสื้อคลุมและกล่องไว้ตรงโต๊ะหินก่อนจะมองหยางเย่พร้อมกล่าว “นี่คือเครื่องแบบและตราสัญลักษณ์ของสมาคม จงจำไว้ หากเจ้าสูญเสียตราสัญลักษณ์ไป จงรีบกลับมาทำใหม่ มิเช่นนั้นสมาคมและจักรวรรดิต้าฉินจะไม่นับว่าเจ้าเป็นอาจารย์ยันต์อีก!”

ทันทีที่อาจารย์จางกล่าวจบ เฉียวอวี่เอ๋อรีบเดินไปเปิดกล่องของนาง จากนั้นได้อุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นตราสัญลักษณ์ภายในกล่อง จากนั้นนางเงยหน้าขึ้นมองอาจารย์จางพร้อมกล่าว “อาจารย์ มันคือตราสัญลักษณ์ของอาจารย์ยันต์ระดับสอง แต่ข้า…”

นางต้องการถามอาจารย์ว่าผิดพลาดหรือเปล่า แต่ด้วยความเคารพอาจารย์จาง นางจึงไม่เอ่ยสิ่งใด

ขณะเดียวกัน หยางเย่ก็ได้เปิดกล่องดู ตราสัญลักษณ์ข้างในเป็นทรงกลมขนาดสองหัวแม่โป้ง ตรงหน้าสัญลักษณ์มีอักษร ‘หนึ่ง’ สี่ตัว ‘

เมื่อเขาเห็นสัญลักษณ์นั้น หยางเย่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะตราสัญลักษณ์นี้เป็นของอาจารย์ยันต์ระดับสี่

ยิ่งกว่านั้นมันเกิดขึ้นกับเฉียวอวี่เอ๋อเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงเงยหน้ามองอาจารย์จางด้วยความงุนงง

ทันทีที่เห็นอาการงุนงงของทั้งสอง อาจารย์จางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าไม่ได้ผิดพลาดหรอก น้องชายหยางคืออาจารย์ยันต์ระดับสี่ และเจ้าก็เป็นอาจารย์ยันต์ระดับสอง อวี่เอ๋อ”

เมื่อเห็นท่าทีพวกเขายังงงวยอยู่ อาจารย์จางจึงได้อธิบายอีกครั้ง “ตามกฎของของสมาคม ระหว่างการทดสอบกับอาจารย์ยันต์ขั้นปฐพี หากผู้ทดสอบสามารถสร้างยันต์ระดับกลางได้จะมีระดับเพิ่มให้หนึ่งแต้ม!”

“งั้นผู้ที่สร้างยันต์ระดับสูงได้ล่ะ?” หยางเย่ถาม ถ้ายันต์ระดับกลางเพิ่มให้หนึ่งระดับ เช่นนั้นจึงทำให้เขารู้สึกหดหู่ เพราะการสร้างยันต์ระดับสูงสองแผ่นมันก็เท่ากับสร้างยันต์ระดับกลางเท่านั้น

เมื่อได้ยินหยางเย่ถาม อาจารย์จางฝืนยิ้มพร้อมกล่าว “ตามหลักการ น้องชายหยางเย่สามารถเป็นอาจารย์ยันต์ระดับห้าตอนนี้ เพราะแม้แต่อาจารย์ยันต์ขั้นปฐพียังไม่สามารถทัดเทียมกับน้องหยางได้ ส่วนเหตุผลที่สามารถยกระดับให้ได้แค่สองขั้นนั้น เพราะข้าสามารถเพิ่มให้ได้แค่สองขั้น หากน้องชายหยางต้องการเป็นอาจารย์ยันต์ระดับห้า ข้าก็สามารถส่งเจ้าไปสมัครได้ที่สมาคมหลัก แต่มันต้องใช้เวลาสักหน่อย!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหยางเย่จึงกล่าว “ขอบคุณท่านอย่างยิ่ง อาจารย์จาง จะระดับสี่หรือระดับห้าหาได้ต่างกันไม่ ดังนั้นข้าจะไม่รบกวนอาจารย์จางแล้ว ใช่แล้ว ข้ายังมีเรื่องที่ต้องทำต่อ เช่นนั้นข้าขอลา!”

ทันทีที่กล่าวจบ หยางเย่ประกบมือคารวะอาจารย์จาง จากนั้นเขาหันหลังเดินออกไป เพราะหลังจากที่ได้รับสถานะอาจารย์ยันต์แล้ว หยางเย่ไม่ต้องการเสียเวลาอยู่ที่นี่อีก สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือรีบไปยังเมืองทักษิณภิรมณ์

เมื่อเห็นหยางเย่กำลังจะออกไป เฉียวอวี่เอ๋อรีบนำผ้าคลุมและตราสัญลักษณ์เข้าไปในแหวนมิติ จากนั้นคำนับอาจารย์จางพร้อมกล่าว “อาจารย์ อวี่เอ๋อขอตัวไปส่งน้องหยางก่อน!”

ทันทีที่กล่าวจบ นางไม่รออาจารย์จางตอบพร้อมรีบวิ่งตามหยางเย่ไป

อาจารย์จางเหมือนจะนึกบางอย่างขณะมองเฉี่ยวอวี่เอ๋อวิ่งไป รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าเขา “หากทั้งสองเป็นคู่รักกันขึ้นมา เช่นนั้นเราจะไม่กลายเป็นญาติกับอาจารย์หลินหรือ? หากสามารถมีโอกาสที่ดีเช่นนั้น เราคงสามารถเข้าไปยังสมาคมหลักได้แน่ในอนาคต”

เมื่อนึกได้เช่นนั้น รอยยิ้มบนหน้าอาจารย์จางยิ่งกว้างขึ้นไปอีก

เขาหัวเราะอยู่นานก่อนจะนึกบางอย่างได้ จากนั้นได้ตบหัวตนเองด้วยมือขวา และรีบร้อนวิ่งออกไป “ศิษย์ของอาจารย์หลินปรากฏตัวที่นี่ ข้าต้องรีบแจ้งข่าวให้สมาคมหลัก อาจารย์หลินคงยังไม่กลับจากสมาคมไปยังสำนักดาบราชัน…”

……

ด้านนอกทางเข้า เฉียวอวี่เอ๋อตามหยางเย่ทันแล้ว ส่วนหยางเย่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ แม้เขาจะรีบร้อนกลับไปยังเมืองทักษิณภิรมณ์ เพราะนางวิ่งตามมา มันคงไม่ดีหากวิ่งหนีไป

“คุณหนูเฉียว มีอะไรงั้นหรือ?” หยางเย่ถาม

เฉียวอวี่เอ๋อคำนับหยางเย่ จากนั้นกล่าวด้วยท่าทีจริงจัง “น้องหยาง ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”

หากไปใช่เพราะหยางเย่ อย่าว่าแต่จะได้เป็นศิษย์อาจารย์จาง แค่การทดสอบนางก็คงล้มเหลวไปแล้ว ดังนั้นนางจึงรู้สึกอยากขอบคุณหยางเย่มาก

“คุณหนูเฉียว ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น อย่ากังวลไปเลย ยิ่งกว่านั้นหากคุณหนูเฉียวไม่ช่วยข้าตั้งแต่แรก อย่าว่าแต่จะได้ทดสอบเลย แค่เข้าไปยังสมาคมก็ทำไม่ได้!” หยางเย่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม ในความคิดหยางเย่ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยโดยแท้จริง แน่นอนว่าเพราะเขาได้มีความประทับใจในตัวนางอยู่แล้ว

เฉียวอวี่เอ๋อส่ายหัวพร้อมกล่าวอย่างจริงจัง “แม้น้องหยางจะคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นไม่มีอะไร แต่สำหรับข้ามันราวกลับได้เกิดใหม่! ใช่แล้ว น้องหยาง ท่านสามารถเรียกข้าว่าอวี่เอ๋อได้ในอนาคต ข้ารู้สึกเป็นคนไกลหากถูกเรียกว่าคุณหนูเฉียว”

เฉียวอวี่เอ๋อตระหนักดีว่าวิธีและเคล็ดวิชาของหยางเย่นั้นยอดเยี่ยมเพียงใด เห็นได้ชัดจากอาจารย์ของนางที่ไม่สนว่าจะต้องอับอายเพื่อจะเข้ามาจดบันทึกวิชา

หยางเย่เงยหน้ามองดูเวลา เขาสังเกตเห็นว่าท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบกล่าว “แม่นางอวี่เอ๋อ ข้ามีธุระต้องรีบไป เช่นนั้นข้าต้องขอตัวก่อน”

ทันทีที่กล่าวจบ หยางเย่จากไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้สถานะอาจารย์ยันต์เรียบร้อย หยางเย่ไม่ต้องการจะเสียเวลาอีก เพราะยิ่งช้าเท่าไหร่ อันตรายของมารดาและน้องสาวจะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น!

เฉียวอวี่เอ๋อวิ่งตามหยางเย่มาอีกครั้ง จากนั้นนางหยิบเครื่องประดับหยกจากกระเป๋าพร้อมกล่าว “น้องหยาง หลังจากที่เสร็จธุระแล้ว ข้าหวังว่าท่านจะกลับมาเยี่ยมบ้านตระกูลเฉียว เช่นนั้นข้าจะได้แสดงความขอบคุณได้อย่างเต็มที่!”

เฉียวอวี่เอ๋อทราบดีว่าหยางเย่มีธุระด่วนอย่างแท้จริง ดังนั้นนางจึงหยุดคิดที่ชวนหยางเย่ไปพักบ้านตระกูลหลิวตอนนี้

หยางเย่ไม่ปฏิเสธ เขารับมันไว้พร้อมขอบคุณนางก่อนจะรีบวิ่งออกไป แต่กลับถูกหยุดไว้โดยจางเหิงที่ยืนเฝ้ายามอยู่ตรงหน้าประตู

“เจ้าหนุ่ม ไม่ทราบกฎที่นี่หรือไร?” จางเหิงขมวดคิ้วพร้อมกล่าว

“กฎอะไร?” หยางเย่ขมวดคิ้วพร้อมถาม เขาเพิ่งเป็นอาจารย์ยันต์ของสมาคม ดังนั้นจะเอาเวลาไหนไปทราบกฎ?

เมื่อได้ยินหยางเย่ จางเหิงยิ้มเยาะพร้อมกล่าว “เจ้าหนุ่ม เจ้าไม่เคยได้ยินหรือว่า จ่ายค่าเข้าแล้วก็ต้องจ่ายออกด้วย ส่งมาให้ไว”

ถึงแม้เฉียวอวี่เอ๋อจะอยู่ด้านข้างเขาก็ไม่กลัว เพราะเขาเป็นอาจารย์ยันต์ของสมาคมแล้ว ดังนั้นตระกูลเฉียวจึงไม่กล้าเป็นศัตรูด้วย หากเฉียวอวี่เอ๋อผ่านการทดสอบ และเป็นอาจารย์ยันต์แล้ว เขาคงไม่กล้ายุ่งอะไรกับนาง แต่โชคร้ายที่เฉียวอวี่เอ๋อไม่ผ่านการทดสอบ

จางเหิงคิดว่าเป็นเช่นนั้น เหตุใดเขาจึงคิดเช่นนั้นงั้นหรือ? เพราะอาจารย์ยันต์ที่ผ่านการทดสอบจะต้องสวมเครื่องแบบ และมีตราของสมาคม เมื่อเห็นพวกเขาออกมาโดยไม่มีอะไร เขาจึงคิดไปเอง จนเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นตอนนี้

เพราะรีบร้อนกลับบ้าน หยางเย่จึงไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ในอีกด้านหนึ่ง จากการรีบมาอำลาหยางเย่ อวี่เอ๋อก็ไม่ได้เปลี่ยนเช่นกันและวางไว้ข้างใน ดังนั้นชายหนุ่มจึงคิดว่าพวกเขาล้มเหลว

เมื่อได้ยินจางเหิง หยางเย่หรี่ตาพร้อมกล่าว “นี่เป็นกฎของสมาคมหรือเป็นกฎของเจ้าเอง?”

ก่อนหน้านี้จางเหิงไม่ให้เขาเข้าไปเพราะเขาไม่ให้สิ่งใดแก่จางเหิง แม้หยางเย่จะไม่ค่อยพอใจเรื่องนี้ แต่เขาก็ไม่เอาความ แต่ไม่คาดคิดว่าคนผู้นี้จะมาหาเรื่องเขาอีกครั้ง มันทำให้หยางเย่โกรธเคืองเล็กน้อย

เมื่อได้ยินหยางเย่กล่าว ประกายเย็นเยือกปรากฏผ่านดวงตาจางเหิง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงน่ากลัว “เจ้าหนุ่ม อย่าสนเรื่องกฎเลย ข้าถามเจ้าคำเดียวว่าจะส่งมาหรือไม่?”

หยางเย่กำลังจะกล่าวบางสิ่งขณะที่เฉียวอวี่เอ๋อมาถึงพอดี ไม่ต้องถามไถ่อะไรนางก็ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อไม่ให้เสียเวลาจึงได้ยื่นหินพลังปราณสองชิ้นให้ชายหนุ่มพร้อมกล่าว “ข้าจะจ่ายให้เขาเอง!”

เมื่อกล่าวจบ เฉียวอวี่เอ๋อหันมองหยางเย่ นางกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ศิษย์พี่หยาง รีบไปทำธุระเสีย อย่าได้เสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง!”

เมื่อนึกถึงมารดาและน้องสาว หยางเย่ข่มความโกรธไว้ในใจก่อนจะพยักหน้าให้เฉียวอวี่เอ๋อพร้อมรีบจากไป

ขณะที่หยางเย่กำลังจะก้าวขา จางเหิงเอ่ยออกมาอีกครั้ง “หยุดอยู่ตรงนั้น!”