ตอนที่ 114 – ความปิติของแครสซัส!

*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

“พิสูจน์งั้นรึ? ซาตานเจ้าล้อเล่นอะไรเนี่ย? ของแบบนี้มันจะพิสูจน์ได้ยังไง? แต่ถ้าเจ้าพูดมาขนาดนี้ ข้าก็ต้องขออธิบายก่อน. ก่อนงานแต่งงาน, ข้าได้ร่วมรักกับเฮร่าครั้งนึงแต่ข้าก็ไม่เห็นเลือดพรหมจรรย์ของนางเลย. ตอนข้าถามนางนางก็เลี่ยงที่จะบอกว่าชายคนนั้นเป็นใคร? นอกจากสัตว์ประหลาดแล้ว ท่านบอกข้าได้ไหมล่ะว่าจะเป็นอะไรไปได้อีก!?”

แครสซัสเย้ยหยันอย่างเยือกเย็น จากนั้นก็กล่าวกับเย่เทียนและทั่วห้องตัดสิน, น้ำเสียงของเขาดูเศร้าและโกรธมาก.

เพราะยังไงก็ไม่มีใครสามารถพิสูจน์คําพูดที่เขาเพิ่งพูดมาได้ว่าจริงหรือเท็จ นอกจากตัวเขาเอง! เฮร่าเป็นภรรยาของเขา เฮร่าจะบริสุทธิ์หรือไม่นั้นมีแค่เขาคนเดียวที่สามารถบอกได้ต่อให้เฮร่าไม่ได้บริสุทธิ์จริง พวกผู้ใหญ่ก็คงไม่กล้ามีเสียงแน่! เพราะนั่นจะเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้คําพูดของเขาไปอีก

และด้วยเหตุนี้แครสซัสจึงคิดว่าตัวเขานั้นถือไพ่เหนือกว่าแน่ เขาจึงกล้าพูดไปเรื่อยเพื่อเหยียดหยามเฮร่าและตระกูลของนาง

“อุ่บ!”

พอได้ยินแครสซัสพูดอย่างมั่นใจและดูจริงจังมาก เย่เทียนก็แทบจะหัวเราะจนเข่าทรุดเพราะมันไร้สาระมาก

ถ้าเย่เทียนไม่ได้เห็นเลือดพรหมจรรย์ของเฮร่าล่ะก็ เขาก็คงจะเชื่อคําพูดของแครสซัส. โชคดีที่เฮร่าบอกเขาว่านางไม่เคยได้แม้แต่จับมือแครสซัสเลยด้วยซ้ำ, ไม่งั้นคงจะเป็นปัญหาใหญ่สําหรับเขาแน่

ข้อแก้ตัวของแครสซัสนั้นเย่เทียนได้คาดการณ์และเตรียมพร้อมไว้แล้ว

“ท่านผู้พิพากษาที่ทรงเกียรติและคณะลูกขุนทั้งหลาย ไม่ทราบว่าคําให้การของข้าฟังขึ้นหรือไม่?”

แครสซัสถามเทเรโดและคณะลูกขุนทุกคนที่กําลังกระซิบกันอยู่

“ฟังขึ้น!”

เทเรโดไม่แม้แต่จะคิดเลย เขาตอบยืนยันทันที…

“ฟังขึ้น!”

“ฟังขึ้น!”

……

ลูกขุนส่วนใหญ่ก็ยืนยันเช่นกัน…

“เดี๋ยว!”

เย่เทียนรีบตะโกนออกมาทันที

“ซาตานท่านอยากจะพูดอะไร? มีคําถามอะไรอีกรึไง?”

เทเรโดถามเย่เทียนด้วยความไม่พอใจ.

“แน่นอนครับ! แต่ก่อนที่ข้าจะกล่าวอะไรออกไปนั้น, ข้าสงสัยว่าหมูสกปรกอย่างท่านได้กลายมาเป็นผู้พิพากษาได้เยี่ยงไร. ท่านยืนยันคําพูดของคนอื่นโดยไม่คิดแม้แต่น้อยเลยรึครับ??”

เย่เทียนกัดฟันด้วยความโกรธ.. แม้ว่าเทเรโดจะเข้าข้างแครสซัสแต่ก็ไม่ต้องทําให้มันโจ่งแจ้งขนาดนี้ก็ได้..

“ซาตาน! ถ้าเจ้ายังกล้าลบหลู่ข้าอีกที ข้าจะใช้อํานาจไล่เจ้าออกจากห้องตัดสินนี้!”

เทเรโดกล่าวกับเย่เทียนอย่างเยือกเย็น เขาแทบจะระเบิดความโกรธออกมาเพราะคําพูดของเย่เทียน

“แครสซัส, เจ้าบอกว่าได้ร่วมรักกับเฮร่าก่อนหน้าใช่มั้ย?”

เย่เทียนถามอย่างเย็นชา

“ใช่!!”

แครสซัสตอบอย่างมั่นใจ

“ข้าว่าแล้วเจ้าต้องพูดเช่นนี้ ดังนั้นข้าอยากจะถามเจ้าชักหน่อย เฮร่ามีปานที่เห็นได้ชัดมากบนร่างกายของนางแต่ปกติแล้วจะปิดเอาไว้ แสดงว่าเจ้าต้องเห็นมันตอนที่ถอดชุดของนางออก บอกข้ามาซิ, ปานนั้นอยู่ที่ใด? โปรดตอบข้ามา!”

เย่เทียนถามด้วยความสุขุมมาก

“คําถามนี้, พ่อแม่ของเฮราเองต้องรู้คําตอบอยู่แล้ว! แน่นอนว่าเพื่อเป็นการยืนยันเพิ่ม ข้าได้เชิญเพื่อนสนิทของเฮร่าหลายคนมาด้วย พวกเขาสามารถพิสูจน์ได้ว่าเจ้าพูดจริงหรือเท็จด้วย!”

เย่เทียนพูดแล้วยิ้มเหยาะ

“….”

แครสซัสเงียบไป, ลนลานมากและความเครียดก็ผุดขึ้นมาในดวงตาของเขาและบนหน้าผากของเขาก็มีเหงื่อแตกพลั่กออกมา

“ข้าจะไปรู้ได้ยังไงกันว่าปานนั่นอยู่ที่ไหน? เราร่วมรักกันแค่ครั้งเดียวแถมนางยังไม่ได้ถอดชุดออกด้วยตอนนั้น…”

แครสซัสตอบกลับได้ทันควัน

“เหตุผลนั่นชื่อจังเลยนะแต่อย่าคิดว่าเจ้าจะเลี่ยงคําถามนี้ด้วยวิธีนี้ได้นะ ถ้าเจ้าได้ร่วมรักกับเฮร่าแล้วจริงๆ เจ้าต้องเคยเห็นมันแน่, ข้าจะช่วยให้ง่ายขึ้นแล้วกัน บอกข้ามาเลย มันอยู่ด้านซ้ายหรือขวา!”

เย่เทียนเย้ยแล้วกล่าวต่อ “ถ้าคําตอบของเจ้าผิดล่ะก็, แปลว่าทุกอย่างที่เจ้าพูดมาก่อนหน้านี้มันคือเรื่องโกหก! เรื่องที่ว่าเจ้าได้ร่วมรักกับเฮร่าและเฮร่าก็ไม่เคยเสียความบริสุทธิ์หรือมีความเกี่ยวข้องกับสัตว์ประหลาดใดๆทั้งนั้น ถ้าเป็นอย่างงั้นก็แปลว่าเจ้าใส่ความเฮร่าและเหยียดยามทั้งตระกูลเวิร์นเนอร์, เจ้าควรถูกประหารชีวิตซะ!”

“ท่านผู้พิพากษาครับ! โปรดเบิกพยานของข้าให้มาเผชิญหน้ากับแครสซัสด้วยครับ!!”

เย่เทียนเย้ยแล้วถามเทเรโด.

“เบิกพยาน!”

เทเรโดพูดอย่างอ่อนล้า, เขารู้สึกว่าเย่เทียนนั้นรับมือด้วยได้ยากจริงๆ ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเย่เทียนแล้ว

“สาวๆ โปรดขึ้นมาที่แท่นด้วย!”

เย่เทียนพูดกับพวกเด็กสาวชั้นสูงที่กําลังรออยู่ด้านนอก ไม่นานเด็กพวกนั้นก็เดินมาที่ด้านหน้าแครสซัส

ทุกๆคนรู้สึกประหม่ามากๆและกําลังรอคําตอบของแครสซัสอยู่เงียบๆ

ฉลาดมาก!!

ทุกคนชื่นชมวิธีการของเย่เทียนในใจอย่างเงียบๆ

พวกเขาต้องนับถือเย่เทียนที่สามารถคิดหาวิธีการพิสูจน์ความจริงเรื่องที่แครสัสพูดไปออกมาได้

แครสซัสคิดหนักมาก, เขาจะรู้ได้ยังไงว่ามันอยู่ซ้ายหรือขวา? ตอนแรกเขา คิดว่าข้อแก้ต่างนั้นพอจะทําให้คนอื่นเชื่อได้บ้างแต่เขาไม่คิดเลยว่ามันจะถูกเย่เทียนทําลายได้ง่ายๆ แบบนี้

“เอ่อ…”

ขณะที่เขากําลังเครียดหนักอยู่นั้น เขาเหลือบไปเห็นเด็กสาวคนหนึ่งในกลุ่มนั้นกระพริบตาซ้ายรัวๆใส่เขา เพื่อส่งสัญญาณ

กระพริบอีกรอบก็ซ้าย!

แล้วก็ไม่เคยมีไมตรีกันมาก่อนด้วยแต่ทําไมนางถึงกระพริบตาให้เขารัวๆล่ะ?

ผู้หญิงคนนี้กําลังจะบอกเขาว่าปานของเฮร่าอยู่ที่ด้านซ้ายงั้นหรอ?

แต่ทําไมนางถึงมาบอกเขาล่ะ?

แครสัสนั้นเป็นคนขี้ระแวงมาก เขาไม่ตัดสินใจทันที เพราะถ้าตอบผิดเขาจะไม่มีทางแก้ต่างได้เลย

“อะแฮ่ม…”

ผู้หญิงคนนั้นดูท่าจะคันคอจึงไอออกมาเบาๆ ในขณะเดียวกันนางก็กระพริบตาซ้าย อีกครั้งแล้วเริ่มกระพริบเร็วขึ้น

“โปรดอย่าทําเสียงรบกวนแครสซัสครับ!”

เย่เทียนตะโกนใส่เด็กคนนั้นทันทีและน้ำเสียงของเขาดูกังวลและเครียดหน่อยๆด้วย

“ฮ่าฮ่า…ใช่! นางกําลังช่วยข้าอยู่ ไอ้เวรซาตานจะวางกับดักข้าล่ะสิ! ข้าต้องยอมรับว่าหัวเจ้า นี่มันน่ากลัวจริงๆ! แต่ไม่ว่าเจ้าจะฉลาดแค่ไหนเจ้าก็หยุดโชคชะตาไม่ให้เข้าข้างข้าได้!”

ผู้หญิงคนนั้นไอพร้อมกระพริบตารัวๆและน้ำเสียงที่ดูเครียดของเย่เทียนทําให้แครสซัสดีใจมาก.

เขาไม่รู้ว่าทําไมเพื่อนสนิทของเฮร่าอยากจะช่วยเขาผ่านวิกฤตนี้แต่เขารู้ว่าตัวเองหล่อและรวยมาก เลยมีสาวๆมาติดสินะ

บางที่ผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้

“แครสซัส, ท่านลอร์ดท่านต้องคิดนานเช่นนี้เลยรึ?”

เย่เทียนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงเร่งแครสซัสให้ตอบขณะจ้องไปทางผู้หญิงคนนั้นอย่างลับๆพร้อมๆกัน!

“ช้าย!! มันอยู่ด้านซ้าย, ปานอยู่ที่ด้านซ้าย!”

แครสซัสตอบอย่างหนักแน่น เขารู้สึกโล่งอกไปพร้อมๆกันด้วย

“ขอบคุณพระเจ้าที่อวยพร!”

แครสซัสภาวนาในใจ