ตอนที่ 41-2 โสมแดง

เมื่อฮูหยินสามได้ยินดังนั้นจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นจึงก้มหน้าลงเพื่อดื่มน้ำชา

ในตอนนี้ใบหน้าของฮูหยินใหญ่มืดมนจนแทบจะลืมตามิขึ้น

ขณะที่ฮูหยินรอง ผู้ซึ่งนั่งฟังอยู่นาน และตอนนี้นางได้หัวเราะขึ้นจากนั้นจึงกล่าวว่า:

“ต้องแสดงความยินดีกับท่านพี่อย่างจริงใจ ข้าเห็นว่า

หญิงสาวผู้นี้มิเพียงแต่มีความงดงาม แต่นางยังมีความเฉลียวฉลาดมากด้วย นับว่าหาได้ยาก”

หลี่ฉางหลูยังกล่าวเสริมอีกว่า

“ใช่แล้ว จื่อหยานเป็นเด็กสาวที่ฉลาด ครั้งก่อนข้าเคยขอตัวนางกับน้องสาม แต่น้องสามมิเต็มใจที่จะให้!

ครั้งนี้นับว่าพี่ชายใหญ่โชคดีมาก!”

โชคดีเช่นนั้นหรือ?!

คิ้วของฮูหยินใหญ่กระตุกขึ้นด้วยความสับสน ขณะที่ดวงตาของนางมีความเย็นชา

เพราะอำมาตย์หลี่มิชอบให้คุณชายมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสาวใช้

ด้วยเหตุการณ์พลิกผันเช่นนี้

หลี่หมินเฟิงเริ่มให้ความสนใจสาวใช้จากบ้านน้องสาวของตนเอง

นายท่านจะต้องโกรธมากอย่างแน่นอน!

แต่หลี่หมินเฟิงรู้อย่างชัดเจนว่า ผู้ที่ส่งกระเป๋าคือจื่อหยาน แต่มิทราบด้วยสาเหตุใดเขาจึงยอมรับกระเป๋าใบนั้น

ทำให้ฮูหยินใหญ่เกิดความรู้สึกงุนงงและเป็นทุกข์ใจมาก:

“ข้ารู้ดีว่า หญิงสาวผู้นี้มีความประพฤติดีและมีความเฉลียวฉลาด

เพราะข้าเป็นคนอบรมนางเอง ก่อนที่จะส่งตัวนางไปที่บ้านซิวจูในเมืองผิงเฉิง”

แต่มิว่าอย่างไร ก็มิสามารถปล่อยให้นังจิ้งจอกสาวตัวนี้เข้ามาอยู่ในบ้านของบุตรชายตนเองได้อย่างแน่นอน!

ฮูหยินใหญ่ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว!

จากนั้นหลี่เว่ยหยางได้กล่าวขึ้นว่า

“หากเป็นเช่นนั้น ท่านแม่โปรดแนะนำจื่อหยานอย่างเหมาะสมด้วย”

หลี่เว่ยหยางเหลือบมองไปยัง

หลี่หมินเฟิง:

“หากมิใช่เพราะพี่ใหญปฏิบัติต่อข้าเป็นอย่างดี ข้าคงมิยอมมอบหญิงสาวที่อ่อนหวานและเชื่อฟังอย่างจื่อหยานให้กับท่าน!”

หลี่หมินเฟิงจ้องมองนางด้วยสายตาที่เย็นชา:

“เช่นนั้นพี่ต้องขอขอบคุณน้องสามด้วยความจริงใจ”

เนื่องจากความสำเร็จกำลังจะมาถึงในมิช้า การปล่อยให้จื่อหยานอยู่เคียงข้างหลี่เว่ยหยางจึงมิได้มีประโยชน์อันใดมากนัก

จื่อหยานเฝ้ามองดูเหตุการณ์ด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความสุข โดยมิได้คำนึงถึงความรู้สึกของคุณหนูสามเลยแม้แต่น้อย

เพราะในที่สุด นางก็ได้เข้าไปอยู่ในบ้านของคุณชายใหญ่สำเร็จ!

หลี่หมินเฟิงเกิดความรู้สึกรำคาญใจ แต่เมื่อคิดได้ว่า ในมิช้าหลี่เว่ยหยางจะต้องชดใช้ในสิ่งที่นางทำ

จึงเกิดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าของเขา ซึ่งมันดูลึกล้ำมาก โดยมิได้ใส่ใจกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า

เขาได้หันหน้าไปหาหลี่จางเล่อ ผู้เป็นน้องสาวและขยิบตาให้นาง

หลี่จางเล่อจึงเข้าใจ จากนั้นได้ยิ้มเล็กน้อย แล้วเดินไปหยิบถ้วยชาด้านข้างผู้อาวุโสหลี่:

“ท่านย่าน้ำชาเย็นหมดแล้วข้าจะเปลี่ยนให้ท่านใหม่”

ผู้อาวุโสหลี่พยักหน้ายอมรับมันโดยมิทันตั้งตัว

ทันใดนั้นมือของหลี่จางเล่อได้หลุดออกจากถ้วยชา และร้องออกมาขณะที่ถ้วยชาตกลงแตกพร้อมกับน้ำชาที่หกลงบนพื้น!

เสียงนั้นทำให้ทุกคนในห้องเกิดความรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก!

จากนั้นได้มีสาวใช้ผู้หนึ่งรีบเดินเข้ามาเก็บชิ้นส่วนที่แตกออกอย่างรวดเร็ว

หลี่จางเล่อดูตื่นตระหนกและลดตัวเพื่อก้มตัวลง ราวกับจะช่วยเก็บเศษกระเบื้องเหล่านั้น

ในเวลานี้หลี่จางเล่อได้ร้องขึ้นเสียงดัง พร้อมกับหยิบเศษซากบางอย่างขึ้นมาจากพื้นและกล่าวว่า:

“นี่มันอันใดกัน?”

สาวใช้หลูซินหัวเราะและกล่าวว่า:

“เรียนคุณหนูใหญ่ นี่คือโสมแดงที่ ผู้อาวุโสหลี่ทานตามเป็นประจำ”

โสมแดงมีสรรพคุณทางยามาก และยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต อีกครั้งยังทำให้จิตใจสงบ แม้ว่ารสชาติจะขมก็ตาม

โดยปกติมักจะนำโสมแดงไปตุ๋นพร้อมกับซุปเป็ดหรือหั่นโสมแดงเป็นชิ้นบาง ๆ เพื่อดื่มกับน้ำชา

ประเด็นนี้หลี่จางเล่อรู้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว แต่เหตุใดนางจึงต้องเอ่ยถาม? ทุกคนจึงคิดว่ามันน่าแปลก

ดูเหมือนว่าหลี่จางเล่อต้องการที่จะกล่าวอันใดบางอย่าง

แต่เมื่อผู้อาวุโสหลี่นึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงกำมืออย่างแน่นหนา ขณะที่จ้องมองไปที่นางแล้วกล่าวว่า:

“มันคืออันใด?”

คิ้วโค้งได้รูปของหลี่จางเล่อขมวดเล็กน้อยด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจ:

“นี่มิใช่โสมแดง! แต่มันคือโสมพิษ”

เมื่อหลี่เว่ยหยางได้ยินดังนั้น แววตาของนางก็เกิดความเย็นชาขึ้นในทันที!