บทที่ 172 อาจเป็นได้ 7 (2)

คาร์ลไม่มีแผนที่จะทำตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นเลย

การที่ต้นไม้โลกมองเห็นการเคลื่อนไหวในช่วงชีวิตของคาร์ลก็อาจเป็นเพราะต้นไม้โลกเป็นแบบเดียวกัน ต้นไม้โลกไม่ต้องการแข็งแกร่ง มันไม่สนใจพลังหรือชื่อเสียงเงินทองใดๆ มันแค่ต้องการมีชีวิตที่สงบสุข

อย่างไรก็ตามต้นไม้โลกผลักตัวเองไปยืนข้างหน้าอีกครั้งเมื่อมีสิ่งที่คาดว่าจะทำลายความสงบสุขในชีวิตลง มันเคยสร้างพายุหิมะปกคลุมไปทั่วตอนเหนือเมื่อครั้งในอดีตและครั้งนี้มันเลือกสลัดกิ่งไม้ของตนเองทิ้งเพื่อให้คำแนะนำแก่มนุษย์ในสิ่งที่มองข้ามไป

มันเลือกที่จะปกป้องมนุษย์เหมือนครั้งในอดีตและเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยเหลือพวกมนุษย์ได้อีกครั้ง

-..ข้าอยากพักผ่อนแล้วล่ะ-

คาร์ลไม่สามารถได้ยินเสียงของต้นไม้โลกได้อีกต่อไป เขาจึงละมือออกจากลำต้นของต้นไม้โลกและหันไปมองอดิทแทน นักบวชเอลฟ์ยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นเมื่อเริ่มพูดขึ้น

“ต้นไม้โลกแจ้งว่าต้องการพักผ่อนเป็นเวลานาน..ส่วนเรื่องของผลไม้ค่อยคุยกันทีหลังอีกที”

ผลไม้

นั่นคือสิ่งที่คาร์ลจะได้รับจากต้นไม้โลก เขายังไม่ทราบว่าความสามารถของต้นไม้โลกมีอะไรบ้างแต่ก็พอจะเดาได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะอูฮาเบ็นต้องการให้ต้นไม้โลกมอบผลไม้ของมันให้กับราอน

เอลฟ์ตัวน้อยลูบกิ่งไม้ที่โค่นลงพร้อมกับน้ำตาคลอไปทั้งเบ้าเมื่อเริ่มพูดต่อ

“นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า..รู้สึกผิดหวังยิ่งนักที่ไม่ได้สนทนากับท่านราอนแต่จะต้องคุยกับท่านราอนในโอกาสหน้าให้ได้”

“ข้าก็ผิดหวังเช่นกัน..แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก! เฮ้!.เจ้าต้นไม้โลกมีอะไรที่ข้าพอจะช่วยเหลือเจ้าได้หรือไม่?”

ราอนเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้โลกด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความกังวล ในขณะที่อดิทเพียงแค่สายหน้าน้อยๆ

“ไม่มีหรอกท่านราอน..ต้นไม้โลกจะจัดการตัวเองเพียงลำพัง..สิ่งที่เราทำได้ก็คือรอเท่านั้น”

ฟิ้วววว~~~~

เสียงกิ่งไม้ไหวดังเข้ามาในหูของคาร์ลก่อนที่เขาจะเริ่มคิดบางอย่างในหัว

‘คนที่ครอบครองพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณถึง 3 อย่างและยังต้องการที่จะรวบรวมให้ได้มากกว่านี้’

‘ร่องรอยของพ่อแม่ราอน’

‘ผู้พิพากษาที่หลบหนีไปยังทวีปตะวันออก’

คาร์ลยกมือขึ้นลูบหน้าของตนเบาๆ

‘ฉันจะได้พักผ่อนเมื่อไหร่กันเนี่ย?’

คาร์ลรู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก

.

.

.

ไม่กี่วันต่อมาความโศกเศร้าของคาร์ลก็ค่อยๆเลือนหายไป

ซ่า! ซ่า!

คาร์ลกำลังแช่เท้าในบ่อน้ำร้อนที่แสนอบอุ่นในหมู่บ้านเอลฟ์แห่งนี้ในขณะที่ปากก็เพลิดเพลินไปกับผลเชอร์รี่สดๆ

“..ข้าควรอยู่ที่นี่เลยดีมั้ย?”

ราอนตอบกลับประโยคที่แฝงไปด้วยความล้อเล่นของคาร์ลทันที

“ไม่!..บ้านของเราดีที่สุด!”

‘มันก็จริง’

คาร์ลเห็นด้วยกับคำตอบของราอนแต่ตอนนี้เขารู้สึกผ่อนคลายมากจริงๆ พาสตันกำลังมองสิ่งนี้ด้วยความประหลาดใจ

ตอนนี้มีเพียงพาสตันและราอนเท่านั้นที่อยู่ข้างๆคาร์ล พวกเขาอยู่ใต้ต้นเชอร์รี่ขนาดใหญ่พร้อมถาดผลไม้และเครื่องดื่มเต็มอัตรา เบาะที่คาร์ลใช้รองนั่งก็ดูนิ่มสบายดี

คาร์ลได้รับการดูแลระดับวีไอพีในหมู่บ้านเอลฟ์แห่งนี้

สิ่งนี้เป็นไปได้อย่างไร? พาสตันรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก

พาสตันพยายามหาคำตอบของเรื่องนี้แต่ในไม่ช้าเขาก็ต้องลุกขึ้นยืนตามคำสั่งของคาร์ล

“ท่านพาสตัน..เรียกรวมทุกคนให้ข้าที”

“ได้!”

คาร์ลมองตามหลังพาสตันที่กำลังไปรวบรวมสมาชิกในกลุ่มจากนั้นเขาก็ค่อยๆยันกายลุกขึ้นยืน

โรสลินและราอนได้เสริมพลังเวทย์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับกำแพงหมู่บ้านโดยมีเชวฮันเป็นผู้ทดสอบความแข็งแรงของมันในวันนี้ ออนและฮงกำลังวิ่งเล่นไปทั่วพายุหิมะโดยมีอาร์ชีเข้าร่วมขบวนด้วย

“มนุษย์..เราจะไปกันแล้วเหรอ?”

คาร์ลลูบศีรษะราอนเบาๆแทนที่จะตอบคำถามของมัน

หลายวันที่ผ่านมาคาร์ลใช้เวลาในการทบทวนกับสิ่งที่ต้นไม้โลกแจ้งให้เขาฟังจนมาถึงข้อสรุปในที่สุด

คาร์ลมองเห็นอดิทกำลังวิ่งมายังจุดที่เขาอยู่ ดูท่าเธอจะลำบากกับชุดนักบวชตัวใหญ่ที่สวมอยู่ไม่น้อยเมื่อต้องรีบวิ่งมาหาเขาเช่นนี้

ใช้เวลาไม่นานเธอก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคาร์ล

“แฮ่ก!แฮ่ก!..ท่านคาร์ล!”

“มีอะไรหรือ?”

“เมื่อ..เมื่อสักครู่..ต้นไม้โลก!ได้พูดบางอย่างก่อนจะกลับไปพักผ่อนอีกครั้งเจ้าค่ะ!”

‘พูดบางอย่างงั้นเหรอ?’

คาร์ลส่งสายตาเพื่อกระตุ้นให้อดิทพูดออกมาก่อนที่เธอจะหลับตาลงและตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว

“เจ้าพวกงั่งที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณไว้ในครอบครองล้วนเป็นคนบ้า!..จงทำในสิ่งที่เจ้าต้องการซะ!”

ร่างของอดิทสั่นเล็กน้อยเพราะเธอไม่เคยได้ยินน้ำเสียงเกรี้ยวกราดของต้นไม้โลกเช่นนี้มาก่อน เสียงเรียบๆของคาร์ลดังเข้ามาในหูของอดิทในตอนนั้น

“ต้นไม้โลกรู้ได้อย่างไร?”

“เจ้าคะ?”

อดิทลืมตาขึ้นก่อนจะจ้องไปที่คาร์ลทันที

คาร์ลเองก็เริ่มยกยิ้มสดใส

“ฝากบอกล่ะกันว่าไม่ต้องห่วง..ข้าวางแผนที่จะทำทุกอย่างตามที่ข้าต้องการ”

คาร์ลไม่ใช่คนที่จะวางแผนทำในสิ่งที่คนอื่นสั่งให้เขาทำอยู่แล้ว ราอนขยับมาใกล้คาร์ลและเอ่ยถามขึ้น

“มนุษย์!..ถึงเวลาที่เราจะไปจุดไฟแล้วหรือ?”

ร่างของอดิทสะท้านขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวที่พาสตันกลับมาพร้อมโรสลินและเชวฮัน พวกเขาต่างจ้องไปที่คาร์ลเมื่อได้ยินสิ่งที่ราอนถามไปก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามคาร์ลกลับคิดไปถึงสิ่งอื่น

น้ำตาพระเจ้า

มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่?

มันเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ตามก็ไม่สามารถจะจับจองเป็นเจ้าของน้ำบริสุทธิ์เช่นนั้นได้!

มันเป็นสิ่งที่ทราบโดยทั่วกันว่าสามารถรักษาโรคได้ทุกประเภท

‘คาร์ล..เจ้าเชื่อตำนานนั้นหรือไม่?’

อูฮาเบ็นหัวเราะให้กับท่าทางของคาร์ลเมื่อเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ

“มนุษย์!..ทำไมเจ้าไม่ตอบข้าล่ะ?..หรือว่าเราจะไปทำอย่างอื่น?”

“ใช่..เรากำลังจะไปขโมยบางอย่าง”

อดิทรู้สึกไม่ปลอดภัยหลังจากได้ยินคาร์ลเอ่ยว่าจะไปขโมยบางอย่าง

ราอนพูดขึ้นอีกครั้ง

“อีกแล้วเหรอ?”

ร่างของอดิทแทบจะล้มทั้งยืนเมื่อรู้ว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทำ

คาร์ลไม่สนใจท่าทีของเธอและชี้ไปที่ตัวเองให้กับราอนดูเมื่อมันค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยใบหน้าสับสน

“ใช่..มีโจรอยู่ข้างในตัวข้า”

คาร์ลหัวเราะออกมาในขณะที่ทุกคนต่างตกใจ

หากน้ำตาพระเจ้าเป็นน้ำตาของ‘พระเจ้า’จริงๆ มันก็จะไหลมาหาเขาด้วยตัวของมันเอง