ตอนที่ 55

Earth’s Best Gamer

ในเวลากลางคืน ท่ามกลางเทียนที่ถูกจุดหลายเล่ม ผู้อาวุโสเมิ่งกำลังอธิบายภูมิหลังดั้งเดิมของศัตรูของพวกเขาภายในศาลเจ้าแห่งความศรัทธา หลังจากได้ยินเรื่องราวของจีเย่

“หมาป่าน้ำเงินหลังโลหะเป็นวายร้ายตัวน้อย ด้วยการใช้กลยุทธ์ซึ่งต่อมาถูกเรียกว่า ‘กลีบดอกบ๊วยศักดิ์สิทธิ์’ มันล่อให้สาวกสามคนของพระถังซัมจั๋งออกไปและจับตัวเขา ต่อมามันก็ส่งศีรษะมนุษย์ปลอมกลับมาเพื่อให้เหล่าสาวกร้องไห้เพราะเชื่อว่านายท่านของพวกเขาได้ตายไปแล้ว มันเป็นหนึ่งในตัวประกอบที่ฉลาดที่สุดในเรื่องเลยก็ว่าได่”

“ในบางเวอร์ชั่นของหนังสือ มอนเตอร์ตัวนี้ก็สามารถหมอบลงกับพื้นในขณะที่ร่ายคาถา ปล่อยให้แผ่นหลังที่แข็งของมันรับการโจมตี แม้แต่คราดของตือโป๊ยก่ายก็ไม่สามารถทะลวงมันไปได้ ซุนหงอคงเป็นคนฆ่ามันด้วยกระบองของเขา โดยการฉวยโอกาสโจมตีเมื่อมอนเตอร์พักหายใจ”

‘ผู้เล่นใหม่’ รับฟังเรื่องราวเพราะพวกเขาอาจจำเป็นต้องใช้ความรู้ดังกล่าวในดินแดนแห่งมรดกในภายหลัง

บางครั้งพวกเขาก็มองไปที่หลี่ชิงด้วยความกระตือรือร้น ในขณะที่พวกเขาเห็นเขาค่อยๆ เดินไปยังโต๊ะบูชายัญพร้อมกับหนังหมาป่าในมือ

“ฉันสงสัยว่าคราวนี้จะได้เห็นวีรบุรุษคนไหน วีรบุรุษอีกคนจากวีรบุรุษนอกกฏหมายทั้ง 108 คนหรือเปล่า” เจียงเหวินหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หลังจากกลับมาที่ถิ่นฐาน เจียงเหวินหมิงก็ใช้ค่าประสบการณ์ทั้งหมดของเขาเพื่อเรียนรู้สกิลผิวเหล็กที่เขาได้จากการสังหารหมาป่า ด้วยการดื่มน้ำสกัดเมล็ดสีชาดหนึ่งแก้ว เขาก็กลายเป็นนักรบมนุษย์ระดับสามัญอันดับ 6

“มัน… ไม่น่าเป็นไปได้” ผู้อาวุโสเมิ่งส่ายหัว วัตถุดิบพิเศษที่เขากินในระหว่างที่เขาอยู่ที่นี่เกือบจะช่วยให้ผมของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำ “จากสิ่งที่ฉันเรียนรู้มา ระดับของวีรบุรุษที่ถูกอัญเชิญมานั้นเกี่ยวข้องกับระดับของหัวใจแห่งการเห็นแจ้งของเรา จากนั้นจึงจะพิจารณาเพิ่มเติมจากขั้นของไอเทมบูชายัญ หากวีรบุรุษนอกกฏหมายที่มีชื่อเสียงคนไหนมา เขาหรือเธออย่างน้อยก็จะเป็นนักรบขั้นเหนือชั้นตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตาม หัวใจแห่งการเห็นแจ้งของเราเป็นเพียงระดับสามัญอันดับ 7 เท่านั้นในตอนนี้ เราจะได้เพียงผู้นำที่อ่อนแอมาทำงานในถิ่นฐานภูเขามังกรคู่ในเรื่องเท่านั้น”

“มีการคาดการณ์อีกเรื่องหนึ่ง” ผู้อาวุโสเจี้ยวกล่าวเสริม “มันอาจเป็นไปได้ว่าวีรบุรุษนอกกฏหมายเต็มใจที่จะสละความแข็งแกร่งอย่างเพียงพอเพื่อที่จะสามารถลงมาได้ แต่… เรายังไม่เห็นข้อพิสูจน์ถึงความเป็นไปได้นั้นในตอนนี้”

ซางเยี่ยนตรวจสอบหลู่จือเซินผู้ที่กำลังรอพวกพ้องใหม่มาด้วยความตื่นเต้น และยกมือขึ้นมา “คุณเจี้ยว คุณบอกว่าคนอย่างหลู่จือเซินต้องการไอเทมบูชายัญในตำนานเพื่อปรากฏตัวซึ่ง… แทบจะหาไม่ได้เลย เขามาในฐานะ ‘ตัวตนอ่อนแอ’ งั้นเหรอ?”

“ไม่ใช่แบบนั้น” นักวิชาการทั้งสองยิ้มขึ้นมาพร้อมกัน

ต่างจากสมาชิกอายุน้อยของพวกเขา คนทั้งสองอยู่ในถิ่นฐานและพยายามมองหาเบาะแสที่พวกเขาสามารถนำมาใช้ได้ พวกเขาคาดการณ์ว่าจีเย่เป็น ‘ผู้เล่นที่ถูกสตรีมสด’ ของเมืองหยาง แน่นอนว่าการล่างูอันที่ไร้ตินั้นสามารถทำให้ได้รับไอเทมในตำนานอย่างแน่นอน

“หลู่จ่อเซินมาด้วยความแข็งแกร่งเต็มที่ ฉันมั่นใจ!” ฉินเยว่หยูกล่าว เธอยังคิดด้วยว่าจีเย่คือใคร

จีเย่ได้แสดงความสามารถที่แท้จริงบางส่วนให้พวกเขาเห็นด้วยการจัดการหัวหน้าหมาป่าด้วยตัวเอง นอกจากนี้เธอยังได้ดูสตรีมของจีเย่ เธอจำหน้าหม้ทลายดินหนักในระหว่างการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับเราะหนังงูที่นักรบในถิ่นฐานใช้ เธอรู้ว่าจีเย่เป็นคนปล่อยให้ทั้งเมืองหยางตกอยู่ในความโกลาหลในคืนนั้น

อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้เปิดเผยการค้นพบด้วยเหตุผลส่วนตัว

เจียงเหวินหมิงและซูนงอิ๋งก็ตระหนักถึงตัวตนของจีเย่ตั้งแต่แรกพบ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถกล่าวออกมาได้เนื่องจากข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูล นอกจากนี้พวกเขาทั้งสองก็มีแผนการของตัวเอง

มันแปลกมาก หลายคนในตอนนี้รู้ว่าจีเย่คือ ‘หน้าไม้เทพเจ้า’ ที่ทุกคนกล่าวถึง แต่ก็ไม่มีใครกล่าวออกมา

“โอ้ พวกคุณยังไม่เริ่มกันใช่มั้ย? ให้ฉันทำมันเอง!” ซวีเสวียกล่าวขณะที่เธอเดินเข้ามา เธอใส่เสื้อสีม่วงสะดุดตาซึ่งดูค่อนข้างโบราณ นอกจากนี้เธอก็ยังติดกิ๊บที่ดูโบราณที่ผมของเธอซึ่งเข้ากันได้ดีกับสไตล์ท้องถิ่น

ไม่มีใครตอบสนองต่อการมาถึงของเธอ ยกเว้นอันหยวนผู้ที่ทักทายเธอด้วยเสียงที่แผ่วเบา

“ฉันกำลังทำอยู่” หลี่ชิงวางหนังหมาป่าลงบนโต๊ะพิธีกรรม

จากนั้นเขาก็เดินออกไปหลายก้าวและเดินเข้าไปสมทบกันจีเย่ในขณะที่พวกเขามมองไปที่โต๊ะอย่างระมัดระวัง

ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่โต๊ะเช่นเดียวกับหัวใจแห่งการเห็นแจ้งที่อยู่ด้านบน

มีคนที่ไม่สนใจด้วยเช่นกันซึ่งก็คือซวีเสวียผู้ที่จ้องมองเพียงแค่แผ่นหลังของจีเย่อย่างกระตือรือร้น

หลังจากกลับมาจากการล่าหมาป่า ซวีเสวียก็ตระหนักดีว่าเธอไม่ใช่นักสู้ เธอตัดสินใจที่จะลองรับแต้มเกียรติยศด้วยวิธีอื่นในถิ่นฐาน เมื่อทำตามเคล็ดลับที่เธอพบในฟอรั่ม เธอก็ประสบความสำเร็จในการได้รับมาสองแต้มโดยการทำงานกับชนพื้นเมืองหญิงหลายคน ในขณะเดียวกันเธอก็ได้เรียนรู้ข้อมูลส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอตกตะลึงจากพวกเธอ

เธอได้รับคำบอกกล่าวว่ามอนเตอร์งูดำขนาดใหญ่ซึ่งตามหลอกหลอนถิ่นฐานแห่งนี้ได้ถูกสังหารโดย ‘ผู้ถูกเลือก’ ซึ่งก็คือชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ

ดังนั้นชายคนนี้จึงเป็นสตรีมเมอร์คนแรกของเมืองหยาง ฉันดีใจมากที่รู้เรื่องนี้ก่อนทุกคน! ฉันสามารถใช้มันเพื่อความได้เปรียบของฉัน… เธอคิดกับตัวเอง

มีคนมาขัดจังหวะความคิดของเธอด้วยเสียงตะโกน

“มีใครบางคนกำลังมา!”

ด้านในของศาลเจ้าสว่างขึ้นเมื่อแสงสีเหลืองแห่งโชคชะตาถูกอัญเชิญออกมา ภายในแสง มีภาพเงาจางๆ ของมนุษย์ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นมาและก้าวเข้ามาในสายตาของผู้คน

“นั่นคือ… เขางั้นเหรอ?”

“นี่คือวิธีอัญเชิญวีรบุรุษเหรอ? ดูง่ายพอสมควร ฟอรั่มทำให้ทุกอย่างดูซับซ้อน”

“อาจเป็นเพราะไอเทมบูชายัญไม่ใช่”

ผู้เล่นที่รออยู่ด้านข้างทางเข้าต่างพึมพำ

ร่างที่ปรากฏในแสงก็คือชายหนุ่มรูปร่างปานกลางอายุประมาณ 20 ปี เขามีรอยสักที่แขนและดวงตาของเขาก็ดูว่างเปล่าด้วยเหตุผลบางอย่าง

จีเย่ขมวดคิ้วในขณะที่เขาตรวจสอบผู้ที่มาใหม่

ในฐานะคนที่เคยอัญเชิญหลู่จือเซินมา เขารู้ขั้นตอนการอัญเชิญไปจนถึงรายละเอียดสุดท้าย ตัวอย่างเช่น วีรบุรุษที่ถูกอัญเชิญจะดูดพลังแห่งโชคชะตาที่มารวมอยู่ในถิ่นฐาน ยิ่งมากเท่าไหร่คนที่มาก็ยิ่งทรงพลัง

ในฐานะหัวหน้าของถิ่นฐาน จีเย่สามารถเห็นได้ว่า ‘โชคชะตา’ ถูกใช้ไปมากแค่ไหน เขารู้สึกสับสนที่สังเกตเห็นว่าชายที่ดูธรรมดาคนนี้ไม่ได้ทำให้พลังแห่งโชคชะตาลดลงมากเท่าไหร่ซึ่งเขาน่าจะเป็นนักรบระดับสามัญอันดับ 7

นักเขียนโปรแกรมอันหยวนเห็นอะไรแปลกๆ และร้องบอก “เฮ้ เขาดูไม่เหมือนคนมาจากยุคโบราณเลย? เขาไม่ได้สวมชุดเริ่มต้นที่เราทุกคนใส่ตอนที่มาถึงงั้นเหรอ? และรอยสักที่ดูคุ้นตานั้น… เดี๋ยวก่อน มันเป็นภาษาคนประเทศซากุระ!”

ชายหนุ่มที่ถูกอัญเชิญมาลืมตาของเขาและมองไปรอบๆ และแสดงความยินดีออกมา “ดีจัง ความนี้ไม่มีใครโยนฉันไปที่กลางป่า! พวกคุณ… ต้อนรับฉันใช่มั้ย? เยี่ยม เยี่ยม สถานที่แห่งนี้ดูดีมาก ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ ทั้งหมดเป็นเพราะพวกแปลกประหลาดที่ทำให้ฉันตายในท้ายที่สุด”