ตอนที่ 185 ถ้าเกิดเรื่องอะไร ฉันจะรับผิดชอบเอง

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 185 ถ้าเกิดเรื่องอะไร ฉันจะรับผิดชอบเอง

ตอนที่ 185 ถ้าเกิดเรื่องอะไร ฉันจะรับผิดชอบเอง

ซูเถาอารมณ์ไม่คงที่อย่างมากเนื่องจากการจากไปของลูกแมว เธอจึงหันหลังกลับและจากไปด้วยสีหน้าอันย่ำแย่

จี้ไฉเจ๋อไม่ยอมแพ้ และวิ่งไล่ตามเธอราวกับสุนัขไล่

เจียงอวี่ยืนขวางหน้าเขาไว้ พร้อมกับแสดงสีหน้าเย็นชา

“คุณเสี่ยวจี้ ไม่ต้องอยู่กับคู่หมั้นเหรอ?”

จี้ไฉเจ๋อไม่ชอบเจียงอวี่มานานแล้ว ดังนั้นเขาจึงโบกมือของเขาออกไป

“มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ เป็นแค่บอดี้การ์ด ยุ่งอะไรด้วย…”

หลังจากพูดจบ เขาก็ตะโกนไปทางด้านหลังของซูเถา

“เถ้าแก่ซู! อีกสองสามวันผมจะกลับไปที่ฐาน เรามาทานอาหารด้วยกันไหม ถ้าคุณตกลง ผมจะโน้มน้าวให้พ่อเพิ่มผลึกนิวเคลียสอีกสามอันเพื่อความร่วมมือของเรา คุณคิดว่ายังไง”

ซูเถาก้มหน้าลง พลางหันศีรษะไปและพูดว่า “ขอโทษ”

จี้ไฉเจ๋อไม่รู้ว่าเธอขอโทษเรื่องอะไร ในสมองของเขาเปลี่ยนไปในทิศทางแปลกประหลาด และทันใดนั้นเขาก็หัวเราะ

“คุณคิดว่าผมมีคู่หมั้น และไม่ได้แจ้งคุณล่วงหน้าใช่ไหม ผมผิดเอง แต่เราเลิกกันแล้ว ตอนนี้ผมโสด ไม่ต้องห่วง ผมจะให้เกียรติคุณ”

ซูเถาหัวเราะด้วยความโกรธและเชิดคางไปทางเจียงอวี่

เจียงอวี่ทนไม่ได้มานานแล้ว และเมื่อได้รับอนุญาต เขาก็ชกหน้าจี้ไฉเจ๋อทันที

ดวงตาของจี้ไฉเจ๋อกะพริบอยู่ครู่หนึ่ง เขาถอยหลังไปสองก้าวใหญ่ และพบว่าจมูกเขากำลังมีเลือดไหลออกมา

เจียงอวี่บีบคอเขาแล้วพาเข้าไปในรถ จากนั้นปิดประตูเสียงดัง แล้วกดหน้าลงตรงกลางเบาะหน้าคนขับ

จี้ไฉเจ๋อตกใจ การกระทำของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกโกรธและตะโกนออกมา

“หมายความว่าไง กล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนี้ ไม่รู้หรือไงว่าพ่อฉันเป็นใคร!”

ซูเถาหยิบปืนออกจากเอว และหมุนด้วยปลายนิ้ว เธอเล็งปากกระบอกปืนไปที่หน้าผากของเขา และพูดทีละคำ

“แล้วคุณเป็นใคร ถึงกล้าหยาบคายกับคนของฉัน ขอโทษเจียงอวี่ซะ ไม่อย่างนั้น กระสุนลูกนี้ไม่มีตาถ้ากระเด็นออกไป ฉันคงทำได้แค่โยนซากศพไปตามทาง”

จี้ไฉเจ๋อตกใจมาก “คุณ… คุณไม่กลัวว่าพ่อของผมจะแก้แค้นคุณหรือไงถ้าเขารู้?”

ซูเถาหัวเราะเยาะ “ก็แล้วแต่”

ถ้าเธอลั่นไกออกไป เลือดคงสาดกระเซ็นเต็มที่เกิดเหตุ

เมื่อจี้ไฉเจ๋อเห็นว่าเธอกำลังเล่นจริง เขาก็หวาดกลัวจนแทบจะปัสสาวะราด

“ผมขอโทษ! ผมผิดไปแล้ว! ผมไม่ควรพูดแบบนั้น ต่อแต่นี้ไปผมจะเห็นคนผู้นี้เป็นเหมือนพี่น้อง! อ๊า!”

ซูเถาเตะเขาและสาปแช่ง

“จี้ป๋อต๋าลำบากมาแปดชั่วอายุคนแล้วที่มีลูกชายอย่างคุณ คุณให้ฉันได้พักจากความคิดสกปรกเหล่านั้นสักที ถ้าฉันจัดการกับฐานเหอคังของพวกคุณ พวกคุณก็ไม่สามารทำอะไรฉันได้ ไสหัวออกไป แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”

จี้ไฉเจ๋อเปิดประตูรถ และตะเกียกตะกายออกไป

ซูเถาตะคอกไล่อีกฝ่าย พลางเก็บปืน ระหว่างนั้นก็ได้ยินเจียงอวี่พูดเบา ๆ ว่า “ขอบคุณ”

ซูเถาหยุดชะงักและพูดว่า

“จากนี้ไป ถ้ามีคนหยาบคายกับคุณ คุณไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งของฉัน คุณจัดการเขาได้เลย ถ้าเกิดเรื่องอะไร ฉันจะรับผิดชอบเอง”

เจียงอวี่คลี่ยิ้มเล็กน้อย และเขาก็หายตัวไปในเงามืดอย่างรวดเร็ว

……

จี้ไฉเจ๋อกลับมาที่บ้านรับรองด้วยอาการหวาดกลัวจนตัวสั่น และเห็นคู่หมั้นของเขากำลังจัดกระเป๋าเดินทาง

“เมิ่งเมิ่ง ทำไมรีบเก็บกระเป๋าจังเลยล่ะ? กว่าเราจะออกเดินทางก็อีกสองสามวันไม่ใช่เหรอ?” เขาผงะไปเล็กน้อย

เหอเมิ่งขุยพูดด้วยใบหน้าเย็นชาโดยไม่เงยหน้าขึ้นว่า “พ่อของฉันมารับแล้ว”

จี้ไฉเจ๋อตกตะลึง “คุณเล่าเรื่องของเราให้พ่อตาฟังเหรอ”

เหอเมิ่งขุยเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอแดงก่ำ

“พ่อตาเหรอ คุณเลิกกับฉันแล้วไม่ใช่เหรอ พ่อตาอะไรกัน! ไปให้พ้น ตอนสายวันนี้ฉันจะกลับบ้าน”

จี้ไฉเจ๋อแอบคิดว่าซวยแล้ว เขาคิดว่าถ้าเขาได้ซูเถาคนนั้นมา เขาจะไม่สนใจเหอเมิ่งขุย

ใครจะไปรู้ว่าแท้จริงแล้วซูเถาเป็นไม้แข็ง! เขาเกือบจะไม่มีชีวิตรอดกลับมาแล้ว และทิ้งชีวิตไว้ที่นั้น

จากนี้เขาคงไม่กล้าไปยุ่งกับเธออีก

ตรงกันข้าม เหอเมิ่งขุยเป็นคนใจดีเกินไป ควบคุมง่าย และใจอ่อน อีกทั้งยังมีพื้นฐานครอบครัวที่ดี เขากำลังเผชิญหน้ากับการสูญเสียครั้งใหญ่

หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ร่างของเขาก็ทรุดลงทันทีและเอ่ยขอโทษอย่างนุ่มนวล อย่างไรก็ตาม เขาโกหกและกล่าวโทษตัวเองเพื่อแก้ตัวในความผิดของเขา

“เมิ่งเมิ่ง ผมผิดไปแล้ว ลงโทษผม ผมควบคุมมันไม่ได้ ซูเถาล่อลวงผมก่อน ตอนที่เราไปเยี่ยมเถาหยาง คุณอาจไม่ทันสังเกต เธอคอยให้ท่าผมตลอดเวลา เพื่อจะได้ตัวผมไป เธอไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ และคอยตามตื๊อผมอยู่ตลอดเวลา…”

“เมิ่งเมิ่ง! ผมรู้ว่าผมผิดจริง ๆ คุณตีผมได้เลย”

เหอเมิ่งขุยโกรธมากจนเกือบจะเป็นลม

จี้ไฉเจ๋อกัดฟันและตบหน้าตัวเองสี่หรือห้าครั้ง

“ถ้าคุณไม่ทำ ผมจะทำเอง!”

เหอเมิ่งขุยตกใจและต้องการหยุดเขา

“ถ้าคุณไม่ยกโทษให้ผม ผมจะทำร้ายตัวเองต่อไป ตีให้ตายไปเลย ยังไงผมก็อยู่ไม่ได้โดยไม่มีคุณ”

เหอเมิ่งขุยโกรธและทุกข์ใจมาก

“หยุด! สิ่งที่คุณพูดเป็นความจริงเหรอที่ซูเถาล่อลวงคุณก่อน?”

จี้ไฉเจ๋อสาบานว่า “ทุกสิ่งที่ผมพูดเป็นความจริง ถ้าผมโกหก ผมคงตายอย่างน่าสยดสยอง หลังจากตาย ผมก็จะกลายเป็นอาหารของซอมบี้”

หลังจากพูดจบ เขาก็ถกเสื้อขึ้นเผยให้เห็นรอยช้ำรอบเอว

“ซูเถานัดหมายกับผมเมื่อเช้านี้ เธอบอกว่าตราบใดที่ผมเกลี้ยกล่อมให้พ่อของผมเพิ่มผลึกนิวเคลียสอีกสามอันเพื่อความร่วมมือนี้ เธอยินดีที่จะอุทิศตัวเองให้ผม แน่นอนว่าผมไม่เห็นด้วย! เธอเลยเตะผมด้วยความโกรธ นอกจากนี้ เธอยังขอให้บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ เธอ ทำร้ายผมจนเลือดตกยางออก!”

เหอเมิ่งขุยโกรธมาก เธอเชื่อเขาอย่างสนิทใจ และเกิดความรู้สึกเกลียดซูเถาขึ้นมา

“นั่นไง ฉันว่าแล้ว! ตอนนั้นฉันบอกลุงจี้แล้วว่าซูเถาดูไม่เป็นคนดี เธอต้องการผลึกนิวเคลียส เห็นได้ชัดว่าเธอโลภมาก! ลุงจี้สายตาเลือนรางจริง ๆ ที่เขาไปร่วมมือกับคนประเภทนี้!”

จี้ไฉเจ๋อจับมือของเธอ

“เมิ่งเมิ่ง หลังจากผ่านช่วงเวลานี้ไป ผมรู้ว่าคุณเก่งแค่ไหน ผมยอมรับว่าผมสับสน แต่ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดไป ยกโทษให้ผมด้วย ในอนาคตผมจะอยู่กับคุณ จะใช้ชีวิตและปฏิบัติต่อคุณอย่างสุดใจ”

หัวใจของเหอเมิ่งขุยอ่อนลง แต่เธอก็ยังมีความขุ่นเคืองอยู่ในใจ

“ถึงคุณเป็นฝ่ายผิด ความผิดใหญ่หลวงก็ไม่ใช่ของคุณ มีคนจงใจทำให้คุณไขว้เขว ไม่ได้การแล้ว ฉันต้องคุยเรื่องนี้กับพ่อ! ผู้หญิงแซ่ซูคนนั้นจะต้องชดใช้!”

“ฉันอยากให้เธอรู้ว่า ฉันเหอเมิ่งขุยคนนี้ไม่ง่ายที่จะรังแก และผู้ชายของฉันก็ไม่ใช่คนที่จะมาล่อลวงได้!”