บทที่ 127 Devil May Cry [3]

ในขณะที่ผู้เล่นทําการต่อสู้นองเลือดกับมินเนี่ยนที่บันได แองโกร่าก็มาถึงชั้นบน สุดของหอคอยด้วยการปกป้องของวีลา

ที่นั่นเขาพบเซซิลที่มีเพียงครึ่งเดียวที่ยังเป็นมนุษย์

“ในที่สุดเจ้าก็มาซะที” เซซิลไม่ได้อ่อนแอเหมือนตอนที่เขากระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธในตอนนั้น เขาจ้องมองไปที่แองโกร่าอย่างใจเย็นเมื่อเขามาถึง “ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องมา”

แองโกร่ามองเห็นร่างของพ่อมีรูโหว่ขนาดใหญ่อยู่เหนือหน้าอก สภาพของเขาตอนนี้ราวกับว่าเขาได้ตายไปแล้ว

สําหรับมนุษย์ในโลกนี้ นั่นก็หมายความว่าเขาได้ตายไปแล้วจริงๆ แต่ในฐานะผู้เล่น แองโกร่าสามารถมองเห็น HP ที่ยังเหลืออยู่เพียงเศษเสี้ยวบนแถบ HP สีเหลืองของพ่อ แม้ว่ามันจะค่อยๆลดลงก็ตาม

แองโกร่าขยิบตาให้วีลา เธอพยักหน้าเข้าใจและหยิบโพชั่นรักษา (โคคา-โคล่า) ออกมาจากถุงเล็กๆของเธอ แล้ววิ่งไปหาฮอร์รัน

เซซิลดูเหมือนจะไม่ได้สนใจสิ่งที่ผู้ติดตามของแองโกร่ากําลังทําอยู่ สายตาของเขาจ้องอยู่ที่แองโกร่าตั้งแต่ต้นไม่ขยับไปไหน

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าจะเอาของที่เป็นของข้าคืน แม้ว่าเจ้าจะไม่ยอมให้มันกับข้าก็ตาม”

ในขณะที่เขาพูด เนื้องอกสีดําและหนวดก็ยื่นออกมานอกร่างกายของเซซิลเหมือนใยแมงมุมที่ ทําจากอวัยวะภายในและเส้นเลือดกระจายไปทั่วห้อง เขาดูไม่ต่างจากสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ที่กําลังอ้าปากแยกเขี้ยวข่มขู่ศัตรู

คนปกติอาจจะกลัวจนตัวแข็งในสถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่วิลาที่เคยเคยท้าทายดันเจี้ยนมาแล้ว หลายต่อหลายครั้งก็ยังตื่นตะลึง แต่แองโกร่ากลับมองพี่ชายของเขาด้วยสายตาปกติ แม้ว่าเซซิลจะสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปแล้วกว่าครึ่งก็ตาม

“ทําไม! ทําไมเจ้ายังเฉยอยู่ได้! ตอนนี้เจ้าควรหวาดกลัว เจ้าควรจะร้องขอความเมตตาจากข้า!”

ท่าทางสงบนิ่งของเซซิลในตอนแรกได้จางหายไปแล้ว ตอนนี้เขากําลังตะโกนเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง

“ข้าแค่รู้สึกว่าเจ้ากําลังเศร้ามาก” แองโกร่าพูดช้าๆ “เจ้ากําลังเจ็บปวดกับความหลงผิดของตัวเอง เจ้าที่เคยก้มหน้าก้มตาปกครองทุกสิ่ง ตอนนี้กลับจบลงด้วยร่างกายที่พิลึกพิลั่น”

“ข้าจะบอกความจริงให้ว่าข้าไม่เคยสนใจเลยว่าเจ้าจะเห็นข้าเป็นศัตรูแค่ไหน เพราะข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าอนาคตวันหนึ่ง ข้ากับเจ้าจะได้มาสู้กับแบบนี้” ในที่สุดสีหน้าของแองโกร่าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อดวงตาของเขาสื่อถึงความโกรธ “พ่อให้ความสําคัญกับเจ้ามาก เขาคอยดูแลเจ้าอย่างความจริงใจมาตลอด ทุกอย่างจะเป็นของเจ้าไม่ว่าจะเป็นตําแหน่งดยุกหรือดัชชีอินทรีเงิน ทําไมเจ้าถึงทําร้ายเขาแบบนี้”

“เพราะเขาไม่เคยให้สิ่งที่สําคัญอย่างแท้จริงกับข้า!” เซซิลคํารามใส่เขา “ตําแหน่งดยุก?! ดัชชี? สิ่งเหล่านั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าของในกระเป๋าเมื่อเผชิญกับอํานาจที่แท้จริง! เจ้ารู้ว่าข้ากําลังพูดถึงอะไร มันไม่สําคัญอีกแล้วตอนนี้ เจ้าไม่ต้องมาแกล้งโง่!”

“นั่นคือทั้งหมดที่เจ้าอยากจะพูดใช่ไหม”

แองโกร่าดึงจุดหมายที่เอ็ดเวิร์ดขโมยมาจากห้องของเซซิล แล้วเหวี่ยงมันลงบนพื้น “ในจดหมายถึงเคานต์ไอนซ์วอเตอร์ ท่านพ่อได้กล่าวถึง “สมบัติที่เขาได้รับจากเทพเจ้า นี่ใช่ไหม”

“ใช่! แต่มันสายเกินไปแล้ว มันสายเกินไปแล้วที่เจ้าจะซ่อนมัน ข้ารู้ทุกอย่างหมดแล้ว!” เซซิลกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

“เจ้าไม่รู้จริงๆหรือว่าสมบัตินั้นคืออะไร” แองโกร่าถามแล้ว

“ฮึ่ม!” เซซิลพูดด้วยน้ําเสียงขมขื่น “ข้าอาจไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่จุดหมายฉบับนี้มีการลงวันที่ในช่วงที่แม่ของเจ้ากอดกับตาแก่นั่น เนื่องจากเขาเขียนจดหมายถึงตระกูลไอนซ์วอเตอร์ สมบัติจึงต้องอ้างอิงถึงบางสิ่งที่เธอมอบให้เขา เจ้ากล้าพูดได้อย่างไรว่าเขารักข้า หลังจากที่เก็บซ่อนสมบัตินั้นกับข้ามาหลายปี! เขารักเจ้าแค่คนเดียว”

“สมบัติที่เขาพูดถึงคือเจ้า ไอ้โง่!” แองโกร่ากล่าวขัดคําพูดที่แสดงความเกลียดชังของเซซิลทันที “จดหมายเป็นเพียงบทสนทนาที่เขาพูดคุยกับเคานต์ไอนซ์วอเตอร์เมื่อคินลีย์เพิ่งเกิดพ่อตั้งใจให้เธอหมั้นหมายกับเจ้า และปูทางไปสู่อาณาจักรหลังจากที่เจ้าเติบโต และรับมรดกตยุกต่อจากเขา! ‘สมบัติจากเทพเจ้า” คือคําคุยโวของเขา เจ้าเป็นลูกชายที่เขาภาคภูมิใจ!”

“เป็นไปไม่ได้…เจ้ารู้ได้ยังไง”

“นั่นคือสิ่งที่เราคุยกันหลังงานเลี้ยงอาหารค่ํา เขาได้ส่งคนไปเก็บจดหมายเหล่านั้นกลับมาหลังจากการที่เคานต์ไอนซ์วอเตอร์จากไป เพื่อที่ศัตรูของเขาจะไม่มีวันรู้จุดอ่อนของเขา มีเพียงจดหมายไม่กี่ฉบับที่หายไป ข้าเดาว่าหนึ่งในนั้นคือจุดหมายที่เจ้าได้รับ”

จากนั้นแองโกร่าก็หัวเราะเยาะเมื่อเซซิลทําท่าเหมือนไม่เชื่อเขา “แม้ว่าจดหมายจะไม่มีบริบทที่ชัดเจน แต่เรื่องแบบนี้ก็เข้าใจได้แค่อ่านมันให้ดีๆ มีเพียงคนโง่ที่วิเคราะห์ทุกอย่างมากเกินไป เท่านั้นที่จะเก็บมันไว้ในใจจนไปไกลถึงขั้นฆ่าพ่อตัวเอง”

“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้ ถ้าสิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริง ผู้ยิ่งใหญ่พวกนั้นจะไม่ตระหนักถึงสิ่งนี้เลยงั้นรึ? พวกเขาเชื่ออย่างชัดเจนว่าสมบัติของเทพเจ้ามีอยู่จริง! พวกนั้น” ร่างที่น่ากลัวของเซซิลเริ่มบิดเบี้ยว หลังจากได้รู้ความจริงที่ยากเกิดจะเชื่อ ใบหน้าของเขาน่ากลัวยิ่งขึ้น

” ผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเจ้าไม่ใช่มนุษย์ใช่ไหม? ถ้าพวกเขาไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ของมนุษย์ได้ พวกเขาจะเข้าใจความรักได้ยังไง!”

“เจ้าโกหก! เป็นไปไม่ได้! เจ้ากําลังพยายามหลอกข้า!”

เซซิลจ้องมองตัวเองด้วยความสยดสยอง มือของเขาตอนนี้กําลังเต็มไปด้วยเนื้องอกและหนองสีเขียว “ทําไมข้าถึง..เพราะเหตุผลที่น่าหัวเราะแบบนี้”

เนื้องอกและหนวดที่สั่นไหวของเขาหยุดนิ่งลงแล้ว

แต่เมื่อแองโกร่าคิดว่าในที่สุดเซซิลก็เข้าใจว่าเขาได้ทําผิดพลาดไปเพียงใด ใบหน้าของเซชิลก็กลับมาดุร้ายอีกครั้ง

“ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า! ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้า! ถ้าเจ้าไม่มีตัวตนตั้งแต่แรก ข้าจะเป็นแบบนี้ได้ยังไง ตอนนี้ข้าจะทําลายทุกสิ่งที่เจ้ารักและทรมานเจ้าที่ละนิด!”

หัวใจของแองโกร่าหยุดเต้นไปชั่วขณะ เขารู้แล้วว่าเซซิลเป็นบ้าไปแล้ว

“วีลา…”

ก่อนที่เขาจะได้เตือนเธอ เด็กสาวที่เพิ่งลากฮอร์รันที่อาการมั่นคงแล้วไปถึงยังที่ปลอดภัย ก็ถูกหนวดเนื้องอกขนาดใหญ่ของเซซิลตบกระเด็นโดยไม่รู้ตัว จนร่างกายส่วนบนทั้งหมดของเธอเละจนดูไม่ได้และตายทันที!

“ฮ่าๆๆๆ! น้องข้า ตอนนี้เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง?!” เซซิลจ้องมองใบหน้าที่เย็นชาของแองโกร่าและหัวเราะอย่างบ้าคลัง

“เซซิล”

น้ําเสียงของแองโกร่านั้นสงบมาก แต่ความโกรธเกรี้ยวกําลังซุ่มซ่อนอยู่ภายใต้ความเงียบสงบนั้น “มีเพียงเหตุผลเดียวที่ทําให้เจ้าล้มเหลว”

เขาดึงไม้กายสิทธิ์ออกมาและเล็งตรงไปที่ใบหน้าอันชั่วร้ายของเซซิล “นั่นเป็นเพราะเจ้าทําให้ข้าโกรธ!”