ตอนที่ 198 ความผิดปรกติในสุสาน ตอนที่ 1

ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi

198 ความผิดปรกติในสุสาน: ตอนที่ 1

 

 

–มุมมองเอเกอร์–

มันเป็นเวลากลางคืนที่ชานเมืองของราเฟนและผมกำลังเดินอยู่ด้วยกันกับอลิส, อิริจิน่า, และครอล

「มันค่อนข้างมืดที่นี่…… โฮ่ย」

ไฟดวงเล็กๆจู่ๆก็สว่างขึ้นที่ปลายนิ้วของอลิส

เธอไม่ได้เป็นคนเดียวเท่านั้นที่ถูกพิจารณาได้ว่าเป็นตัวตนหายากสุดที่เรียกว่าผู้ใช้เวทมนตร์ แล้วเธอก็ค่อนข้างแข็งแกร่งด้วย

ผมแดงของเธอนั้นคล้ายกับสีของไฟเป็นข้อพิสูจน์ความสามารถลับของเธอและเห็นว่าเปลี่ยนเป็นสีขาวเมื่อเธอใช้พลังเวทมนตร์หมด

「มันดีที่มาเดินเล่นกันตอนกลางคืน! พระจันทร์สวยและมากกว่าทุกสิ่ง มันเงียบ!」

อิริจิน่ามีหอกเธอบนไหล่และกำลังเดินอย่างร่าเริงด้วยก้าวเท้ายาวๆ

เธอถูกตีโดยกิ่งไม้นับไม่ถ้วนมาสักพักแล้วตอนนี้ แต่เธอหักมันทั้งหมดและกำลังเดินดั่งพวกมันไม่ได้อยู่นี่

「ทำไมผมอยู่ที่นี่……?」

กำลังเดินหลังอิริจิน่าตัวใหญ่เกือบดั่งกำลังซ่อนจากบางอย่างคือครอล

เขากำลังมองไปรอบๆอย่างกลัวเกรงพร้อมคบเพลิงในมือของเขา

มีเสียงของใบไม้ไหวถูกสร้างโดยลมหรือสัตว์ตัวเล็กๆ

「ม-ไม่มีอะไรอยู่ที่นี่」

อลิสขยายไฟ ณ นิ้วเธอและยืนยัน

「วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ลมพัดเย็นและมันสดชื่น!」

อิริจิน่าไม่รับรู้

「ฮฮฮฮิ๊!」

ครอลกรี๊ดสั้นๆแะซ่อนหลังอิริจิน่า

「นายเป็นผู้ชายใช่มั้ย…… อย่ามาซ่อนหลังผู้หญิง นั่นน่าสมเพช ถ้านายจะซ่อนอย่างน้อยซ่อนหลังฉัน」

ด้านน่าอายของผู้ชายอายุ 16 ไม่เปลี่ยนไป

「ให้ตายเถอะน่า ทำไมนายกลัวมาก? นายไม่ได้อยู่ในสนามรบด้วยซ้ำ ดังนั้นมันไม่เหมือนว่าลูกธนูจะบินมาที่นาย」

ที่นี่อยู่ข้างนอกกำแพงเมืองแต่ไม่ไม่ใช่ที่ซึ่งโจรและสัตว์ประหลาดอาละวาดกันอย่างไม่ได้ดูแล

「พ-เพราะ เอเกอร์ซามะ…… ที่นี่คือ……」

「หืม?」

「ที่นี่คือสุสาน! มันน่ากลัว!」

นั่นถูกทุกอย่าง เราต้องระวังผีดิบ

มีเหตุผลว่าทำไมผมมาเดินทั่วที่สุสานตอนกลางคืนกับสามคนเหล่านี้

 

 

ก่อนหน้านี้ในวันนั้น กลางคืน

ผมกำลังกลืนเหล้าอ่อนลงในห้องนั่งเล่นหลังจากถูกเรียกโดยไมล่า

เห็นได้ชัดว่าเธออยากจะพูดในสถานที่ซึ่งไม่มีคน

โชคดี ไม่มีใครอยู่ที่นี่ตอนนี้

「นี่อาจฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่-……」

หลังจากพูดคำพูดบอกไม่แน่ใจติดมาด้วย ไมล่าเริ่มบอกผมว่าเกิดอะไรขึ้นพร้อมสีหน้าซับซ้อนบนใบหน้าเธอ

「มีข่าวลือเกี่ยวกับอะไรไม่น่าพอใจออกมาจากสุสานชานเมือง ตอนแรก หนูคิดว่าล้อเล่น แต่…… มีพยานเห็นหลายคนและพวกเขาไม่เปลี่ยนคำพูดบอกแม้แต่เมื่ออยู่หน้ากองกำลังผู้รักษาความปลอดภัย」

「เพราะทั้งหมดถ้าพวกเขาเป็นพวกขี้โกหก ถ้าอย่างนั้นพวกเขาจะวิ่งหนีตื่นตกใจหรือลงไปหมอบคำนับบนพื้นเมื่อผู้รักษาความปลอดภัยไปที่นั่น」

ไม่มีพลเมืองมีความกล้าพอจะล้อเล่นกับหน่วยรักษาความปลอดภัยของไมล่า

「เราตรวจอีกครั้งช่วงกลางวันและไม่เจออะไรสักอย่างแปลกๆ เราตัดสินใจได้ว่าเป็นการโกหก แต่ระหว่างเวลาแบบนี้…… อืม หนูคิดว่าหนูจะรายงานมันให้พี่อยู่ดี」

「พี่ก็ว่า ตอนนี้…… ไม่ใช่เวลาที่ดีสุด」

ทหารเป็นพันผู้สู้และตายในการต่อสู้ระหว่างอเลสและอโตรัวถูกฝังอยู่ในสุสานของราเฟน

มันยังไม่แม้แต่ถึงหนึ่งเดือนตั้งแต่พวกเขาถูกฝังลงใต้พื้น

และไม่มีพวกเขาสักคนตายโดยรู้สึกพอใจ แต่เป็นตายตอนกำลังสู้ ทิ้งความเสียใจและครอบครัวไว้ข้างหลัง

「น้ำถูกใช้ล้างสุสานนานๆครั้ง ดังนั้นหนูไม่คิดว่าพวกเขาจะถูกเปลี่ยนเป็นพวกไร้ชีวิต แต่-……」

ผมจินตนาการสุสานถูกเติมเต็มด้วยเจตนาร้ายไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตาม มันใช้ไม่กี่วันเพื่อให้เรานำร่างทหารสู่ราเฟน

ในเวลานั้น มันเป็นไปได้ว่าผีชั่วร้ายบางประเภทอาจสิงร่างของพวกเขา

「แต่มันแปลกที่ไม่มีอะไรพบได้เลยระหว่างกลางวัน」

ซอมบี้เคลื่อนไหวมากไม่ได้ใต้แสงตะวันและพวกมันไม่มีความฉลาดพอซ่อนและหลบตะวันเหมือนแวมไพร์

พวกมันควรกระจัดกระจายในเงาหรือแห้งเหือดในตะวันและควรหาไม่ยากสักนิด

「แต่เราอาจจำเป็นต้องทำการตรวจสอบตอนกลางคืนเผื่อไว้」

ผีดิบนั้นเกิดเมื่อวิญญาณเข้าและขยับศพดังนั้นมันไม่ใช่จำเป็นต้องเป็นแค่วิญญาณของคนที่ตาย

แม้อย่างนั้น ผมคิดว่ามันเศร้านิดหน่อยสำหรับทหารผู้สู้ด้วยกันกับเราแล้วถูกเปลี่ยนเป็นพวกไร้ชีวิตและเดินไร้จุดหมาย

「นอกจากนี้ ฉันไม่อยากทำให้นี่เป็นเรื่องใหญ่ มันจะมีผลกับกำลังใจและสภาพจิตใจของพลเมืองหลังจากทั้งหมด」

ครอบครัวพวกเขาอาจเดินไร้จุดหมายกันแม้แต่ตอนนี้

มันเป็นหน้าที่ของผมต้องรับมือกับนี่ก่อนครอบครัวผู้รอดชีวิตรู้เข้า

「ถ้าอย่างนั้น พี่จะทำการค้นหาในสุสาน」

「หนูจะปล่อยพี่ได้ยังไงเล่า! ไม่มีทางที่หนูจะให้ลอร์ดศักดินาค้นหาเสี่ยงอันตราย」

「อย่ากังวล หนูคิดจริงๆเหรอว่าพี่จะแพ้กับอะไรบางอย่างเหมือนผีดิบ?」

「อืม-…… ก็ไม่ค่อยหรอก」

เพราะทั้งหมดผีดิบนั้นอ่อนแอเพราะพวกมันใช้ร่างกายของมนุษย์ บวกกับพวกมันไม่มีความฉลาด

เพิ่มเติม สร้างความเสียหายกับพวกมันจะทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพดังนั้นมันไม่ยากแม้แต่การสำหรับผู้ชายธรรมดาจะกำจัดผีดิบตราบใดที่พวกเขามีอาวุธ

「และถ้าพวกมันกำลังเดินไปทั่ว พี่ควรเป็นคนฟันพวกมันลง」

ฆ่ามันนั้น-…… พวกมันส่วนใหญ่คือทหารผู้สู้กับอเลส แม้ว่าผมเป็นผู้ที่พาพวกเขาไปด้วยและทำการตัดสินใจบนสนามรบ

ผมไม่รู้สึกผิด แต่ผมต้องรับผิดชอบความเละเทะที่ผมสร้าง

「ถ้าอย่างนั้นหนูไปด้วย」

「ไม่ หนูควรใช้เวลาให้รางวัลหน่วยรักษาความปลอดภัยและพาพวกเขาไปดื่มหรืออะไรบางอย่าง」

ขณะเธอกำลังจะส่งเสียงไม่พอใจ ผมวางนิ้วลง ณ ริมฝีปาก

「เธอไปที่สุสานและตรวจสอบตอนกลางวันแล้วไม่ใช่เหรอ? ข่าวลือควรกำลังแพร่ในหมู่ทหารและพลเมืองแล้วถ้าอย่างนั้น」

ข่าวลือเกี่ยวกับเงามืดน่าสงสัยปรากฏขึ้นในสุสานที่มีผู้คนตายมากมายถูกฝังจะทำให้ทุกคนคิดถึงผีดิบไม่ก็โครงกระดูก

「นั่นทำไมหนูจะดื่มกับหน่วยรักษาความปลอดภัยและพูดว่าหนูไม่เจออะไร แค่พูดว่าคนขี้ขลาดดูมันผิดเป็นอย่างอื่นและหัวเราะไปเรื่องอื่น ถ้าเรายืนยันระหว่างการหาตอนคืนนี้…… และจริงๆแล้วเจอบางอย่าง เราแค่ขับไล่สัตว์ประหลาดเหล่านั้นไป」

「แต่ยังไงหนูก็ให้พี่ไปคนเดียวไม่ได้」

หืมม มันจะไร้ความหมายถ้าผมนำทหารไปด้วยกันกับผม……  ถ้าเป็นอย่างนั้น

「ฉันหิวจัง!!」「ฉันว่าเราจะกินสเต็กเนื้อวันนี้」

อิริจิน่าและซีเลียกลับมาหลังจากฝึกเสร็จ

สมบูรณ์แบบพอดีเลย ผมจะให้พวกเธอมาด้วยกันกับผม

อิริจิน่าและซีเลียคือครอบครัวของผม ดังนั้นมันไม่สำคัญถ้าผมบอกความจริงกับพวกเธอ

「ผีดิบ…… นั่นไม่น่าดีเลยนะ!! เราต้องกำจัดพวกมันเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้」

เสียงหนูดังไปแล้ว มันก้องทั่วทั้งคฤหาสน์ดังนั้นลดเสียงลงหน่อย

「ผีดิบ? ถ้าพวกมันอยู่ที่นั่นจริงๆ ถ้าอย่างนั้นเราต้องรีบกวาดล้างพวกมัน」

ซีเลียมีไฟและพร้อมมาด้วย

แต่สีหน้าเธอกลายเป็นมืดมนในวินาทีต่อมา

「ถ้ามันคือผีดิบและโครงกระดูก เราต้องขยี้พวกมันและ เราถูกเอาชนะไม่ได้หรอกแม้ว่าเราเจอผีกินเนื้อ! แต่ว่า…… มันจะไม่มีผีจริงหรืออะไรสักอย่าง ถูกไหม? ……ดาบหนูไม่ได้จะแค่ผ่านพวกมัน ถูกไหม?」

โอ้ใช่ ซีเลียไม่ชอบผีและวิญญาณ

กับผีดิบ, โครงกระดูก,  และพื้นฐานกับอะไรที่ดั้งเดิมมาจากศพเพราะเธอกำจัดมันด้วยดาบเธอได้

แต่อะไรที่ผิดกับหลักเหตุผลเหมือนผีและวิญญาณนั้นทำให้เธอกลัวสุดหัวใจ

「ฮ่าฮ่าฮ่า อืม หนูแน่ใจว่าพวกมันแค่สัตว์ประหลาด และแม้ว่าฉันเห็นเคซี่ ผู้คนที่ไม่ “เห็น” เธอเห็นได้แค่ตุ๊กตาน่ารักกำลังลอยในห้อง」

(ฉันสงสัยว่าอะไรที่เราจะกินวันนี้น้า~)

ยินดีต้อนรับกลับ เคซี่ มันดูเหมือนเราจะกินสเต็กเนื้อวัวและมันฝรั่งกับซุปที่เต็มไปด้วยฟักทอง

(ว้าา หนูทนรอไม่ได้เลย~ หนูรักฟักทอง~)

เคซี่ไม่เข้าใกล้อิริจิน่า  อ้อมเธอเพื่อมาหาผม

มีคนผู้เห็นเธอ แต่ก็มีหลายคนด้วยผู้ไม่เห็น

เห็นว่า ผู้คนที่คิดอย่างมีเหตุผลและเป็นหลักเป็นการจะเห็นเธอง่ายกว่า

อิริจิน่าอยู่ในหมู่ผู้ไม่เห็นเธอและหัวทึบ ไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกหรือเสียงของเคซี่

ไม่เพียงแค่นั้น อิริจิน่าดูเหมือนเล็งเคซี่ตลอดโดยการเหยียบหรือนั่งบนเธอ ทำให้เคซี่โกรธตลอดเวลา

มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวหรือสองครั้งที่ผมเห็นผีแบนบินไปทั่วในน้ำตา

ครั้งหนึ่ง เห็นว่าเธอโกรธมากจนเปลี่ยนร่างเป็นวิญญาณอาฆาตและยืนข้างอิริจิน่าตอนกลางคืน แต่เธอไม่รู้สึกเลยสักนิด ซึ่งทำให้เคซี่ยอมแพ้และเริ่มเลี่ยงเธอหมดทุกเรื่อง

ถ้าอิริจิน่าเป็นประเภทคนที่มีเจตนาซ่อนเร้น ถ้าอย่างนั้นผมจะคิดว่าเธอจงใจทำ แต่เมื่อดูเธอปรกติ แล้วผมยอมรับว่าเธอไม่สามารถเห็นเคซี่ได้จริงๆ

「อืม มากลับไปสู่หัวเรื่องที่คุยอยู่ตอนนี้ พี่แน่ใจว่าผีและอะไรนั้นจะไม่ปรากฏดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวล」

「「……」」

「พี่พูดถูก! มันไม่มีทางเลย!」

อิริจิน่าเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่เห็นด้วยกับผม

ซีเลียห่อไหล่เธออย่างสลดใจ

「ห-หนูแน่ใจว่าเป็น! บางอย่างเกือบใสจะแค่ปรากฏกระทันหัน!!」

ซีเลียมองเคซี่และส่ายหัวอย่างไม่คิด

ถ้าอย่างนั้นเธอไม่ไหวกับการรับมือปรากฏการณ์ลึกลับ แต่นั่นก็คืออะไรที่ทำให้เธอน่ารักด้วย

(เฮฮฮ้ เฮ้ อะไรที่พี่กำลังพูดอยู่?)

เคซี่ผู้สงสัยพักคางเธอบนหัวของผม

ผมไม่ต้องกังวลเกี่ยวว่าผีดิบจะทำร้ายเธอ ดังนั้นเธอวิ่งหนีได้เมื่อสถานการณ์ท่าไม่ดี

มาอธิบายอะไรๆกับเธอเถอะ

(ไม่มีทางอย่างแน่นอนที่สุด)

เธอปฏิเสธผมโดยสิ้นเชิง

(แค่อยู่นอกเมืองตอนกลางคืนก็น่ากลัวแล้ว สุสานนั้นไม่ต้องถาม หนูจะทำยังไงล่ะถ้าหนูเจอผี!?)

โดยบังเอิญ เคซี่ไม่ชอบที่มืดแล้วก็เป็นสาวขี้กลัวด้วย

(เมื่อหนูได้ยินเกี่ยวกับอะไรน่ากลัว มันทำให้หนูอยากไปห้องน้ำ)

โอ้ ถ้าอย่างนั้นหนูไปห้องน้ำด้วย

(มันน่ากลัวที่เดินไปทั่วๆตอนกลางคืน ดังนั้นเมื่อหนูจำเป็นต้องไป หนูเข้าไปใกล้หลังแม่บ้านลาดตระเวนตอนกลางคืน)

「……ไม่นานนี้ มีเรื่องผีดังวนเวียนอยู่ในหมู่แม่บ้านว่าไหล่ของพวกเธอหนักกระทันหันเมื่อพวกเธอเดินกันตอนกลางคืน และพวกเธอไม่ควรหันหลังเพื่อมองอย่างเด็ดขาด……ถ้าอย่างนั้นหนูทำเหรอ?」

(หนูจะรู้สึกมั่นใจมากกว่าถ้าพวกเขาหันมานะ )

ไม่ว่าแบบไหน ผมจะให้อิริจิน่ามาด้วยกันกับผม

และผมจะอยากได้ซีเลียด้วยแต่……

「หนูจะไปด้วย! ถ้าเอเกอร์ซามะจะไป ถ้าอย่างนั้นหนูรออยู่ข้างหลังไม่ได้!」

คำพูดเธอไม่สมกับสีหน้าของเธอ

หน้าเธอกำลังร้องไห้ออกมาว่าไม่อยากไป

「หนูจะอยู่และดูบ้าน ใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อพี่ๆไม่อยู่ ปกป้องคฤหาสน์」

ไม่มีที่ไหนปลอดภัยในราเฟนกว่าคฤหาสน์ของผมแล้ว

ตั้งแต่เมื่อการโจมตีของผู้คลั่งไคล้มากราโดเกิดขึ้น การรักษาความปลอดภัยได้เพิ่มขึ้นด้วยดังนั้นมันไม่จำเป็นอย่างพิเศษว่าซีเลียต้องอยู่ที่นี่

「น-หนูเข้าใจแล้ว! ถ้าท่านพูดอย่างนั้นมันช่วยไม่ได้ หนูจะปกป้องคฤหาสน์!」

ผมต้องให้เธออ้างอะไรสักอย่าง

「มันจะแค่เป็นพี่และอิริจิน่า แต่มาเริ่มกันเถอะ」

「ใช่! ปล่อยหนูได้เลย!」

「ถ้าอิริจิน่าซังอยู่กับพี่ด้วย ถ้าอย่างนั้น……」

มันดูเหมือนไมล่าก็พอใจด้วย

ถ้าเราแค่พิจารณาการโจมตีซึ่งหน้า อิริจิน่านั้นน่าจะแข็งแรงกว่าไมล่า 

โดยเฉพาะกับผีดิบ มันน่าจะดีกว่าในการมีพลังการทำลายล้างมากกว่าความสารถฟัน

อิริจิน่า มีความเชี่ยวชาญพร้อมทรงพลัง มันเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์

「สองคนนั้นไม่ดีพอ!」

ซีเลียไม่ได้ดูเหมือนมั่นใจ

มาฟังเหตุผลเธอระหว่างถูแก้มเธอเถอะ

「ฟุ่ว้าาา! ทำไมท่านนวดพวกมัน!? ถ้าแค่อิริจิน่ากับเอเกอร์ซามะเท่านั้นและเอเกอร์วามะเริ่มมีเซ็กส์กันเพราะความอยากฉับพลัน หลังท่านเขาจะไร้การป้องกัน」

「……พี่ไม่ได้ขาดวินัยมากขนาดนั้น」

「ท่านจะทำอะไรถ้าไม่เห็นอะไรเลยหลังจากเดินรอบครั้งหนึ่งแล้ว」

ผมอาจทำมันถ้าอย่างนั้น

ทำมันในสุสานใต้แสงจันทราอาจรู้สึกดี

「มันอาจดีกว่าที่จะเอาไปอีกคนถ้าอย่างนั้น」

「ถ้าอย่างนั้นท่านรู้สึกอยากทำจริง」「แน่นอนเขาจะทำมัน」 (ช่างบ้ากาม)

แค่เมื่อผมกำลังคิดว่าจะทำอะไรดี ตาผมหยุดให้กับภาพที่เห็น

กองขนมปังอบใหม่ถูกขนมาโดยมาเรีย…… และอลิส สาวผมแดงผู้ย้ายงานอดิเรกมาอย่างอื่นนอกจากเล่นกับรูตูดและเรียนรู้ว่าจะทำอาหารได้อย่างไรกับมาเรีย

มันดูเหมือนพวกเธออ บขนมปังสำหรับสาวๆในอาคารเสริมวันนี้

「แล้วถ้าเป็นอลิสล่ะ?」

「อลิสเหรอพี่ว่า? หนูได้ยินว่าเวทมนตร์เธอค่อนข้างทรงพลัง……」

「ไฟเธอสุดยอดไปลย แม้แต่เกือบทำให้ฉันฉี่ราด!」

เห็นว่าเวทมนตร์เธอแรงอย่างไม่น่าเชื่อ

อย่างไรก็ตาม เธอไม่เคยมีประสบการณ์ต่อสู้กับตัวเองและไม่สามารถสู้ปะทะมือ

「แม้ว่าเราเจอบางอย่างครั้งนี้ มันจะมีแค่ผีดิบและโครงกระดูก อิริจิน่าและพี่จะรับแนวหน้าและปกป้องเธอ」

แต่ถ้าเราเผชิญหน้ากับศัตรูฉลาด เราจำเป็นจะต้องระวังความเสี่ยงที่มันจะทำฉลาดเหนือเรา

ผมเรียกอลิสหลังจากเธอขนขนมปังเสร็จและอธิบายสถานการณ์กับเธอ

「ได้เลย หนูจะไปด้วยกันกับพี่」

เธอตอบง่ายซึ่งทำให้สซีเลียมีหน้าตาตกใจ

ตลกดี ผมจะลูบใต้คางเธอ

「ฟู่นย้า…… -เดี๋ยวก่อน หนูไม่ใช่แมว! ที่สำคัญมากกว่านั้นอลิส เธอจะเป็นอะไรมั้ย? นี่เป็นสุสานนะที่เราพูดถึงกันเนี่ย」

「ใช่ ฉันไม่ได้กลัวผีหรืออะไรสักอย่าง เอเกอร์ซามะจะอยู่ที่นั่นด้วย ถูกมั้ยล่ะ?」

「ออออุ่……」

เห็นอลิสไม่พูดมากอย่างไร้ความกลัว ซีเลียดูเหมือนรู้สึกสับสนนิดหน่อย

ช่างน่ารัก ให้พี่ได้ลูบหัวหนูนะ

「โฮ้วว ข่างเป็นความรู้สึกอันอธิบายไม่ได้ของความพ่ายแพ้ที่หนูรู้สึก」

ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ การเตรียมการควรจะเสร็จแล้ว

「แต่…… ถ้าลอร์ดฮาร์ดเลตต์หลับนอนกับพวกเธอทั้งสองคนด้วยกัน เราจะเอาลำดับความสำคัญเรากลับหัวหาง」

ครั้งนี้ไมล่าเป็นคนผู้แทรกเข้ามาอย่างไม่จำเป็น

พี่ไม่ใช่สัตว์ป่าอะไรเช่นนั้นที่จะซั่มหมู่กันในสุสานตอนกลางคืน

「หนูอยากจะเพิ่มอีกคน ได้โปรดพาผู้ชายไปด้วยกันกับพี่」

ผู้ชาย หือ…… บางคนผู้ผมบอกความลับได้และสู้ได้, มีลีโอโพลต์, แม็ก, กิโด้หรือคริสตอฟ

「มันจะจริงจังถ้าลีโอโพลต์ได้รับบาดเจ็บ」

ผมจะไม่โทษตัวเองถ้าผมเป็นคนนำเขาขึ้นเตียง แต่งานผมจะเพิ่มขึ้น

「หน่วยช่างของแม็กกำลังติดตั้งพื้นที่สำหรับการสร้างสะพานทางน้ำ และกิโด้กับภรรยาเขากำลังผ่อนคลายกับการหยุดเที่ยว 2 คืนด้วยกัน」 ไมล่าตอบ

เราเพิ่งยืนยันข่าวลือและเราไม่รู้ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่สัตว์ประหลาดจะโผล่มา ดังนั้นผมเรียกพวกเขากลับมาไม่ได้

ผมไม่อยากกวนกิโด้โดยเฉาะ ผู้น่าจะโยกสะโพกเขาบนเมียเขาอยู่ตอนนี้เป็นพิเศษ

「ถ้าอย่างนั้นคริสตอฟ……」

「ถ้าพี่จะพาบางคนแบบนั้นไป มันน่าจะดีกว่าที่จะเอาหุ่นไล่กาไปกับพี่แทน」

เขาจะร้องไห้ถ้าเขาได้ยินนั่น

แม้อย่างนั้น เขาไม่เคยวิ่งหนีจากศัตรูมาก่อน

แต่เขาตกม้าและสลบหน้าศัตรู

「ถ้าอย่างนั้นแล้วครอลล่ะ? เขากล้าอยู่บ้าง บวกเขามีประสบการณ์ฟันศัตรูตาย 」

เข้าใจแล้ว เขาสู้ด้วยกันกับอิริจิน่าระหว่างการโจมตีเมืองหลวง

ถ้าอย่างนั้นไปกับครอลเถอะ

「อืม ถ้ามันเขา…… เขาเป็นโล่เอเกอร์ซามะได้เป็นอย่างน้อย……」

ซีเลียพึมพำบางอย่างไม่น่าฟังแต่ผมจะไม่สนใจมัน

เรามุ่งหน้าไปที่ห้องครอลและผมเปิดประตู

เพราะทั้งหมดนี่คือบ้านผม ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องเคาะ

「โลล่าจะเลียปลาย…… มิร่าซังได้โปรดูแลไข่ผมที……. อ่ะฮฮฮฮฮี้!」

ครอลนั่งนเตียงและกำลังได้รับการเลียหว่างขาจากสองสาว

เขาต่างจากคนรับใช้คนอื่นและผมรู้จักเขามาสักพักแล้ว ซึ่งทำไมผมให้ห้องส่วนตัวเขา

มันอาจดูเหมือนหรูหราสำหรับคนรับใช้ แต่เขาใช้ห้องเล็กเพื่อให้แม่และลูกผู้เขาพามาจากเมืองหลวงอยู่

「ช่างมีน้ำใจจริงนะที่ทำนี่ก่อนกินอาหารค่ำ」

เมื่อรู้ว่าผมมา ครอลดึงกางเกงขึ้นในความตื่นตกใจระหว่างแม่และลูกหนีไปสู่มุมห้อง

สายตาของซีเลียและไมล่าผู้กำลังตามหลังผมต้องรู้สึกเหมือนมีดแห่งน้ำแข็งกับครอล

「หนูสงสัยว่าทำไมหลังๆเขาไม่ไปหั่นไม้หรือต้มน้ำร้อนห้องอาบน้ำ…… ถ้าอย่างนั้นนี่คือทำเขาจะทำ……」

ครอลทำงานเป็นลูกน้องผู้ชายพิเศษของผมผู้เข้าพื้นที่ของผู้หญิงของผมได้

ดีงนี่นั้นเห็นว่างานออกแรงยากๆ, ซึ่งถูกทำได้โดยใครก็ได้, ที่ตัองตักน้ำและหั่นฟืนนั้นถูกย้ายไปผู้ชายหนุ่มที่ถูกจ้างมาใหม่

นั่นทำให้ผมนึกได้ หลังๆผมไม่เห็นเขาและอัลม่าจีบกันไปทั่วทุกที่

「ฉันมีงานพิเศษให้นายทำ เราจะไปสุสานราเฟนคืนนี้ดังนั้นไปด้วยกันกับเราหลังจากติดอาวุธตามนั้น」

「สุสาน? แล้วก็ติดอาวุธ…… ผมแค่คนรับใช้เอง ดังนั้น……」

ซีเลียส่งการจ้องไปหาเขา

「ข-เข้าใจแล้ว! ผมจะเตรียมทันทีครับ」

ตอนนี้ไรได้รับบุคลากรแล้ว

มาแกล้งทำว่านี่เป็นเดินเล่นตอนกลางคืน

 

 

ปัจจุบัน

「พี่รู้ว่ามันคือสุสานน่ะนะ แต่มันเงียบจริงๆ」

「อืมม มีบรรยากาศแบบนั้นที่นี่ด้วย」

อลิสตั้งใจมองท้องฟ้ายามค่ำคืนและยิ้มเล็กน้อย

「มันเงียบและเย็น!」

เสียงอิริจิน่าดังมากเกินไป

「ไม่ ไม่ ไม่ มันแค่แปลก! ไม่มีบรรยากาศในสุสานสักนิด!」

ผมสงสัยว่าทำไมผมคิดว่ามันน่ารักเมื่อซีเลียกลัวผีแต่ผมโกรธเมื่อมันเป็นครอล

ผมตีตูดของผู้ชายอายุ 16 ปีผู้กำลังซ่อนหลังผม

「ที่นั่น…… บางอย่างเพิ่งขยับ」

อลิสรีบชี้ไปทิศทางที่เธอเชื่อว่าเห็นความเคลื่อนไหว

ไฟของปลายนิ้วเธอกลายเป็นใหญ่โตขึ้นและส่องแสงให้รอบข้าง

อย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรนอกเหนือความปรกติในบริเวณที่เธอชี้

「……แปลก หนูดูผิด」

「มันต้องเพราะหนูคิดไปเอง เราเห็นผีดิบได้ง่ายๆเพราะพวกมันไม่มีสมองซึ่งบอกให้พวกมันซ่อน」

ถ้าอะไรที่ขยับเมื่อกี้คือซอมบี้ มันจะมุ่งตรงไม่หันสู่เขาเพราะมันโหยหาเนื้อ

「หืม……พี่พูดถูกมั้ง」

เรากลับไปเดินต่ออีกครั้ง พร้อมอิริจิน่าเป็นผู้นำ และครอลข้างหลังเรา

ความตึงเครียดจากการเห็นสิ่งลึกลับจากก่อนหน้าเริ่มหายไปขณะผมลูบหัวอลิสและอิริจิน่าร้องเพลงในลำคอระหว่างเดินตามทางอย่างไม่เกรงกลัว

และจากนั้น แสงจากคบเพลิงโดยอิริจิน่าจับวัตถุเหมือนมนุษย์บนพื้นได้

เราทั้งหมดหยุดอยู่กับที่อย่างเร็วและยืนยันว่าเราเห็นอะไร และมันไม่่ความผิดพลาดครั้งนี้

「สองคน…… กำลังนอนอยู่บนพื้น! พวกเขาเปลือย!」

อิริจิน่าเปลี่ยนจากร้องเพลงเป็นตะโกนในเสี้ยววินาที ทิ้งคบเพลิงเธอไปบนพื้นและเข้าสู่ท่ายืนพร้อมหอกของเธอ

มีโอกาสสูงว่าซอมบี้อาจคลานออกมาจากใต้พื้นดินถ้ามีคนเปลือยอยู่ที่นี่

ผมก็กวัดแกว่งหอกผมด้วยระหว่างครอลพร้อมโล่ของเขา

ไม่ใช่นายสมควรเอาดาบออกมาในกรณีนี้หรือ?

อลิสยังคงอยู่เป็นท่ายืนธรรมชาติ แต่เธอเปลี่ยนพื้นที่สู่ทะเลเพลิงได้

เรารอผีดิบสองตัวตื่นขึ้นและโจมตีเรา แต่แน่นอนที่สุดว่าไม่มีการเคลื่อนไหวเลย

ความตึงเครียดในบรรยากาศสงบลงอย่างเร็ว

「เฮ้…… พวกเขาไม่ใช่ผีดิบ ดังนั้นพวกเขาแค่ศพถูกทิ้ง」

มันใช้พลังคนเพื่อขุดหลุมฝังศพด้วย ดังนั้นมันเป็นไปได้ว่าสองร่างเหล่านี้อาจถูกเกลียดหรือแค่คนแปลกหน้าและแค่ถูกทิ้งไว้ที่นี่

แต่อะไรแบบนี้แน่นอนจะกลายเป็นแหล่งที่มาของซอมบี้และโครงกระดูกและควรเป็นการกระทำต้องห้าม

「นึ-! พวกเขากำลังหายใจ!」

อิริจิน่าตะโกนขณะเธอวิ่งมาหลังจากตรวจ

เรารีบตามหลังเธอ

「เฮ้ เฮ้! อยู่กับฉันที่นี่! เกิดอะไรขึ้น!?」

คนที่เธออุ้มขึ้นเพื่อพยายามทำให้ตื่นคือผูื้ชาย

และอีกคนเป็นผู้หญิงแต่มันดูเหมือนเธอตายแล้ว

「อุ…… อุ…… คำสาป…… อ่ะ……」

ผู้ชายนั้นผอมมากจนดูพลาดเป็นศพได้ง่ายๆและตาโบ๋เข้าไปข้างในไม่ควรสามารถเห็นอะไรได้

ผู้หญิงถูกลดเป็นไม่เหลืออะไรนอกจากหนังและกระดูกและแม้แต่ดวงตาเธอก็หายไปแล้ว

「คำสาป? คุยแบบที่ฉันเข้าใจได้!」

「ผมกับเธอ………… สร้างความรัก…… สัตว์ประหลาด…… วิญญาณผู้เสียชีวิต…… ตาย………… อาา…………」

หลังจากลมหายใจสุดท้าย ชายไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป

「……เขาตาย」

อิริจิน่าวางชายกลับไปบนพื้น

「เอเกอร์ซามะดูที่นี่ หนูว่าคนเหล่านี้กำลังทำมันที่นี่」

อลิสชี้ไปที่รากของต้นไม้

กองเสื้อผ้าชายหญิงอยู่ตรงนั้น

「มีเซ็กส์ที่นี่ใจสุสานมันมาก- ……ไม นั่นไม่สำคัญแล้วตอนนี้」

อะไรที่ผมกำลังคิดอยู่กัน พวกเขาสร้างความรักในสุสานหรือไม่นั้นไม่สำคัญ

เสื้อผ้าพวกเขาพับอย่างเรียบร้อยเพื่อให้พวกเขาใส่กลับเข้าไปได้

พวกเขาไม่ได้อ่อนแอและถูกทิ้งไว้ที่นี่ พวกเขามาที่นี่ด้วยเจตนาของตัวเองอย่างเต็มใจ แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเขาตายนั้นเขาอ่อนแอที่สุดไม่ว่าคนหนึ่งดูมันอย่างไร

เพิ่มเติมจากนั้น มันไม่ได้ดูเหมือนพวกเขาได้รับการบาดเจ็บโดยผีดิบและโครงกระดูก

ผมตรวจคอของพวกเขาแต่ผมไม่เห็นรอยเขี้ยว

「เกิดอะไร……ขึ้น?」

「อุมุมุ ฉันไม่รู้!」

「ตอนสุดท้าย เขาพูดว่าวิญญาณผู้เสียไป……」

สามเราสุมหัวกันคิดอย่างหนัก

ผมไม่รู้ว่าธรรมชาติของความลึกลับนี้คืออะไรแต่มันไม่ดีแน่

「พี่ไม่ระบุถูกตัวเลยไม่ได้ แต่แน่นอนว่ามันเป็นสัตว์ประหลาด ทุกคนตั้งการป้องกัน」

อิริจิน่าและครอลกำอาวุธพวกเขาแน่นและเน้นความสนใจไปทั่วทั้งบริเวณใกล้

อลิสอยู่เหมือนก่อนหน้า  แม้ว่าผมเธอกลายเป็นสีแดงสดชัด

ความเงียบปกคลุมรอบข้าง เกือบทำให้เราเชื่อว่ามีความผิดพลาดบางอย่าง

และจากนั้นเสียงคลานไม่น่าฟังสามารถถูกได้ยินว่าบางอย่างกำลังเดินทางผ่านดิน

「ทางขวา! ไม่ ทางซ้าย…… ไม่ พวกมันทุกที่เลย!」

อิริจิน่าตะโกน

พื้นใต้สุสานในบริเวณนี้ปูดขึ้นและแขนเน่าๆมากมายดันออกมาจากข้างใต้ดิน

「จึ」

「อ่ะว้าว้าว้าว้าว้า!」

ผมจึปากอย่างไม่ได้ตั้งใจ

จู่ๆ ซอมบี้ปรากฏขึ้นรอบเรา

พวกมันมากมายขนาดนี้ปรากฏแบบนี้ได้อย่างไรกัน ชัดเจนว่ามีบางคนอยู่หลังมัน แต่ผมรับมือกับภัยข้างหน้าผมได้อย่างเดียวตอนนี้

「อ่าาาา……」

「ออู่อ่าาา…….」

ฝูงของผีดิบสสร้างการครวญอันจับใจความไม่ได้ขณะพวกมันลากเท้าสู่เรา กลิ่นของเนื้อเน่าลอยคลุ้งไปในอากาศ

「เอ้ ช่างน่ารำคาญ!」

ผมเหวี่ยวหอกแนวนอนและหั่นซอมบี้สองตัว ตัดมันออกเป็นสองส่วนจากเอว

ใส้พวกมันเทออกและสาดไปบนหอกผมด้วยเหมือนกัน ทำให้ผมจึปากอีกครั้ง

ผมกังวลว่าจะทำให้อาวุธผมเปื้อนละเพื่อแค่ฟันหนึ่งหรือสองตัว และผมจะเตะแทน แต่ผมไม่มีเวลาทำอย่างนั้นเพราะจำนวนที่เยอะ

「วิ่งไปทางขวา!」

ผมตะโกนระหว่างวิ่งตรงไปทางขวาฟันกลุ่มของซอมบี้ขวางทางลง

ผมส่งหัวบิน

ฟาดซอมบี้อัดแน่นหนาเป็นกลุ่มไปทั้งกลุ่มด้วยกันหมด

ในท้ายที่สุด ไม่มีอะไรนอกจากศพของสัตว์ประหลาดและมันง่ายกว่าที่จะฉีกร่างกายพวกมันไม่เหมือนมนุษย์ธรรมดา

เมื่อผมเน้นการตีฝ่า ซอมบี้หนึ่งตัวคืบคลานเข้ามาใกล้จากด้านข้างเพื่อพยายามกัดผม ผมตอบโดยการกระแทกศอกใส่มันและจากนั้นถีบมันไป

ผีดิบบินสู่ต้นไม้และดิ้นรนหลังจากถูกแทงโดยกิ่งไม้หนึ่งกิ่ง แม้ว่ามันห้อยเปลี้ยเมื่อผมตัดหัวมัน

「ครอลกำจัดศัตรูทั้งหมดที่เข้ามาใกล้อลิส! เล็งคอ ถ้าเป็นไปไม่ได้ถ้าอย่างนั้นฟันขามันก่อนวิ่งหนี!」

ก่อนผมรู้ตัว ผมอยู่หน้าแถวต่อสู้ระหว่างอลิสและครอลอยู่ตรงกลาง และอิริจิหน้าอยู่ท้ายสุด

「อุ่โอออออ้!」

อิริจิน่าควงหอกไม่ยั้งมือเหนือหัว

ผีดิบไร้ความคิดไม่รู้สึกอะไรและแค่ถูกปัดกระเด็นไปทันทีเมื่อพวกมันโดนหอก

ถูกตีด้วยความเร็วเท่านั้น มันไม่ไม่สำคัญว่าเป็นด้ามหรือปลายที่โดนพวกมัน

「ตัวนี้! รับนั่น!」

ครอลใช้โล่เพื่อดันผลักผีดิบที่พยายามเข้าช่องว่างที่ถูกปล่อยให้เปิดระหว่างอิริจิน่าและผมกำลังอาละวาด

เมื่อผีดิบล้ม เขาจะเหวี่ยงดาบเขาลงซ้ำแล้วซ้ำอีก

「ครอล มันไร้จุดหมายที่จะฟันร่างกายมัน ใจเย็นและเล็งให้แม่นยำ! อลิส จุดไฟในนบริเวณที่มันเกาะกลุ่มอยู่ใกล้กัน!」

เวทมนตร์ของสาวคือไฟ ประเภทซึ่งผมไม่อยากให้เธอใช้ในเมือง แต่นี่คือสุสานและหญ่าถูกตัดเป็นระเบียบ ดังนั้นความอันตรายจากไฟลามนั้นต่ำ

「จ้า หนูจะทำ」

ลูกบอลไฟสามลูกปรากฏขึ้นเหนือหัวเธอและทิ้งลงกลายหลายฝูงผีดิบก่อนระเบิด

ผีดิบไม่กรีดร้องและมีเสียงครวญดังตามซอมบี้ไหม้มาติดกัน

「คุ…… พวกมันมากเหลือเกิน」

เสาเพลิงส่องสว่างบริเวณและเปิดเผยซอมบี้มากขึ้น

พวกมันอยู่กันมากเท่าไรกัน มันไม่น่าเชื่อว่าผีดิบจำนวนมากเท่านี้จะเกิดขึ้นทั้งหมดทีเดียว

ไม่ต้องพูดถึงว่าสุสานนี้ถูกดูแลดีมากเมื่อเทียบกับอดีตจนมันทำให้ยากที่พลังงานชั่วร้ายจะถูกรวบรวม

「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์! มีพวกมันมากเกินไปอย่างที่คาด และอะไรจะแย่ลงถ้าเราวิ่งต่อ!」

「……เวทมนตร์หนูจะไม่อยู่นานขนาดนั้น」

「ฮฮฮฮฮฮฮฮี๊ อย่ามาทางนี้」

ถ้าเราจะวิ่งเราจำเป็นต้องวิ่งตลอดทางไปขอบสุสาน

แต่เพราะตอนนี้เราใกล้กับตรงกลาง มันจะเป็นระยะทางค่อนข้างไกล ดังนั้นเราจำเป็นต้องฝ่าซอมบี้ฝูงใหญ่

ถ้ามันแค่ผม ผมทำได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง แม้ว่ามันเป็นตัวเลือกอันค่อนข้างเสี่ยงเมื่อพิจารณาความสามารถร่ายกายที่ขาดไปของอลิส

นอกจากนี้ ถ้าเราพยายามวิ่งหนีและผีดิบไล่เรา พวกมันอาจล้นสุสาน

รัวล้อมสุสานนั้นไว้แค่สำหรับเก็บพวกไร้ชีวิตไว้ที่เด้งขึ้นมานานๆครั้งและจะไม่ทนพอสำหรับจำนวนมากเท่านี้

ผมครุ่นคิดมากขึ้นระหว่างฟันขาของซอมบี้ที่เข้าหาและกระทืบหัวพวกมัน

ลูกบอลไฟหลายลูกบินสู่ฝูงของผีดิบและเปลี่ยนพวกมันสู่กลุ่มก้อนเถ้าถ่านทันที

ผมแดงของอลิสกลายเป็นชมพูแล้วตอนนี้

「ตรงนั้นดีมั้ย!?」

อิริจิน่าชี้ไปกลางสุสาน…… สุสานบุคคลสร้างด้วยหิน

แม้ว่าราเฟนเป็นเมืองเล็ก เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างมีประวัติศาสตร์และธรรมชาติว่ามันมีสุสานแบบดั้งเดิมซึ่งก็คือสุสานบุคคล

ด้วยจำนวนคนที่เพิ่มขึ้น มีผู้คนผู้จะตายมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และดังนั้นเองจำนวนไม่น่าพอใจของหลุมฝังศพก็ขยายสู่บริเวณล้อมรอบ

「มันทำจากหิน…… ถ้าเราปิดประตู มันอาจพอได้」

ผีดิบเป็นเพียงแค่ศพ ดังนั้นไม่มีทางว่าพวกมันจะตีประตูหินทนทานแตกไม่สำคัญว่าพวกมันกองกันกับประตูมากเท่าไร

ถ้าเราทนอยู่ข้างในนั้นจนถึงเช้าวันต่อไป ผีดิบจะขยับไม่ได้และกองทัพจะวิ่งมาหลังจากค้นพบปรากฏการณ์แปลกประหลาด

「ได้เลย ทุกคนวิ่งเข้าไปข้างใน!」

「ระวัง!」

อิริจิน่าตะโกนและล้มไปข้างหน้า

ลูกธนูซึ่งถูกยิงจากความมือมิดเฉี่ยวหลังเธอ

「อลิส หาที่กำบัง!」

「ฟ-ฟุ่เหว๋?」

ผมปัดป้องลูกธนูอันบินมาสู่อลิสด้วยหอกของผมและจับลูกธนูบินสู่ครอล

ผลลัพธ์ของมัน ลูกธนูแทงท้องของผม แต่โชคดีที่ไม่ได้มีพลังส่งการโจมตีมากและผมสามารถหยุดมันด้วยกล้ามท้องก่อนมันไปถึงเครื่องในสำคัญใดๆ

เมื่อผมดึงมันออกมา ผมเห็นว่าลูกธนูนั้นขึ้นสนิม…… ยอดเยี่ยม มันดูเหมือนมันจะเป็นแผลเป็น

「โอ๊ยย…… เฮ้ เอาน่า ครั้งนี้อะไรอีกล่ะ?」

คนผู้ยิงลูกธนูไม่ทำแม้แต่ซ่อนตัวเองข้างหน้าสุสานบุคคลดั่งกันเส้นทางมัน

「โครงกระดูก หือ……?」「ที่เวลานี้อ่ะนะ!?」

โครงกระดูกห้าตัวติดอาวุธด้วยธนูปรากฏขึ้นข้างหน้าและมีโครงกระดูกอีกห้าตัวกำลังถือหอกโทรมๆไม่ไกลจากพวกมัน

นี่เป็นไปไม่ได้

โครงกระดูกถูกเห็นว่าการกระทำมีความฉลาดกว่าซอมบี้

อย่างไรก็ตาม พวกมันรู้แค่ใช้วิธีการต่อสู้อย่างไรและไม่ฉลาดพอเข้าใจอะไรอย่างอื่น

มันคิดไม่ได้ว่ากลุ่มของพวกมันก่อตั้งแถว

「พวกมันตามเราจากข้างหลังและซุ่มโจมตีเราที่สถานที่ปลอดภัยเดียวดั่ง」

พวกมันกำลังถูกนำโดยบางอย่างหรือบางคน

 

 

ไม่มีอะไรเปลี่ยน

 

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu