บทที่4ตอนที่4

「แล้วลิซ่ามีธุระอะไรกับดิฉันงั้นเหรอคะ?」

ในช่วงพักกลางวันลิซ่าเรียกฉันให้ไปเจอหน้ากันบนดาดฟ้าของสถาบัน

ไม่มีการแสดงอะไรให้เห็น บนหลังคามีเพียงสายลมฤดูใบไม้ผลิอันแสนอบอุ่นพัดผ่านเท่านั้นเอง เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วและเสียงของนักเรียนที่กำลังพักกลางวัน

「ขอโทษที่เรียกมากระทันหันนะคะ………ไอริสดิน่า ช่วงนี้ฉันได้ยินมาว่าหมู่นี้คุณเข้าไปยุ่งกับเขามาก เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอคะ?」

สิ่งที่ลิซ่าถามก็คือเกี่ยวกับเขา

ฉันเองก็อยากจะรู้จากปากเธอเช่นกัน

ลิซ่า・เฮาวน์

ผู้หญิงที่มีผมสีแดงเพลิงมัดไว้ด้านหลังและดวงตาที่ดูกังวล

เธอเป็นผู้หญิงที่ดูน่าสนใจมากสำหรับฉันและเธอสวยมากจนไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าทิ้งเธอได้ลงคอหรอก

เธอเป็นหนึ่งใน 5 คน ที่มีแรงค์A ในชั้นปี 3 และเป็นหนึ่่งในไม่กี่คนที่สู้กับฉันได้อย่างสูสี ตัวเธอที่ถนัดใช้ดาบสองเล่มและความสามารถทางกายภาพอันแสนโดดเด่นนั่น

เป็นที่ทราบกันดีตอนนี้เธอคบอยู่กับ เคน・โนทิสที่อยู่แรงค์ A เช่นเดียวกันที่มีผู้หญิงหลายคนต่างหมายปอง……。

เธอมองมาทางนี้ด้วยสีหน้าจริงจัง แววตาที่ดูโกรธแค้นมีอารมณ์รุนแรงจนไม่สามารถอธิบายได้

「อืม ก็พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่หน่า จะอยู่ด้วยกันก็ไม่แปลกไม่ใช่เหรอคะ?」

เมื่อฉันเรียกเขาว่าเพื่อนใบหน้าของเธอก็บิดเบี้ยวทันที

การแสดงออกที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง นั่นแสดงให้เห็นว่าเธอเกลียดโนโซมุมากแค่ไหน

「…………ไอริสดิน่า เธอไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวกับเขา」

คิ้วของฉันกระตุกทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ทิม่าเองก็แสดงสีหน้าตกใจด้วย

ทิม่าเองก็เพิ่งเคยเห็นการแสดงออกของเธอแบบนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน

ลิซ่าที่เป็นหนึ่งในท็อปห้าของสถาบัน เธอที่ไม่ได้ยึดติดและปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียมคนนั้น

ก่อนหน้านี้ก็ตอนที่ฉันช่วยอันริถืออุปกรณ์การสอนในชั้นเรียนไปห้อง 10 และมีนักเรียนรุ่นพี่เขาจับกดผู้หญิงที่หน้าต่าง

หลังจากนั้นก็รู้ว่าก็พบว่าเขาคนนั้นพยายามหาคนไปล่าสัตว์อสูรและไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าป่าและพยายามจะบังคับ

ตอนนั้นฉันพูดกับอันริและรีบขอตัวทันที แต่ว่าใข้เวลาสักพักเพราะห้องฉันอยู่ชั้นบน

อย่างไรก็ตามฉันที่กำลังจะไปที่เกิดเหตุก็เจอลิซ่าอยู่ก่อนแล้ว

เธอแยกสองคนนั้นออกจากกันและพุ่งเข้าหารุ่นพี่ทันที

「อะ นั่นลิซ่านี่……」

บางทีเพราะกังวลเกี่ยวกับการเข้ามาแทรกอย่างกระทันหันของเธอ นักเรียนคนนั้นก็เหมือนจะรอดตัวไปแล้วเป็นลิซ่าเองที่โดนตื้อในรอบนี้

อย่างไรก็ตามเธอปฏิเสธไปอย่างไม่ใยดี รุ่นพี่คนนั้นพยายามจะชักดาบออกมาแต่ดูเหมือนว่าลิซ่าเองก็เอาดาบจอคอรุ่นพี่ไว้แล้ว

หลังจากที่โดนเช่นนั้นก็รีบหนีไปทันที

ผู้หญิงที่กล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่ผิดแม้ว่าจะเป็นรุ่นพี่ก็ตาม

อย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่ฉันรู้สึกระหว่างเธอ

◇◆◇

「ไอริสดิน่าและทิม่าเองก็น่าจะรู้นี่คะว่าเขาทำอะไรลงไป? เพราะฉะนั้นฉันไม่อยากให้คุณเลือกคบคนแย่ๆ ดังนั้นหยุดไปหาเขาได้แล้วค่ะ」

ในตอนนั้นเองลิซ่าเผชิญหน้ากับรุ่นพี่อย่างแน่วแน่ แต่ตอนนี้เธอพูดแบบนั้นกับโนโซมุราวกับไม่สมกับเป็นเธอเลย

ฉันฟังที่ลิซ่าพูดมาและถามคำถามที่มันคาใจฉันมาอยู่โดยตลอด

「…………เพราะว่าเกิดเรื่องนั้นระหว่างคุณกับโนโซมุงั้นเหรอคะ?」

ทั้งฉันและทิม่าต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขา มีข่าวลือว่าโนโซมุถูกเธอทิ้งเพราะนอกใจ แต่ว่าความจริงที่ได้พบมันไม่เหมือนกับข่าวลือเลย

คำถามมันก่อขึ้นในตัวฉันตั้งแต่ตอนที่ได้พบกับเขาครั้งแรกแล้วตัวเขาดูไม่เป็นเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย

ความแตกต่างระหว่างข้อเท็จจริงและความจริงที่ถูกต้อง สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างโนโซมุและลิซ่านั่นละคือจุดเริ่มต้นของเรื่อง

ทันทีที่เธอได้ยินเช่นนั้นใบหน้าก็บิดเบี้ยวไปอีก

ลิซ่าพยายามซ่อนอารมณ์ของตัวเองแต่ทำไม่ได้ เธอกำหมัดและกัดฟันแน่น

「อยากจะถามเพราะเห็นว่าเป็นโอกาสดีค่ะ เขาทำอะไรลงไปกับคุณกันแน่คะ?」

「ฉันกับเขาอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เขาดูไม่เห็นเหมือนเป็นคนในข่าวลือนั่นเลยนะคะ?」

「…………ฉันไม่สนใจหรอกคะ ว่าจะเป็นยังไง ฉันมาก็เพื่อที่จะแนะนำคุณ คุณควรจะรีบออกห่างจากเขาให้มากที่สุดก่อนที่จะได้เสียใจ……」

หลังจากพูดเช่นนั้นจบเธอก็หันหลังเข้าไปในตึก

หลังจากเธอจากไปอย่างรวดเร็วเธอก็พูดว่า”เรื่องมันก็เห็นกันชัดๆอยู่แล้ว“ “ไม่ต้องมาถามกันอีก”

◇◆◇

「อะมาแล้ว」

「มาสายจังเลยนะ」

ไอริสและทิม่ามาที่ห้องพยาบาลซึ่งโนโซมุและเพื่อนๆกำลังรออยู่

มันก็เลยเวลามาพอควรแล้วแต่โนโซมุก็ยังไม่ได้ทานข้าวเลย

「อะ เอ่อ ขอโทษที่มาสายนะคะ」

「ต้องขอโทษทั้งสองด้วยค่ะ……」

「ไม่เป็นไรหรอกน่าจะมีธุระกระทันหันใช่ไหมล่ะ ข้าเองก็เหลืออาหารกลางวันอยู่หน่อยด้วยสิมาทานกันดีกว่านะ」

「ดีละถ้าอย่างงั้น~、ทานละนะครับ~!」

เมื่อโนโซมุพูดเช่นนั้นอันริก็รีบทานทันทีหลังจากโนโซมุพูดเสร็จ

โนโซมุเชิญทั้งสองให้นั่งลงจากนั้นก็เริ่มทานข้าวกล่องกัน

ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตาทานอาหารอยู่พักหนึ่ง แต่ไอริสเหลือบมองโนโซมุด้วยความสงสัย

โนโซมุก็เห็นว่าเธอจ้องมาทางนี้เลยถามออกไป

「อืม ไอริสมีอะไรงั้นเหรอ?」

「เปล่า ไม่มีอะไรหรอกค่ะ……」

「???」

โนโซมุเอียงคอด้วยความสงสัยเนื่องจากไอริสทำตัวแปลกๆ แต่เมื่อเห็นเธอกลับไปทานอาหารโนโซมุเองก็เริ่มทานต่อ

「……นี่ไม่ใช่ว่าฝั่งของทางไอริสดูแปลกๆไปงั้นเหรอ?」

มาร์พูดเช่นนั้นใส่ทิม่าโดยที่ไม่ให้โนโซมุได้ยิน

ทิม่าเองก็พยักหน้าให้กับมาร์

「ฉันก็คิดเหมือนกันคะ?」

「อืม ดูเหมือนว่าโนโซมุจะรู้สึกอะไรแปลกๆด้วย เกิดอะไรขึ้นกันนะ?」

「อะอืม」

ทิม่านึกถึงการแลกเปลี่ยนคำพูดของไอกับลิซ่าได้ เหตุการณ์นั่นทำฉันตกใจอย่างมาก

ในขณะเดียวกันก็คิดว่ามาร์น่าจะรู้เรื่อง ก็เลยเล่าให้ฟัง

「…………มาร์คุงวันนี้ไปคุยกันหลังเลิกเรียนหน่อยได้ไหมคะ?」

「……อ่าาา โนโซมุเองก็บอกว่าวันนี้มีอะไรต้องทำด้วย และถ้าไม่เป็นไรละก็ มาที่ร้านข้าได้มะ?」

ทิม่าพยักหน้ารับ

จากบรรยากาศของทั้งสองระหว่างไอริสกับโนโซมุแล้วดูท่าจะเข้าไปยุ่งด้วยยาก

「อืม รบกวนด้วยนะ ไว้เดี๋ยวฉันจะคุยกับไอจังให้เอง……」

ทั้งสองคนสัญญาซึ่งกันและกันโดยไม่ให้คนอื่นสังเกตเห็น อันริและนอร์นต่างจ้องมองพวกเขา

◇◆◇

อันริและนอร์นที่ยังคงอยู่ในห้องพยาบาลกำลังพูดถึงมาร์หลังจากที่พวกโนโซมุกลับห้อง

「……จะเป็นไรไหมนะ? ไม่คุยกันเลยเนี่ย」

「?อะไรเหรอ~~?」

「ก็รู้นี่เกี่ยวกับโนโซมุและข่าวลือ ช่วงเวลานี้คนที่ปล่อยข่าวลือได้ก็มีคนเดียวใช่ไหมล่ะ」

「……ยังไม่คิดจะคุยกันเลยน่ะ ~แต่ว่าน้าฉันคิดว่าโนโซมุเองก็คงดีขึ้นเรื่อยๆแหละ ตอนนี้สถานการณ์กำลังอิ่มตัวอยู่~~」

อันริจำได้ตอนที่เห็นเขาปรากฏในเมืองครั้งก่อน เขาเหมือนคนขาดใจ

การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนั้นในตอนนี้มีแต่ทำให้เขาปวดใจเอาเปล่าๆ

บางทีโนโซมุก็พยายามที่จะไม่คิดอะไร

「……โนโซมุมีหลายเรื่องที่ต้องกังวลล่ะน้า ตอนนี้เขายังไม่รู้ตัวเลยว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่ว่าไอริสเองก็เหมือนกันน้าา~แม้ว่าจะไม่คิดอะไรแต่จริงๆแล้วก็มีเรื่องอยากจะคุยกับเขาเหมือนกันใช่ม้า~~」

โนโซมุควรพูดคุยกับไอริสในตอนนี้ แต่ดูเหมือนว่าจะใจร้อนกันเกินไป จนทนไม่ได้ต้องตามหาความจริง

「อย่างไรก็ตามมันจะเป็นแบบนี้ไปตลอดถ้าหากไอริสไม่รู้ความจริง แต่ถ้าเธอรู้จักตัวโนโซมุที่แท้จริงแล้วเธอคงจะสังเกตเห็นมันแน่ๆล่ะ」

「อืม~~。ไอริสน่าจะสังเกตเห็นในไม่ช้าละน้า~~。โนโซมุเองก็ด้วย。」

นอกเหนือจากโนโซมุที่จมปลักอยู่ในโลกส่วนตัวมาแล้ว ตัวเขาในตอนนี้กำลังออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง เมื่อนั้นละเขาจะตระหนักถึงความจริง

「จากนั้นตัวเขาเอง「พวกเราเป็นอาจารย์น้าาาา~เธอทำได้แค่มองเท่านั้นนะรู้ม้าย~~」……อืม นั่นสินะ แต่ว่าถ้าเกิดกรณีฉุกเฉินพวกเราต้องเข้าไปช่วยไหมล่ะ?……」

อันริยิ้มราวกับจะบอกว่า “จับตาดูต่อไป”ละนะ

ฉันกังวลเกี่ยวกับไอริสที่จะล้ำเส้นมากเกินไป แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันก็ไม่ได้เลวร้ายเสียทีเดียว

พวกเราทำได้แค่เชื่อมั่นในตัวพวกเขา ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นไปตามนั้น พวกเราทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้

นอร์นฟังอันริแล้วได้แต่ยักไหล่

พวกเราเป็นอาจารย์ แต่พวกเขาน่ะคือตัวเอกของบทละครเรื่องนี้

อันริรู้สึกเหงาเล็กน้อย แต่ว่าในเวลาเดียวกันก็รู้สึกดีใจที่โนโซมุมีเพื่อนที่คอยกังวลเขา

(โนโซมุ ทำให้ดีที่สุดน้าา~….เธอน่ะมีเพื่อนที่กังวลเกี่ยวกับตัวเธอด้วยนะ~~ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอยึดติดกับอะไร……แต่ได้อย่ายอมแพ้เสียล่ะ)

◇◆◇

หลังเลิกเรียนมาร์และไอริสมาเจอกันที่”เรือนร่างของโค”นอกจากนี้ยังมีโซเมียในเครื่องแบบของอีคอร์สมาร่วมด้วย

「สายแล้วนะ」

「น่าาาอย่ากังวลสิเพิ่งมาถึงเองนะ」

「ถ้างั้นเชิญโต๊ะนี้ค่ะ」

อิน่านำทางทั้งสามคนไปที่โต๊ะหลังร้าน มันเป็นมุมมือที่มองไม่เห็นจากด้านนอก

「แล้วอยากให้ข้ารู้เรื่องอะไรกันล่ะ?」

「อ่ะ อืม มาร์คุงรู้เกี่ยวกับข่าวลือของโนโซมุใช่ไหมล่ะ。」

「อืม ไม่ใช่ว่าทุกๆคนต่างก็รู้เรื่องนี้กันดีทั้งสถาบันไม่ใช่เรอะ?」

「อาาา ที่จริงแล้วเกี่ยวกับมันน่ะนะ……」

ไอริสบอกเหตุผลที่มาสายให้มาร์ฟังและสิ่งที่เกิดขึ้นบนดาดฟ้า

เธอที่โดนลิซ่าเรียกตัวไปและบอกให้ตัดความสัมพันธ์กับโนโซมุและได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องข่าวลือนั่นกันแน่

มาร์ตั้งใจฟังไอริสอย่างดี

ไอริสพูดจบมาร์ก็พูดทันที

「…………นั่นคือสิ่งที่อยากให้ข้าได้ยินงั้นรึ?」

「อืม พวกเรารู้ว่าข่าวลือมันจริงๆแล้วมันโดนปิดไว้ แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงแพร่กระจายออกมา」

「……อืมนั่นสินะ ข้าเองก็กังวลแต่ไม่รู้อะไรไปมากกว่านั้น」

มาร์เองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโนโซมุ ฉันรีบคิดอย่างถี่ถ้วนก่อนจะถามออกไป

「…………งั้นเหรอ……」

ไอริสทำท่าทางผิดหวังเล็กน้อย

(แต่ว่ามันแปลกนะ มันมีบางอย่างแปลกๆ ถ้าตัวเขาเป็นคนในข่าวลือจริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ บ้าจริงข้อมูลน้อยเกินไป..!)

ในอกของเธอตอนนี้มีความรู้สึกร้อนรุ่มอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่เจอกับลิซ่า

“ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโนโซมุ”

ความจริงนั่นกำลังกัดกร่อนจิตใจของฉัน

แม้ว่าเขาจะไม่รู้เรื่องนี้ แต่มาร์ก็เชื่อใจโนโซมุมากๆ

(…………อย่างที่คิด พวกเราควรมาเคลียร์ข้อสงสัยของโนโซมุที่สถาบัน)

ไอริสไม่คิดว่าเขาควรจะอยู่ที่สถาบันนานนัก ในวันอื่นๆที่ชวนโนโซมุไปทานข้าว ผู้คนรอบๆก็เริ่มพูดถึงไอริสไม่ใช่เพียงแค่นักเรียนแต่รวมถึงอาจารย์ด้วย

“จะดีกว่านะถ้าไม่อยู่กับเจ้าเศษสวะนั่น”

“ผู้ชายแบบนี้ไม่เหมาะกับไอริสเลยสักนิด”

“ฉันเป็นห่วงท่านไอริสเพราะฉะนั้นเลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้นเถอะ”

◇◆◇

ทุกครั้งได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกเจ็บใจ

“นั่นมันไม่ใช่นะ! เขาไม่ใช่คนแบบนั้น!!”ฉันอยากจะพูดมันออกไป

แต่ทุกครั้งที่เห็นโนโซมุก็เอาแต่ส่ายหน้า

เธอเป็นคนฉลาด ดังนั้นหากเขาพูดว่า “ไม่” ถึงตอนนี้ฉันก็รู้ว่าคนรอบตัวไม่ไว้ใจเขาเลยแม้แต่น้อย เมื่อฉันพยายามถามพวกเขา พวกนั้นก็ไม่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับข่าวลือเหล่านี้เลย

ชื่อเสียงของเขากลายเป็นที่ยอมรับในแง่ลบและไม่ว่าเขาจะพูดอะไรมันก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นเลย

ไอริสยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ

ความโกรธที่อัดแน่นจนไม่สามารถระบายมันออกมาได้

ไอริสอยากจะจมดิ่งเข้าไปในใจเขา อยากจะรู้ว่าเขาคิดเช่นไรกันแน่

「……ท้ายที่สุดแล้วฉันก็ต้องถามเขาตรงๆ」

「อืม แล้วพรุ่งนี้จะไปที่ห้องของโนโซมุไหม? เขาอาจจะไม่กลับมาจนถึงพรุ่งนี้เช้า」

มาร์เห็นด้วยกับคำพูดของไอริส หลังจากพวกเขามองหน้ากันก็พยักหน้าเช่นนั้นและยืนขึ้น

「…………เดี๋ยวก่อนทั้งสองคน」

เป็นทิม่าเองที่บอกให้พวกเขารอ

「มีอะไรทิม่า」「มีอะไรอีกงั้นเหรอ?」

「…………ถ้าจะถามโนโซมุคุง………ฉันคิดว่าตอนนี้อย่าก่อนดีกว่าค่ะ」

หลังจากได้ยินเช่นนั้นไอริสและมาร์ก็จ้องมองทิม่า

「แต่ว่านะทิม่า……」

ไอริสพยายามพูดกับทิม่า แต่ว่าเป็นน้องสาวเองที่บอกให้พวกเขาหยุดด้วย

「ก็คิดว่ามันแย่อยู่หรอกนะคะ..แต่ว่าหนูเห็นด้วยกับทิม่าค่ะ」

「ฉันเองก็คิดแบบนั้น」

「แม้แต่โซเมียก็ด้วยเหรอ……」

「ทำไมกันล่ะ?」

เป็นคำถามทั่วไปที่ไอริสจะต้องถาม ถ้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างโนโซมุกับลิซ่าก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้

「บางที ถ้าโนโซมุคุงอยากจะพูด เขาก็คงจะพูดเองแหละค่ะ………ก็รู้นี่ใช่ไหมคะโนโซมุคุงน่ะตัวคนเดียวมาตลอดเลยนะ?」

「ก็เพราะแบบนั้นไง……」

「อย่าใจร้อนไปสิ…….ไอกับมาร์กำลังไปคุยเรื่องที่พูดยากมากๆกับโนโซมุใช่ไหมล่ะ?จู่ๆก็จะขอให้เขาเล่าเรื่องราวแบบนี้ให้ฟังแบบนั้น? อย่างน้อยตอนนี้พวกเราก็ไม่ใช่คู่กรณีของเขาใช่ไหมล่ะคะ เพราะฉะนั้นรอดีกว่าโนโซมุคุงจะบอกด้วยตัวเองเถอะคะ」

「…………พี่ค่ะ ฉันเองก็คิดแบบนั้นนะ……ก่อนหน้านี้ที่คุณโนโซมุมาที่ร้านก็ได้เจอหน้ากับลิซ่าและเขาพยายามจะคุยด้วย」

อิน่าก็บอกเรื่องราวที่โนโซมุกับลิซ่าพูดให้ฟัง

ลิซ่าและชายคนหนึ่งเข้ามาในร้านและมานั่งโต๊ะเดียวกันกับโนโซมุ

ลิซ่าเองก็กรีดร้องและวิ่งออกจากร้านไปและโนโซมุทำได้เพียงก้มหน้า

เขาทิ้งเงินไว้ที่ร้านและออกไปโดยไม่พูดอะไร

「คุณโนโซมุในตอนนั้นดูเจ็บปวดมากๆเลยล่ะคะ ฉันคิดว่าฉันจะต้องพูดอะไรไปบ้างแต่……ตอนที่ฉันเห็นใบหน้าของเขาฉันพูดอะไรไม่ออกเลยค่ะ……」

(ตอนนั้นเองคุณโนโซมุพยายามทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ขอโทษที่ทำเสียงดังในร้าน ฉันรู้เช่นนั้นเพราะอยู่ใกล้ๆกับเหตุการณ์…………)

「พี่ชายไม่ควรจะไปบังคับให้เขาพูดในตอนนี้ ดังนั้นได้โปรดรอเขาอีกสักหน่อยนะคะ」

ไอริสและมาร์พูดอะไรไม่ออก แน่นอนตราบใดที่โนโซมุไม่พูดสิ่งที่เราทำได้คือรอจนกว่าโนโซมุจะพูด เป็นการดีที่สุดที่จะปล่อยให้เขาพูดด้วยความตั้งใจของเขาเอง

「…………เข้าใจแล้วล่ะ」

ไอริสยอมรับด้วยใบหน้าเรียบๆและมาร์เองก็พยักหน้าเล็กน้อย ท่าทางยังคงมืดมน

◇◆◇

「…………แล้วเกิดอะไรขึ้นกับโนโซมุล่ะ? เห็นบอกว่ามีอะไรต้องทำ……」

「……อ๋อ เรื่องนั้นน่ะเหรอเขามักจะเขาป่าไปด้วยตัวคนเดียวน่ะ บางครั้งเขาก็เข้าไปฝึกในป่าคนเดียวบ่อยๆ……」

「「「「หาาาาาาาาาา!!」」」」

ไม่ใช่เรื่องดีเลยที่จะเข้าไปในป่าที่มีสัตว์อสูรเผ่นผ่านไปทั่วตามลำพัง แม้แต่ไอริสเองก็ยังค้องมีปาร์ตี้ยามเข้าป่า

ไอริสและคนอื่นๆไม่ได้คิดว่าโนโซมุอยู่ในป่าคนเดียวแน่ๆ

「……มาร์คุงนี่มันเรื่องจริงงั้นเหรอ?」

「อืม เพราะว่าข้าเห็นโนโซมุเข้าป่าด้วยตัวเอง เขาบอกว่าเขาเริ่มเข้าป่าตั้งแต่ปี 1 แล้วล่ะและถึงแม้ว่าจะเป็นที่พูดกันไปทั่วว่าเขาอ่อนแอ แต่การต่อสู้ในการต่อสู้จำลองนั้นแม่นยำและรวดเร็วและประสบการณ์การต่อสู้ของเขาน่ะเหนือกว่าพวกเราไปหลายขุมเลย」

เมื่อฉันได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของไอริสก็ยิ่งแข็งเกร็งเข้าไปใหญ่

(แล้วทำไมเขาถึงไม่แสดงความสามารถจนถึงตอนนี้คะ?สถาบันโซลมินาติตัดสินผู้คนด้วยความสามารถอย่างเท่าเทียม หากคนมีความสามารถกลับไปมาอยู่ห้อง 10 มันไม่ยุติธรรมเลยนะคะ……)

「……ทำไมเขาถึงได้อยู่ห้อง 10 ทั้งๆที่มีความสามารถมากขนาดนั้นกันละคะ?」

「……ข้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ก่อนขึ้นปีสามเขาแสดงความสามารถบางอย่างให้ข้าเห็น อย่างน้อยตอนนั้นตัวเขาในตอนนั้นดูมืดมนเป็นอย่างมาก ข้าทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่จะคุยกับหมอนั่นยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ……」

มาร์นึกถึงโนโซมุ

(อย่างไรก็ตามก่อนขึ้นปีสาม เขาเปลี่ยนไปมาก……เราแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย……)

ไอริสและคนอื่นๆเองก็ตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่รู้อะไรกับโนโซมุแม้แต่น้อย สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ตัดสินใจไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้