เปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจเข้าสู่ร่างกายของถังลี่เสวี่ยลึก และลึกจนถึงจุดตันเถียนของเธอ

จากจุดตันเถียนของเธอเปลวไฟแห่งความภูมิใจเริ่มแพร่กระจายไปยังเส้นหลอดเลือด รวมถึงกระดูกและกล้ามเนื้อทั้งหมดของเธอ

เปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจเริ่มอุ่นทุกส่วนของร่างกายของถังลี่เสวี่ยจากภายในสู่ภายนอกด้วยอุณหภูมิที่แผดเผา

ตอนนี้เปลวไฟสีน้ำเงินเข้มปกคลุมทั่วร่างของถังลี่เสวี่ย มันดูสวยงามมาก แต่อันตรายที่เธอเผชิญอยู่ตอนนี้นั้นสูงมากจริงๆ

ถังลี่เสวี่ยพยายามใช้ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเธอเพื่อต้านทานเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มที่ลามไปทั่วร่างกายของเธอ และอัตราการพลังชีวิตของเธอลดลงอย่างมาก แต่เมื่อเธอพยายามต้านทานด้วยวิธีนี้ มันก็ทำให้ความแข็งแกร่งของเธอ ลดลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย!

‘อ๊ากกกกกก… นี่เป็นพลังที่สูงสุดของคุณแล้วใช่มั้ย เปลวไฟบ้า! เจ้าเปลวเพลิงเล็กๆ นี้ต้องการจะเผาราชินีองค์นี้งั้นหรอ! ฝันไปเถอะ!’

เปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจก็ยิ่งโกรธมากขึ้นด้วยการเยาะเย้ยของถังลี่เสวี่ย!

ฟู่~~!

เปลวไฟสีน้ำเงินเข้มแผดเผารุนแรงยิ่งขึ้น และร้อนขึ้นจนเกิดเป็นเปลวไฟที่มีถังลี่เสวี่ยอยู่ตรงกลาง

แน่นอนว่าถังลี่เสวี่ยไม่ได้โง่พอที่จะกระตุ้นเปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจให้โกรธโดยไม่มีเหตุผล มีสามเหตุผลที่เธอทำเช่นนี้!

เหตุผลแรกคือ…

[ เปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจกำลังทำให้ร่างกายของคุณอุ่นขึ้น! ความทนทาน +1]

[ เปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจกำลังทำให้ร่างกายของคุณอุ่นขึ้น! ความทนทาน +1]

[ เปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจกำลังทำให้ร่างกายของคุณอุ่นขึ้น! ความทนทาน +1]

…..

ใช่ แม้ว่ากระบวนการหลอมรวมของเปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจ จะทำให้ร่างกายของถังลี่เสวี่ยลุกไหม้อยู่เสมอ แต่ก็ทำให้ร่างกายของเธอมีอุณหภูมิที่สูงมากเช่นกัน!

เหตุผลที่สองคือ…

-1032, -995, -951, -903, -886, …

ถังลี่เสวี่ยก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ความเสียหายที่ร่างกายของเธอได้รับจากเปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจนั้นลดลงเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะค่าสถานะ ความทนทานของเธอสูงขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจเป็นเพราะความต้านทานเปลวไฟหรือความร้อนของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหมือนกัน

เธอรู้ดีว่าสามชั่วโมงในการหลอมรวมเข้ากับเปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจ นั้นนานเกินไป! เธอมี [ยาฟื้นฟู] อีก 2 เม็ดเท่านั้น และความเสียหายจากการเผาไหม้ที่เธอได้รับตลอดสามชั่วโมงอาจจะฆ่าเธอได้ แม้ว่าเธอจะใช้ [ยาฟื้นฟู] ทั้งหมดเท่าที่จำเป็นก็ตาม

ดังนั้นถังลี่เสวี่ยจึงตัดสินใจเดิมพันด้วยชีวิตของเธอ และกระตุ้นเปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เพียงแต่จะเพิ่มค่าสถานะความแข็งแกร่ง และความต้านทานเปลวไฟของเธอเท่านั้น แต่ยังเร่งกระบวนการหลอมรวมของพวกมันด้วย! นี่เป็นเหตุผลที่สามของเธอ

ถังลี่เสวี่ยตระหนักว่า HP ของเธอลดลงอีกครั้งถึงระดับวิกฤติ และความแข็งแกร่งของเธอก็หมดลง ดังนั้นเธอจึงหยิบ [ยาฟื้นฟู] และ [ยาเพิ่มความแข็งแรง] เข้าปากทันที

‘อ๊า…ฮ่าๆ… ฮ่าฮ่า… คุณมีเปลวไฟน้อยแค่นี้เองเหรอ?! ฮ่าฮ่าฮ่า… อ่อนแอเกินไป! คุณต้องเป็นเปลวไฟอันดับต่ำสุดแน่ๆเลยสินะ! สิ่งที่คุณทำได้คือทำให้คนอื่นคันด้วยอุณหภูมิที่อบอุ่นของคุณเท่านั้นหรอ! คุณคงไม่สามารถต้มน้ำด้วยความร้อนอันน่าสมเพชแบบนี้ได้!…..’

ถังลี่เสวี่ยกัดฟันของเธอขณะที่เธอรู้สึกว่าเหงื่อ น้ำตา และเลือดของเธอเริ่มระเหยภายใต้เปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจที่มีอุณหภูมิสูงมาก!

เธอเริ่มรู้สึกว่าเปลือกตาของเธอหนักขึ้น สติของเธอก็พร่ามัวมากขึ้นเรื่อยๆ

เปลวไฟสีน้ำเงินเข้มที่หมุนไปรอบๆ โดยมีถังลี่เสวี่ยอยู่ตรงกลางนั้นเข้มข้นยิ่งขึ้น และแสงสีน้ำเงินของมันก็กลายเป็นประกายมากขึ้นด้วย!

บู้ม~~!

เปลวไฟที่หมุนวนระเบิดขึ้นทำให้เกิดเป็นเสาขนาดใหญ่ของเปลวไฟสีน้ำเงิน แม้แต่ห้องนิรภัยเหล็กที่แข็งแรงซึ่งเต็มไปด้วยแผงป้องกันความร้อนก็เริ่มละลายอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ!

ถังลี่เสวี่ยรู้สึกว่าเธอไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เธอโยน [ยาฟื้นฟู] เม็ดสุดท้ายเข้าปากและ [ยาเพิ่มความแข็งแรง] ทั้งหมดของเธอเข้าไปในปากนี่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะหมดสติภายใต้แรงกดดันจากความร้อนที่แผดเผา และเสาเพลิงที่เกิดขึ้น

ไม่มีใครทราบเรื่องนี้จริงๆ และทุกคนรู้เพียงว่าอุณหภูมิที่บ้านของผู้อาวุโสหลินสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในคืนนี้

เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนทุกคนที่เฝ้าบ้านพักของผู้อาวุโสหลินมีระดับการฝึกฝนที่ค่อนข้างสูง พวกเขามักจะไม่มีเหงื่อออก แม้ว่าจะยืนอยู่ใต้แสงแดดตลอดทั้งวัน แต่คืนนี้เหงื่อของพวกเขาเริ่มไหลออกมาอย่างล้นเหลือ!

แม้แต่ผู้อาวุโสหลินที่ยังคงยุ่งอยู่กับการปรุงยาในห้องของเขาก็ไม่รู้ตัวว่าเปลวเพลิงอันล้ำค่าที่สุดของเขาได้หลอมรวมกับบุคคลอื่นแล้ว… เอ่อ… หมายถึงจิ้งจอกตัวหนึ่ง

ไม่มีใครรู้ว่าผู้อาวุโสหลินต้องเสียสละมากแค่ไหนเพื่อให้ได้เปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจขั้นต้นนี้มาได้ นอกจากลุงอ้วน โม่ ชองหลิน

ผู้อาวุโสหลินเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีชื่อเสียง ถ้าเขาได้รับข้อเสนอจากเสี่ยวเฮยให้ปรุงยาร่วมกับฝ่ายของโม่ ชองหลิน และฝ่ายปู่ของเสี่ยวเฮย เขาจะได้รับผลกำไรมากขึ้นจากพวกเขาทั้งหมด! เขาสามารถยอมรับข้อเสนอใดๆ นอกนิกายปีศาจอสูรได้เช่นกัน และได้รับผลกำไรมากขึ้นหากเขาต้องการ!

แล้วทำไมผู้อาวุโสหลินถึงกลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุส่วนตัวของโม่ ชองหลินเพียงคนเดียวในตอนนี้และปรุงยาสำหรับฝ่ายของโม่ ชองหลินเท่านั้น? มันสมเหตุสมผลงั้นหรอ ถ้าหากเขาไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรบางอย่าง เพราะขายให้คนเพียงคนเดียว กับขายให้กับทุกคนนั้นเห็นได้ชัดว่าผลประโยชน์มันต่างกันมาก หากขายให้กับคนมากขึ้น ก็จะได้ผลประโยชน์ที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอยู่แล้ว!

เหตุผลที่แท้จริงคือเพราะโม่ ชองหลินเสนอเปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจนี้ให้แก่ผู้อาวุโสหลิน! ผู้อาวุโสหลินตกลงทำงานภายใต้โม่ ชองหลินเป็นเวลา 100 ปีและพวกเขาได้ลงนามในข้อตกลงสัญญาแล้ว

การหลอมรวมกับเปลวไฟระดับสูงเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีชื่อเสียงทุกคนรวมถึงผู้อาวุโสหลินด้วย!

เปลวไฟระดับต่ำเกิดขึ้นอย่างน้อยทุก ๆ หนึ่งร้อยปี

เปลวไฟระดับกลางเกิดขึ้นทุก ๆ หนึ่งพันปี

แล้วสำหรับเปลวไฟระดับสูง? แม้จะรอถึงหนึ่งแสนปีก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะมีคนพบมัน!

ลองนึกภาพดู… สำหรับเปลวไฟระดับสูง เปลวไฟแห่งความภูมิใจนี้ ผู้อาวุโสหลินยินดีทำงานภายใต้โม่ ชองหลิน 100 ปี! เขาต้องปรุงยาให้กับฝ่ายโม่ ชองหลินทุกวันและทุกคืนเท่านั้น เพื่อจะได้ครอบครอง เปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจนี้!

แต่ผู้อาวุโสหลินยังคงทำมันอย่างมีความสุขเพราะเขาคิดว่ามันคุ้มแล้วกับสิ่งที่เขาจะได้รับ… เพราะเขาต้องทำงานเพียง 100 ปีเพื่อให้ได้เปลวไฟระดับสูงที่ไม่มีใครได้รับแม้ว่าพวกเขาจะรอเป็นเวลาแสนปี!

แม้ว่าเปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจ จะปฏิเสธเขาในตอนนี้ และเกือบจะทำลายตัวเอง เมื่อเขาพยายามหลอมรวมเข้ากับเปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้ผู้อาวุโสหลินผิดหวัง ผู้อาวุโสหลินยังคงเชื่อว่าสักวันหนึ่ง เปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจจะยอมจำนนต่อเขา ภายใต้การเกลี้ยกล่อมอย่างต่อเนื่อง

ผู้อาวุโสหลินไม่ลังเลแม้แต่น้อยในการทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดของเขา สมุนไพรหายากอันล้ำค่าทั้งหมดของเขา และยาเม็ดศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในครอบครองเพื่อหล่อเลี้ยงเปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจนี้ เช่นเดียวกับพ่อที่ห่วงใย และคอยให้อาหารเสริมเพื่อสุขภาพแก่ลูกของเขาเอง แล้วคอยเฝ้าดูลูกเติบโตขึ้นเพียงเพื่อให้ลูกยอมรับเขาเป็นพ่อ

โชคไม่ดีที่ความพยายามทั้งหมดนั้นถูกกำหนดให้สูญเปล่าเพราะเปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจ อันเป็นที่รักของเขาได้หลอมรวมเข้ากับสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กที่บังเอิญเข้ามาในห้องของเขาโดยบังเอิญ

หากผู้อาวุโสหลินรู้เรื่องนี้จริงๆ เขาอาจจะไม่เพียงแต่อาเจียนเป็นเลือดจากในร่างกายของเขาจนหมดและกลายเป็นบ้า เขาอาจจะฆ่าตัวตายทันทีโดยไม่จำเป็นต้องให้ถังลี่เสวี่ยทำอะไรเลย

น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้เลย…