193 สงครามมนุษย์ ปีศาจ 6

 

“มานี่ ทากัตซูกิ-คุง!”

 

“ได้เลย เข้าใจแล้ว” (มาโกโตะ)

 

ที่ที่โยโกยามะ ซากิ-ซัง (ภรรยาของซากุไร-คุง) ชี้ไปแล้เรามุ่งหน้าไป -โดมสีดำ

 

ยิ่งเราเข้าใกล้ผมยิ่งรู้สึกท่วมท้นโดยขนาดของมัน

 

ผมคิดว่ามันใหญ่เท่าโตเกียวโดม แต่มันอาจจะใหญ่กว่านั้นอีก

 

แล้วก็ ผมเห็นมนุษย์และปีศาจสูกันโดยมีโดมสีดำเป็นแกนกลาง แต่บางอย่างนั้นเปลกไป

 

ประเทศพันฒมิตรทั้งหก ประกอบไปด้วยอัศวินแห่งแสงสู้เหมือนพวกเขาพยายามจะ {ปกป้องโดมสีดำนั้น}

 

“โยโกยามะ-ซัง ทำไมทุกคนปกป้องดำๆนั่น?” (มาโกโตะ)

 

ถ้าซากุไร-คุงติดอยู่ในมัน ไม่ใช่ว่ามันดีกว่าที่จะทำลายมันเหรอ?

 

เมื่อผมถามสิ่งนี้ โยโกยามะพูดด้วยสีหน้าที่เดือดดาล

 

“โดมสีดำเป็นบาเรียที่ {ขังแค่ฮีโร่แห่งแสง} มันมันบาเรียทางเดียวที่ไม่อนุญาติให้มนุษย์เข้าไปจากข้างนอก และส่วนที่มีปัญหามากที่สุดคือปีศาจและมอนสเตตอร์ {เข้าไปได้}… นั่นทำไม” (ซากิ)

 

“เข้าใจแล้ว บาเรียมีเงื่อนไขนั้นเหรอ หือห์ แม้อย่างนั้น… ‘แค่ฮีโร่แห่งแสงคนเดียว’ มันค่อนข้างเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน พวกเค้าประดิษฐ์สูตรเวย์เพื่อเหตุผลนั้นอย่างเดียว หือห์” (มาโกโตะ)

 

ได้ยินสิ่งที่โยโกยามะ-ซังพูด ผมคิดถึงความทรงจำเมื่อนานมาแล้ว

 

มีบางอย่างที่ผมได้เรียนจากวิหารแห่งน้ำเมื่อนานมาแล้ว

 

เกี่ยวกับเวทมตร์บาเรีย

 

เวทมนตร์บาเรียนั้นถูกใช้เพื่อป้องกันการโจมตีจากศัตรู และเพื่อกักขังศัตรู เพราะที่จะกันเวทมนตร์รุกที่ทรงพลัง หรือขังศัตรูที่แข็งแกร่ง ต้องมีมานาจำนวนมหาศาล

 

แต่มันไม่ได้คุ้มค่า ดังนั้นเพื่อที่จะทำบาเรียที่ทรงพลังที่คุ้มค่า มีวิธีที่เรียกว่า ‘ใส่เงื่อนไข’

 

พูดมันง่ายๆ คุณทำบาเรียที่แข็งแกร่งกับเวทมนตร์ไฟแต่อ่อนแอกับเวทมนตร์น้ำได้

 

โดยการทำอย่างนั้น ถ้าการต้องการมานานั้นเหมือนกัน คุณทำบาเรียที่แข็งแกร่งกว่ากับเวทมนตร์ไฟได้

 

แต่สิ่งที่ศัตรูเตรียมมาคือ:

 

– ขังแค่ฮีโร่แห่งแสง

 

– หยุดการเข้าไปของมนุษย์

 

– ปีศาจและมอนสเตอร์เข้าได้อย่างอิสระ

 

นั่นคือคร่าวๆของมัน

 

“แต่บาเรียทำให้พังได้ด้วยการโจมตีที่มากพอ ที่นักเวทย์ที่มีทักษะมากมายในอัศวินแห่งแสง ใช่มั้ย?” (มาโกโตะ)

 

“เราทำอย่างนั้นไม่ได้ นักเวทย์ของอัศวินแห่งแสงพูดว่ามันจะใช้เวลา 2 วันเพื่อทำลายบาเรีย! บาเรียนี้เห็นว่าเป็นระดับเทพเจ้า คนที่ทำมันพังได้ควรจะเป็นปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่-ซามะ หรือฮีโร่แห่งแสงเมื่อเค้าอยู่ภายใต้แสงแดด…” (ซากิ)

 

“เป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง…” (มาโกโตะ)

 

ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่-ซามะได้กลับไปที่ซิมโฟเนีย ดังนั้นเธออยู่ระหว่างการเดินทางมา

 

ฮีโร่แห่งแสงได้ติดกับดัก

 

มากกว่านั้น เมฆที่ดำสนิดได้ปิดแสงแดด

 

นี่มันแย่แน่นอน

 

“มีแค่ซากุไร-คุงคนเดียวข้างในเหรอ?” (มาโกโตะ)

 

“ไม่ มีทีมประมาณ 100 คนที่ปกป้องเรียวซูเกะตลอด นั้นทำไมเค้าไม่สมควรจะอยู่คนเดียว แต่…มันเป็นทั้งวันแล้วตั้งแต่ที่พวกเค้าติดอยู่ในนั้น ชั้นไม่รู้ว่าทุกคนจะโอเคมั้ย…” (ซากิ)

 

“เข้าใจแล้ว…” (มาโกโตะ)

 

มันเป็นสถานการณ์คร่าวๆ

 

ผมพูดอะไรแง่บวกกับเรื่องนั้นไม่ได้

 

ระหว่างที่เราคุยกัน เราได้มาใกล้กับโดมสีดำ…พูดให้ถูก บาเรียสีดำสนิท

 

ผิวของบาเรียดำอย่างสมบูรณ์ และผมไม่เห็นข้างในมัน

 

มาลองยิงเวทมนตร์ใส่มันเถอะ คือที่ผมคิด แต่โยโกยามะ-ซังเคลื่อนไหวก่อน

 

“วิชาดาบศักดิ์สิทธิ์: [การฟันแห่งแสง]!” (ซากิ)

 

โยโกยามะ-ซังยิงแสงที่ใหญ่กว่าครั้งนั้นที่เธอกำจัดมังกรไฟเล็กสองตัว

 

แสงขนาดยักษ์ได้เข้าหาบาเรีย

 

ในทันทีที่มันสัมผัสกับบาเรีย… มันหายไป

 

“มันถูกดูดเหรอ…?” (มาโกโตะ)

 

“ชั้นไม่รู้…นี่เป็นครั้งแรกที่นักเวทย์เห็นบาเรียแบบนี้ ดังนั้นพวกเค้าต้องเริ่มจากการวิเคราะห์…” (ซากิ)

 

ไม่ใช่ว่ามันดีที่ผมไม่โจมตีมันอย่างไม่ระวังเหรอ?

 

แต่หน้าของโยโกยามะ-ซัง ไกลจากอะไรที่คุณจะเรียกว่าสงบ ผู้รู้สึกถึงความสิ้นหวังของเธอจากมัน

 

แต่มีจุดหนึ่งที่กวนใจผม

 

“ชั้นตกใจที่บอกลักษณะของบาเรียได้แม้ว่าการวิเคราะห์มันยังไม่เสร็จ เหมือนความจริงที่ว่ามันขังได้แค่ฮีโร่แห่งแสง” (มาโกโตะ)

 

“เกี่ยวกับเรื่องนั้น…มันเป็นอาร์คบิชอปไอแซคที่ออกมาหัวเราะ และอธิบายกับเราถึงบาเรียที่จับเรียวซูเกะ ‘บาเรียได้ถูกสร้างจากศูนย์เพื่อที่จะผนึกฮีโร่แห่งแสง! พวกนายจะทำลายมันไม่ได้ตลอดไป!’ …เวรเอ้ย!” (ซากิ)

 

“คนนั้นอีกแล้ว หือห์…” (มาโกโตะ)

 

ผมรักการอธิบายจริงๆ

 

แต่ผมยังไม่เห็นหน้าเขาจริงๆนะ

 

“เฮ้ ทากัตซูกิ-คุง! นายเป็นนักเวทย์ ใช่มั้ย…? นายทำ…อะไรบางอย่างได้มั้ย?” (ซากิ)

 

ด้วยเสียงที่เหมือนว่าเกือบจะร้องไห้ และด้วยตาที่มีถุงใต้ตาใต้มัน

 

เธอน่าจะไม่ได้นอนซักพริบตาตั้งแต่ซากุไร-คุงได้ติดอยู่

 

“ที่ชั้นทำได้คงจะเป็น…” (มาโกโตะ)

 

ผมนำมีดของโนอาห์ซามามาจากเอวของผม และเข้าหาบาเรีย

 

ถ้ามันเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์นี้

 

ในทันทีนั้น ปีกของฟีนิกซ์น้ำได้แตะบาเรียสีดำ…และในทันทีต่อมา ฟีนิกซ์น้ำได้หายไปกระทันหัน

 

มันเป็นบาเรียที่ดูดซับมานาจริงๆเหรอ?!

 

“อะ!” (มาโกโตะ)

 

“นายโอเคมั้ย?!” (ซากิ)

 

เมื่อผมกำลังจะล้ม โยโกยามะ-ซังจับผม

 

เธอจับผมที่คอเสีย ผมเลยลอยอยู่กลางอากาศ

 

นั่นมันอันตราย

 

“ขอบคุณ โยโกยามะ-ซัง รอซักแป้ปนึง โอเคมั้ย?” (มาโกโตะ)

 

พูดสิ่งนั้น ผมดันมีดเข้าไปที่บาเรีย

 

ผมไม่รู้สึกถึง {แรงต้านจากมัน}

 

ใบมีดของมีดได้แทงเข้าไปในบาเรียอย่างง่ายๆ เหมือนมันจะถูกดูดเข้าไป

 

“เอ๋?” (มาโกโตะ)

 

“ว-ว้าว! ไม่ใช่ว่าอาวุธนั่นทำลายบาเรียได้เหรอ?!” (ซากิ)

 

“เดี๋ยว การตอบสนองนี้…” (มาโกโตะ)

 

ผมหยุดโยโกยามะที่ส่งเสียงเชียร์ และพยายามจะจับมาเรียด้วยมือที่ไม่ได้ถือมีด

 

มือซ้ายของผมผ่านไปได้อย่างง่ายๆ โดยที่ไม่ส่งเสียง

 

“หือห์?” (มาโกโตะ)

 

“เออออออ๋?!” (ซากิ)

 

บาเรียไม่ได้่กันผมถ้าให้เริ่มพูด?

 

“เฮ้ โยโกยามะ-ซัง” (มาโกโตะ)

 

“ช-ใช่ มีอะไร?” (ซากิ)

 

ผมได้กระวนกระวายเล็กน้อยและเสียงของผมแตกนิดหน่อย

 

“ไม่ใช่ว่าเธอพูดว่ามนุษย์เข้าไปที่บาเรียนี้ไม่ได้เหรอ?” (มาโกโตะ)

 

“อ-อืม…ถ้าชั้นจำมันไม่ผิด เค้าพูดว่าบาเรียที่มนุษย์และกึ่งมนุษย์ที่เป็น {นักรบและนักเวทย์} เข้าไปไม่ได้…” (ซากิ)

 

“ชั้นเข้าไปได้เพราะชั้นเป็นนักเวทย์ฝึกหัดเหรอ…?” (มาโกโตะ)

 

นั่นคือสิ่งที่เขียนอยู่ในโซลบุคของผมในอาชีพของผม

 

ผมไม่ใช่แม้แต่นักเวทย์

 

“แต่ไม่ใช่ว่านาย…เป็นฮีโร่นะ?” (ซากิ)

 

“มันเป็นงานที่ชั้นถูกมอบโดยราชวงศ์ของโรเซส อาชีพของชั้นในโลกนี้คือนักเวทย์ฝึกหัด” (มาโกโตะ)

 

“ข-เข้าใจแล้ว…น-นั่นลำบากนะ

 

โยโกยามะ-ซังมองผมด้วยตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร

 

มันลำบากแน่นอน

 

(นักเวทย์ที่ทำบาเรียนี้ คงจะไม่คาดว่าฮีโร่ที่ถูกแต่งตั้งของประเทศเป็นนักเวทย์ฝึกหัด) (โนอาห์)

 

เสียงของโนอาห์-ซามะสะท้อนอยู่ในหัวของผม

 

เออ๋ แต่ผมเป็นฮีโร่ที่ถูกแต่งตั้งของประเทศด้วย…

 

งานของผมไม่นับเหรอ?

 

คุณควรจะคาดหวังกับอะไรบางอย่างแบบนั้นด้วย

 

(ไม่ใช่ว่านั่นโอเคเหรอ? ขอบคุณเรื่องนั้น เธอเข้าไปที่บาเรียได้ ใช่มั้ย?) (โนอาห์)

 

ยังไงซะ นั่นก็จริง

 

“งั้น โยโกยามะ-ซัง ชั้นจะไปแล้ว เธอปล่อยได้แล้วตอนนี้” (มาโกโตะ)

 

ผมยังถูกจับที่คอเสื้อและลอยอยู่กลางอากาศ

 

“เอ๋ อ-โอเค…ชั้นหวังพึ่งนายกับเรียวซูเกะนะ” (ซากิ)

 

“ได้ ชั้นจะไปช่วย ซากุไร-คุง” (มาโกโตะ)

 

“ระวังตัวนะ” (ซากิ)

 

ผมโบกมือให้โยโกยามะ-ซังที่มองผมอย่างจริงจัง

 

เธอปล่อยคอเสื้อของผม

 

ผมได้ถูกโยนไปในอากาศ และถูกกลืนโดยบาเรียที่ดำสนิท

 

◇◇

 

(…มืด แทบจะมองไม่เห็นเลยที่นี่…) (มาโกโตะ)

 

[มองกลางคืน]

 

ข้างในบาเรียมืดเหมือนฟ้ายามค่ำคืนที่ไม่มีพระจันทร์

 

แต่มีบางอย่างอยู่

 

ขยับอยู่

 

[ตรวจจับ]

 

มีศัตรูอยู่มากมาย

 

พวกมันทั้นหมดเป็นปีศาจที่ดุร้ายและมอนสเตอร์ที่กำหนดภัยพิบัติ

 

มีมากกว่าพันคืบคลานอยู่ข้างในบาเรีย

 

[ซ่อน]

 

ผมลบตัวตนของผม

 

ผมไม่มีเจตนาที่จะสู้ปีศาจที่นี่

 

ผมต้องหาซากุไร-คุงก่อน

 

[เงี่ยหู]

 

ผมได้ยินมันได้

 

เสียงของการต่อสู้

 

ผมไม่รู้ว่าใครสู้อยู่ แต่อย่างน้อย มันควรจะเป็นมิตรของซากุไร-คุง

 

ผมเคลื่อนที่ไปที่ที่เสียงมาอย่างเงียบๆ

 

[โล่งจิต] 100%

 

ผมผ่านมอนสเตอร์ที่แออัดที่นี่

 

ไม่มีความรู้สึกที่จะมารู้สึกกลัว

 

ผมเลี่ยงศัตรูโดยไม่คิดถึงอะไรและมุ่งหน้าไปที่เสียง

 

ผมได้ใกล้และใกล้เสียงเข้าไป

 

ผมเห็นมัน!

 

{มีนักดาบคนเดียว สู้อยู่ตามลำพัง}

 

ชุดเกราะสีแอช

 

ดาบสีดำ

 

คนนั้นคือใคร…?

 

มีมอนสเตอร์เป็นตันอยู่รอบๆ

 

พวกเขาสู้มอนสเตอร์เหล่านั้นตามลำพัง

 

ต้องเป็นคนที่ค่อนข้างมีทักษะ

 

ผมเห็นตัวของนักดาบชัดเจนขึ้น…และสังเกต…

 

{มันเป็นซากุไรคุง ด้วยทั้งตัวที่ปกคลุมไปด้วยเลือด}

 

“ซากุไร-คุง!” (มาโกโตะ)

 

ผมตะโกนอย่างดังโดยไม่สนใจมอนสเตอร์รอบๆ

 

“…”

 

ไม่มีการตอบสนองจากซากุไร-คุง

 

ตาของเขาว่างเปล่าเหมือนคนละเมอ

 

เกราะของเขา ที่ผมคิดว่าสีแอชจริงๆแล้วเป็นเกราะสีขาวที่มีเลือดแห้งอยู่บนมัน

 

ดาบเวทมนตร์ที่เค้าเคยเอาให้ผมดูมาก่อนเหมือนเดิม

 

มันได้ถูกปกคลุมไปด้วยเลือด

 

แม้ว่าด้วยนั่นทั้งหมด เขาเหวี่ยงดาบของเขา

 

เอาสู้ทั้งหมดตามลำพังกับฝูงปีศาจและมอนสเตอร์ที่พุ่งเข้าไป

 

“เวทย์น้ำ: [วาฬยักษ์]!” (มาโกโตะ)

 

ผมใช้แขนสปิริตของผม สร้างวาฬยักษมโหฬาร และเป่ามอนสเตอร์ไป

 

มันไม่ใช่เวทมนตร์โจมตี

 

มันเป็นเวทมนตร์เพื่อซื้อเวลาและสร้างระยะ

 

“ซากุไร-คุง!” (มาโกโตะ)

 

ผมตะโกนอีกครั้ง

 

“……ทากัต…ซูกิ-คุง?” (ซากุไร)

 

มีการตอบสนองครั้งนี้

 

โอเค!

 

“ซากุไร-คุง นายบาดเจ็บมั้ย?!” (มาโกโตะ)

 

ผมวิ่งไปตรวจดูว่าเขาบาดเจ็บมากขนาดไหน

 

แต่ตัวซากุไร-คุงเองไม่บาดเจ็บ

 

เลือดที่อยู่บนตัวของซากุไร-คุง ทั้งหมดเป็นเลือดจากคนอื่น

 

“…นายเข้ามา…ที่นี่ได้ยังไง?” (ซากุไร)

 

“ใครสนเรื่องนั้นกันล่ะ! พวกของนายที่เหลืออยู่ไหน?!” (มาโกโตะ)

 

ผมได้ยินจากโยโกยามะ-ซัง ว่าเขาติดอยู่ที่นี่กับคนคุ้มกัน

 

ไม่มีทางที่ซากุไร-คุงจะอยู่ตามลำพัง

 

“………..พวกเค้าทั้งหมด…ตายแล้ว” (ซากุไร)

 

“อะ?” (มาโกโตะ)

 

ที่กลับมาเป็นการตอบที่แห้งๆ

 

“กองพลที่ 7 ที่ก่อตั้งทั้งหมดโดยอัศวินหนุ่ม… หน้าที่ของพวกเค้าคือ…ตายแทนชั้น แต่แม้ว่าชั้นบอกพวกเค้าว่าชั้นจะไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น… ว่าพวกเราจะมีชีวิตรอดไปด้วยกัน… พวกเค้าทั้งหมดได้เป็นโล่ของชั้น…” (ซากุไร)

 

“…”

 

ผมหมดคำพูด

 

เขารอดชีวิตมาภายในทั้งหมดนั้น?

 

ผผมได้ยินเสียงฝีเท้า

 

มันเป็นมอนสเตอร์ที่ผมเป่ากระเด็นไปก่อนหน้า

 

มีมากกว่าเดิมอีกตอนนี้

 

มอนสเตอร์และปีศาจเข้ามาที่บาเรียนี้ได้อย่างอิสระ

 

พวกมันอาจจะเพิ่มจำนวน แต่ไม่ลดลงไป

 

“มานาของชั้นกำลังจะหมด โดยที่ไม่ได้รู้สึกแสงแดด นี่เป็นทั้งหมดที่ชั้นเป็น แม้ว่าชั้นถูกชื่นชมว่าเป็นการเกิดใหม่ของผู้กอบกู้ ถ้านายออกไปจากบาเรียนี้ได้ ได้โปรด…หนีไป…ถ้านายอยู่ด้วยกันกับชั้น นายจะไม่สามารถที่จะวิ—หึนกุห์!” (ซากุไร)

 

“ดื่มนี่ก่อนตอนนี้!” (มาโกโตะ)

 

เข้าอยู่ระหว่างพูด แต่เมื่อผมได้ยินว่ามานาของเข้ากำลังจะหมด ผมดันอีลิกเซอร์ที่ผมได้จากฟูจิ-ยังเข้าปากเขาทันที

 

“…กุห์! ทากัตซูกิ-คุง นายทำอะไรกระทันห…เอ๋?” (ซากุไร)

 

รอบตัวของซากุไรคุ่งส่องแสงสีฟ้ากระทันหัน และมานาได้เริ่มเติมเต็มที่นี่

 

อย่างที่คาดกับยาที่แข็งแกร่งที่สุดของทั้งหมด อีลิกเซอร์

 

“แรงกายและมานาได้ฟื้นมาอย่างเต็มที่?!” (ซากุไร)

 

“นายคิดว่านายอยู่มากกว่านี้ได้อีกวันมั้ย?!” (มาโกโตะ)

 

“ช-ชั้นไม่รู้ แต่น่าจะ” (ซากุไร)

 

“ได้เลย!” (มาโกโตะ)

 

เวทมนตร์น้ำ: [วาฬยักษ์]!

 

อีกครั้งที่ผมน็อคมอนสเตอร์ที่เข้าหาไปด้วยเวทมนตร์น้ำ

 

แต่บางที่เพราะมันเป็นครั้งที่สอง และมพวกมันได้เรียนรู้จากมัน บางคนหลบได้ และยังมีพวกนั้นที่ทนเวทมนตร์น้ำโดยไม่ขยับได้ด้วย

 

“วิชาดาบศักดิ์สิทธิ์: [การฟันแห่งแสง]!” (ซากุไร)

 

และซากุไร-คุงตัดพวกมันลงด้วยคลื่นแสงของเขา

 

มันเป็นเทคนิคเดียวกันกับโยโกยามะ-ซัง

 

มีสไตล์เดียวกันกับภรรยาค่อนข้างมีสไตล์เลย

 

“ทากัตซูกิ-คุง มานาชั้นได้ฟื้นมาซึ่งมันยอดเยี่ยม แต่มันยังไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าชั้นออกจากบาเรียไม่ได้!” (ซากุไร)

 

ผมรู้สึกถึงพลังงานเล็กน้อยได้กลับมาที่เสียงของซากุไร-คุง

 

ใช่

 

จากโยโกยามะ-ซัง บาเรียนี้เป็นระดับพระเจ้า

 

มันไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี

 

ผมจำการสนทนาที่ผมมีกับโนอาห์-ซามะ และจำสิ่งที่ผมเรียนมาจากชั้นเรียนเรื่องเวทมนตร์ในวิหารแห่งน้ำในอดีต

 

มีชั้นเรียนสำหรับสำหรับการทำลายบาเรียอยู่ในนั้น

 

แต่มันค่อนข้างใช้กำลังนะ

 

(ยังไงซะ ไม่มีทางเลือกนอกจากลอง…) (มาโกโตะ)

 

ผม {แก้} โล่งจิต และถอนหายใจ

 

“XXXXXXXXX (สปิริต-ซัง สปิริต-ซัง…มา)” (มาโกโตะ)

 

ผมพูดในภาษาสปิริต

 

สปิริตน้ำได้เชียร์ด้วย ‘ว้ายยย’ ดั่งพวกเขาได้รอตาของพวกเขาอยู่

 

ผมยกแขนสปิริตที่ส่องแสงสีฟ้าไปข้างห้น และสปิริตมากขึ้น และมากขึ้นรวมตัวกัน

 

“สำหรับตอนนี้ มาทำบางอย่างเกี่ยวกับบาเรียนี่กันเถอะ” (มาโกโตะ)

 

ผมหันไปหาซากุไร-คุงและเสนอสิ่งนี้

 

 

 

เป้าหมายเดือน 4/66

ค่าเน็ต 200/200

กาแฟ 180/300

ค่าไฟ 20/1000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

กสิกรไทย

 

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord