ตอนที่ 1 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 01

Akuyaku Reijou no Naka no Hito

ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 01

ในงานเลี้ยงที่ถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงค่ำ ใต้โคมระย้าอันหรูหราที่แขวนอยู่บนเพดาน ในที่โล่งใจกลางห้องโถง ฉันยืนอย่างโดดเดี่ยวในฐานะจำเลยตามบทบาทที่ถูกวางไว้

เบื้องหน้ามีชายหนุ่มผมสีแพลตตินัมบลอนด์ จ้องมองมาที่ฉันด้วยความเป็นศัตรู ดวงตาที่ดูเศร้าสร้อยของเขาหรี่ลง ขณะที่ฉันพยายามอธิบายว่าข้อกล่าวหาที่ถูกยกขึ้นมานั้นไม่เป็นความจริง

“…น่าเสียดายเหลือเกิน เรมี่ ถ้าเจ้ายังไม่หยุดโกหกและยอมรับความผิดที่เจ้าก่อ ข้าก็ไม่อาจปกบ้องเจ้าได้อีก… เรมิเลีย โรส กราปเนอร์!! …ผู้หญิงหัวใจคับแคบไม่คู่ควรกับตำแหน่งว่าที่ราชินี เพราะฉะนั้น ข้า มกุฎราชกุมาร วิลเลียด อาร์ค ไคเซ็น ขอประกาศยกเลิกการหมั้นกับเจ้า ณ ที่นี้!

สิบปีที่พวกเราได้หมั้นกัน ความไว้ใจให้กันและกันที่ฉันเชื่อว่าได้สั่งสมมานานนับสิบปี… มันจบแล้ว วิลเลียดจ้องมองมาที่ฉันและปะกาศออกมาเสียงดังให้ทุกคนได้ยิน ในดวงตาสีฟ้าครามแฝงไว้ด้วยความผิดหวัง หญิงสาวหน้าตาน่ารักผู้มีผมสีน้ำตาลอ่อนกับดวงตาสีชมพูกำลังกอดแขนของเขาด้วยใบหน้าหวาดกลัวและร่างกายสั่นเทาราวกับลูกสุนัข นั่นคือท่าทีของเธอเมื่อไม่กี่นาทีก่อน บัดนี้ มีแต่รอยยิ้มแห่งชัยชนะ แสดงกิริยาห่างไกลจากการเป็นกุลสตรี มีแต่ฉันที่เห็นภาพนี้ เพราะเป็นคนเดียวที่หันหน้าไปหาเธอ จึงได้แต่มองดูเธอเย้ยหยันอยู่ข้างกายวิลเลียด

…อา ทั้งที่ฉันพยายามตั้งขนาดนั้น ไม่ดีเลย ทั้งท่านวิล ทั้งผู้ที่เป็นดั่งน้องชายของฉัน โคลด รวมถึงเพื่อนสมัยเด็ก เดวิด กับ สเตฟาน กำลังมองมาที่ฉันเหมือนกับมองสิ่งปฏิกูล ทุกคน ทุกๆคน ไม่มีใครเชื่อคำพูดของฉันอีกแล้ว ไม่ว่าฉันจะพร่ำบอกสักกี่ครั้งว่าฉันไม่ได้ทำเช่นนั้น หรือพยายามอธิบายว่าหลักฐานพวกนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉัน แต่พวกเขาก็ไม่ฟัง

พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมรับว่าพวกเขากำลังเข้าใจผิด พวกเขาน่าจะรู้ดีว่าเรมีเลียไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น แต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่เชื่อใจฉันจนถึงที่สุด …ทั้งที่ฉันเคยเชื่อว่าสายสัมพันธ์ของพวกเราเป็นสิ่งที่ไม่มีวันถูกทำลายลงได้

สายตาทุกคู่ของผู้คนที่รายล้อม จ้องมองมาที่ฉันด้วยความเป็นศัตรู… นี่ฉันถูกเกลียดจนทุกคนร่วมมือกันใส่ร้ายตั้งแต่เมื่อไหร่? คำพูดที่พวกเขาแต่ละคนเริ่มพูดออกมา คืออาชญากรรมที่แม้แต่ตัวฉันเองยังจำไม่ได้ว่าเคยทำ

ทั้งหมดนี้คือการจัดฉาก ที่ฉันเสียใจที่สุดคือวิลเลียด…คนที่ฉันเชื่อว่าเข้าใจตัวฉันดีที่สุด แต่กลับเข้าร่วมกับฝั่งนั้น ไม่ใช่แค่ท่านวิล ยังมี โคลด เดวิด สเตฟาน ทุกๆคน… กับฉัน…

ตัวฉันตกอยู่ในความสิ้นหวัง ดวงตาพร่ามัว ทุกอย่างมืดลง ประสาทสัมผัสทั่วร่างอ่อนลงทุกที ร่างกายเหมือนล่องลอย และแล้ว สติของฉันก็ดับลงโดยสมบูรณ์

ทุกอย่างเริ่มชัดเจนขึ้น อา ความรู้สึกนี้สินะ ที่เอมิเรียกว่าแรงโน้มถ่วง น้ำหนักของร่างกายที่ไม่ได้รู้สึกมานาน…

ข้าได้กลับมาควบคุมร่างกายนี้อีกครั้ง หลังจากที่เคยทำได้แค่เฝ้ามองมาตลอดสิบเอ็ดปี คงต้องรื้อฟื้นสักหน่อยกว่าจะขยับได้ดั่งใจ แต่ตอนนี้คงต้องทนไปก่อน ในฐานะคู่หมั้นของมกุฎราชกุมาร ตัวข้า ‘บุตรีแห่งตระกูลดยุค เรมิเลีย โรส กราปเนอร์’ จะทำตัวขายหน้าไม่ได้

ข้าแสดงสีหน้าเศร้าสร้อยพร้อมกับยิ้มอย่างสง่างามให้สมศักดิ์ศรี

พยายามไม่จ้องหน้าผู้หญิงคนนั้นมากเกินไป หญิงสาวที่เป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมด เธอกำลังกอดแขนวิลเลียด มองลงมาด้วยใบหน้าอันบิดเบี้ยวราวกับเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่า ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา

บุรุษผู้โง่เขลา ไม่เชื่อใจคู่มั่นของตนจนถูกหญิงอื่นชักจูงบงการ น้องชายผู้ใจดำ หลงลืมช่วงเวลาที่พวกเราได้เป็นครอบครัวเดียวกัน มิตรสหายผู้เณรคุณ หักหลังผู้ที่ช่วยปัดเป่าความมืดออกจากจิตใจของพวกเขา และสุดท้าย หญิงชั่วผู้ทำร้าย ‘เอมิ’ ด้วยมารยาและคำโกหก ต่อหน้าทุกคน ข้ารักษากิริยาท่าทางให้สมบูรณ์แบบ เพื่อให้ ‘เรมิเลีย โรส กราปเนอร์’ ดูสง่างามเป็นที่สุด สมเป็นตัวตนที่เอมิทุ่มเทสร้างขึ้นมา

พวกแกจะไม่มีวันได้รับการให้อภัย ทุกคนที่ทำให้เอมิต้องเจ็บปวด ทั้งคนที่ช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้นแพร่กระจายข่างลือที่ไม่มีมูลความจริง และคนที่หลงเชื่อ…

ตั้งแต่ที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาติดพันกับวิลเลียดและคนอื่นๆ คู่หมั้นอย่างข้าได้ถูกลดทอนบทบาทและเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันลงอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะมีหน้าที่ดูแลและคุ้มกัน ‘หญิงสาวแห่งดวงดาว’ เพราะถูกขอไว้มากกว่าความสมัครใจ แต่ระยะห่างระหว่างพวกเขากับเธอกลับไม่ถูกรักษาอย่างเหมาะสม ทั้งที่เอมิเฝ้าบอกถึงความไม่สบายใจของเธออยู่ซ้ำๆ แต่ก็ไม่มีใครฟัง

เอมิตั้งหน้าตั้งตารองานเลี้ยงในวันนี้จากก้นบึ้งของหัวใจ… พวกแกไม่เคยรู้เลยว่าเอมิรู้สึกโล่งใจมากแค่ไหนในตอนที่วิลเลียดเรียกหาเธอในงาน

มีข้าเพียงคนเดียว ที่เข้าใจความรู้สึกของเธอ แต่ก็ทำไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเฝ้าดู… ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพวกแกไม่เคยฟังเสียงของเอมิอย่างจริงจัง ทุกครั้งที่หญิงสาวแห่งดวงดาวได้อยู่กับเธอตามลำพังจะมีท่าทีคุกคามเหยียดหยามและเล่นละครให้คนรอบข้างเห็นเป็นบุตรีตระกูลดยุคกำลังกลั่นแกล้งทำร้ายสตรีที่เข้ามาใกล้ชิดคู่หมั้นของตนด้วยความหึงหวง

ข้าจะจดจำความแค้นต่อคนทรยศเหล่านี้ไว้ไม่มีวันลืม และ ‘หญิงสาวแห่งดวงดาว’ ต้นตอของความชั่วร้ายทั้งปวง จะต้องถูกลงโทษอย่างสาสม