บทที่ 151 ตามหาอย่างบ้าคลั่ง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 151 ตามหาอย่างบ้าคลั่ง

บทที่ 151 ตามหาอย่างบ้าคลั่ง

กู้เสี่ยวหวานไม่มีเวลาขอบคุณผู้ใดทั้งสิ้น นางทำได้เพียงมองหาต่อไป

เฉาซื่อพ่นลมหายใจและไม่ลุกขึ้น เมื่อได้ยินว่ากู้เสี่ยวอี้หายไป นางก็สูดลมหายใจและพลิกตัวลงนอน

กู้ฉวนลู่ออกมาได้ครู่หนึ่ง และไม่ได้ตั้งใจจะไปตามหาเด็กคนนั้น เขาแค่บอกว่ากู้เสี่ยวอี้ไม่ได้อยู่ที่บ้าน จากนั้นจึงปิดประตู ไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาการบาดเจ็บที่ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวาน!

ตอนนี้การตามหาน้องสาวของนางเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อใดที่โอกาส กู้เสี่ยวหวานจะกลับไปหาเฉาซื่อเพื่อชำระบัญชีแค้น

ทุกคนค้นหาอยู่ทั้งคืน แต่แล้วก็ไม่มีข่าวคราว

เมื่อเห็นท้องฟ้าเริ่มสว่าง ชาวบ้านบางคนก็เริ่มเหนื่อย จึงตัดสินใจกลับไปพักผ่อน

ในท้ายที่สุดจึงเหลือเพียงกู้เสี่ยวหวาน ท่านป้าจาง ฉือโถว ช่างไม้เหลียง และเหลียงเหยาซื่อ

“เสี่ยวหวาน เมื่อวานข้ากำลังกลับจากตักน้ำที่ริมแม่น้ำ และอยากไปดูแปลงผัก เมื่อเดินผ่านบ้านของเจ้าก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายอยู่ข้างใน ข้าก็เลยเข้ามาดู แต่ตอนนั้นข้าไม่เห็นเสี่ยวอี้แล้ว!” เหลียงเหยาซื่อพูดในสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

กู้เสี่ยวหวานคิดอย่างใจเย็น ในเวลานั้นเสี่ยวอี้ออกไปก่อน และในเวลาไม่นานเหลียงเหยาซื่อก็เข้ามา เหลียงเหยาซื่อมาที่หมู่บ้านจากทางนั้นและไม่ได้พบกับเสี่ยวอี้ นั่นก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเสี่ยวอี้ไม่ได้ไปผิดทางและไปที่บ้านของท่านป้าจางจริง ๆ

แต่เหตุใดเสี่ยวอี้ถึงไปไม่ถึงบ้านของท่านป้าจาง?

ถูกคนจับไประหว่างทางอย่างนั้นหรือ?

ในเวลานั้น กู้เสี่ยวหวานก็เต็มใจที่จะขอความช่วยเหลือจากท่านป้าจางและพี่ฉือโถว เพราะนางไม่สามารถขอจากที่อื่นได้

“เสี่ยวอี้เป็นเด็กดีมาก นางจะไม่เดินเตร่ไปทั่ว!” น้ำเสียงของกู้เสี่ยวหวานแหบแห้ง นางร้องไห้ตลอดคืน ริมฝีปากปวดแสบปวดร้อนเอ่ยคำออกมาอย่างสั่นเครือ

“ใช่แล้ว เสี่ยวอี้เป็นเด็กดีมาก!” ท่านป้าจางพูดซ้ำ “นางจะไปที่ไหนได้!”

ทุกคนมารวมตัวกันและพูดคุยถึงวิธีการค้นหาเสี่ยวอี้อีกครั้ง

พวกเขาค้นหาทั้งหมู่บ้านแล้ว คราวนี้คงต้องไปหาที่นอกหมู่บ้านและบนภูเขาด้วย

กู้เสี่ยวหวานและฉือโถวไปที่ภูเขาเพื่อค้นหา พวกเขาร้องตะโกนตลอดทาง แต่ไม่มีผู้ใดตอบรับ

เสี่ยวอี้อายุได้สี่ขวบแล้ว พูดตามเหตุผลแล้วนางควรจะหาทางกลับบ้านได้ แต่นี่มันเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้วที่เสี่ยวอี้ยังไม่กลับมา ซึ่งหมายความว่าเสี่ยวอี้ต้องถูกคนจับไปเท่านั้น หรือไม่อย่างนั้นก็ได้รับบาดเจ็บจึงไม่สามารถกลับบ้านได้

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกไม่สบายใจเมื่อคิดว่ากู้เสี่ยวอี้อาจได้รับบาดเจ็บหรือถูกจับตัวไป มันเป็นความผิดของนาง ถ้าในเวลานั้นนางไม่ได้นอนพัก นางคงพบว่าเสี่ยวอี้หายไปเมื่อก่อนหน้านี้ หากค้นหาก่อนหน้านี้จนเจอ สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น

ทิศทางบนภูเขาและทิศทางไปยังบ้านของฉือโถวต่างกันโดยสิ้นเชิง พูดตามเหตุผลก็คือกู้เสี่ยวอี้จะไม่มาที่ภูเขาเพียงลำพัง แต่ตอนนี้เสี่ยวอี้หายไปนานมาก ทุกอย่างจึงเป็นไปได้

กู้เสี่ยวหวานไม่กล้าที่จะเกียจคร้านเลยแม้แต่น้อย และไม่ว่านางจะเจ็บปวดที่บาดแผลบนใบหน้าแค่ไหน ตอนนี้นางกลับมีความคิดเดียวเท่านั้นคือตามหาเสี่ยวอี้

“เสี่ยวอี้ เสี่ยวอี้…” ภายในป่ารกร้าง กู้เสี่ยวหวานตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทำให้ฝูงนกตกใจ ใบไม้ร่วงหล่นกระจัดกระจาย

กู้เสี่ยวหวานร้องไห้ไม่หยุด แต่เสียงที่ตอบกลับมากลับมีเพียงเสียงลมจากภูเขา

อีกด้านหนึ่ง ท่านป้าจางและเหลียงเหยาซื่อต่างก็ค้นหานอกหมู่บ้านอย่างตั้งใจ พวกเขาค้นหาทุกที่ในหญ้า ใต้ต้นไม้ แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของเสี่ยวอี้

กู้เสี่ยวหวานอยู่ในป่ามองหาอย่างกระวนกระวายใจ ฉือโถวก็เฝ้าดูอย่างระมัดระวัง และมองไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างระมัดระวังด้วยกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนาง ทั้งสองค้นหาตลอดทั้งช่วงเช้าและค้นหาเกือบทั่วชายป่า แต่ไม่พบกู้เสี่ยวอี้ที่ไหนเลย

จากความกังวลในตอนแรกจนถึงความเร่งด่วนในตอนนี้ กู้เสี่ยวหวานตัวสั่นด้วยความกลัว เป็นเวลาสองวันแล้วและยังไม่มีข่าวคราวของกู้เสี่ยวอี้เลย

ท้องฟ้าเริ่มค่อย ๆ มืดลง กู้เสี่ยวหวานอยู่ในป่าทั้งวัน แต่ก็ยังไม่มีเบาะแสอะไร

น้ำตาเอ่อล้นเบ้าตาและไหลอาบแก้มบวมแดง แก้มของนางร้อนผ่าว

หลังจากสองวันของการนอนไม่หลับและไม่กินหรือดื่ม ตอนนี้หัวใจของกู้เสี่ยวหวานกำลังจะแตกสลาย ทุกครั้งที่เรียกชื่อเสี่ยวอี้ ใบหน้าที่มีความสุขและมีชีวิตชีวาของกู้เสี่ยวอี้จะปรากฏในใจของนาง แม้พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันช่วงสั้น ๆ เพียงไม่กี่เดือน แต่ความรักในครอบครัวและเลือดที่ข้นกว่าน้ำ ทำให้กู้เสี่ยวหวานปฏิบัติต่อกู้เสี่ยวอี้เป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง

เมื่อทั้งสองกลับบ้าน ท่านป้าจางก็บังเอิญมาจากอีกฝั่งหนึ่งพอดี ร่างกายของพวกเขาหลายคนเต็มไปด้วยฝุ่นเกรอะกรัง และดูเหมือนว่าพวกเขาจะหาไม่พบ

จากความหวังที่ริบหรี่ของกู้เสี่ยวหวานกลายเป็นความสิ้นหวัง นางถึงกับทรุดตัวลงบนพื้น

เมื่อท่านป้าจางเห็นท่าทางเช่นนั้นของกู้เสี่ยวหวาน ดวงตาของนางก็มีน้ำตารื้น ริมฝีปากของเด็กน้อยแห้งผาก และมีคราบเลือดแห้งที่มุมปากของนาง และหัวใจของนางก็เจ็บปวดอย่างเหลือทน

เทพยดาคงจะตาบอดเป็นแน่แท้ ทำไมถึงได้โหดร้ายต่อครอบครัวนี้มากขนาดนี้

ท่านป้าจางกอดกู้เสี่ยวหวานและร้องไห้ออกมา กู้เสี่ยวหวานที่อยู่ในอ้อมแขนของนางดูสิ้นหวังและไม่ขยับเขยื้อน เอาแต่กัดริมฝีปากของนางแน่นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาไหลลงมา

ท่าทางปวดใจของนางทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเช็ดน้ำตาอย่างเงียบ ๆ

ฉือโถวปาดน้ำตาด้วยแขนเสื้อ และพูดอย่างหนักแน่นว่า “ท่านแม่ ท่านดูแลเสี่ยวหวานเถิด ข้าจะออกไปหาเอง!”

หลังจากพูดจบ ไม่รอให้ทุกคนพูดอะไร ฉือโถวก็วิ่งออกไปในความมืดอีกครั้ง

กู้เสี่ยวหวานพูดไม่ออก นางได้แต่มองออกไปนอกบ้านด้วยดวงตาหม่นหมองราวตุ๊กตาเศษผ้าไร้ชีวิต

เหลียงเหยาซื่อเช็ดน้ำตาของนางและปลอบโยน “เสี่ยวหวานไม่ต้องกังวล เสี่ยวอี้ฉลาดมาก บางทีนางอาจหลงทาง นางจะกลับมาเมื่อหาทางกลับได้”

ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานว่างเปล่า ไม่สนใจสิ่งที่คนรอบข้างพูด จ้องไปที่ประตูโดยไม่กะพริบตาราวกับกลัวว่าถ้านางหลับตา นางจะพลาดการกลับมาของเสี่ยวอี้

“พี่เหลียง น้องชาย น้องสาว วันนี้รบกวนทุกคนแล้ว พวกเจ้าหามาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้วโดยไม่ได้ดื่มน้ำหรือกินอาหารเลย!”

“เฮ้ ป้าจาง อย่าพูดแบบนั้นสิ พวกเราเป็นเพื่อนบ้านกัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนควรช่วยกัน ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทั้งหมดเป็นเด็กและไม่มีผู้ใหญ่ ถ้าเราไม่ช่วยแล้วใครจะช่วย!” ช่างไม้เหลียงรีบเอ่ยขึ้น

……………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เสี่ยวอี้ไปอยู่ที่ไหนกันหนอ ขอให้เจอตัวเร็ว ๆ นะคะ ดูสภาพของทุกคนแล้วปวดใจแทนเหลือเกินค่ะ

ไหหม่า(海馬)