ตอนที่ 60

Earth’s Best Gamer

“เร็วเข้า รีบไปเอาอาวุธมาเร็ว!”

“พาเด็กๆ ไปซ่อนตัว อย่าออกมา”

“ธนูและลูกศรอยู่ไหน? ใครเอาลูกศรของฉันไป!?”

เมื่อจีเย่กลับมาที่ห้องของเขาและเข้าสู่ดินแดนแห่งมรดก เขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากหมู่บ้านในขณะที่สีหน้าของเขาบูดเบี้ยว

มีบางอย่างเกิดขึ้น!

ทันใดนั้นจีเย่ก็รู้สึกหนาวสั่นในหัวใจของเขา

เมื่อเดินออกมาจากประตู เขาก็เห็นว่าป้อมของภูเขามังกรคู่มีคบเพลิงถูกจุดอยู่

หลู่จือเซินถือไม้เท้าจันทร์เสี้ยวโลหะเหมันต์ยาวสองเมตรซซึ่งช่างตีเหล็กในหมู่บ้านได้ทำการขึ้นรูปมาอย่างรวดเร็วในช่วงสองวันที่ผ่านมา เขารวบรวมผู้คนเพื่อวิ่งไปยังเขตรอบนอกของหมู่บ้าน

“เกิดอะไรขึ้น? คนที่เฝ้าหน้าผาถูกโจมตีโดยมนุษย์อินทรีงั้นเหรอ? มีทหารรอดเพียงคนเดียว!?”

หลังจากซักถามใครบางคนอย่างรวดเร็ว สีหน้าของจีเย่ก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาได้รับข่าว

“ผม… ผมออกไปสูดอากาศข้างนอก… แต่เมื่อผมกลับมา ผมก็เห็นเงาสีดำได้ทำการสังหารหมู่…”

ในไม่ช้าจีเย่ก็ถูกนำไปหาทหารคนเดียวที่รอดชีวิต

ใบหน้าของทหารดูซีดขาว เขาดูเหมือนจะตกใจมากจนผิวของเขาเปลี่ยนเป็นสีฟ้า เขายังคงสั่น แม้ว่าจะมีความร้อนจากคบเพลิงก็ตาม!

“นายแน่ใจเหรอว่าเป็นมนุษย์อินทรี?”

สีหน้าของจีเย่นั้นเคร่งขรึม

“ใช่ครับ ผมแน่ใจ… ผมเห็นเขายืนอยู่ที่ถ้ำลิงแมนดริล เขามีปากเหมือนนกอินทรี ดวงสาทั้งสามของเขาเปล่งประกายสีแดง และมือกับเท้าของเขานั้นราวกับกรงเล็บของนกอินทรี”

“ความแข็งแกร่งของเขาน่ากลัวมาก แขนที่ราวกับกรงเล็บได้ยกเจิ้งเอ๋อร์ชิวขึ้นมาเหนือหัว ไม่ว่าเจิ้งเอ๋อร์ชิวจะเตะเขาอย่างไรก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้ และในที่สุดเจิ้งเอ๋อร์ชิวก็ถูกหักคอ!”

“ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมกลัวมาก แขนขาของผมไร้เรี่ยวแรง ผมซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าและไม่กล้าขยับ ผมเฝ้าดูเขาลากศพของเจิ้งเอ๋อร์ชิวและคนอื่นออกจากถ้ำและโยนลงหน้าผา…”

ก่อนหน้านี้ เมื่อเขารู้ข่าวนี้ ดวงตาของหลวงจีนลายบุปผาก็เบิกกว้างในขณะที่เคราของเขาสั่น

เขาเพิ่งได้รับพวกพ้องใหม่เมื่อวานนี้ แต่วันนี้กลับเสียไปสี่คนแล้ว!

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้รีบออกไปหาทาง ‘แก้แค้น’ กับคนของเขาโดยประมาท ในทางกลับกันเขารีบแจ้งให้คนทั่วไปในหมู่บ้านเตรียมการป้องกัน

เนื่องจากประสบการณ์การต่อสู้อันยาวนานของเขา เขารู้ว่ามนุษย์อินทรีฉลาดแค่ไหน

หากเขาจะเคลื่อนไหว เขาต้องมีความมั่นใจอย่างเต็มที่!

เป็นเรื่องยากสำหรับมนุษย์ที่จะมองเห็นในเวลากลางคืน เมื่อพวกเขาออกจากหมู่บ้าน พวกเขาอาจถูกอีกฝ่ายซุ้มโจมตี

นอกจากนี้ยังลืมความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายจะโจมตีหมู่บ้านไม่ได้

“การตัดสินใจของผู้นำหลู่นั้นถูกต้อง ความแข็งแกร่งของมนุษย์อินทรีเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถรับมือได้ในถิ่นทุรกันดาร!”

จีเย่พยักหน้า

จากข้อมูลที่สำนักงานสมาพันธ์เมืองหยางให้มา เขาจึงรู้ถึงความแข็งแกร่งของมนุษย์อินทรีเหล่านี้เป็นอย่างดี เขายังเคยเห็นฉากมนุษย์อินทรีสังหาร ‘หมีมีปีก’ ระดับวิสามัญด้วยตาของเขา เขารู้ถึงความแตกต่างของความแข็งแกร่งระหว่างมนุษย์และมนุษย์อินทรี

จากคำอธิบายของทหาร ระดับของมนุษย์อินทรีอาจอยู่ในระดับวิสามัญ!

นี่เป็นเพราะแม้ว่าทหารคนนี้จะซ่อนอยู่ในพงหญ้า แต่เขาก็ยังคงถูกพบโดยมนุษย์อินทรี มนุษย์อินทรีพุ่งเข้าหาเขาและยื่นกรงเล็บสีดำเพื่อดึงขาของเขา

อย่างไรก็ตาม มนุษย์อินทรีดูจะไม่มีความคล่องตัวมากพอ ด้วยการต่อสู้กลับที่สิ้นหวังของเขา เขาจึงฉีกกางเกงจนขาดและพยายามหนีกลับมาเพื่อรายงานข่าว

“ผมหนาวมาก!”

ทหารแทบจะไม่สามารถตอบคำถามจีเย่ได้ แม้แต่สีหน้าของเขาก็แสดงความสับสน

“ร่างกายของเขาเย็นมาก อุณหภูมิร่างกายของเขาอยู่ที่ประมาณ 30 องศา บางทีอาจเป็นเพราะความตกใจ…”

ซางเยี่ยนผู้ที่พันบาดแผลของทหารกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจ

“หนาาว? อืม!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ จีเย่มองไปที่ขาของทหารคนนั้นและสีหน้าของเขาก็แข็งทื่อ

นี่เป็นเพราะเขาตระหนักว่าก๊าซสีดำหมุนเวียนรอบผ้าพันแผลที่พันรอบขาที่บาดเจ็บของเขา

ในสภาพแวดล้มกลางกลางดึกเช่นนี้ ไม่มีใครสังเกตเห็นมันหากไม่มีแสงไฟ

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเส้นสีดำจางๆ ได้ยื่นออกมาจากบาดแผลเข้ามาใกล้ร่างกายของจีเย่

“ไม่ใช่ฉัน แต่มันคือหนังหมาป่า!”

จีเย่หยิบบางอย่างออกมาจากอกของเขา มันเป็น ‘สมบัติมรดก’ ของหมาป่าน้ำงเินหลังโลหะที่เขาได้รับจากถ้ำหมาป่า

ก้อนก๊าซสีดำหลอมรวมกันเป็น ‘ที่ซ่อนสมบัติ’ ในขณะนั้น ‘โทเท็ม’ บนหนังหมาป่าก็ลอยขึ้นเล็กน้อยราวกับว่ามันอยากดูดซับสารอาหารบางอย่าง

“นี่คือ… พลังวิญญาณ!”

จีเย่ขมวดคิ้วเล็กน้อย

หลังจากที่เขาถือหนังหมาป่าไว้ในมือ ก้อนก๊าซสีดำก็ดูชัดเจนมากขึ้น เมื่อหนังหมาป่าเข้าใกล้บาดแผลของทหาร ก๊าซสีดำที่ชัดเจนก็ถูกดูดเข้าไปในหนังหมาป่า

“เอ๊ะ อุณหภูมิร่างกายของเขาดูเหมือนจะสูงขึ้นแล้ว ตอนนี้เขาควรปลอดภัยแล้ว”

ซางเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจ

ไม่มีใครในภูเขามังกรคู่ได้นอนตลอดทั้งคืน แม้แต่ผู้หญิงที่ซ่อนตัวในบ้านอยู่กับลูกของพวกเธอก็ถือกรรไกรไว้!

อย่างไรก็ตาม การโจมตีที่คาดไว้ไม่ได้เข้ามา

หลังจากรุ่งสาง จีเย่ไม่สามารถเห็นมนุษย์อินทรีได้เลยแม้จะมองจากระยะไกล

“ผู้นำหลู่ พาคนสองสามคนไปดูที่หน้าผา”

จีเย่ครุ่นคิดสักพักก่อนออกจากหมู่บ้านพร้อมกับโทเท็มหนังหมาป่าในมือ

“เกิดการเปลี่ยนแปลงของหมอกมั้ย?”

สิบนาทีต่อมา ก็ไม่มีวี่แววของมนุษย์อินทรีที่ขอบหน้าผาเลย

จีเย่ชี้ไปที่หมอกที่หนาแน่นที่อยู่ด้านล่างหน้าผา มันป้องกันไม่ให้ใครเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้านล่าง

“หมอกปกคลุมในตอนกลางวัน แต่มันจะหายไปตอนกลางคืน” ใครบางคนตอบกลับ

ทหารที่เฝ้าหน้าผาไม่ได้มีกลุ่มเดียว แต่มีหลายกลุ่มผัดเวรกัน ดังนั้ข้อมูลจึงถูกต้องแน่นอน

“หน้าผานี้สูงและชันมาก แต่มนุษย์อินทรีตัวนั้นก็สามารถปีนขึ้นมาได้!”

เจียงเหวินหมิงมองไปที่หน้าผาที่เกือบจะตรงและหล่าวด้วยความประหลาดใจ

“มีร่องรอยของการต่อสู้ในถ้ำลิงแมนดริล มันควนนเป็นไปตามที่ทหารคนนั้นพูด มนุษย์อินทรีเข้ามาจากด้านนอกและปิดกั้นทางเข้า ฆ่าทุกคนที่อยู่ข้างใน”

“มีรอบลากบนพื้น และศพก็ถูกโยนลงหน้าผา”

หลังจากมาถึงถ้ำของลิงแมนดริล หลี่ชิงก็ตรวจสอบและใช้ความสามารถระดับมืออาชีพของเขาเพื่อจะได้เห็นฉากที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

“เมล็ดสีชาดยังอยู่ข้างใน แต่ศพสัตว์ร้ายในถ้ำหายไป…”

ในทางกลับกัน จีเย่จ้องมองไปที่ต้นเมล็ดสีชาดในถ้ำ ไม่มีศพสัตว์ร้ายที่ถูกสังหารโดยลิงแมนดริลเลย

“ผู้นำหลู่ คืนนี้มากับฉัน”

“หลี่ชิงพาคนไปฆ่าสัตว์ตัวใหญ่มา และนำศพของพวกมันมาไว้ที่นี่ สำหรับเป่ยซาน ฉันมอบนายรับหน้าที่ป้องกันหมู่บ้านคืนนี้!”

ในท้ายที่สุด จีเย่ก็มอบหมายภารกิจ

“ท่านหัวหน้าสงสัยว่าไม่ใช่เป็นการกระทำของมนุษย์อินทรีใช่มั้ย?”

หลังจากคนที่เหลือกลับไป หลู่จือเซินผู้ที่ถือไม้เท้าโลหะเหมันต์หนัก 50 กิโลกรัมก็เข้ามาในถ้ำที่ว่างเปล่าและกล่าวกับจีเย่

“ผู้นำหลู่ นายรู้ด้วยเหรอ? ถูกต้อง ฉันเดาว่ามันไม่ใช่มนุษย์อินทรี!”

จีเย่พยักห้า

เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ‘มนุษย์อินทรี’ บนโลกว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตจากดาวเคราะห์แฟนตาซีตะวันออกที่อาศัยความแข็งแกร่งทางกายภาพเป็นหลักเมื่อต่อสู้

อย่างไรก็ตาม ยังคงมี ‘พลังวิญญาณ’ หลงเหลืออยู่ในบาดแผลของทหาร ตามทฤษฏี มันน่าจะเป็นอะไรบางอย่างที่คล้ายผี ตัวอย่างเช่น ‘วิญญาณของหมาป่า’!

แม้ว่ามนุษย์อินทรีจะอยู่ในระดับวิสามัญและได้บ่มเพาะ ‘การโจมตีวิญญาณ’ บางประเภทมา แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่อธิบายไม่ได้

สมบัติอย่างเมล็ดสีชาดสามารถเสริมสร้างร่างกายได้ แน่นอนว่ามันเป็นทรัพยากรที่ดีที่สุดสำหรับมนุษย์อินทรีที่เป็นส่วนหนึ่งของดาวเคราะห์ ‘แฟนตาซีตะวันออก’

ในทางทฤษฏี เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์อินทรีจะทิ้งมันไว้ให้พวกเขาหลังจากที่เห็นมันอยู่ในถ้ำ

แม้มนุษย์อินทรีจะรู้ว่าเคลื่อนย้ายต้นไม้ไม่ได้ แต่อย่างน้อยพวกมันก็น่าจะเก็บผลเมล็ดสีชาดทั้งหมดออกไป ท้ายที่สุดแล้วเขารดน้ำในพื้นดินด้วย ‘เลือด’ ของหมีระดับวิสามัญเมื่อวาน ผลไม้เจ็ดถึงแปดผลก็เกือบจะสุกหลังจากผ่านไปหนึ่งคืน

อย่างไรก็ตาม พวกมันไม่ได้เด็ดออกไปแม้แต่ลูกเดียว ในทางกลับกัน พวกมันกลับจับศพสัตว์ร้ายในถ้ำลิงแมนดริลและโยนศพลงไปที่หน้าผา

เอาเกวียนไปเทียมอยู่ข้างหน้าม้า?

(สำนวนที่แปลว่า ทำสิ่งต่างๆ สลับกัน การที่จัดวางหรือจัดทำสิ่งต่าง ๆ ผิดขั้นตอนหรือผิดกาละเทศะ)

ไม่ชัดเจนมากนัก แต่กล่าวได้เพียงว่าเป้าหมายของมนุษย์อินทรีคือศพของสัตว์ร้ายเหล่านั้น

“ดังนั้น เหตุผลที่ท่านให้หลี่ชิงนำทีมไปล่าสัตว์ร้ายก็เพราะการล่อพวกมันด้วยศพงั้นเหรอ?”

“มาลองดูกัน ฉันเดาเกี่ยวกับที่มาของมันได้ อย่างไรก็ตาม ฉันหวังว่ามันไม่ใช่อย่างที่ฉันคาดเดาไว้ ไม่อย่างนั้นหมู่บ้านของเราอาจจะต้องเดินตามรอยถิ่นฐานของมนุษย์ที่อื่น!”

จีเย่พยักหน้า