บทที่ 42 คุณเป็นภรรยาของผม

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

ทานข้าวเสร็จ ธราเทพไม่ได้รั้งณัฐณิชาให้อยู่

หลังเดินออกจากห้องทำงาน ฐิติกานต์ก็เสนอหน้ามาพาณัฐณิชาออกไป เพียงแต่ ครั้งนี้ณัฐณิชาได้ยินอย่างชัดเจน ว่าคนอื่นนินทาอะไรตัวเองบ้าง

“นี่คือภรรยาของท่านประธานในข่าวลือใช่ไหม ดูกิริยาท่าทางของเธอสิเหมือนกุลสตรีตระกูลใหญ่ตรงไหน……”

“นั่นสิ ท่านประธานตกหลุมรักเธอไปได้ยังไง”

“พวกคุณยังไม่ได้ดูนิตยสารวันนี้เหรอ เมื่อเช้าท่านประธานเดินช้อปปิ้งกับเธอด้วย ใส่ชุดนี้เลย!”

เหมือนว่าหลังจากได้ยินเสียงนินทาอื้ออึงของคนอื่น ฝีเท้าของณัฐณิชาจะช้าลง

เดินเข้าไปในลิฟต์ ขณะที่ประตูกำลังจะปิด ฐิติกานต์ได้เดินเข้ามา

ณัฐณิชาทักทายฐิติกานต์อย่างคล่องแคล่ว “เลขาฐิติกานต์ สวัสดีตอนเที่ยง”

“……สวัสดีตอนเที่ยงค่ะ” ฐิติกานต์ลังเลครู่หนึ่ง จนสุดท้ายก็ยิ้มเล็กน้อยอย่างมืออาชีพ “คุณหญิงณิชา คุณอย่าใส่ใจคำวิจารณ์เมื่อครู่เกินไปนะคะ ท่านประธานยังหนุ่มและมีเสน่ห์ เพื่อนร่วมงานหญิงในบริษัทย่อมใฝ่ฝันในตัวเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตอนนี้ถูกดับฝันแล้ว จึงทำให้คุณตกเป็นเป้าหมายในการโจมตี”

คำพูดนี้มีเหตุมีผล

เพราะถึงอย่างไร ธราเทพไม่เพียงแต่เป็นหนุ่มโสดในฝันอันดับหนึ่งของเมืองS แต่ยังควบคุมทิศทางเศรษฐกิจของเมืองด้วย ผู้ชายที่เพอร์เฟคแบบนี้ ถ้าไม่มีใครได้ไปในใจทุกคนก็ยังรักษาสมดุลไว้ได้

ตอนนี้ถูกกุ้งตัวจ้อยอย่างเธอที่จู่ๆ ก็โผล่มาโฉบเอาไป พวกเธอไม่โกรธจนตายสิแปลก

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นเลขาฐิติกานต์คุณก็ชอบท่านประธานธราเทพด้วยใช่ไหม”

“คะ? เอ่อ……” ฐิติกานต์ไม่คาดคิดว่าทำไมจู่ๆ ณัฐณิชาถึงพูดแบบนี้ จึงรีบอธิบาย “ท่านประธานธราเทพเพอร์เฟคขนาดนั้น เราเป็นลูกน้อง ก็ชื่นชมเขาเป็นปกติค่ะ แต่เราแค่ชื่นชมเขาในแง่ของงาน เพื่อเรียนรู้จากเขาเท่านั้นค่ะ”

ณัฐณิชายิ้ม ไม่ได้พูดอะไรอีก

ต่างเป็นผู้หญิงด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก แค่มองตาฐิติกานต์ ก็รู้ว่าเธอเป็นคนหนึ่งที่ใฝ่ฝันในตัวธราเทพ

แต่ที่ณัฐณิชาจงใจพูดจุดนี้ออกมา คืออยากให้อีกฝ่ายรู้ ว่าอย่าเล่นอุบายที่ไร้ประโยชน์พวกนั้น คนอย่างเธอณัฐณิชาแม้จะดูเหมือนคนที่รังแกได้ง่าย แต่ก็ไม่ใช่คนใจดี

แน่นอนว่าในใจฐิติกานต์เกิดความร้อนรน เพราะความจริงที่ว่าณัฐณิชาเป็นนายหญิงท่านประธาน ถ้าไปพูดอะไรต่อหน้าท่านประธานธราเทพ ตนก็จบเห่

ในขณะนั้นเอง พลันเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว!

“ณัฐณิชาเธอมันผู้หญิงชั้นต่ำ”

ณัฐณิชายังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ได้ยินเพียงเสียงดัง “เพียะ” หนึ่งตบรวดเร็วบนใบหน้าของณัฐณิชา

หน้าร้อนขึ้นทันที เสียงสูดหายใจดังขึ้นโดยรอบ

“นายหญิง……”

ฐิติกานต์มองไปยังผู้หญิงบ้าที่อยู่ข้างหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ แต่กลับเห็นณัฐณิชาโบกมือ มุมปากยกยิ้มเย็นชา “ฉันจัดการเอง”

ณัฐณิชากุมใบหน้า มันต้องบวมแน่ๆ

เธอแค่ขยับ ก็รู้สึกว่าผิวหนังตึงจนเจ็บ

ลงมือโหดเหี้ยมจริงนะ

“ภัทริน แย่งแฟนคนอื่นไปแล้ว ตอนนี้ยังจะทำตัวเป็นคนชั่วมาฟ้องร้องก่อนเพื่อกลบเกลื่อนความจริงอีกเหรอ ใครให้ความกล้าเธอ!” ณัฐณิชาไม่ได้อยากสร้างปัญหาจนดูแย่ให้กับประธานแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ป แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่ใครก็รังแกได้นะ!

ตอนนี้ภัทรินขึ้นมารังแกตนถึงบนหัว เธอไม่มีเหตุผลที่จะยอมให้รังแก

“เธอ……เธอมันคนชั้นต่ำ……วันนั้นต้องยั่วยวนรเณศแน่นอน เขาไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว เธอมันเป็นอีตัว!”

ภัทรินตาแดงอย่างคับข้องใจ หยิบยกถ้อยคำไม่น่าฟังมาพูดโดยเฉพาะ