บทที่ 206 ยังห่างชั้นกับหัวหน้าแผนกอยู่นิดหน่อย (1)

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

บทที่ 206 ยังห่างชั้นกับหัวหน้าแผนกอยู่นิดหน่อย (1)

วันจันทร์ ทุกคนก็มาพร้อมหน้ากันที่ห้องตรวจ ทั้งพานเซี่ยงเหนียน แพทย์ในแผนก และนักศึกษาแพทย์อีกรวมๆ เกือบยี่สิบคน ทำเอาผู้คนตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง

พานเซี่ยงเหนียนเดินเข้าไปตรวจดูอาการของผู้ป่วยทีละเคส ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาต้องประหลาดใจก็คือผู้ป่วยทุกคนมีอาการดีขึ้นเยอะกว่าที่คิดไว้มาก

ยิ่งเคสที่เป็นริดสีดวงระยะสามก็ยิ่งมีอาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้พานเซี่ยงเหนียนแปลกใจเข้าไปใหญ่

เขาทำงานในแผนกทวารหนักมาเกือบสามสิบปี เคยเข้าร่วมการประชุมระดับนานาชาติทั้งเล็กและใหญ่มานับไม่ถ้วน ทั้งยังเคยได้ยินเกี่ยวกับโรคหายากและเคสแปลกๆ มามาก จนกล่าวได้ว่าเขาแทบจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างๆ แล้ว ซึ่งแต่ละบุคคลก็ย่อมมีระยะการฟื้นตัวที่ต่างกันไป แต่ก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก

ทว่าผู้ป่วยในวอร์ดกว่าสามสิบเคสกลับมีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ นี่หมายความว่าอย่างไรกัน

ปกติแล้วผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นภายในระยะเวลาสองสัปดาห์ ระยะเวลาฟื้นตัวเพียงหนึ่งสัปดาห์จึงค่อนข้างน่าเป็นห่วงพอสมควร

หรือว่าวันชาติจะช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น

ไม่ใช่น่า!

ช่วงวันหยุดมีผู้ป่วยไม่มากนัก หลังจากที่ตรวจเสร็จแล้วพานเซี่ยงเหนียนก็กลับมานั่งขมวดคิ้วด้วยความงงงวย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วจึงเรียกทุกคนเข้ามาประชุม

เมื่อทุกคนมาถึง พานเซี่ยงเหนียนก็ชิงถามขึ้นก่อน “ผมได้เห็นการฟื้นตัวของผู้ป่วยแล้ว มันเร็วกว่าที่ผมคิดไว้มาก พวกคุณมีวิธีการรักษาหรือยาตัวใหม่เหรอครับ”

ทุกคนส่ายหน้าไปมา มีเพียงซ่งเจี๋ยที่ตอบคำถามนั้น วิธีรักษาของเราไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมเลยครับ…ทุกอย่างเป็นไปตามแนวทางที่วางไว้เลย”

พานเซี่ยงเหนียนขมวดคิ้ว “แล้วทำไมครั้งนี้ผู้ป่วยถึงฟื้นตัวเร็วขนาดนี้ล่ะ ไม่ต่างจากเมื่อก่อนจริงเหรอ”

ทุกคนเงียบไปสักพักหนึ่ง ก่อนที่ซ่งเจี๋ยจะเอ่ยขึ้นมา “ถ้าจะบอกว่ามีอะไรต่างไป…ก็คงต่างแค่ว่าไป๋เยี่ยเป็นคนดูแลเคสเหล่านี้แหละครับ นี่อาจจะเป็นสาเหตุก็ได้”

คำพูดของซ่งเจี๋ยทำให้ทุกคนใจเต้นระรัว!

ไม่มีทาง ทุกคนจึงเริ่มคิดว่าวิธีการล้างแผลอาจจะเป็นสาเหตุก็ได้

เพราะนอกเหนือจากเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรแตกต่างจากเมื่อก่อนเลย

ทุกคนจึงเบนความสนใจไปที่ไป๋เยี่ย พานเซี่ยงเหนียนจึงถามต่อด้วยความสงสัย “ไป๋เยี่ย คุณใช้ยาอะไรล้างแผลหรือเปล่า”

ไป๋เยี่ยส่ายหัว “ผมใช้แค่ของที่อยู่ในชุดล้างแผลครับ ไม่ได้ใช้อย่างอื่นเลย”

พานเซี่ยงเหนียนครุ่นคิด เขาจำได้ว่าก่อนช่วงวันหยุด เคสที่มีไป๋เยี่ยคอยล้างแผลให้จะมีอาการดีขึ้นเร็วกว่าเคสของคนอื่นๆ หรือว่าจะเป็นเพราะวิธีการล้างแผลของไป๋เยี่ยจริงๆ

หรือว่าเขาจะมีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาก่อน

พานเซี่ยงเหนียนคิดได้ดังนั้นก็พูดต่อ “งั้นคุณช่วยบอกทุกคนเกี่ยวกับวิธีล้างแผลของคุณให้ทุกคนฟังหน่อยได้ไหม”ดฮณ๊ฯดฯฌซ,

ไป๋เยี่ยพยักหน้า “ได้ครับ ไม่มีปัญหา”

จู่ๆ ซ่งเจี๋ยก็แทรกขึ้นมา “หัวหน้าครับ ทำไมไม่ลองให้ไป๋เยี่ยอธิบายให้ฟังตอนล้างแผลเลยล่ะครับ ผมยังมีเคสที่ต้องไปล้างแผลให้อยู่นะ”

พานเซี่ยงเหนียนได้ฟังก็พยักหน้ารับ “ไปติดต่อผู้ป่วยให้ผมที”

ห้องตรวจมีขนาดไม่ใหญ่นัก ทว่าตอนนี้ภายในห้องกลับอัดแน่นไปด้วยผู้คนราวๆ เจ็ดถึงแปดคน ไม่ว่าจะเป็นพานเซี่ยงเหนียนหรือแพทย์คนอื่นๆ ก็ตาม ผู้ป่วยที่ต้องมาล้างแผลก็คือผู้ป่วยเคสริดสีดวงระยะที่สามที่ไป๋เยี่ยเคยไปเข้าร่วมการผ่าตัดด้วยนั่นเอง

เมื่อเห็นว่าในห้องมีคนอยู่มาก ชายคนนั้นก็ถอดกางเกงออกอย่างเก้ๆ กังๆ แล้วจึงพยายามจัดท่าทางให้เห็นบาดแผลชัดเจน

ไป๋เยี่ยล้างแผลไปพลางอธิบายเสริม

“ผมให้ความสนใจกับขั้นตอนการล้างแผลมากขึ้นครับ ประการแรกคือต้องฆ่าเชื้อและทำความสะอาดรอบแผล ผมจะเน้นไปที่สองอย่าง คือน้ำเกลือและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ น้ำเกลือที่มีความเข้มข้นต่างกันก็จะให้ผลที่แตกต่างกันไปด้วยครับ แล้วก็…”

มือของไป๋เยี่ยนิ่งเสียจนการอธิบายไปด้วยไม่กระทบการล้างแผลเลย

“ประการที่สองคือการสัมผัสบาดแผล พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยไม่จำเป็นนะครับ เพราะความเจ็บปวดอาจจะสร้างความกังวลให้ผู้ป่วยมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการฟื้นตัวแน่นอน…”

“ประการสุดท้ายก็คือการปิดแผลครับ ช่วงก่อนหน้านี้ผมได้ลองศึกษาพลาสเตอร์ชนิดที่เหมาะกับการใช้บริเวณทวารหนักดู แล้วพบว่าหากมีวัสดุที่มีคุณสมบัติในการดูดซับสารคัดหลั่งได้…แผลก็จะหายเร็วขึ้นครับ”

พูดจบไป๋เยี่ยก็ล้างแผลเสร็จพอดี ชายคนนั้นก็ลุกขึ้นมากล่าวขอบคุณไป๋เยี่ยทันที “ขอบคุณครับหมอไป๋”

พานเซี่ยงเหนียนถือโอกาสนี้ถามผู้ป่วยทันที “ตอนที่ไป๋เยี่ยล้างแผลให้ คุณรู้สึกอย่างไรบ้างครับ”

ชายคนนั้นชะงักไปเพราะไม่คิดว่าตนจะต้องมาตอบคำถาม เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกไปตามตรง “มันรู้สึกชาๆ เจ็บแปลบๆ แต่ก็ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นครับ ผมเคยเป็นริดสีดวงมาก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้รู้สึกว่าจะหายเร็วกว่าครั้งก่อนอีกครับ”

ชายคนนั้นพูดจบก็รีบออกไปทันที ไป๋เยี่ยไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม ได้แต่อธิบายถึงอาการของแต่ละเคส เพราะถ้าจะให้เขามานั่งอธิบายเรื่องล้างแผลอีกก็คงต้องใช้เวลาสักพัก

จากนั้น พานเซี่ยงเหนียนก็เรียกไป๋เยี่ยไปที่ห้องทำงาน

พานเซี่ยงเหนียนมองไป๋เยี่ยด้วยสายตาคาดหวัง “ไป๋เยี่ย คุณรู้ไหมว่าจุดประสงค์หลักของการประชุมประจำปีคืออะไร”

ไป๋เยี่ยคิดก่อนแล้วจึงตอบออกไป “ก็คงเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการหลายคนมาบรรยายเรื่องการพัฒนานวัตกรรมสำหรับสาขานี้มั้งครับ”

พานเซี่ยงเหนียนพยักหน้า “การประชุมระดับนานาชาติของแผนกทวารหนักเป็นการประชุมประจำปีที่จัดขึ้นโดยสาขาโรคทางทวารหนักของสมาคมศัลยแพทย์นานาชาติ ผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมทั้งหมดล้วนเป็นสมาชิกของสมาคม สมาชิกแต่ละคนจะต้องขึ้นไปพูดบรรยายถึงสิ่งใหม่ๆ ด้วยนะ”

“ที่นั่นจะมีการกำหนดแนวทางการรักษาโรคทางทวารหนักฉบับล่าสุดด้วย ก็พูดได้ว่าเป็นงานที่น่าเชื่อถือมากที่สุดของสาขาเรานั่นแหละ ทั้งวิธีการรักษาและยาที่เห็นในปัจจุบันต่างก็ต้องได้รับการอนุมัติในการประชุมครั้งนี้ก่อนถึงจะได้เผยแพร่ออกไป”

“ก็เหมือนกับตอนที่เสนอการผ่าตัดแบบพีพีเอชนั่นแหละ มันถูกเสนอขึ้นในการประชุมที่ลอนดอนเมื่อปี 2010 เพราะฉะนั้นแล้ว คุณเข้าใจถึงความสำคัญของงานนี้หรือยัง”

แววตาของไป๋เยี่ยเป็นประกายขึ้นมาทันที!

ถ้าไป๋เยี่ยโปรโมทโฟมไฮโดรคอลลอยด์และสเปรย์ลิโดเคนสูตรใหม่ในงานนี้ได้ ก็คงจินตนาการได้เลยว่ามันจะเป็นที่แพร่หลายมากแค่ไหน!

ลองคิดดูสิ ผลิตภัณฑ์ของเขาสอดคล้องกับแนวทางการรักษาโรคทางทวารหนัก อีกทั้งวิธีการผ่าตัดที่ใช้กันก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในปัจจุบัน ทั้งเครื่องมือทั้งวิธีการต่างเป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพต่อการรักษาโรคมากที่สุดในปัจจุบัน ทำไมจะไม่เป็นที่นิยมล่ะ

ไป๋เยี่ยมองว่านี่คือโอกาสของเขา ช่วงนี้เขาจึงพยายามค้นคว้าเรื่องสเปรย์ลิโดเคนและโฟมไฮโดรคอลลอยด์ วิธีการผลิตของพวกนี้ทำได้ง่ายมาก ไม่จำเป็นจะต้องใช้นวัตกรรมล้ำยุคอะไรเลย

พานเซี่ยงเหนียนแนะนำการประชุมครั้งนี้ให้ไป๋เยี่ยฟังจบก็พูดต่อ “ผมเป็นผู้บริหารประจำประเทศจีนของสาขาโรคทางทวารหนักของสมาคมศัลยแพทย์นานาชาติ ผมต้องนำประเด็นขึ้นไปเสนอด้วย เลยมีความคิดที่จะนำวิธีการล้างแผลของคุณขึ้นไปพูดน่ะ แต่คนที่พูดไม่ใช่ผมหรอกนะ ต้องเป็นคุณ”

ไป๋เยี่ยงุนงง “ผมเหรอ”

พานเซี่ยงเหนียนพยักหน้า “ใช่ คุณต้องพูด นี่เป็นโอกาสนะ ช่วงนี้คุณก็ลองวางแผนเกี่ยวกับแนวทางการล้างแผลไปก่อน แพทย์แผนกเนื้อเยื่อจะเป็นคนทดลองต่อเอง ผมต้องการข้อมูลที่จะพิสูจน์ได้ว่าวิธีการล้างแผลของคุณมีประสิทธิภาพมาแค่ไหน ส่วนคุณก็ไปเตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน”

“ถ้ามันถูกนำไปเขียนเป็นแนวทางการรักษาโรคทางทวารหนักจริงๆ เกียรติยศนี้…จะไม่ใช่เพียงเกียรติยศของคุณเท่านั้น แต่ยังนำมาซึ่งการเลื่อนขั้นสถานะของแผนกทวารหนักของโรงพยาบาลผู่เจ๋ออีกด้วย”