ตอนที่ 200 เรื่องที่จบไปแล้ว

ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi

200 เรื่องที่จบไปแล้ว

ในความร้อนที่ยังกดขี่ของกลางวัน ในท่วงทำนองของรองเท้าบูทเหล็กกระทืบดำเนินต่อไปอย่างไม่จบไม่สิ้น

ผมนั่งอยู่บนชวาร์ซ กำลังมองดูการรวมตัวกันของทหารที่ผ่านไปข้างหน้าผม

อิริจิน่าและซีเลีย ผู้ยืนพร้อมบนทั้งสองฝั่งของผมอยู่นิ่งอย่างไร้การเคลื่อนไหว

「ทุกนาย หยุด! หันหน้าไปทางขวา ขวาาาาาหั้น!!」

ขาของทหารหยุดอยู่กับที่ มี่เสียงเหล็กกระทบดังชัดเจนและแถวต่อสู้หันมาพร้อมกันทันที

โดยไม่ล่าช้า เสียงเครื่องดนตรีเขาเป่าออกมาพร้อมเสียงฆ้องและเสียงตีกลองซ้ำๆ

ทหารยกดาบและโล่ทันทีพร้อมกับจังหวะอันมั่นคง

นี่ไม่ใช่การให้กำลังใจแบบไม่สงวนตัวทำเพื่อทำให้มีใจมุ่งต่อสู้ มันเป็นระเบียบมากกว่า……และเป็นการทำเพื่อพิธีการ

「ทำความเคารพฮาร์ดเลตต์ซาม้า!」

ทหารหันหน้าหาผมพร้อมกันและทำความเคารพร้อมกัน

ผมตอบโดยการยกดาบ ทำให้แน่ใจว่าแสดงออกให้เห็นว่าผมนั้นคิดว่าทั้งหมดนี้นั้นมีปัญหามากแค่ไหน

「ขวาหั้น!」

ทหารหันไปอีกครั้งและเดินทัพต่อพร้อมดาบและโล่ค้างไว้สูง

การเดินทัพอันเป็นระเบียบของพวกเขาทำให้ผมชื่นชมจริงๆว่าพวกเขาฝึกมาดีกันแค่ไหน แต่สวนสนามนี้ไม่ได้มีความสำคัญทางกองทัพ

「ลีโอโพลต์นั้น เขาโดด」

「มันช่วยไม่ได้ นี่เป็นแค่เป็นพิธี เพราะทั้งหมด…… ถ้าไม่มีลีโอโพลต์ซัง มันจะเป็นอุปสรรคต่อทางกองทัพ」

แม้แต่ซีเลียที่น่ารักยังอยู่ฝั่งเขา

แผลเป็นในท้องของผมและด้านข้างที่ก่อโดยอาวุธขึ้นสนิมนั้นตื้น แต่พวกมันเจ็บ และที่สำคัญมากกว่านั้นผมถูกห้ามโดยหมอไม่ให้ดื่มเหล้าไหนๆเลย

นี่ต้องเป็นอะไรที่เขาเรียกว่าซ้ำคนเจ็บ

โอ้ใช้ ครอลให้หมอดูเขา แต่ผมไม่รู้ว่าเพื่ออะไร

「พิธีสำหรับวิญญาณที่พักผ่อน หือ…… เราจำเป็นต้องทำบางอย่างแบบนี้จริงๆเหรอ?」

ไมล่าตอบนั้นด้วยการถอนหายใจและบ่น

「ชาวบ้านใกล้ราเฟนโดยเฉพาะคนเหล่านั้นที่ใช้ชีวิตอยู่นอกเมือง เขากังวลและขอมัน ……หนูโทษพวกเขาไม่ได้ เพราะทั้งหมดศพหลายร้อยลุกขึ้นมาจากความตาย」

「แต่เรากำจัดผู้ก่อเหตุแล้วดังนั้นมันควรจะไม่เป็นไร」

เหตุการนี้ต่างจากเหล่าซอมบี้เกิดปรกติ

ลิชนั้นใช้บางวิธีเพื่อชุบชีวิตผู้ตายและควบคุมพวกเขา แต่เรากำจัดเจ้าอะไรนั่นแล้วดังนั้นเราไม่ควรมีอะไรต้องกังวลแล้วตอนนี้

ด้วยเจ้านั่นที่ถูกกำจัด เหล่าซอมบี้ทั้งหมดตอนนี้กลับไปสภาพไม่เคลื่อนไหวในฐานะแค่ศพ

「แม้อย่างนั้น ความกังวลของพวกเขาไม่หายไป ไม่ใช่มันดีกว่าเหรือถ้าเราจัดเทศกาลแบบนี้เพื่อให้พวกเขาสบายใจ?」

พิธีถูกจัด ณ นาทีนี้ก็สำหรับเหตุผลนั้นและก็สำหรับทหารจำนวนมากผู้ตายไม่นานนี้ด้วยเหมือนกัน การเดินทัพอันสง่างามและเสียงดนตรีปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายและนำวิญญาณสู่โลกอื่น…… หรือผมถูกบอกมาอย่างนั้น

ผมไม่มีปัญหาอะไรเป็นพิเศษกับตัวพิธีเอง

ผมไม่ถือค่าใช้จ่ายที่มาพร้อมพิธีด้วยเหมือนกัน

「ที่พี่จะบ่นน่ะคือทำไมพี่ต้องมายืนตรงกลางความร้อนโง่ๆนี้ด้วย」

ชวาร์ซร้องเพื่อแสดงความไม่พอใจของเขาด้วยเหมือนกัน

ตั้งแต่แรก นายเป็นตัวที่ดำทั้งตัวและทำให้ฉันร้อนอย่างไม่จำเป็น

ทำไมไม่เอาความรู้สึกฉันไปพิจารณาและเปลี่ยนเป็นสีขาวเล่า?

ไม่ต้องพูดถึง เจ้านี่สนุกกับผู้หญิงคนหนึ่งไม่นานนี้ด้วย

ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เขามีโอกาส เขาเรียงแถวม้าตัวเมียและ(เซ็นเซอร์)ตัวโปรดของเขาผู้เขาทำให้ตกหลุมรักและตอนนี้ดูแลในเรื่องนั้น (เซ็นเซอร์) และดื่มดำตัวเองกับ (เซ็นเซอร์)

รูผู้หญิงคนนั้นได้เปลี่ยนเป็นดำและกลีบช่องคลอดของเธอยืดออกมาด้วย มากจนนั้นพวกพวกมัถูกเห็นได้ว่าห้อยโตงเตงแม้ว่าเมื่อเธอยืน…… จิ๊ของเธอบานจนกว่ามันจะอ้าค้างเพื่อรับขนาด(เซ็นเซอร์)

ด้วยที่อวัยวะเพศเธอเป็นอยู่ตอนนี้ เธอพอใจกับคู่มนุษย์ไม่ได้อีกแล้ว…… แต่ว่าเธอรัก(เซ็นเซอร์)อย่างบ้าคลั่ง ดังนั้นมันไม่ใช่ปัญหาจริงๆ

「ช่างเป็นคนถูกเอาแต่ใจจริงๆเจ้าเวร ฉันจะดึงขนหลังนาย」

ชวาร์ซหันหัวเขามาทางผมดั่งกำลังบอกผมให้หยุด

「ได้โปรดหยุดกับการคุยไม่สร้างสรรค์ การที่มีลอร์ดฮาร์ดเลตต์อยู่ที่นี่ พลเมืองและทหารรู้สึกปลอดภัยด้วยเหมือนกัน หนูเชื่อว่ามันเป็นงานสำคัญในฐานะลอร์ดศักดินา」

ตอนนี้เมื่อผมมองดู ทหารกำลังล้อมบริเวณรอบนอก กำลังมองดูพลเมืองขณะพวกเขาเดินทัพและเล่นเครื่องดนตรี

มันจริง ผู้คนดูโล่งใจมากกว่ากับกองทัพหน้าเขา

「มันจะได้เวลาสำหรับเดี่ยวดนตรีดังแล้ว」

ผมเดาว่าผมจะตามๆไปกับอะไรก็ตามต่อไป

「อา แค่เตรียมอะไรต้องนายต้องการ…………」

「ทริสตัน ได้โปรดทำที่ฉันขอให้จริงจัง」

ไม่ล่าจ้องทริสตัน ผู้ออกคำสั่งในน้ำเสียงไม่อยากทำ

「หน่วยปืนใหญ่……ยิง」

พลเมืองกรี๊ดนิดหน่อยเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงดังดั่งสายฟ้า

ควันขาวพวยพุ่งออกจากแถวปืนใหญ่ที่เรียงรายกัน

「โว่ว เธอจะยิงปืนใหญ่ในที่แบบนี้เหรอ!?」

มันอันตรายบวกกับปากกระบอกปืนใหญ่จะระเบิดทันที

「ไม่จำเป็นต้องกังวล จำนวนดินปืนถูกลดลงและไม่ได้ใส่ลูกปืนใหญ่ เสียงอาจทำพลเมืองตกใจ แต่มันควรทำหน้าที่เป็นการแสดงความแข็งแกร่ง」

เหมือนที่ไมล่าพูดทุกอย่าง พลเมืองที่รวมตัวกันของเมืองต้องอยู่ในความตกใจและสับสนกับว่าอะไรคือเสียงแปลกนั้น แต่ในท้ายที่สุดเสียงการโห่ร้องยินดีเริ่มดังขึ้นอย่างกระจัดกระจาย

การยิงอาจเพื่อให้กำลังใจพวกเขา

「เอเกอร์ซามะ ตอนนี้มันได้เวลาพี่คุยกับทุกคน」

ซีเลียยังคงกล้าแข็งและติดใกล้กับไมล่า

ไม่มีทางเลือก ผมจะทำๆนี่ให้จบ

ผมยกแอ่งคู่ในท้องฟ้าและเรียกออกไปสู่ทหารและพลเมือง

ดาบนั้นงดงามด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว แต่กลายเป็นเหมือนอัญมณีส่องสว่างขณะมันสะท้อนเส้นแสงตะวัน

「ฟังฉัน ทุกคน! จริงๆมีเหตุการแปลกกับผีดิบ เหตุสำหรับความเละเทะนั้นคือวิญญาณชั่วร้ายผู้สร้างรังในสุสานบุคคล…… อย่างไรก็ตาม ฉันได้กำจัดภัยไปแล้วดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวล แม้ว่ามีปัญหาใหญ่ๆมาในอนาคต กองทัพจะเดินทัพและกำจัดพวกมัน ดังนั้น ได้โปรดมั่นใจ」

นั้นดีที่สุดที่ผมทำได้ ผมน่าจะทำให้อะไรๆแย่หนักขึ้นโดยพูดมากไป

「ถ้าลอร์ดศักดินาว่าอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้น…… 」

「เธอได้ยินเสียงดังนั้นแล้วนี่ ไม่ใช่เหรอ? มันจะเป่าผีดิบไปไกลๆ」

「ดูเหมือนลอร์ดศักดินาซามะกำจัดผู้ก่อเหตุหลักด้วย」

「จากข่าวลือ ผีตัวนั้นถูกตีล้มด้วยเจี๊ยว」

「นั่นไม่ใช่หรอก ฉันได้ยินมาว่าผีถูกแทงด้วยเจี๊ยว」

「ถ้ามันเป็นลอร์ดศักดินาซามะนั่นอาจเป็นไปได้จริงๆ ฉันได้ยินมาว่ามันยาวเท่าเขายืนถ้าเขาเอาจริง」

เหล่าทหารและพลเมืองหันหน้าหาผมและส่งเสียงโห่ร้องดีใจ ด้วยทุกคนที่ดูเหมือนพอใจกับคำอธิบายของผม

ผมดีใจที่พวกเขาเข้าใจ แม้ว่าผมไม่แน่ใจส่วนหลังนั้นอะไร ซีเลียเป็นผู้แพร่ข่าวลือเหล่านั้นหรือ?

「มันคือลีโอโพล์ซังและอดอล์ฟผู้บอกให้แพร่ข่าวลือเหล่านั้นเพื่อที่ผู้คนจะได้รู้สึกมั่นใจ! ไมล่าซังก็เห็นด้วยกับพวกเขา! แต่ใช้เจี๊ยวมัน…… หนูไม่มีคำพูด」

「แค่เมื่อมันไม่มีข่าวลือแปลกเวียนอยู่ทั่วไม่นานมานี้」

คนลามกแบบไหนจะใช้เจี๊ยวเขาเพื่อกำจัดผี?

ผมเพียงแค่บีบมันแน่นๆและกระแทกมันสู่พื้น

「แต่นั่นก็แปลกด้วยนะ」

ผมหยิกแก้มซีเลียเบาๆเพื่อทำให้เธอเชื่อฟัง

「ฮ่ะก๊า ฮ่ะก๊า…… ได้โปรดหยุด! อ๊ะ ท่านแม้แต่ลูบก้นหนูด้วย!」

ผมหันความสนใจมองดูส่วนหนึ่งของพิธีแสดงตัวเด่นเพื่อได้เห็นหน่วยช่างเดินอยู่รอบในมุมสุสาน

「พวกเขาจะสร้างอะไรที่นั่น?」

「อดอล์ฟซังบอกท่าน ไม่ใช่เหรอ? มันเป็นโรงเผาศพ…… เห็นว่า คนเหล่านั้นผู้ถูกสงสัยว่าจะเปลี่ยนเป็นพวกไร้ชีวิตหรือติดเชื้อด้วยโรคระบาดบางอย่างจะถูกเผาก่อนพวกเขาถูกฝัง」

ถ้าอย่างนั้นศพจะถูกโยนเข้าไปในไฟ

「ปรกติแล้ว พลเมืองจะพูดว่ามันค่อนข้างเศร้าที่เห็นร่างถูกเผาแบบนั้น แต่ตอนนี้พวกเขาค่อนข้างรับได้ ไกลจากความคิดที่ว่ามันเป็นความคิดไม่ดี พวกเขาถูกช่วยไม่เสียค่าใช้จ่าย」

มันแน่นอนว่า ศพจะไม่ถูกเปลี่ยนเป็นผีดิบหรือโครงกระดูกถ้าคนหนึ่งเผาพวกเขา

ระหว่างเวลาสงคราม เราก็รวมร่างจำนวนมากและเผาพวกมันเพื่อไม่ให้พวกเขากลายเป็นพวกไร้ชีวิตด้วยเหมือนกัน

ถ้าอย่างนั้นมันก็ช่วยเลี่ยงการแพร่ระบาดของโรคด้วยหือ

「พี่ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าฉลาดหรือร้ายดีที่ใช้ความกลัวพวกไร้ชีวิตของพลเมืองแบบนั้น」

แต่บางทีคนหนึ่งต้องคิดแบบนี้เมื่อคนนั้นอยากเป็นเจ้าหน้าที่กิจการภายใน

 

 

「มาดูกัน นั่นควรเป็นจุดจบทุกอย่างเกี่ยวข้องกับสาธารณะ ถ้าอย่างนั้น มันเป็นยังไงบ้างล่ะ?」

หลังจากอยู่จนพิธีจบ เรากลับมาสู่ห้องทำงานคฤหาสน์ของเรา

เพราะทั้งหมดการคุยนี้ไม่ใช่บางอย่างที่ทำหน้าทหารและพลเมือง

พิธีทั้งหมดถูกจัดจนถึงตอนนี้นั้นเพื่อให้ผู้คนมั่นใจและไกลเรื่องอะไรนี้ด้วยเหตุผลหนึ่ง

ประเด็นที่สำคัญกว่านั้นในมือคือใต้ดินใต้ท้องสุสานบุคคล…… หรือถ้าพูดให้เฉพาะเจาะจง การสืบที่ซึ่งเป็นต้นทางของปัญหาเรา, ลิช, ว่ามาจากไหน

ผมอยากเข้าร่วมด้วยเหมือนกัน แต่ผมถูกหยุดโดยมีพื้นฐานจากอาการบาดเจ็บของผม

หน้าซีเลียตึงเครียดเคืองโกรธ

เธอน่ารัก แม้ว่าผมคิดว่าเธอจะไม่ชอบใจถ้าผมลูบตูดเธอตอนนี้

「สมาชิก 10 คนถูกเลือกจากหน่วยติดตามคุ้มกันเพื่อสืบสวน พวกเขาพบโครงกระดูกมากมาย แต่กำจัดพวกมันโดยไม่มีปัญหา ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ…… ขออภัย คริสตอฟสะดุดล้มสลบไป」

「ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือ ฉันมั่นใจว่าแค่โครงกระดูกจะไม่สามารถทำร้ายหน่วยติดตามคุ้มกันอาวุธหนัก ถ้าอย่างนั้น เจออะไรอย่างอื่นมั้ย?」

「มีโลงศพถูกค้นพบพร้อมโซ่รัดอยู่รอบมัน พวกเขาพยายามเปิดเพื่อดูข้างใน แต่ปรากฏว่ามันถูกหลอมและเป็นมากกว่าโลงหิน…… ดังนั้นพวกเขาบอกไม่ได้ว่ามีกระดูกหรืออะไรอื่นอยู่ข้างในไหม」

「……เข้าใจแล้ว」

ผนึกคนตายและเทตะกั่วเข้าไปไม่ปรกติเลยซักนิด

โลงนั้นอาจเป็นผู้ก่อเหตุหลัก

ถ้าเป็นแบบนั้น ผมแน่ใจว่าผมผ่าคนนั้นขาดครึ่งและดับวิญญาณเขาด้วยแอ่งคู่ของผมแล้ว

ร่างไม่ควรสำคัญอีกต่อไป

「แล้วก็มีหนังสือนี้ หรือเป็นอนุทิน จากที่หนูเห็นได้ มันดูเหมือนค่อนข้างเก่าและหลุดเป็นชิ้นๆที่นั่นที่นี่…… และมีการเขียนสื่อเข้าใจยากที่เราไม่ได้ใช้วันนี้อยู่ ดังนั้นเราหาข้อมูลใดๆมาจากมันไม่ได้」

อนุทินซึ่งซีเลียนำออกมาจากผ้าที่มันห่อหุ้มอยู่ดูโบราณและเสียหายถึงจุดที่ว่าการจับไม่ดีใดๆจะทำให้มันแตกสลาย

「มันถูกทิ้งไว้เหนือโลงที่เพิ่งบอก หนูไม่คิดว่ามันอะไรสำคัญ」

「พี่สงสัยเกี่ยวกับนั่น」

หนังสืออาจทำให้อะไรๆชัดเจนเกี่ยวกับชีวิตที่คนนั้นมีเมื่อมีชีวิตอยู่ ผมเคยได้ยินว่าลิชคือเมื่อผู้ร่ายเวทย์ทรงพลังที่เปลี่ยนเป็นผีหลังจากตาย

คนที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์เป็นคนอย่างไร, คนนั้นใช้ชีวิตอย่างไร, และคนนั้นตายอย่างไรและแม้แต่เหตุผลว่าทำไมคนนั้นเปลี่ยนเป็นภูติผีปีศาจอาจหาได้จากหนังสือนั้น

「แต่นั่นน่าจะไร้ความหมายด้วย」

ผมจิบชาและพักศอกบนโต๊ะ

คนนั้นจบสิ้นไปแล้วในฐานะคน

ทันทีเมื่อบุคคลตาย มันไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ลิชนั้นแค่สัตว์ประหลาดอีกตัว ไม่มีอะไรมากไปกว่าของเหลือจากชีวิต

ไม่มีจุดหมายแม้ว่าเราขุดหาชีวิตเขาใดๆมากกว่านี้

คนตายแค่กลับไปสู่การเป็นคนตายและเปลี่ยนสู่เถ้าถ่าน

ปรกติแล้วผมจะทำตัวบังหน้าและมองออกไปทางหน้าต่าง

(เยยยย้ เยยยย้ ขนมวันนี้เป็นพายฟักทองของโปรด~)

เคซี่กำลังลอยเบาๆมาทางนี้

「……เพราะทั้งหมดมีคนบางคนผู้มีความสุขกับชีวิตแม้หลังความตาย บางทีพี่จะดูหน่อยละกัน」

「พี่คิดเกี่ยวกับอะไร?  อย่างโชคร้าย หนูไม่เข้าใจอะไรสักอย่างในนั้นด้วยเหมือนกัน……」

ถ้าซีเลียอ่านมันไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นคนส่วนใหญ่ก็น่าจะไม่ได้ด้วย

ซึ่งปล่อยให้ผมเหลือแค่คนเดียวเท่านั้น

เขาควรกลับไปแล้วตอนนี้ที่เก็บกวาดพิธีเสร็จแล้ว

 

 

「ฮ่าา…… ท่านอยากให้ผมอ่านอะไรยับเยินนี้เหรอ……?」

「ใช่ มันไม่เหมือนว่าฉันขอให้นายแกะภาษาทั้งหมด มันไม่เป็นไรตราบใดที่นายได้ความหมายบางอย่างมาจากมัน」

「อืมมันยังเป็นหนังสือ อนุทินเก่าอย่างไม่จำเป็นนี้…… ผมแน่ใจไม่ว่าอะไรที่เขียนอยู่ข้างในจะไม่แม้แต่น่าสนใจขนาดนั้นหรอก แต่ถ้าท่านขอให้ผมทำงานที่ผมถูกจ่าย ถ้าอย่างนั้น……」

「หยุดพึมพำแล้วอ่านมันได้แล้ว!」

ทริสตันมองข้างใส่ซีเลียผู้หงุดหงิดก่อนเปิดหนังสือ

ทุกครั้งที่เขาเปิดหน้า หนังสือฉีกเล็กน้อยและหน้ากระดาษหล่นลงมามา แม้ว่าผมไม่ถือเพราะผมจะไม่อ่านอะไรนี่ซ้ำสอง

ด้วยทุกหน้า ทริสตันอ่านเนื้อหาในน้ำเสียงไม่มีแรงจูงใจ ซีเลียรำคาญวิธีที่เขาแปล แต่ตอนนี้ แต่ตอนนี้เราเข้าใจทุกๆอย่างคร่าวๆ

“นานนานมาแล้ว ชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองที่เราเรียกว่าราเฟน

ชายนั้นคือผู้ใช้เวทมนตร์ที่มีทักษะและเขาเป็นที่รู้จักดี ด้วยชื่อเขาที่ไม่ได้แค่แพร่กระจายไปในหมู่พลเมือง แต่ก็ยังถูกเป็นที่รู้จักโดยลอร์ดศักดินาและขุนนางใกล้เคียงด้วย

เขาใช้เวทมนตร์ได้มากมายหลากรายเริ่มจากเวทมนตร์ลมสู่เวทมนตร์สายฟ้าและเวทมนตร์น้ำและเขาก็ถูกกล่าวว่าเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ที่ไม่มีใครเทียบได้

ชายคือผู้ใช้เวทมนตร์ที่เชี่ยวชาญเวทมนตร์หลายอย่างแต่สุดท้ายเขาแค่จบที่เป็นผู้ใช้เวทมนตร์แต่ละประเภทนั้นเท่านั้น

เขาเรียนรู้ทุกอย่างจากเวทมนตร์ไฟสู่เวทมนตร์เสน่ห์ แม้ว่าเขาไม่เคยกลายเป็นผู้ร่ายเวทย์แห่งตำนาน

เชื่อในความสามารถของเขาเอง ชายค้นหาต่อไปเพื่อหาเวทมนตร์อันเหมาะสมกับเขาที่สุด

จนกระทั่ง ชายพบมัน

และนั่นคือเวทมนตร์ควบคุมความตาย”

มันสมควรถูกอ่านเหมือนอนุทิน แต่นี่คือที่ทริสตันอธิบายเนื้อหา

「ผู้ใช้ความตาย…… อย่างนั้นเรอะ?」

「เวทมนตร์ลมและเวทมนตร์สายฟ้าก็ทรงพลังด้วย ไม่ใช่เหรอ?」

อลิสใช้ได้แค่เวทมนตร์ไฟ แต่เธอน่าจะมีพลังโจมตีมากกว่าลิช

พูดอีกอย่าง คนนั้นเป็นพวกถนัดทุกอย่างและเชื่ยวชาญความว่างเปล่า สามารถทำทุกอย่างได้ไม่ว่าดีหรือไม่

ผมว่าผมเข้าใจได้นิดหน่อยว่าเขารู้สึกเศร้าอย่างไรเมื่อเขาถูกชื่นชมในฐานะผู้ใช้เวทมนตร์ผู้มีทักษะ

「แต่มาใช้คนตายของทั้งหมดที่ทำได้……」

เวทมนตร์ไม่ได้ต้องห้ามตรงๆในโกลโดเนียหรือประเทศอื่นใดๆ

แล้วก็มีความจริงว่าไม่มีคนพอที่มีตัวตนอยู่จนผู้ใช้เวทมนตร์ที่ต้องการกฎหมายถูกสร้างโดยเฉพาะสำหรับคนนั้นตั้งแต่แรก แต่ผู้สามารถทำเรื่องเล็กๆเป็นนักแสดงกลางถนนได้ระหว่างผู้ใช้ที่ทรงพลังและมีทักษะใช้เวทมนตร์เพื่อช่วยให้พวกเขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านหรือแม้แต่ลอร์ดศักดินาได้

มีกรณีเหมือนอลิสที่มันสร้างการถกเถียงในหมู่คนอื่น แต่ในสถานการณ์เธอ ความสัมพันธ์กับพ่อเธอเป็นปัญหา

「แต่ก็นะ เวทมนตร์ที่เกี่ยวข้องกับความตาย……」

「มันไม่เคยถูกได้ยิน」

การไม่เคยได้ยินบางอย่างมาเลยไม่ได้หมายถึงมันไม่มีตัวตนอยู่

สามัญสำนึกเป็นตัวบ่งบอกว่าอะไรก็ตามซึ่งใช้ศพคนอื่นและควบคุมมันนั้นเป็นเรื่องต้องห้าม

มันแค่ไร้เหตุผล มันให้ความรู้สึกไม่น่าพึงพอใจกับจิตประสาทเหมือนมนุษย์ผู้กินมนุษย์เหมือนกัน

「อ่านต่อไป」

แต่ผมเห็นภาพชัดแล้ว

“ชายมีความสุข

มันเพราะเขารู้สึกถึงความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุดกับเวทมนตร์ของเขาไม่เหมือนอย่างอื่น

จำนวนผู้ตายที่เขาควบคุมได้มากขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 5 สู่ 10 จากนั้น 10 สู่ 20

 เพื่อที่จะเชี่ยวชาญเวทมนตร์เพื่อควบคุมคนตาย ชายทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพื่อเรียนรู้เรื่องเล็กเรื่องน้อย

อย่างไรก็ตาม ชายได้มารับรู้

เมืองราเฟนนั้นเล็กและสุสานแคบเกินไป

แม้ว่าเขาขุดทั้งสุสานขึ้นมา เขาไม่สามารถได้รับศพพอเพียง

ถ้าเป็นแบบนี้ ชายจะไม่สามารถท้าทายขีดจำกัดเขาเองได้

นั่นทำไมชายตัดสินใจสร้างคนตายมากกว่านั้น

โชคดี ชายนั้นมีทักษะในเวทมนตร์มากมายและไม่มีแม้แต่คนเดียวในเมืองต่อต้านเขาได้”

「และนั่นที่เขาจบในการเป็นแบบนี้」

「……โอ้ความดีงาม…… ถ้าอย่างนั้นบางอย่างแบบนั้นเกิดขึ้นในราเฟน……」

ผมกอดซีเลียผู้สั่นไหวอย่างอ่อนโดยและจับนมเธอด้วย

ตัดสินจากอายุของหนังสือ มันน่าจะเกิดขึ้นมากกว่าหลายทศวรรษแล้ว

ผมแน่ใจว่าไม่มีใครในเมืองจำเขาได้

「ช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าพึงพอใจ ท่านอยากจะหมกอยู่แต่ในห้องสามวันหลังจากอ่านนั้น」

ทริสตันอ่านต่อเมินความคิดเห็นที่บ่นเขาเขาหมกอยู่แต่ในห้องของเขาอยู่ดี

“ชายได้รับศพมากมาย

มากไปกว่านั้นเขาได้รับอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เพิ่มพลังเวทมนตร์ของตัวเองและก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกายของเขาเอง

เขานำผมของคนตายและสานมันเข้าด้วยกันเพื่อสร้างผ้าคลุม

เขาอาบในผ้าคลุมและไขกระดูกสันหลังของคนตายด้วยความภาคภูมิใจเพื่อความโกรธแค้นและเกลียดชังเพื่อดื่มด่ำกับมัน

ผ้าคลุมถูกย้อมเป็นสีดำ”

「อุ้ว้าา…… นั่นแย่มากๆเลย」

「มันจะไม่เปลี่นเป็นสีดำขนาดนั้นแม้ว่าด้วยผมของคนมากมาย」

「อ-เอเกอร์ซาม้า! ท่านมอบผ้าคลุมให้ลีโอโพลต์ซัง ไม่ใช่เหรอ!?」

อุมุ แนวสีดำจะไปได้สวยกับกองทัพผม ดังนั้นเขาน่าจะกำลังใส่มันตอนนี้

「พี่แน่ใจว่าเขาจะไม่เป็นไร อ่านต่อ」

「หนูสงสัยละสิว่าเขาจะเป็นอะไรมั้ย…… ถ้าเขาเปลี่ยนเป็นพวกไร้ชีวิตล่ะ……」

ผมไม่อยากเห็นลีโอโพลต์ในแบบพวกไร้ชีวิต ผมจะไปดูเขาทีหลัง

「ทุกอย่างต่อจากนั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของอนุทิน ……มันคือบันทึกผู้คุ้มกัน」

“ชายไม่สามารถเห็นอะไรได้เลยนอกจากเวทมนตร์ของเขาเอง

สิ่งที่จบเส้นทางของเขาคือลูกธนูลูกหนึ่ง

ลูกธนูที่ถูกอาบไปด้วยพิษมากมายแทงแขนชายและเขาจากไปหลังจากดิ้นในความเจ็บปวด

แม้ชายตาย ผู้คุ้มกันและผู้คนของเมืองกลัวว่าเขาจะควบคุมศพของเขาเอง ดังนั้นพวกเขาใส่ร่างเขาในโลงหินหนัก เทตะกั่วเหลวลงไปข้างใน และห่อโซ่รอบโลงและฝังทั้งโลงใต้สุสานบุคคล

นี่ถูกทำขึ้นเพื่อให้มั่นใจทุกอย่างว่าอสูรไม่กลับมามีชีวิตตลอดกาล”

「นั่นคือจุดจบ」

「แต่เขาฟื้นคืนชีพอยู่ดี」

ผมดีใจที่ผมไม่ได้ยินอะไรของเรื่องราวและกลายเป็นไม่มีแรงจูงใจ

ผมน่าจะไม่มีวันเข้าสู่ความเข้าใจกับคนแบบนั้น

อืมตอนนี้ ผมต้องไปแล้วไปบอกลีโอโพลต์

ผมออกจากคฤหาสน์และเรียกลีโอโพลต์ผู้เฝ้าดูการฝึกบนพื้นที่สวนสนาม

「โย่…… ผ้าคลุมนั้น-」

「ฮ่ะว้า!」

เขาใส่ผ้าคลุมนั้นอย่างสง่างามแล้ว ซึ่งทำให้ซีเลียตะโกนออกมาในเสียงประหลาดและก้าวถอยหลัง

ผมเดาว่าเขาแค่ไม่ใช้บางอย่างซึ่งผม, ในฐานะเจ้านายเขา, มอบให้เขาไม่ได้หลังจากทั้งหมด

ในฐานะเจ้านายที่ดี ผมควรอธิบายรายละเอียดทั้งหมดให้เขา

「……เข้าใจแล้ว」

หลังจากได้ยินเรื่องรา; ลีโอโพลต์ดูตื่นเต้น ,กระนั้นไร้สีหน้า, ถอดผ้าคลุมออก

「ถ้านี่จะเรียกพวกสิ่งไร้ชีวิตมา มันจะก่อปัญหาไม่จำเป็น ผมรู้ว่ามันหยาบคาย แต่ได้โปรดอนุญาตให้ผมถอดมัน」

ใช้ แต่ผมไม่ถือเลยสักนิด นายไม่ต้องคืนมันให้ฉัน ฉันไม่อยากได้มันด้วยเหมือนกัน

ลีโอโพลต์นำอะไรเกี่ยวกับผ้าคลุมออกจากร่างกายเขาและเฝ้าดูการฝึกต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เหมือนเคย เขาไม่มีสีหน้าบนหน้าเขาและมันดั่งไม่มีอะไรเปลี่ยน

「นายไม่เป็นไรหลังจากได้ยินทั้งหมดนั้น…… นั่นหมายถึงนายไม่มีอารมณ์จริงๆเหรอ?」

「ใครจะรู้」

คืนนั้น, ลีโอโพลต์, ผู้ปรกติแล้วอาบน้ำไม่พอ,  อาบน้ำยาวนานสองชั่วโมง

แล้วผมก็เห็นเขาล้างเสื้อผ้านีน่าผู้ช่วยเขาอย่างพิถีพิถัน

คนนั้น ในความเป็นจริงบางทีสนใจสงสัยเกี่ยวกับเธอหรือ

 

 

ห้องนอน

「ในท้ายที่สุด มันดูเหมือนลีโอโพลต์อยู่ในห้องน้ำตลอดไปเลย」

「ช่างหยาบคาย ให้ตายสิ」

มันทำให้ผมยิ้มมุมปากเมื่อผมจินตนาการว่าเขาทำหน้าตามีปัญหาเป็นครั้งแรก แต่ไมล่าโกรธผม

คนผู้มาห้องผมเพื่อดูแลผมตลอดคือซีเลีย แต่มันดูเหมือนเธอยุ่งกับการรับมือเหตุการณ์หลังพิธีเกิดขึ้นวันนี้

「หนูพูดไปว่าหนูจะช่วยด้วยเหมือนกัน…… แต่เธอดื้อและยืนกรานว่าเธอทำมันด้วยตัวเองได้ ดังนั้นหนูเลยให้เธอทำ」

「ซีเลียอาจพยายามเอาชนะเธอ」

「ฮ่าา มันเป็นอย่างนั้นเหรอ?」

ไมล่าเหนือกว่าเมื่อมันเป็นเรื่องวิชาดาบ แม้ว่ามันช่วยไม่ได้ถ้าคนหนึ่งพิจารณาความต่างของความสูงของซีเลียผู้ที่ 160 ซม.กับไมล่าผู้ที่ 170 ซม.

ความต่างในประสบการณ์ระหว่างซีเลีย, ผู้ยังคงเรียนรู้เรื่องการเป็นผู้นำ, และไมล่า, ผู้ครั้งหนึ่งเคยนำกองทัพ, ก็ชัดเจน

สาวคนนั้นอาจพิจารณาว่าไมล่าเป็นคู่แข่งของเธอ

「หนู 27 ปีแล้ว…… ถ้าหนูด้อยกว่าเด็กผู้ยังไม่ 20 เลยด้วยซ้ำ หนูไม่รู้ว่าหนูจะทำอะไรดี」

「นั่นก็อาจจริง แต่เธอทำงานหนักและเกลียดการพ่ายแพ้ เธอจะไม่สามารถยอมรับความจริงได้ง่ายๆ」

ผมนั่งลงบนเตียงและเทเหล้าเป็นสองแก้ว

หมอแค่ห้ามผมดื่มในตอนเช้า และมันเป็นตอนกลางคืนแล้วตอนนี้ ดังนั้นสถานการณ์เปลี่ยนไป

ไมล่าคำนับครั้งหนึ่งก่อนนั่งข้างผม

「มากกว่านั้น…… ซีเลียอาจแข่งขันกับเธอในเรื่องนี้ด้วย」

ผมโอบกอดไมล่าและจับนมเธอเหนือเสื้อผ้า

「อ๊าา…… อู๊ววว……」

ไม่ล่า ผูปรกติต่อต้านทุกอย่างที่ลามก ไม่ได้ทำอะไรในครั้งนี้

ผู้หญิงผู้ไม่ใช่คนรักของผมอนุญาตให้หน้าอกถูกจับในห้องนอน…… ความรู้นั้นคือธรรมชาติเท่าการหายใจ

ไม่ต้องสงสัยว่าเธอมาสู่ห้องผมคืนนี้พร้อมเจตนารับเอ็นของผม

「อออุ…… แต่มันจะไม่มีวันใหญ่เท่าของนนน่าซัง」

「มันผิดแล้วล่ะที่เทียบมันกับนนน่า ……เธอมีคู่หน้าอกอันสวยงามที่ทำให้ผู้ชายอยากได้」

นมไมล่านั้นใหญ่เพียงพอ

ถ้ามาเรียได้ยินคนหนึ่งเรียกว่าเล็กเธอจะร้องไห้เป็นสายเลือด   

นมซีเลียโตขึ้นด้วยความเร็วสูงไม่นานมานี้แม้ว่าพวกมันยังไม่ได้ขนาดใกล้ไมล่า

พวกเธอทั้งสองมีหน้าอกที่ดีและนุ่ม

「ถ้าพี่จับมันมาก…… อ๊านนน」

ผมจูบคอเธอระหว่างถูนมเธอทำให้เธอครางเสียงเซ็กซี่ออกมา

นั่นควรเปิดสวิตช์เธอ

ผมดันไมล่าลงและจูบคอเธอเหมือนดูดมัน

ผมเลื่อนปากลงอย่างช้าๆและฉีกเสื้อเธอบริเวณหน้าอกออกและในท้ายที่สุดวนลิ้นรอบหัวนมเธอ……

「ได้โปรดรอก่อน!」

ทันใดนั้น ไมล่าดันหน้าผมและยืนขึ้นจากเตียง

เธอจะไม่เลื่อนนี่ไปทีหลังใช่ไหม…… โดยเฉพาะเมื่อเจี๊ยวของผมเริ่มมีอารมณ์แล้ว

「หนูไม่มีปัญหากับพี่เข้ามาใส่หนู หนูมาที่นี่ด้วยเจตนานั้นตั้งแต่แรก…… แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น แต่เพราะมันแค่สองเรา หนูอยากทำอะไรจากตอนเริ่ม รู้ไหม เหมือนลำดับที่ถูกต้องอย่างนั้นไง」

「ได้เลย ถ้าอย่างนั้นยืนตรงนั้น」

ไมล่ายืนห่างออกไปจากเตียงนิดหน่อยและกอดร่างกายเธอแม้ว่าผมไม่ได้ดึงกางเกงในเธอลงหรือดูดนม

มันอาจดีที่จะทำเหมือนคนบริสุทธิ์สองคน

「ริมฝีปากหนู……นื้ออ」

ผมกอดเธอจากข้างหน้าและซบริมฝีปากกันแบบไม่มีลิ้นถูกใช้งานและแค่ดันปากเราเข้าด้วยกัน มันไม่สมควรดึงความตื่นเต้นทางเพศ แต่ไมล่าปิดตาเธอเหมือนเธอมีความสุขกับมันและพิงกายมาหาผม

เราจิกปากกันและกันและความเข้มข้นของการจูบมันเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ

ตอนแรกปากเราจะแยกจากกันเล็กน้อย และจากนั้นลิ้นผมและเลียฟันเธอ และจากนั้นลิ้นผมจะเข้าลึกเข้าไปในปาก

「นื้ออ นื้ออ นื้ออ—! นื๊ออ!」

เธอยังชอบทุกอย่างในตอนนี้อยู่ดังนั้นไมล่าก็ยื่นลิ้นเธอด้วย พันมันเข้ากับของผมเหมือนลิ้นทั้งสองลิ้นกำลังเล่นจับปล้ากับเอง

ก่อนอื่น ผมจะส่งน้ำลายเข้าสู่ปากเธอ, ซึ่งเธอกลืน, จากนั้นเธอจะส่งน้ำลายเข้าปากผม

มันเป็นการจูบเข้มข้นแต่อ่อนโยนและน่าพึงพอใจ

「ปุ่ฮ่า」

「หนึฮ่าา…… ฮ่าา ฮ่าา」

เมื่อปากเราแยกจากกันและกันเส้นโยงน้ำลายก่อสะพานระหว่างปากเรา

ไมล่ามองผมค่อนข้างลังเลที่จะหยุด อย่างไรก็ตามมันได้เวลาเคลื่อนสู่เวทีต่อไปแล้ว

「เธอจะถอดเองไหม? หรืออยากให้พี่ถอด?」

「หนูขอพี่…… ให้แก้ผ้าหนูได้ไหม?」

เสียงน่ารักของเธอทำให้ผมยิ้มอย่างไม่ได้ตั้งใจ

วิธีที่ผมนำเสื้อผ้าเธอออกนั้นไม่ได้หยาบเสียเลย ขณะผมนำแจ็คเก็ตออกอย่างระวังเหมือนผู้ช่วยไหนๆก็จะทำกับนายท่านของพวกเขาและทำเหมือนกันกับเสื้ออันใส่ข้างใต้มัน

เพราะมันยังฤดูร้อนอยู่ มีแค่เสื้อผ้าสองชิ้นเท่านั้นที่ถูกม้วนขึ้นก่อนหน้าอกเธอมาในสายตา

หัวนมเธอตั้งชันและแข็ง

「โอ้…… ฟุฟุฟุ เธออยากจะเอาแล้ว」

หน้าไมล่าเปลี่ยนเป็นแดง

กลิ่นอ่อนๆของน้ำหวานผลไม้ดูเหมือนแพร่ออกมาจากเธอตอนนี้ที่ท่อนบนเปลือย มันดูเหมือนเธอใส่น้ำหอม

ตามนั่นไป, อย่างเบาๆ, แต่ด้วยความเคลื่อนที่เร็ว, ลดกางเกงเธอ

เมื่อผมถอดเสื้อผ้าชิ้นสุดท้าย ริมฝีปากล่างเธอตกแต่งด้วยชั้นขนสีทองเปิดเล็กน้อย

「ช่างสวยงาม」

「ด-ได้โปรดอย่าชมที่แบบนั้น」

ผมกำลังคิดว่าจะใช้ปากเริ่มต้น แต่ไมล่านำมือไว้บนหัวของผม

「อืม…… มันน่าอายถ้าหนูเป็นคนเดียวผู้ล่อนจ้อน ได้โปรดถอดเสื้อผ้าพี่ออกด้วย ลอร์ดฮาร์ดเลตต์」

ใช่ มาทำให้เสื้อผ้านี้เลิกขวางทางทันทีเถอะ

หลังจากผมถอดเสื้อออกเพื่อเปิดเผยกายเปลือยท่อนบน มือยื่มาข้างผม

「แผลนี้…… มันเมื่อพี่กำจัดลิช」

「มันจากมีดเก่าหลังจากทั้งหมด ยามีประสิทธิภาพดังนั้นไม่ควรต้องกังวลแผลเป็น」

หลังจากลูบแผลสักพัก ไมล่าเลียมันอย่างนุ่มนวล

ยั้งตัวเองไปมากกว่านี้ไม่ได้ ผมชักเอ็น

「อ๊ะ ได้โปรดรอเดี๋ยวก่อน! หนูจะดูแลท่อนล่าง-……」

พร้อมคำพูดนั้น ไมล่าคุกเข่า ณ เท้าของผมและลดกางเกงและกางเกงใน

เมื่อเธอทำ เจี๊ยวผมถูกปลดปล่อยและเด้งขึ้นดีดไปถึงท้องตามด้วยเสียงเนื้อตีกัน

「ช่างเป็นสภาพใฝ่ใคร่อย่างเหลือเชื่อ…… มันกระฉับกระเฉงเหมือนหนุ่มน้อย 15 หรือ 16 ปี มากกว่านั้น มันใหญ่เบิ้มเหมือนเคย…… ดูสิ พื้นฐานแล้วมันยาวไปถึงอกพี่เลย」

「ฟุฟุฟุ ถ้าชื่นชมพี่มากเช่นนั้น มันจะยิ่งใหญ่ขึ้น」

「ถ้ามันใหญ่กว่านั้นสักนิดหนูจะตายจริงๆ ให้หนูดูดมันดีไหม?」

「นั่นก็ข้อเสนอน่าสนใจ แต่ไม่ใช่ครั้งนี้」

เราตัดสินใจทำเหมือนคู่รักหนุ่มสาวไร้เดียงสาครั้งนี้ ผมกอดไมล่าจากข้างหลังและดันนิ้วของผมสู่ปากช่องคลอด

「อุ้ย…… ต-ตรงนั้น! ตรงที่ตื้นๆ…… อ๊าาาาา!」

นั้นเป็นแค่การกระตุ้นเดียวด้วยนิ้วของผมเท่านั้น แม้ว่าผมรู้จุดอ่อนไมล่าอย่างถ่องแท้

มันไม่ได้ใช้มากกว่า 30 วินาทีของการเกี่ยวนิ้วก่อนเธอเริ่มบดสะโพกใส่

「ช่างเป็นสาวเสียวง่าย ตอนนี้…… แล้วถ้าที่นี่ล่ะ หนูอ่อนไหวตรงนี้ด้วยใช่มั้ย?」

ผมนวดคลิตอริสเธอและสร้างเสียวส่วนจุดเสียวสุดเธอต่อไปเรื่อยๆ

ไม่ล่าทำอะไรไม่ได้ขณะเธอร้องเสียงแหลม ล้มตัวมาข้างหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง

น้ำหวานแห่งรักเธอเอ่อล้นและสร้างแอ่งที่พื้นแล้ว

「ทำให้มั่นใจว่าไม่ล้มนะ」

ผมดึงนิ้วออก จับตูดเธอ ประกบปากเข้าส่วนลับเธอและแลบลิ้นเข้าไป

「โอ๊วววววว! ปากพี่…… หนึอ๊าาาา!」

ไมล่าวางมือไว้ที่เข่าพยายามทนความเสียวอย่างสิ้นหวังระหว่างประคองตัวไม่ให้ล้ม

บุคคลที่สามที่ดูอยู่อาจพิจารณาว่าเป็นตำแหน่งหยาบคาย

แต่ด้วยหน้าผมที่ฝังเข้าไปอยู่ส่วนรักใคร่ของเธอ สิ่งเดียวในดวงตาผมเท่านั้นคืออรูตูดแหวกแยกกระตุกและจิ๊เอ่อน้ำเหนียวหยด

ผมแค่เน้นกับการดูดส่วนซุกซนของเธอตอนนี้

「ฮ่าา ฮ่าา ขาหนูไม่ไหวอีกแล้ว」

ผมอุ้มไมล่าเมื่อเธอไปถึงขีดจำกัดและโยนเธอขึ้นบนเตียง

เสียงกรี๊ดเล็กๆหนีออกมาจากริมฝีปากไมล่าและเธอกระเด้งหนึ่งครั้ง จากนั้นซ่อนหน้าเธออย่างเขินอายเมื่อผมคืบคลานเข้าในระหว่างขาของเธอ

「ชอบเซ็กส์ไร้เดีย

งสาเด็กๆแบบนี้ด้วยมั้ย?」

「หนูไม่สามารถทนมันได้เมื่อมีเด็กเก๊งเก่งอยู่ตรงนั้น」

เราจูบกันพร้อมลิ้นอีกครั้ง

มันได้เวลาแทงแล้ว

「พี่จะใส่มันเข้าข้างในอยากให้พี่ทำแบบไหน」

「แค่ขึ้นไปข้างบนแบบนี้เลย จากข้างหน้า…… เหมือนปรกติ」

ถ้าอย่างนั้นเธออยากให้เซ็กส์นั้นเรียบง่ายและเด็กๆด้วย

เธอจะทำได้ตลอดทางไหม

「ถ้าอย่างนั้น พี่เข้าแล้วนะ เธอไม่ได้ถูกประหาร ดังนั้นไม่ต้องทำหน้ามุ่งมั่นขนาดนั้นก็ได้」

ไมล่าวางมือเธอไว้บนไหล่ผมและปิดตาของเธอแน่น

「ผู้หญิงจำเป็นต้องมุ่งมั่นเพื่อรับเจี๊ยวเบ้งเหมือนของลอร์ดฮาร์ดเลตต์!」

ตอนนี้เมื่อผมคิดดูแแล้ว สาวส่วนใหญ่มีสีหน้าอย่างนั้นบนใบหน้า

แม้ว่าทันทีเมื่อเริ่มแทง พวกเธอน้ำลายยืดและครางเสียงหลงในความเสียว

「เอาละนะ…… นั่น…… มันจะเข้าไปแล้ว」

ผมจับเธอแน่นและดันสะโพกไปข้างหน้า

ด้วยเสียงเนื้อเปียกกลืนกินขณะผมแรกเข้าไปรูเธอ ทำให้คิ้วไม่ล่าชันเข้าหากัน แต่หลังจากฝ่าผ่านทางเข้าไป น้ำหวานอันเอ่อล้นนำลำแท่งเข้าข้างในอย่างอ่อนโยน

「ฟฟฟฟฟู่!」

「อั่กกื๊อ!!」

ผมดันตลอดทางเข้าข้างในจนกว่าผมโดนกำแพงเนื้อ ณ ส่วนลึกสุดของอุโมงค์

ตาปิดเธอดีดเปิดกว้างและกายเกร็งอย่างมากมาย…… และจากนั้นเธอผ่อนกายปล่อยลงอย่างช้าๆ

「พี่ไปถึงข้างหลังสุด หนูกำลังบีบรอบพี่อย่างดี」

「เพราะทั้งหมดหนูฝึกตัวเอง แม้อย่างนั้นใส่เข้าไปมากกว่าครึ่งได้นิดเดียว…… เจี๊ยวพี่มันใหญ่จัดเกินความเชื่อของจริง」

รูไมล่าค่อนข้างแคบสำหรับขนาดเธอ อย่างไรก็ตามเธอทดแทนนั่นด้วยกล้ามเนื้อเน้นและความสามารถบีบรัดแรง ดังนั้นสองเรามีความสุขกับเราเองได้แม้ว่าผมถูบริเวณตื้นกว่า

「จิ๊หนูกลืนเจี๊ยวพี่ไปและมันคัดน้ำนี้ออกมาทั้งหมด ช่างมีรูที่ลามกจังนะ」

「มันเป็นชะตาของผู้หญิงทั้งหมดผู้อยากดื่มด่ำเจี๊ยวของผู้ชายดีๆเหมือนคนเช่นพี่」

ไมล่าลูบมือเธอบนหลังผมขณะเธอพูดอย่างนั้น

「กล้ามพี่มหัศจรรย์ มันดูเป็นสมชายและน่ารัก」

เมื่อไมล่ากระซิบ “หนูรักที่พี่กล้ามโตและสมชาย” สู่ผม ผมมีความสุขและเริ่มเคลื่อนไหวสะโพกของผม ซึ่งฉีกประโยคเธอขาด

「ฮฮฮฮฮิ๊! การถูนี้มันน่าทึ่งอ๊ะ…… รู้สึกดีมาก! มากกว่านี้……」

「มากขึ้น? แบบนี้?」

ผมเน้นการเคลื่อนไหวสะโพกของผมในการโยกยกโยกยกวาดเอวโค้งลง กระแทกค่อนข้างลึกเข้าสู่เธอ

ไมล่าครางไม่กี่ครั้ง แม้ว่าเธอจ้องผมอย่างไม่มีความสุข

ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่อะไรที่เธอหมายถึง

ผมแค่อยากให้เธอบอกผมว่าต้องการอะไรออกมาดังๆ

「ม-ไม่ใช่นั่น มากกว่า…… มากกว่า-」

「อะไรมากกว่า? อยากให้พี่ดันเข้าข้างในลึกกว่านี้หรือ?」

หลังจากลังเลนิดหน่อย ไมล่าปรากฏว่ามุ่งมั่นและจากนั้นเธอตะโกนอย่างดัง

「ตรงนี้! ได้โปรดถูนี่มากกว่านี้ แรงกว่านี้!」

เธอยืดมือเธอและกดท้องเธอเอง ในการทำอย่างนั้นมันทำให้รูเธอกอดรัดแน่นขึ้น กำแพงแคบก่อการเสียดสีกับเจี๊ยวของผม

การกระตุ้นนั้นต้องก่อให้เธอเกิดการแตกเล็กๆขณะหัวเธอดีดออกข้างหลังและลิ้นห้อยออกมาจากปาก

บริเวณที่ไมล่าอ่อนแอที่สุดคือบริเวณขรุขระใกล้กับทางเข้าและไปถึงได้แม้แต่ด้วยนิ้ว

ถ้าที่นั่นถูกับเจี๊ยวผม จะหลงเสียวทันที

「ฟุฟุ ได้เลย พี่เข้าใจ แบบนี้ ใช่มั้ย?」

ผมมอบการเสียดสีแรงกล้าแบบเธออยากได้

การครางแบบธรรมชาติของเธอเสียงเหมือนการแผดร้อง จากนั้นผมรู้สึกถึงความรู้สึกอุ่นใกล้หว่างขาของผม

ถ้าอย่างนั้นในที่สุดเธอสุดที่น้ำแตก

แต่ผมจะไม่ปล่อยอะไรๆจบลงตรงนี้

「กุ่……」

「ฮฮฮฮิ๊ มันยังแข็งขึ้นอยู่!」

เมื่อผมเกร็งหน้าท้อง เอ็นของผมแข็งเกร็งขึ้นอีกหนึ่งขั้น

ผมดันไม้เนื้อเหมือนเหล็กกล้าถูสีจุดอ่อนเธอและถูปลายเจี๊ยวสู่ข้างในอวัยวะเพศของเธออย่างแรงมาก

「ฮฮฮฮฮฮฮฮี๊—!! ไม่ไหว ไม่ไหว ไม่ไหวแล้ววววว-! นี่ไม่ไหวววว! ถ้าพี่ดุขนาดนั้น หนูจะเพี้ยนนนน!!」

น้ำเสียงเธอเปลี่ยน ไมล่า ผู้ปรกติใช้เคโกะ ตอนนี้กรี๊ดกร๊าดเหมือนเด็กๆ

แขนทั้งสองของเธอดิ้นพล่านพล่านพยายามให้ผมปล่อยเธอ แต่ขาเธอรัดเอวผมเพื่อเลี่ยงไม่ให้ผมจากไป

「พี่จะไว้ใจเท้าหนู เอ้านี่! นี่ยังไม่จบ!」

ระหว่างขาเธอรัดรอบเอวผม ผมบังคับนำตัวยกขึ้นมาเหมือนจะลุกครึ่งหนึ่ง

ในท่างอตัวแบบนั้น ผมกระแทกเจี๊ยวสู่ไมล่าจากข้างบนและสร้างความเสียวให้เธอต่อ

「โอ๊ววว—-! นนนนนนนี๊–! อ๊าาาาาาา–!」

ผมจับนมไมล่าและผนึกริมฝีปากเธอด้วยจูบ ทำอะไรก็ตามที่ผมอยากทำเพิ่มเติมจากการกำลังแทงเรื่อยๆ และหลังจากแผดร้องสักพัก ในท้ายที่สุดร่างกายเธอเริ่มกระตุก

「อ๊ะ…… อ๊าาาา…… อ๊าาาาาาา……」

เธอต้องมีประสบการณ์แตกสุดจิ๊อย่างแท้จริงที่แรง

ผมจูบเธออีกครั้งและขณะเธอรับลมหายใจใหญ่เข้าไปน่าจะเพราะการกรี๊ดทั้งหมดที่เธอทำ

เมื่อผมทำอย่างนั้น-

「นื้อออออออออออ—!!」

เธอปล่อยเสียงเธออู้อี้เนื่องจากปากถูกปกคลุมโดยผมและน้ำแตกฉีดน้ำพุ่งมาจำนวนมากเทียบไม่ได้กับครั้งก่อนหน้า พันทั้งสองแขนเธอรอบร่างผมขณะเธอไปถึงยอดสุดของการถึงจุดสุดยอด

「กุ่โอ้!」

ผมรู้สึกถึงแรงกดดันบีบรัดในเวลาเดียวกัน นำผมใกล้สู่การแตกน้ำผมอีกครั้ง

หลังจากทนการขมิบแน่นจากการบีบรัดของเธอ ไมล่าหมดเรี่ยวแรงและล้มไปบนเตียง ปล่อยให้ผมดึงเจี๊ยวออกและมุ่งมั่นหาเส้นทางน้ำแตก

「พี่จะแตกแล้วไมล่า รับนี่!」

น้ำอสุจิจำนวนมหาศาลฉีดออกไปยาหน้าไมล่า

ย้อมสีทั้งผิวหน้าเธอพร้อมหน้าอกเธอให้ขาว

ปรกตินั้น เธอจะอารมณ์เสียและบอกผมว่าการกระทำเช่นนั้นไม่คิด อย่างไรก็ตามผู้หญิงกำลังจมอยู่กับความรู้สึกแตกสุดจิ๊ อุนญาตให้ทั้งตัวของเธออาบน้ำเชื้อของผม

「ฟฟฟู่…… นั่นรู้สึกดี」

「ร่างกายหนู…… เหนียวไปหมด…… ต้องอาบน้ำ」

ไม่ล่ากำลังจะลุกขึ้นไม่นานหลังจากการถึงจุดสุดยอดของเรา แต่ผมยังไม่เสร็จกับเธอ

「หนูพูดอะไรน่ะ? หนูอาบน้ำได้หลังจากเสร็จที่นี่ ถูกไหม?」

「เอ๋? พี่ปล่อยออกมามากขนานั้น ก็เลย……」

ผมแทงเจี๊ยวอันยังคงแข็งหน้าไมล่า

ไม่มีทางที่ผมจะพอใจกับแค่น้ำแตกเดียวเท่านั้น

「ม-ไม่มีทาง ร่างกายขอหนูถึงขีดจำกัดแล้ว……」

「ถ้าอย่างนั้นหนูแค่นอนตรงนั้น พี่จะทำการเคลื่อนไหวทั้งหมด」

ผมลากไมล่าข้ามเตียงขณะผมพูดนั่นและจากนั้นแทงจากด้านข้าง

「โอ๊ววววอ๊ะ! นั่นไม่ยุติธรรม! ถ้าพี่ถูหนูตรงนั้น หนูจะไม่สามารถ-……」

ผมจิ้มดันใส่จุดอ่อนเธอซ้ำๆซากๆเพื่อเลี่ยงการต่อต้านใดๆแล้วเปลี่ยนท่า

ทำมันระหว่าเธอคว่ำหน้านั้นดี และการแทงขึ้นสู่เธอระหว่างเธอนั่งบนผมดีด้วยเหมือนกัน

ถ้าอย่างนั้น ยกเธอขึ้นและกระแทกเธอแรงๆก็ดีด้วย

ค่ำคืนนั้นเพิ่งเริ่มต้น

「เดี๋ยว ร่างกายหนูจะพัง ห-หยู้ด-…… ฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮิ๊!! เอ็นนี้น้าทึ่งอ้าาา!!」

 

 

「ฟฟฟู่…… ตอนนี้พี่พอใจแล้ว」

ผมมองไมล่าผู้นอนข้างผม

ผมเขย่าไหล่ผู้หญิงอย่างอ่อนโยนระหว่างแขนและขาเธอแยกออก

「ไมล่า หลับอยู่ไหม?」

「ไม่ หนูเกือบหมดสติ แต่หนูขยับร่างกายไม่ได้อีกแล้ว…… หนูไปอาบน้ำไม่ได้ด้วยเหมือนกัน」

มันไม่เป็นอะไร มันหวานความรักแค่ได้นอนด้วยกันและทักทายตอนเข้าอาบในน้ำร่างกายของกันและกัน

「เอ็น…… ไร้พ่าย…… จอมพิชิต…… คุณนาย……」

「ขอบคุณสำหรับคำชม」

ขณะผมลูบหัวไมล่า ซึ่งกลายเป็นแข็งๆกรอบจากอสุจิแห้ง เธอรวมพลังงานสุดท้ายของเธอและฝังหน้าเข้ามาในอกของผม

เราทั้งสองต้องเหม็นกลิ่นเซ็กส์ แต่เธอไม่ได้สนใจ ณ วินาทีนี้

กอดกันและกันแบบนี้จนถึงเช้าก็ดีด้วย

และจากนั้น ผมได้ยินเสียงเคาะประตู

「เอเกอร์ซามะ? นอนแล้วเหรอ?」

มันเสียงของซีเลีย เธอต้องตื่นทั้งคืนเพื่อจบงานอะไรก็ตามที่เธอทำ

ขณะผมกำลังจะตะโกนตอบ ไมล่าผนึกปากผมด้วยจูบ

「หลับแล้วเหรอ?…… แปลกจัง ประตูล็อก」

ปรกติแล้วผมไม่ล็อกประตู

นั่นเพราะผู้หญิงมาเยือนผมตอนกลางคืนได้

「นี่น่าสงสัย…… เอเกอร์ซามะ หลับแล้วจริงๆเหรอ?」

ผมจะรู้สึกผิดกับเธอถ้าผมตอบไม่ได้ อย่างไรก็ตามไมล่าน้ำตาไหลและส่ายหัวของเธอ

หืมมม ผมรู้สึกไม่ดีกับซีเลีย แต่มาทุ่มวันนี้ให้ไมล่าเถอะ

ผมจะมีความสุขกับของหวานด้วยกันกับเธอพรุ่งนี้หรือบางอย่าง

ในเช้าตรู่ของวันต่อมา ซีเลียเกาะหลังของแม่บ้านผู้นำน้ำมาและกลายเป็นโกรธเคืองเมื่อเธอเห็นไมล่าหลับอย่างมีความสุข ซึ่งสร้างการงอแงเอะอะเล็กน้อย และสุดท้ายไม่มีอะไรสำคัญมาก

 

 

 –มุมมองบุคคลที่สาม–

ครอล – เรื่องสุดทางข้างเคียง: สิ้นหวัง

ยามค่ำคืน ห้องทริสตัน

มันดึกดื่นยามค่ำคืนและสมาชิกในบ้านและคนรับใช้ทั้งหมดนอนไปแล้ว แต่ชายหนุ่มคนหนึ่งไปเยือนห้องหนึ่งด้วยหน้าตาจริงจังบนใบหน้าของเขา

ชายหนุ่มรู้ว่าเจ้าของห้องไม่มีเวลากลางวันหรือกลางคืน

ในความเป็นจริง เขารู้ว่าเจ้าของจะไม่ตื่นในตอนเช้าหรือเวลากลางวันด้วยซ้ำ

「ฮ่าา…… ทำไมฉันต้องฟังนายพูดเกี่ยวกับท่อนล่างของนาย?」

「ห-หมอบอกผมว่า “มันเป็นไปไม่ได้สำหรับบางคนที่อายุเท่านี้”…… ดังนั้นตอนนี้ผมไม่มีใครพึ่งพาได้อีกแล้ว」

การถอนหายใจของทริสตันหนักกว่าปรกติ

ทริสตันออกความเห็นอย่างไม่สนใจหลังจากครอลอธิบายสถานการณ์ของเขาเสร็จ

「มันน่าจะเพราะพลังงานชีวิตนายถูกดูดไปโดยลิช」

ทริสตันดึงหนังสือจากหนึ่งในชั้นมากมายอันเรียงกันอยู่ในห้องของเขา

「เมื่อนายถูกจับโดยลิช พลังชีวิตของนาย…… พูดอีกอย่าง ค่าสำคัญของชีวิตที่เสียไปไม่ได้ถูกชิงไปจากนาย มันกลายเป็นพลังของสิ่งนั้น」

ครอลพูดอะไรที่เขาได้ยินซ้ำอย่างประหม่า

「พลังชีวิตถูกดูด……?」

「นายจะตาย เพราะทั้งหมดพลังงานชีวิตเป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ถ้ามันหมด นายมีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้」

ครอลสร้างภาพศพแห้งของคู่รักที่เขาเห็นในสุสาน

「แต่ในกรณีของนาย นายถูกช่วยก่อนนั่นเกิดขึ้น ใช่มั้ย? นั้นทำไมนายสามารถหลีกหนีความตาย」

ทริสตันกลืนชาของเขา

「ถ-ถ้าอย่างนั้นนั่นหมายถึง-……?」

「ที่ซึ่งมนุษย์เชื่อมต่อตรงกับชีวิตมากที่สุด…… ที่ซึ่งตอนนี้นายประสบปัญหา ในกรณีนาย ลิชดูดพลังงานชีวิตนายไปค่อนข้างนาน เพราะนั้น นายอาจเสียการทำงานในบริเวณนั้นไป」

「ไม่มีทางน่า!」

ครอลล้มคุกเข่าในความตกอกตกใจ

「ต-แต่เอเกอร์ซามะก็ถูกดูดไปเวลานานอยู่พอสมควรด้วยเหมือนกัน กระนั้นเขาสามารถกลับบ้านและอยู่กับผู้หญิงหลายคน-……」

เสียงครางและกรีดร้องสะท้อนก้องของผู้หญิงนั้นเป็นที่รู้กันดีและความจริงนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปแม้กระทั่งตอนนี้

「ยังไงซะ แต่ละคนมีจำนวนพลังงานชีวิตต่างกัน คนนั้น…… ไม่ปรกตินิดนึง ดังนั้นมันไม่มีประโยชน์ในการใช้เขาอ้างอิงในความคิดเห็นของฉัน」

เมื่อพวกเขาทั้งสองคนแยกกัน ภาพของชายคนนั้นซั่มผู้หญิงเป็นโหลจากกลางวันสู่กลางคืนเข้ามาในจิตใจ

「อออุ่…… มันจริงที่เขาอย่างน้องสามเท่าของขนาดผม…… ต-แต่อะไรที่ผมสมควรทำเกี่ยวกับนี่ล่ะ?」

ทริสตันบอกบางอย่างโหดร้ายกับเขา

「มันเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุ ดังนั้นมันอาจกลับไปสู่ปรกติหลังเวลาผ่านไป อย่างไรก็ตามมันก็อาจไม่มีวันกลับไปเป็นอย่างที่เคยเป็นจนนายตายด้วยก็ได้ ในความคิดเห็นส่วนตัวของฉัน ฉันคิดว่านายหมดดวงถ้ามันไม่ดีขึ้นในสามวัน ส่วนนั้นอาจทำงานไม่ได้เพราะพลังชีวิตถูกดึงออกไปกระทันหัน」

ครอลล้มลงสู่พื้นและร้องไห้

ทริสตันพยายามช่วยยกโดยการอ้าแขนของเขาและพูดกับชายหนุ่มอย่างอ่อนโยน

「ชีวิตนั้นไม่เกี่ยวกับผู้หญิง ฉันไม่เคยได้อยู่กับผู้หญิงแม้แต่คนเดียวตลอดชีวิตตั้งแต่ฉันเกิดและฉันยังค่อนข้างมีความสุข ถ้าขายเข้าใจความสนุกของหนังสือ, ชาและงีบหลับยามบ่าย นายไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับนี่อีกต่อไปแล้ว」

ครอลไม่ได้วางริมฝีปากสู่ชาแพงอันวางอยู่หน้าเขาและแค่ร้องไห้ฟูมฟายตาแทบถลน

 

 

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูร้อน

สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ เพื่อนของราชาแห่งอเลส

พลเมือง: 161,000  เมืองหลัก – ราเฟน: 24,000 ลินต์บลูม: 4000

กองทัพส่วนตัว: 5300 คน

ทหารราบ: 3000, ทหารม้า: 900, พลธนู: 900, ทหารม้าธนู: 500

ปื้นใหญ่: 19

สำรอง: 3000

ครอบครัว: นนน่า (นนน่าผู้งดงาม), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย), เมล (ภรรยาน้อย), คุ (คนรัก), รุ (คนรัก), เมลิสซ่า (คนรัก), มิเรล (คนรัก), ลีอาห์ (คนรัก), มิตตี้ (คู่หมั้น), มาเรีย (คู่หมั้น), แคทเธอรีน (คู่หมั้น), เคซี่ (ผี), ริต้า (หัวหน้าแม่บ้าน), โยกุริ (นักแต่งบทละคร), ปีปี้ (คนรัก), อลิส (สาวน้อยเวทมนตร์), อัลม่า (คนรับใช้)

เซบาสเตียน (พ่อบ้าน), โดโรเธีย (คนรัก ในเมืองหลวง)

ลูก: ซู, มิว, เอคาเทรีน่า, อมาต้า, อนาสตาเซีย (ลูกสาว); แอนโตนิโอ, คลอดด์, กิลบาร์ด, ไรเนอร์, บาร์โตโลม (ลูกชาย); โรส (ลูกสาวบุญธรรม)

ลูกน้อง: ซีเลีย (ผู้ช่วยขี้อิจฉา), กิโด้ (หน่วยติดตามคุ้มกัน), ครอล (สิ้นหวัง, เสื่อมสมรรถภาพ), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการ ), รูบี้, ไมล่า (เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้มีความสุข), โพลเต้ (ผู้กำกับนักเรียน), เกรเทล (สุนัข), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่ระดับสูง), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), ทริสตัน (นักกลยุทธ์?), แคลร์ & ลอรี่ (รวบรวมแผนการ), ชวอร์ซ (ม้าลามก), ลิเลียน (ดาราหญิง)

แม่ – มาเซลีน;

ลูกสาว – สเตฟานี, บริดเจ็ต, เฟลิซี่ (รับมาดูแล)

สินทรัพย์: -200 ทอง (พิธีรำลึก -200)

คู่นอน: 209, ลูกผู้เกิดแล้ว: 46

 

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu