ตอนที่ 200 ยังมีหมีขโมยแพนตี้น่าปวดหัวอยู่

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

200 ยังมีรายงานน่าปวดหัวอยู่

 

“ซิลซาม๊า ฉ๊านได้รับรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กลายเป็นเรื่องร้ายแรงแล้ว”

 

“เราไม่อยากได้ยิน”

 

ซิลลาเนซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุของ「เรื่องร้ายแรง」 เมื่อไม่นานมานี้ ไม่อยากได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นอีกต่อไป

 

ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้เองจริง ๆ

เธอไปโรงเรียนทหารจักรกลสาย และไม่มีสมาธิในการเรียน เพราะอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องปวดหัวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แล้วในที่สุดเธอก็มีเวลาที่จะสงบสติอารมณ์ได้ด้วยตัวเองในช่วงพักเที่ยง

 

ทว่าก็มาอย่างรวดเร็ว

อาคาชิ

 

อาคาชิ・ชิโนบาซคือผู้ที่ได้รับคำสั่งให้สืบสวนที่อยู่ของทหารจักรกลที่เข้าโจมตีคฤหาสน์ของเนีย・ลินตันตั้งแต่เมื่อคืน ได้กลับมาแล้ว

แถมยังเร็วมาก

 

――จะต้องมีรายงานที่ทำให้เธอปวดหัวแน่นอน

 

“ไม่อยากได้ยินว่าคืออะไรงั้นเหรอค๊า แต่คูณเป็นคนสั่งเองไม่ใช่เหรอ?”

 

“เราไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น”

 

ถึงยังไงก็ไม่มีทางที่เธอจะไม่ฟังอยู่แล้ว

ทว่า อย่างน้อย อย่างน้อยก็ให้เป็นหลังจากที่เธอได้ทานนิตเต้ของโปรดที่เธอชอบก่อนเถอะ

 

……..เข้าใจดี ซิลลาเนรู้ดีว่าแม้แต่ความปรารถนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะไม่เป็นจริงอีกต่อไป

 

“…….ถ้าอย่างงั้น? เกิดอะไรขึ้น?”

 

เมื่อเธอถามด้วยใบหน้าเหนื่อยล้าและถอนหายใจ ――

 

” ――ไอ้พวกโง่นั่น…….. !!”

 

หลังจากได้ยินรายงานของอาคาชิ ซิลเลนก็ลุกขึ้นยืน

 

โรงเรียนวันนี้มันจบแล้ว

เธอรีบกลับปราสาท(บ้าน)เพื่อร้องเรียกต่อว่าที่กษัตริย์องค์ต่อไป(สภาครอบครัว)

 

 

 

“――โอนี่ซามะ! ทรงทำอะไรลงไปกันคะ!”

 

ซิลเลเนบุกเข้าไปในห้องทำงานของพี่ชายของเธอด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองโดยไม่สนใจทหารที่อยู่หน้าประตู

 

“…? มีอะไร?”

 

“มีอะไรหรือเปล่าซิล?”

 

เจ้าชายลำดับที่หนึ่ง ลิวิเซล และลูกสาวคนที่สาม แคลนอลล์ กำลังจัดเอกสารบนโต๊ะ พากันหันมามองที่ซิลเลนอย่างสงสัย

เธอไม่ชอบท่าทางสงบของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

 

“คิดที่จะยั่วยุเนีย・ลิสตันไปมากขนาดไหนกันคะ!”

 

“ห๊า………..?”

 

ทั้งสองคนไม่เข้าใจสิ่งที่ซิลลาเนพูดแม้แต่น้อย

เหตุผลก็เพราะเรื่องของเนีย・ลิสตันเมื่อคืน สำหรับพวกเขาถือว่ามันจบลงไปแล้ว

 

สำหรับพวกเขาแล้ว เมื่อตอนนี้มีคำให้การว่า「ไม่มีอะไรเกิดขึ้น」………ที่เซนต์โดยเนียลิสตัน ก็ไม่มีเหตุที่จะต้องไปใส่ใจ หรือดูแลอะไรอีก

คิดว่าคงรู้สึกแย่นิดหน่อยแน่นอน แต่ก็คงคิดว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่ปลอดภัยที่สุด

อย่างน้อยก็ในแง่การเมือง

 

――ใช่ ตอนนี้มันจบแล้ว

 

――เป็นเพียงโชคร้ายที่ไม่คาดคิดสำหรับพวกเขา

 

“ไม่รู้เหรอคะ!? หนูไม่รู้ด้วยแล้ว!? เข้าใจกันบ้างไหมคะ!? หนูต้องก้มหัว และขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่มันมากเกินไปสำหรับหนูที่จะต้องทำอีกรอบเร็วขนาดนี้! ไม่รับรู้ความทุกข์ยากของคนอื่นบ้างเลยเหรอคะ!”

 

“รอเดี๋ยวก่อน ซิล น้องกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน”

 

“ไม่รู้แล้ว! หนูไม่รู้อะไรอีกแล้ว! อาคาชิ! อธิบาย!”

 

“ค๊าค๊า”

 

อาคาชิที่ถูกเรียกปรากฏตัวขึ้นพร้อมรอยยิ้มขี้เล่น จากด้านหลังของซิลเลนผู้โกรธเคืองยิ่งกว่าที่ใครเคยเห็น 

 

――ทว่า ในวันนี้ครั้งนี้กลับรู้สึกพลังอย่างประหลาด อาจเป็นแค่จินตนาการหรือเปล่า แต่กลับมองเห็นเธอไม่ยิ้มทั้ง ๆ ที่ยิ้มอยู่

 

“นั่นแย่มากเลยนะค๊า ลิวี่ซามะ”

 

“……..ก็บอกอยู่ว่าพวกเจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน?”

 

“ข้าวของของเนียจังหายไปจากคฤหาสน์ของเนียจัง ทั้งเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน ของมีค่า และทุก ๆ อย่าง แถมยังดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีเงินอยู่ประมาณร้อยล้าน นั่นก็หายไปเช่นกันล่ะคะ”

 

“………”

 

เมื่อมาถึงจุดนี้ ลิวิเซลก็เข้าใจในที่สุด

 

“คิดว่าข้าเป็นคนสั่งอย่างงั้นรึ? เจ้าได้สั่งให้พวกทหารเก็บรวบรวมสิ่งของ และเงินมาหรือเปล่า?”

 

“เรื่องนั้นไม่มีหรอกค่ะ เราแค่ไม่รู้ว่าจะไปไกลขนาดนั้น ทว่า――”

 

อากาชิเดินเข้าไปใกล้ ๆ ลิวิเซล และกระซิบข้างหูเขา

 

――เป็นความผิดของคนงี่เง่าที่ไม่ควบคุมบังเหียนของผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีเน๊ หลังจากที่ลิวี่ซาม๊าจากไปแล้ว ดูเหมือนว่าพวกสารวัตรทหารจะยึดไป ดูถูกพวกเธอเพียงเพราะเป็นชาวต่างชาติ?”

 

“…っ!”

 

เจ้าชายที่ถูกเรียกว่าคนงี่เง่าหันมาเผชิญหน้า มองดูอาคาชิด้วยสีหน้าโกรธเคือง

แต่ทันทีที่มองเห็นดวงตาสีดำไร้อารมณ์คู่นั้น เขาก็รู้สึกเย็นจนถึงแก่น

 

“เข้มแข็งไว้น๊า กาษัตริย์องค์ต่อไป มีความแตกต่างระหว่างการไม่ดูถูกกับการเลือกที่จะสู้อยู่น๊า”

 

หลังจากพูดอย่างนั้น อาคาชิก็ลูกหัวลิวิเซลอย่างเป็นมิตร และเดินออกจากข้างตัวขณะหัวเราะ

 

“――นอกจากนี้เน๊ ดูเหมือนว่าเนียจังจะต้องรับผิดชอบค่าซ่อมแซมคฤหาสน์ทั้งหมดด้วยล่ะน๊า ดูเหมือนเธอจะโกรธมากเลยล่ะจ๊า?”

 

“…….นะ นั่นมันอะไรกัน!?”

 

แค่พวกสารวัตรทหารขโมยของและเงินก็ทำประหลาดใจมากพอแล้ว การถูกเทศนาโดยอาคาชิ――ชิโนบาซที่จงรักภักดียังพอทนได้นิดหน่อย แต่ยังมีอีก

 

ยังมีอีก

 

“คฤหาสน์ควรได้รับความคุ้มครองจากการประกันของสมาคมการค้าสิ!ก็สมเหตุสมผลแล้วที่ส่วนที่เหลือจะได้รับความคุ้มครองโดยด้วยภาษีของประเทศ!? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน!?”

 

“มีคนตั้งใจเอาใส่กระเป๋าตัว…….ไม่สิ ไม่ใช่ว่าวางแผนที่จะเก็บใส่กระเป๋าแต่แรกรึค๊า? ฉ๊านไม่รู้ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเขตอำนาจของฉ๊านล๊า”

 

――ปวดหัว เข้าใจแล้วว่าทำไมซิลลาเนถึงโกรธ

 

ไม่ว่าเจ้าชายลำดับที่หนึ่งจะลำเอียงเข้าข้างมาเวเลียประเทศบ้านเกิดมากแค่ไหน เขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างข้อขัดแย้งกับเหตุผลมากขนาดนี้

เป็นเรื่องจริงที่เขาพลักให้เนีย・ลิสตันเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องเมื่อคืนนี้ แต่นั่นก็เป็นเหตุผลทางการเมืองล้วน ๆ เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะกดดันเป็นการส่วนตัว

 

“โอนี่ซามะ”

 

หลังจากที่ได้รู้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนสั่งให้ทำแบบนั้น เธอก็โล่งใจเล็กน้อย เพราะเป็นเรื่องของครอบครัวด้วย

หากกษัตริย์องค์ต่อไปจะเน่าเฟะขนาดนั้น อาณาจักรมาเวลเลียคงจะถึงคราวจุดจบแน่นอน

 

“ได้โปรดรับทราบสถานการณ์ปัจจุบันของคนข้างล่างบ้างนะคะ ทั้งพลเรือนและสารวัตรทหารตางมีความรุนแรงต่อชาวต่างชาติมากกว่าที่โอนี่ซามะคิดไว้

――แต่ครั้งนี้ หนูไม่รู้อะไรอีกต่อไปแล้ว”

 

และจากนั้นซิลลาเนก็ออกจากห้องไป

 

คำพูดของซิลเลนมีหลายส่วนที่ทำให้กังวล แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะพูดอะไรเธอก็คงไม่ฟังแล้ว

พูดให้ถูกคือ เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ไม่คาดคิดมากมาย ทั้งลิวิเซล กับแคลนอลล์จึงสับสนเล็กน้อย

 

ความรู้สึกที่อยากจะเชื่อใจลูกน้อง และความจริงที่ว่าสถานการณ์ปัจจุบันดูเหมือนจะทุจริตกันอย่างไม่คาดคิด

และ สภาพจิตใจของนักศึกษาต่างชาติจากต่างประเทศที่ต้องเผชิญความปั่นป่วนดังกล่าว

 

มีเรื่องให้คิดมากเกินไปจนคิดไม่ออก

 

“อะ ใช่ใช่ มีอีกเรื่องหนึ่งล่ะค๊า”

 

“ยังอยู่อีกรึ!?”

 

จิตใจของเขาไม่สามารถตามรายงานได้อีก แต่ยังมีอีก

 

“――ดาร์จอล・ซาฟี ผู้นำโลกใต้ดิน ได้มาร้องห่มร้องไห้ต่อสารวัตรทหารว่า เขาถูกเด็กผมขาวทำร้าย และปล้นเงินไปทั้งหมด ดังนั้นกรุณาทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่ะเน๊”

 

“……….?”

 

นั่นเป็นรายงานที่ค่อนข้างไม่ชัดเจนเล็กน้อย

 

――ทั้งสองคนยังไม่รู้ว่าเนีย・ลิสตันเป็นตัวตนแบบไหน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ดูเหมือนจะมีจักรกลอิสระจำนวนมากอย่างน่าประหลาดใจเลยนะคะ”

 

“นั่นสินะ”

 

ในประมาณช่วงเวลาเดียวกัน เนีย・ลิสตันกำลังบุกค้นที่ซ่อนของกลุ่มโจรนอกเมืองหลวงของมาเวเลีย

ไม่สิ มันเริ่มต้นและจบลงในพริบตา

 

พวกฉันสามารถจับหัวขโมยได้ประมาณสามสิบคน และในเวลาเดียวกันก็ปล้นเงินและสินค้าที่พวกเขาเก็บไว้ แน่นอนว่าฉันเก็บลงในกระเป๋าของตัวเองอย่างดี

 

ฉันได้ยินมาจากกิลด์นักผจญภัยว่าพวกหัวขโมยเหล่านี้มีทหารจักรกลอยู่สามเครื่อง และใช้พวกมันเพื่อออกปล้น

 

ทหารจักรกลทั้งหมดอยู่ที่ไหนสักแห่ง และถูกจัดการโดยประเทศ

การมีตัวตนอยู่นั้นได้ล้มล้างหลักการสำคัญ

 

――ม๊า ฉันไม่สนใจงานบริหารจัดการในประเทศที่ไม่น่าเชื่อถือ

 

“จ๊า จะขึ้นมา? หรือจะตายอยู่ที่นี่คะ?”

 

เมื่อได้ยินเสียงของเนีย・ลิสตัน พวกผู้ชายเปลือยเปล่าที่ถูกมัดจนตัวสั่นก็รีบมุ่งไปข้างหน้าขึ้นไปบนแท่นบรรทุกสินค้าของเรือเดี่ยวขนาดใหญ่สำหรับขนส่งสินค้า เป็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วจริง ๆ

 

ในที่สุด เนีย・ลิสตันกับริโนกิสก็ขึ้นเรือ และส่งสัญญาณไปที่ที่นั่งคนขับ และเรือเดี่ยวก็เริ่มเคลื่อนตัว

 

 

 

ด้วยเหตุนี้ กลุ่มโจรมีค่าหัวซึ่งออกปล้นมาอย่างยาวนานหลายปีก็ได้ถูกทำลายลง

 

สิ่งที่เหลืออยู่คือเศษโลหะของทหารจักรกลทั้งสามเครื่อง ซึ่งถูกทำลายจนสิ้น และกลไกภายในถูกถอนรากถอนโคน

 

 

 

 

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ 

{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}

 

ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ

ขอบคุณงับ